Alice เพลงรักที่หลงทาง (season 1)

5.3

เขียนโดย zusuran

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 14.50 น.

  14 ตอน
  2 วิจารณ์
  13.15K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 20.33 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) Chapter 1 … Black & White (สีดำกับสีขาว)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

อดีต ทำให้คนเราเจ็บปวดเสมอ

ไม่ว่าจะพยายามวิ่งหนีมันมากแค่ไหนก็ไม่มีทางหนีพ้น

“แม่ครับ!”

“ชินระ! หนีไปลูก!”

ปังๆๆๆๆ!!!!

ฉัวะ!

“อึก! แม่ครับ ผมเจ็บ~ ฮือออออ!!!”

“ชิน!”

โครมมมมมม!!!!

“กรี๊ดดดดดดดดด!!!!!~”

“แม่!!!!!!!!”

….

“เฮือกกกกกกกกกกกก!!!!~~ อะ ฮ้าๆๆๆ!!!!”

เปลือกตาสีขาวออกซีดชุ่มชื้นเบิกกว้างสุดชีวิต ปากแห้งสั่นระริกอ้าพะงาบๆกอบโกยเอาอากาศเข้าไปหายใจ มันทำให้คอแห้งเป็นผงเสียจนกลืนน้ำลายเหนียวหนืดนั้นไม่ลง ยูกาตะที่สวมต่างชุดนอนเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อกาฬที่ไหลอาบทั่วกาย

เมื่อลืมตาตื่นขึ้นถึงได้รู้ว่ามันเป็นเพียงความฝัน

ชินระหอบหายใจหนักๆเหมือนเพิ่งได้วิ่งขึ้นเขาสามลูก ที่นี่ห้องนอนของเขา เพดานไม้สีคล้ำ กลิ่นไม้หอมลอยมาอ่อนๆทำให้ใจสงบลงได้บ้างและพอจะมีแรงลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่

ยูกาตะถูกเปลื้องออกให้พ้นร่างสูงกำยำ และกระจกบานใหญ่ก็สะท้อนให้เห็นรอยแผลเป็นด้านหลัง แผลฉกรรจ์ที่ถูกของมีคมฟันเป็นทางยาวตั้งแต่ไหล่ข้างซ้ายกรีดลึกลงไปจนถึงบั้นเอวข้างขวา แผลเป็นที่ไม่มีวันหายและเติบโตขึ้นมาพร้อมกับชินระถึงยี่สิบปี ตั้งแต่วันนั้น วันที่ชินระไม่เคยลืม

ภาพเหตุการณ์ลอบสังหารในวัยเด็กมันตามหลอกหลอนชินระทุกครั้งที่จะต้องไปกระทำกับผู้อื่นเฉียดเช่นที่เคยถูกกระทำในอดีต

“วันนี้มีอะไรต้องสะสาง”

“หัวหน้าแก๊งอิเสะมีการซ่องสุมอาวุธครับ”

“จัดการพวกมันอย่าให้เหิมเกริม”

ร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำเข้มสั่งลูกน้อง

งานของมาเฟียหนีไม่พ้นการฆ่าฟัน และในองค์กรมืดแสนโสมมนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักเครื่องจักรฆ่าคนที่ชื่อคุสะ ชินระ

ใบไม้สีแดงร่วงโรย ราวกับกำลังเริงระบำคละเคล้ากับเสียงปืนและคมดาบที่เชือดเฉือนร่างกายคนกับเสียงร้องโหยหวน คนแล้วคนเล่าท่ามกลางราตรีของต้นฤดูหนาว

……………….

โครม!

กีต้าร์ราคาแพงถูกทุ่มลงบนพื้นจนหักเป็นสองท่อน ท่ามกลางสายตาของคนในสตูดิโอ

“ซางะ”

“พอกันที ฉันขอลาออก”

ร่างสูงโปร่งเจ้าของเรือนผมสีทองอ่อนใบหน้าที่ออกไปทางสวยมากกว่าจะเรียกว่าหล่อสะบัดตัวเดินออกไปอย่างไม่ไยดีคนเบื้องหลัง ต้นเหตุที่ทำให้วงดนตรีที่กำลังไปได้ดีแตกหักได้ขนาดนี้ก็คือผู้บริหารคนใหม่

“เฮ้อ ฉันเองก็ขอลาล่ะ”

ชายหนุ่มอีกคนพูดตามมาติดๆ

“เซียวก็ด้วยเหรอ”

"ไม่เอาน่า อย่าบ้าตามซางะไปเลยน่า หมอนั่นมันหยิ่งจะตาย"

“พวกนายอยากอยู่ก็อยู่ไป แต่ฉัน…”

แคว่ก!

กระดาษแผ่นหนึ่งถูกฉีกขาดเป็นสองส่วนต่อหน้านักร้องและทีมงานทุกคน เป็นอันสิ้นสุดสัญญาของทุกฝ่ายอย่างง่ายดายและหยาบคายที่สุดเท่าที่เคยมีมา

“บ๊ายบาย”

…………

…………

 

“แก ไอ้ปีศาจเอ๊ย~”

ฉัวะ!

“อ๊าก!!!”

เลือดสีแดงสาดกระเซ็นอาบบนหน้ากากยักษ์ลงมาครึ่งซีก

ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น ว่าใบหน้าภายใต้หน้ากากยักษ์แสนน่าเกลียดน่ากลัวนี้แสดงออกมาอย่างไร

“จัดการข้างนอกเรียบร้อยแล้วครับ”

ลูกน้องคนหนึ่งเข้ามารายงานภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่สวมหน้ากาก มีเพียงการพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการรับรู้

“จะกลับกันเลยไหมครับ” ลูกน้องคนเดิมถามต่อไปอีก

ชินระยังไม่ถอดหน้ากาก เขาไม่เคยเผยใบหน้าให้ใครเห็นในเวลาทำงานเก็บกวาดแบบนี้ ไม่แปลกที่ใครจะรู้จักเขาในฐานะเครื่องจักรสังหารของคุสะ

ปีศาจไร้หน้า ไร้เสียง และไร้ใจ

และไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าจะมีคนเกลียดและอยากฆ่าเขาตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่ลูกน้องบางคน

ฉึก!

มีดสั้นแทงทะลุผ่านสูทสีดำเข้าเนื้อ เรียกเลือดสีแดงไหลอาบมาตามคมมีด

“ท่านครับ!”

เจ็บ แต่ก็ยังนิ่ง ชินระหมุนตัวพร้อมตวัดดาบในมือเป็นวงพระจันทร์เสี้ยวตัดข้อมือคนลอบกัดจนขาด และแทงเข้าจุดตายอีกครั้งโดยไม่เปิดโอกาสให้มันได้อ้าปากร้องออกมาสักแอะ

ตุ้บ!

“มันเป็นกลลวงครับ เราไม่ควรอยู่ที่นี่นานนัก”

ถึงจะไม่พอใจแต่สุดท้ายก็ต้องยอมถอย แผลที่ถูกแทงข้างหลังไม่ได้ลึกมากก็จริง แต่เลือดไหลออกมาไม่หยุด ลูกน้องที่เหลือช่วยคุ้มกันจนชินระขึ้นไปนั่งบนรถได้สำเร็จ

ปึง!

ทันทีที่เข้าไปนั่งในรถ หน้ากากยักษ์ก็ถูกถอดออกและทิ้งไปที่เบาะหลังอย่างไม่ไยดี

“ไปโรงพยาบาลไหมครับ”                            

“ไม่ต้อง กลับ!”

“ครับ”

แผลแค่นี้ไม่ทำให้ชินระตายได้หรอก ถ้าเทียบกับแผลเก่าที่เคยได้รับแผลแค่นี้มันก็ไม่ต่างไปจากแผลถลอก

“ตามหมอนางาเระ เร็ว!”

เสียงลูกน้องออกคำสั่งคนในบ้านวุ่นวาย แต่ชินระไม่ได้สนใจและเดินตรงไปยังห้องของตัวเอง ไม่สนแม้แต่จะห้ามเลือดที่ไหลออกมาจนหยดติ๋งๆไปตลอดทางที่เดินไป

“ฉันจะเปลี่ยนเสื้อ ไม่ต้องมายุ่ง”

“ครับ”

ชุดสีดำเปื้อนเลือดถูกถอดทิ้งลงถังขยะ ร่างกำยำสวมเพียงยูกาตะตัวโคล่ง ชินระไม่สนใจแม้แต่จะมองบาดแผลตัวเอง บาดแผลแค่นี้ทำให้เขาผิดหวังนิดหน่อย

“กระจอกสิ้นดี”

แค่แผลตื้นๆ ไม่เจ็บไม่คันเลยสักนิด

“ทำแบบนี้อีกแล้วนะคะคุณชินระ ถ้าน้ามาช้ากว่านี้คุณอาจเสียเลือดจนเข้าขั้นวิกฤตก็ได้ เลือดของคุณใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆนะ”

หมอผู้หญิงอายุรุ่นแม่บ่นพึมพำไปเรื่อยขณะที่มือกำลังสาละวนกับการทำแผลให้ชินระ

“คราวหน้าผมจะระวัง”

“พูดแบบนี้มากี่ครั้งแล้วคะ”

นางาเระ สึบาระกิ หมอเจ้าของไข้ที่ดูแลชินระมาตั้งแต่เด็ก ชินระค่อนข้างสนิทกับเธอและนับถือเธอมาก มากกว่าพ่อแท้ๆที่ไม่เคยจะดูดำดูดีเขาด้วยซ้ำ

“แล้ววันนี้คุณชินได้ทานยารึยังคะ”

นี่เป็นคำถามที่มีเพียงหมอเท่านั้นที่ถามได้ ใช่ ชินระป่วยและต้องกินยาระงับประสาทมาตั้งแต่เด็ก ถึงจะไม่มากเหมือนคนป่วยจิตเวชทั่วไป แต่ชินระก็ยังต้องใช้ยา

“ยาผมหมด” ชินระตอบเบาๆ

“แล้วรู้สึกเป็นยังไงบ้างคะ”

“เมื่อคืนผมฝันร้าย เป็นฝันร้ายครั้งแรกในรอบหนึ่งเดือนที่หยุดยา”

“อย่างนั้นเหรอคะ”

“ครับ”

“พยายามอย่าคิดถึง ถ้าทนไม่ได้ก็ปล่อยมันไป อีกหน่อยคุณต้องดีขึ้นแน่ค่ะ”

“ครับ”

พยายาม ไม่มีวันไหนที่ชินระไม่พยายาม เขาอยากลืมมันจะแย่แต่ก็ทำไม่ได้สักที เหตุการณ์ร้ายที่ทำให้เขาต้องฝันร้าย ทำให้เขาต้องกลายเป็นคนไข้จิตเวชมากว่ายี่สิบปี

 

“เยี่ยมไข้เสร็จแล้วเหรอครับ แม่”

“ซางะ ลูกมาได้ยังไง”

สึบาระกิอุทานออกมาเบาๆเมื่อเห็นชายหนุ่มที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายกับเธอเดินเข้ามาหาทันทีที่เธอออกมาจากคฤหาสน์ของคุสะ

“ผมก็มารอรับแม่กลับบ้านพร้อมกันไงครับ”

ซางะพูดพร้อมกับแย่งกระเป๋าเครื่องมือแพทย์ของแม่ไปสะพายไว้เอง

“ทำเป็นพูดดีไป แล้วงานล่ะ”

“ผมออกจากที่นั่นแล้วล่ะ”

“ตายจริงๆ”

“จะกลับกันเลยไหมครับ”

“จ้า”

“หมอ! หมอครับ!!!”

คนใช้ในบ้านคุสะวิ่งหน้าตาตื่นออกมา

“มีอะไรเหรอ”

“แย่แล้วครับ! จู่ๆคุณชินก็คุ้มคลั่งขึ้นมาครับ!”

“เป็นไปได้ยังไง ก็เขหลับไปแล้วนี่คะ”

“แต่ตอนนี้คุณชายกำลังคุ้มคลั่งเหมือนคนบ้าเลยครับ!”

“ให้ตายเถอะ อย่าบอกนะว่ามีคนเข้าไปรบกวน”

“แม่ อันตรายนะ”

“ไม่เป็นไร เขาไม่ทำร้ายแม่หรอก”

ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ สุดท้ายซางะก็ตามผู้เป็นแม่เข้าไปในคฤหาสน์ ภายในรั้วบ้านทรงโบราณหลังนี้กว้างมาก แต่ซางะไม่มีเวลาจะมายืนมองความน่าอภิรมย์ของมัน สองขาที่จัดได้ว่ายาวก้าวตามคนเป็นแม่ไปติดๆ เข้าไปในบ้านไม้รูปทรงโบราณ

“มันเกิดอะไรขึ้น!”

เสียงทรงพลังเสียงหนึ่งดังมาจากด้านในของบ้าน ซางะได้พบกับชายสูงวัยคนหนึ่งกำลังหัวเสียถามลูกน้อง

“ผมแค่ให้คนเข้าไปเปลี่ยนเครื่องหอมในห้องของคุณชิน ไม่คิดว่าเขาจะคุ้มคลั่งขึ้นมาแบบนี้”

“ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเข้าไปในห้องตอนเขาหลับ คุณนี่มันจริงๆเลย!

นี่เป็นครั้งแรกที่ซางะเห็นแม่ตัวเองอารมณ์เสียขนาดนี้

“คุณหมอ ช่วยชินระด้วยเถอะ”

ชายสูงวัยที่ดูมีอำนาจที่สุดในบ้านหันมาขอร้องหมอสึบาระกิ และทันใดนั้นก็มีบางอย่างลอยออกมาจากห้องตรงหน้า

โครม!

ตึง!!

สิ่งที่ลอยเฉียดหัวซางะไปเมื่อกี้มันก็คือคนที่ตอนนี้ถูกสตาร์ฟเป็นตุ๊กแกติดผนังแน่นิ่งไปแล้ว เพราะเอี้ยวตัวหลบบอดี้การ์ดที่เข้ามาจะคุ้มกันซางะถึงกับเซจนหลังพิงประตูข้างๆ

หมับ!

มือร้อนผ่าวคว้าข้อศอกซางะเอาไว้และเหวี่ยงจนชายหนุ่มลอยไปตามแรง

วืดดดดดดดด!!!

“อะ!”

ตึง!!!

“ซางะ!”

เสียงแม่ดังตามมา แต่ไม่มีใครเข้ามาได้เมื่อประตูได้ถูกปิดและลงกลอนไว้เสร็จสรรพโดยคนที่กระชากซางะเข้ามา

“อั่ก!”

ซางะถูกกดให้นอนราบกับพื้นเสื่อทาตามิและมีร่างกำยำกว่านั่งคร่อม มือหนาบีบคอระหงแน่นเข้า แน่นเข้าจนเริ่มจะหายใจไม่ออก เส้นผมสีดำยุ่งเหยิง เคราสีดำขึ้นหรอมแหรมเหมือนคนบ้าเต็มขั้น ใบหน้าแดงก่ำโน้มเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนกระเส่าขาดๆหายๆ

“ตายซะ”

ซางะพยายามง้างมือคู่นั้นออกแต่ดูเหมือนแรงของนักดนตรีอย่างเขาจะต้านแรงของคนบ้าตรงหน้านี้ไม่ไหว

หมอนี่มันคนบ้าชัดๆ ไม่คิดเลยว่าแม่ของเขาจะต้องมาดูแลคนบ้าแบบนี้

ซางะมองชุดยูกาตะที่กำลังถูกย้อมด้วยเลือดที่ค่อยๆซึมออกมาเป็นวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ มันทำให้รู้ว่าคนตรงหน้าซางะกำลังบาดเจ็บ เหมือนสัตว์ป่าที่บาดเจ็บกำลังคุ้มคลั่ง และสุดท้ายมันก็จะเสียเลือดจนตาย

“ตั้งสติหน่อย เลือดนายไหลแล้วนะ!”

“หุบปาก! มันใช้ให้แกมาฆ่าฉันอีก ใช่ไหม!”

“ไม่ใช่! มองฉันดีๆ ฉันไม่ใช่!”

“โกหก!”

“อึก~ ชินระ….”

ซางะใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายที่กำลังขาดช่วงเปล่งเสียงเรียกชื่อคนตรงหน้าออกมาแล้วมันก็ได้ผล ชินระคลายมือออกอย่างรวดเร็ว ตาขวางๆดั่งสัตว์ร้ายก็เปลี่ยนไปเป็นอ่อนแสง

“แค่กๆๆ!! แฮ่กๆๆ ฮ้า!!!”

ซางะหมดเรี่ยวแรงจะขยับแขนขา พยายามหายใจเอาอากาศเข้าปอด และคนที่คร่อมเขาอยู่ก็อ่อนฮวบล้มลงมาคร่อมทับซางะทั้งเนื้อทั้งตัว และแน่นิ่งไป

ตุบ!

“นี่นาย”

ซางะหมดแรงจะลุกหนี พยายามหายใจเข้าออกหลายครั้งให้สมองหายมึนงง และเมื่อยกมือขึ้นจะผลักร่างข้างบนออกให้พ้นตัวก็ชะงักจนแทบจะชักมือออก

“ตัวร้อนจี๋”

ดูจากรูปร่างแล้วคนตรงหน้าดูจะสูงกว่าซางะนิดหน่อย แต่เพราะดันทิ้งน้ำหนักมาทั้งตัวก็เลยหนักเอาเรื่อง

ซางะลุกขึ้นพร้อมกับพลิกร่างแน่นิ่งนั้นให้นอนราบกับพื้น ใบหน้าที่ถึงจะซีดเซียวเป็นท้องปลาตายก็แต่ก็ยังคงความหล่อเหลาเอาไว้ให้ได้ยล

“ให้ตายสิ นายนี่มัน…”

น่าสงสาร…จะใช้คำนี้ได้ไหมนะ

โครม!!!!

ประตูห้องถูกพังเข้ามา หนึ่งในนั้นคือสึบาระกิที่เข้ามาหาซางะด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

“ซางะไม่เป็นไรใช่ไหมลูก”

“ไม่ครับ….เหมือนจะมีไข้สูงนะครับ”

ซางะพูดประโยคสุดท้ายพลางมองไปยังคนที่นอนหายใจหอบเพราะพิษไข้อยู่ข้างๆ

“ฉันต้องขอโทษแทนลูกชายฉันด้วย”

แล้วเรื่องวุ่นๆก็จบลง ซางะได้แผลที่คอมาเป็นของฝากก่อนกลับบ้าน

“ขอโทษด้วยนะซางะ ลูกต้องมาเจ็บตัวเพราะคนไข้ของแม่จนได้”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ถึงยังไงผมก็ไม่ได้ใช้หน้าตาทำงานไปอีกนาน”

“ฮิๆๆ ลูกคนนี้นี่จริงๆเลย แต่ก็ช่วยได้มากเลยนะ ชินระคุงสงบลงได้ก็เพราะลูก”

“อย่างนั้นเหรอครับ”

“เขาน่าสงสารนะ ตั้งแต่เด็กๆแล้วล่ะ”

ซางะมองสีหน้าของแม่ที่เริ่มเปลี่ยนไป จากใบหน้ายิ้มแย้มกลายเป็นสีหน้าเศร้าๆ ตั้งแต่เด็กแล้วที่ซางะรู้ว่าแม่ของเขารับคนไข้พิเศษเอาไว้คนหนึ่ง แต่ซางะก็ไม่ได้ใส่ใจจนกระทั่งวันนี้ที่ได้เห็นเต็มสองตาว่าคนไข้ของแม่เป็นผู้ป่วยทางจิต

น่าสงสารเหรอ….ก็คงจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะแค่ซางะได้สบตากับคนคนนั้นก็รับรู้ได้แล้ว ทั้งความเหงา ความกลัวที่สื่อออกมาจากตาสีดำคู่นั้น สัมผัสจากชายคนนั้นอัดแน่นไปด้วยความหวาดระแวง

แปะ…

มือเรียวแตะรอยแดงบนคอ มันยังรู้สึกแสบนิดๆ

มี้~

เสียงเล็กๆดังมาจากหน้าต่าง พอเปิดออกไปก็เจอลูกแมวมอมแมมนั่งตากฝนตัวสั่นอยู่บนกิ่งไม้ใกล้หน้าต่าง

“ไงเจ้าตัวเล็ก”

ซางะคว้าคอเจ้าเหมียวน้อยเข้ามาในห้อง มันสั่นเพราะความหนาวจากน้ำฝนพยายามซุกหน้าของมันเข้าหาไออุ่น อาการของเจ้าสิ่งมีชีวิตเล็กๆตรงนี้ทำให้ซางะนึกถึงชินระขึ้นมาเสียอย่างนั้น

 

สัตว์ร้ายผู้โดดเดี่ยวและน่าสงสาร จะมีอะไรบ้างที่จะเติมเต็มความรู้สึกโดดเดี่ยวนั้นได้ อ้อมกอดรึ หรือว่าความรักจากใครสักคน

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา