บริษัทเลิฟชุลมุนรัก

5.0

เขียนโดย creammer

วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 12.46 น.

  6 ตอน
  5 วิจารณ์
  7,588 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 มกราคม พ.ศ. 2560 13.53 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บริษัทเลิฟชุลมุนรัก1/2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          บริษัทเลิฟชุลมุนรัก1/2

 

          ร่างบางเดินตามเลขาสาวสวยที่อยู่ตรงหน้าอย่างเลิ่กลั่กกระสับกระส่ายเพื่อที่จะต้องไปพบท่านประธานที่อยู่บนตึกชั้นเสียดฟ้าใจกลางมืองหรูหลังจากที่เหตุการณ์อันชุลหุกเมื่อครู่ได้จบสิ้นแล้ว ทันทีที่เธอรู้ว่าเขาคือใครเธอก็ไม่เป็นตัวของตัวเธอเองแล้วคิดในใจแล้วว่าเธอนั้นไม่สามารถที่จะร่วมงานกับคนในบริษัทนี้ได้อีก เพราะตอนนี้ทุกคนในบริษัทต่างก็หันมาจ้องมาที่เธอตาไม่กระพริบก่อนจะซุบซิบนินทาเรื่องเหตุการณ์เมื่อครู่ที่เธอเพิ่งจะได้กระทำมาไม่กี่นาที

 

          ในที่สุดเลขาสาวก็พาเธอมายังหน้าห้องของท่านประธานบริษัทผู้ที่เธอเพิ่งจะตบหน้าเขาไปหมาดๆเมื่อครู่นี้เอง ก่อนที่เลขาสาวจะผายมือเพื่อบอกให้เธอเดินเข้าไปในห้องนี้หลังจากที่มาถึงทันที

 

          ลินดารู้สึกกระอึกกระอักใจเป็นอย่างมากที่จะต้องเดินเข้าไปพบกับเขาตามลำพัง เธอแทบจะคิดภาพไม่ออกว่าถ้าเข้าไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง  เขาจะต้องไม่รับเธอเข้าทำงานเป็นแน่แค่คิดเธอก็เจียนจะไม่อยากก้าวเข้าไปแม้แต่ก้าวเดียวเลยทันที แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ต้องไปเจอกับเขาอยู่ดี

 

          "เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ฉันไม่เคยกลัวอะไร กับอีแค่อีตานี่ ฉันต้องสู้ เพื่อน้องสิ" ลินดาพูดให้กำลังใจตัวพลางกำหมัดแน่นด้วยความมั่นใจก่อนจะก้าวเท้าไปยังห้องส่วนตัวของเขา

          

          ทันทีที่เธอก้าวเข้ามาเธอก็รับรู้ได้ถึงอุณหภูมิที่เย็นเฉียบและเหมือนตกอยู่ในภวังค์ชั่วขณะบวกกับบริเวณรอบห้องที่นั้นตกแต่งด้วยเครื่องประดับสไตล์โมเดิลซึ่งบ่งบอกได้เลยว่าเป็นสินค้าที่มาจากเมืองนอกและราคาแพงมาก มู่ลี่สีสบายตาตั้งตระหง่านบริเวณกระจกกั้นกันแสงแดดนั้นดูหรูและสวยงามเหมือนปราสาทก็ไม่เชิงผ้าม่านสีฟ้าอ่อนที่กั้นกับกระจกนั้นสวยงามดูตระการตาจริงๆๆ เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างดูมีระดับสมกับเป็นห้องพักของประธานบริษัทยักษ์ใหญ่เสียจริงๆ ของตกแต่งที่จัดอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ของทุกอย่างที่เธอเห็นในวันนี้ช่างแตกต่างกับเฟอร์นิเจอร์ที่บ้านของเธอเสียเหลือกัน เธอตะลึงอยู่ชั่วครู่ก่อนที่เสียงของชายหนุ่มจะดังขึ้น

 

          "เอ้า คุณ เชิญครับ เชิญนั่ง" ชายหนุ่มยิ้มทักทายตามมารยาทก่อนจะทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้

 

          "เอ่อ.. อะ.. เอ่อ ค่ะ" เธอออกจากภวังค์ได้ชั่วขณะก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

          "คือว่าเรื่องวันนี้ฉันต้องขอโทษ จริงๆค่ะฉันไม่ทราบว่าคุณคือ..เอ่อ.. ประธานบริษัท คุณไม่ต้องรับฉันเข้าทำงานก็ได้หรอกนะคะ ฉันคิดไว้แล้วว่าคุณต้องปฎิเสธ" หญิงทำหน้าสาวสำหนึกผิดพร้อมยิ้มแหยๆตามประสาเด็กที่ขี้แพ้

 

          "แล้วทำไมคุณถึงคิดว่าผมจะไม่รับคุณเข้าทำงานล่ะ ในเมื่อคุณยอมรับแล้วว่าคุณผิด แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมจะถือว่าวันนี้ผมซวยเองก็แล้วกัน"

          คำพูดที่เหมือนจะทิ่มแท่งต่ออีกฝ่ายนั้น พร้อมรอยยิ้มที่เหมือนจะไม่จริงใจของเขา นั้นทำให้เธอรู้สึกว่ามันไม่ชอบมาพากลแล้ว ด้วยความที่ลินดาเองก็ไม่เคยยอมลดราวาศอกและยอมใคร ความหยิ่งในศักดิ์ศรีพอตัวของเจ้าตัวทำให้เธอไม่อาจนิ่งเฉยต่อคำพูดที่เขาปราศัยออกมาโดยที่เธอไม่รู้สึกรู้สาไม่ได้ 

 

          "นี่นาย! นายว่าฉันว่าเป็นตัวซวยเหรอ ฮะ?" ลินดาไม่ยอมลดราวาศอก เธอตะคอกเสียงใส่ชายหนุ่มทันที

 

          "อะไรคุณ ผมยังไม่ได้ว่าอะไรคุณเลยนะ คุณนี่ก็กินปูนร้อนท้องเหมือนกันนะ ฮ่า" เขาแทบจะอดกลั้นขำไม่ไหวเมื่อเห็นปฎิกิริยาของหญิงสาวที่กำลังแสดงท่าทีโมโหเขาอยู่ต่อหน้าในตอนนี้ได้ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังยั่วโมโหเธออยู่จริงๆ

 

          "คิดว่าเป็นประธานบริษัทแล้วจะมามีสิทธิ์ดูถูกคนอื่นได้เหรอยะ บริษัทอื่นที่เขาต้องการพนักงานก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ ฉันไม่ทำมันแล้วบริษัทห่วยๆของนาย นอกจากประธานจะขี้หลีแล้ว ยังปากสุนัขไม่รับประทานอีก เชอะ ฉันไม่ง้อนายหรอก ฝันไปเถอะ พอกันทีบริษัทห่วยๆนี่"          

          

          เธอรีบหยิบกระเป๋าทำท่าจะเดินออกไปจากห้องทันทีโดยไม่รอว่าอีกฝ่ายจะมาพูดอะไรกับเธออีก รู้แค่ว่าเวลานี้และตอนนี้เธอจะต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยังไม่ทันที่เธอจะก้าวออกจากห้อง มือหนาก็ได้มาคว้ามือเรียวเล็กนั้นไว้ทันที

 

          "นี่คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าเนี่ย จริงๆผมต้องมาต่อว่าคุณ ไม่ใช่ให้คุณมาด่าผมฉอดๆแบบนี้นิ ผมจะบอกให้นะว่าพนักงานที่นี่ไม่เคยมีใครอวดดีและจองหองกับผมได้เท่ากับคนเลย รู้ไว้ซะด้วย" ชายหนุ่มสวนวาจากลับในขณะที่มือหนายังกุมมืออีกข้างของเธออยู่ ก่อนที่เธอจะสะบัดมันออกอย่างแรง

 

          "ก็มีซะสิ ฉันคนแรกที่จะไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างให้ใคร โดยเฉพาะกับคนอย่างนาย รู้ไว้ซะด้วยนะคะคุณธนากร ประธานขี้หลีขี้เก๊ก" เธอพูดจาล้อเลียนเขาอย่างสนุกปากก่อนจะหยิบกระเป๋าเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดประโยคแม้แต่ประโยคเดียว

 

          ธนากรได้ได้แต่แค่นหัวเราะเบาๆในห้องทำงานส่วนตัวก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ที่ทำงานโทรหาเลขาที่ทำงานอยู่ด้านนอกทันที

 

          "ค่ะ ท่านประธาน มีอะไรให้ราตรีรับใช้คะ?" เสียงหวานของเจ้าของปลายสายรับอย่างหว่านเสน่ห์เต็มทน นี่ถ้าเธออยู่ใกล้นี่คงไปนั่งบนตักของเขาเรียบร้อยแล้วกระมัง

 

          "ราตรี ผมต้องการให้คุณช่วยสืบเรื่องของผู้หญิงที่มาสมัครงานคนสุดท้ายแต่มาไม่ทันให้ผมหน่อยสิว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เธอมาสมัครงานไม่ทัน ยังไงคุณช่วยเร่งหาประวัติให้ผมด่วนเลยนะ ขอบคุณมาก" สิ้นเสียงประโยคคำสั่งเขาก็กดยกเลิกสายทันทีเพราะเขารู้อยู่แก่ใจว่าราตรีเลขาสาวส่วนตัวของเขานั้นแอบคิดอะไรไม่ซื่อกับเขาอย่างแน่นอนและอีกอย่างเขาก็ไม่อยากเท้าความไปมากกว่านี้จึงตัดสินใจจบการสนทนาให้เร็วที่สุด

 

          "ฉันจะต้องได้เจอเธออีกแน่ ยัยตัวแสบเอ้ย" ธนากรสบถอยู่ในห้องคนเดียวด้วยสีหน้าท่าทางเป็นจริงเป็นจังอย่างมากกับสิ่งที่เขาอยากรู้ในขณะนี้และเขาจะต้องรู้ให้ถึงที่สุดว่าเธอเป็นใครมาจากไหน

.........................................

 

          ด้านเมษาเองก็รู้สึกเป็นห่วงลินดาเป็นอย่างมาก ประจวบกับเวลาที่ค่อนข้างจะนานเกินไปแล้ว เพราะปกติพี่สาวของเธอเวลาไปทำธุระก็จะไม่นานขนาดนี้แต่นี่มันเลยเวลาไปชั่วโมงสองชั่วโมงแล้วเธอยังอดคิดไม่ได้ว่าอาจจะเกิดอะไรมิดีมิร้ายเกิดขึ้นกับพี่สาวเหมือนตามข่าวในโทรทัศน์ที่เธอเพิ่งจะดูจบหรือวิทยุที่เธอเคยได้ฟังอยู่ก็เป็นได้ ความคิดที่รวบรัดนั้นเตลิดไปไกลออกไปเกินกว่าที่จะกลับมาสู่ความจริงได้ สุดท้ายแล้วเมษาจึงตัดสินใจโทรหาลินดาเพราะความเป็นห่วง

 

          "ฮัลโหล พี่ดา พี่อยู่ไหน นี่เลยเวลามามากแล้วนะ กลับบ้านเถอะจ๊ะ เมย์เป็นห่วง" เธอคะยั้นคะยอให้เสียงปลายสายกลับบ้านโดยด่วน

 

          "จ้าๆ พี่กำลังกลับแล้ว อารมณ์เสียทั้งวันเลยวันนี้ เดี๋ยวพี่กลับไปเล่าให้ฟังนะ" เจ้าของปลายสายตอบกลับมาด้วยความที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

 

          "จ้า รีบกลับมานะ" ก่อนจะกดตัดวางสายไปด้วยความโล่งอกว่าพี่สาวไม่ได้เป็นอะไรเหมือนกับที่เธอคิด ก่อนที่เธอจะเข้าไปจัดเตรียมของว่างในครัวมาไว้รอพี่สาวของเธอที่กำลังจะกลับมาด้วยท่าทางอารมณ์ดี

 

          ไม่นานนักลินดาก็กลับมาถึงด้วยสภาพที่อิดโรยไม่ต่างจากเดิมเมื่อตอนเช้าที่เธอต้องไปถลอกปอกเปิกกับมลพิษในเมืองกรุงเมื่อเช้านี้เลย น้องสาวเห็นสภาพของเธอแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้แต่ก็พลอยสงสัยว่าพี่สาวไปทำอะไรมาเมื่อเช้า

 

          "นี่พี่ไปทำอะไรมาเนี่ย ทำไมเนื้อตัวสภาพเป็นแบบนี้ล่ะ?" เมษาพยายามกลั้นขำไม่ให้มีเสียงหัวเราะของเธอเล็ดลอดออกมาได้เพราะกลัวว่าจะทำให้พี่สาวเคืองเอาเสียเปล่าๆพร้อมกับถือแก้วน้ำและของว่างที่ได้เตรียมไว้ให้มาวางลงตรงหน้าลินดาหลังจากที่เจ้าตัวได้เก็บข้าวของแล้วลงมาทรุดนั่งลงบนโซฟาตัวโปรดด้วยท่าทางเหนื่อยหอบเอาการ

 

          "ก็วันนี้น่ะสิ พี่ไปสมัครงานมาแต่ดันไปสายเขาเลยไม่รับใบสมัครพี่แล้ว ....."

          เมษาตั้งใจฟังในสิ่งที่พี่สาวเธอเล่ามาตั้งแต่ต้นจนจบอย่างละเอียดจนเห็นภาพได้เลยว่าพี่สาวสุดที่รักนั้นต้องไปประสบพบเจออะไรมาบ้างพร้อมกับขำกับสิ่งที่พี่สาวได้แสดงท่าทางประกอบที่ท่าทางจริงเอาเรื่องจนจบประโยคสุดท้ายที่เธอเล่าเกี่ยวกับเขา ธนากร ประธานบริษัทที่เธอแอบยัดเยียดใส่สีตีไข่เรื่องของเขายับจนเมษาอดจะคิดไม่ได้ว่ายังมีคนแบบนี้อยู่ในโลกอีกหรือ

 

          "แต่ เมย์ว่านะ พี่ดามีอคติกับเขามากเกินไปหรือเปล่าจ๊ะ ปกติพี่ไม่เคยมีเรื่องกับใครเลยนะ โดยเฉพาะกับ..ผู้ชาย" เมษาแปลกใจที่อยู่ๆดีลินดาไปมีเรื่องกับเขาซะอย่างนั้นเลยอดใจถามไม่ได้

 

          "โห เมย์ ถ้าเมย์เจอคนอย่างตานั่นนะ เมย์ต้องรับไม่ได้ชัวร์ นายนั่นน่ะร้ายจะตาย นายนั่นด่าพี่ว่าเป็นตัวซวย แถมมีการเยาะเย้ยถากถางพี่อีกนะ เมย์ ยังจะไปเข้าเข้าคนอื่นอีกเหรอ" ลินดาพูดประกอบด้วยพร้อมทำสีหน้ายู่ยี่พูดจาจีบปากจีบคอทำท่าทางจงเกลียดจงชังผู้ที่เธอกำลังนินทาอย่างเสียๆหายๆอย่างมากมายเลยทีเดียว โดยมีผู้เป็นน้องสาวกำลังฟังอย่างตั้งใจจนเข้าใจแล้วว่าพี่สาวของเธอไม่ชอบผู้ชายคนนี้เอาเสียมากๆเลยและแทบไม่อยากเชื่อว่าพี่สาวจะมีอคติกับผู้ชายคนนี้เป็นอย่างมากถึงขนาดจะต้องมาสาธยายยาวเหยียดได้ถึงขนาดนี้และยังไม่รู้เลยว่าทั้งคืนเธอจะพูดจบไหมเกี่ยวกับเขาคนนี้

 

          ขณะเดียวกันที่มุมตึกสูงตระหง่านฟ้าที่ห้องทำงานของธนากรเองนั้น เขากำลังคิดถึงผู้หญิงที่ถือวิสาสะเหิมเกริมตบหน้าเขาไม่พอแล้วยังตามมาด่าเขาถึงที่ห้องส่วนตัวอีกทั้งๆที่เขายังไม่ได้ทำอะไรสักนิดก่อนจะจิบกาแฟที่ราตรีเลขาสาวได้นำมาให้ในห้อง

 

          "ยัยบ้าเอ้ย เธอกล้ามากนะที่มาด่าฉันวันนี้ ฉันต้องหาทางเอาคืนเธอให้ได้เลย ยัยโถส้วม " ธนากรสบถและทุบกำปั้นที่กระจกเบาๆ เขาคงเจ็บใจไม่น้อยเมื่อถูกผู้หญิงที่ไม่เคยรู้จักและไม่รู้ค่าหน้าตามาก่อนอย่างลินดาที่ได้มาด่าเขาถึงในห้องทำงานส่วนตัว พร้อมทั้งดูถูกถากถางเขาสารพัดจะพูด ซึ่งธนากรเองก็ไม่เคยยอมคนและหยิ่งในศักดิ์ศรีตัวเองเช่นกัน ก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากห้องทำงาน

 

          

 มาแล้วค่ะตอนที่1พาร์ท 1/2 ติชมได้เช่นเดิมค่ะ ตอนนี้หัวไม่หมุนคิดอะไรไม่ออกเลย55 แต่จะพยายามนะคะ ช่วงนี้ใกล้สอบเลยจะพักสักระยะค่ะ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะผู้อ่านทุกท่าน หวังว่าจะชอบเรื่องนี้นะคะ จะตั้งใจให้สุดๆไปเลยค่ะ 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา