ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น

          ในวันอังคารที่ 5 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันที่จันทราได้สึกจากเพศของแม่ชีเป็นฆราวาสอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่จันทรา ราชา สุริยันและมิเชลได้ก้าวเท้าออกจากวัดก็พากันเดินตรงไปยังร้านเทวรูปที่จันทราได้เช่าพระแม่อุมาเทวีไปบูชาที่บ้าน ด้วยความที่พระแม่อุมาเทวีได้มาเข้าฝันจันทราว่าจ้องการอยู่กับบุตรและสวามี จันทราจึงได้เช่าเทวรูปพระศิวะ พระพิฆเนศและพระขันธกุมารกลับบ้านที่จ.เชียงใหม่ พอถึงบ้านนางจึงนำเทวรูปทั้ง 3 ขึ้นไปประดิษฐานบนหิ้งเดียวกันกับพระแม่อุมาเทวี จากนั้นนางก็สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยและสรรเสริญเทพเจ้าทั้ง 4 ทันทีที่นางออกจากห้องพระ เหมยฟางได้ขึ้นมารายงานว่า"ในช่วงที่แม่ไปบวชชีที่อินเดีย เจ้าโต้งกับดั๊กกี้มันตายไปแล้วนะ"พอจันทราได้ยินดังนั้นก็ร้องไห้ออกมา เหมยฟางจึงปลอบใจว่า"ที่มันตายก็เพราะมันรักแม่มาก พอแม่ไม่อยู่พวกมันก็เลยตรอมใจตาย"พอนางได้สติจึงไปดูที่หลังบ้าน จากนั้นนางก็พบซากของสัตว์ทั้ง 2 นางจึงนำสัตว์ทั้ง 2 ไปฝังแล้วก็อุทิศส่วนบุญกุศลให้กับสัตว์ทั้ง 2 เวลา 18:00 น.สินไซได้กลับจากที่ทำงานมาถึงบ้านก็เข้ามาหาเหมยฟาง จันทราเกิดความสงสัยจึงถามเหมยฟางว่า"ผู้ชายคนนี้เป็นใครหรือลูกแม่"เหมยฟางจึงตอบว่า"สินไซ สามีของหนูค่ะ"สินไซจึงสวัสดีจันทราแล้วฝากเนื้อฝากตัวต่อจันทรา ด้วยความที่นางเกิดถูกชะตากับบุตรเขยผู้นี้ นางจึงรับเข้ามาในบ้านแล้วให้นอนห้องเดียวกันกับเหมยฟาง จันทราจึงถามสินไซว่า"เธอเป็นใคร มาจากประเทศไหน ทำไมถึงมารักกับลูกสาวของฉันได้ล่ะ"สินไซจึงตอบไปว่า"ผมชื่อสินไซ มาจากประเทศลาวครับ พอดีว่าลูกสาวของคุณแม่สวยอ่ะครับ ผมเกิดหลงรักเธอขึ้นมา ถ้าคุณแม่ไม่ขัดข้อง ผมจะแต่งงานกับเธอกับเธอครับ"จันทราจึงบอกสินไซว่า"ถ้าหนูจริงใจกับเหมยฟาง แม่ก็ยินดีให้หนูได้แต่งงานกับเหมยฟาง"จากนั้นมิเชลได้ยินดังนั้นก็พูดขึ้นมาว่า"ทีหนูอ่ะ แม่ยังไม่ให้หนูมีผัวบ้างเลย ทีพี่เหมยฟางนะแม่ก็ตามใจเขาทุกอย่าง หนูไม่เชื่อหรอกว่าพี่สินไซจะจริงใจกับพี่เหมยฟางหรอก พี่สินไซก็คงกลัวแม่จะไม่ให้แต่งงานล่ะสิ หนูงอน!"สุริยันได้ยินก็ไม่ชอบใจจึงพูดไปว่า"อย่าก้าวร้าวกับแม่นะ พี่ไม่ชอบ ถ้าทำอีก พี่จะไม่ให้เธอไปไหนกับแม่อีกเลยนะ พี่เหมยฟางกับพี่สินไซไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ พอดีน้องสาวผมเขาเป็นคนขี้งอนครับ ถ้าพี่เป็นแม่นะ พี่จะตบปากเธอจริงๆด้วย"ราชาเห็นด้วยกับลูกชายจึงพูดขึ้นมาว่า"ทีหลังอย่าทำอย่างนี้กับแม่เขาอีกนะ ถึงฉันจะไม่ใช่พ่อของเธอ แต่ฉันก็ไม่ยอมให้ใครมาลามปามแม่ของเธอนะ"มิเชลจึงต่อว่าสุริยันว่า"ก็พี่มันลูกแม่หนิ ไม่ว่าแม่จะทำอะไร พี่ก็เข้าข้างแม่ตลอด จริงๆแล้วหนูก็รักแม่ แต่หนูแค่หมั่นไส้พี่เหมยฟางที่เขามีผัวก่อนหน้าหนู"จันทราจึงปรามลูกทั้ง 2 คนว่า"เป็นลูกฉัน จะมาทะเลาะกันทำไม มิเชล หนูไม่ต้องไปอิจฉาพี่เหมยฟางเขาหรอกนะ หนูยังไม่บรรลุนิติภาวะ หนูยังไม่สามารถมีสามีได้ พี่เขาก็พูดถูก สุริยัน แม่เข้าใจนะที่เธอไม่ชอบให้ใครมาก้าวร้าวหรือลามปามใส่แม่ แต่เธอก็ไม่ควรไปพูดจาตัดกำลังใจน้องนะ น้องเป็นผู้หญิง หนูก็ให้อภัยน้องไปเถอะ"สุริยันจึงตอบว่า"ครับ แม่ ผมจำเป็นที่ต้องดุน้อง ถ้าเกิดมันไปทำนิสัยแบบนี้นอกบ้าน คนอื่นเขาจะตำหนิแม่ครับ"มิเชลสำนึกในความผิดจึงก้มลงกราบเท้าของจันทรา จันทราจึงบอกมิเชลว่า"แม่ไม่โกรธหรอก แม่ให้อภัยหนูทุกอย่าง ลุกขึ้นมาเถิด"จากนั้นทุกคนก็พากันแยกย้ายไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วเปลี่ยนเป็นชุดขาวแล้วก็พากันมาสวดมนต์ที่ห้องพระ โดยจันทราเป็นคนนำสวดมนต์และสรรเสริญอาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พอสวดมนต์เสร็จก็พากันไปนอน