วิมานสิตางศุ์
เขียนโดย กรุงสยาม
วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 19.38 น.
แก้ไขเมื่อ 9 มกราคม พ.ศ. 2560 20.30 น. โดย เจ้าของนิยาย
บทนำ
ฐากูร..ชายหนุ่มวัยนักเรียน ผู้มีรากฐานร่ำรวยแต่ก็ไม่ถึงกับเป็นมหาเศรษฐี มารดาของเขามีกิจการงานทำซึ่งส่งผลให้ชีวิตของเขาแสนสุขสบายไม่มีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง
ไอยเรศ..หญิงสาวเจริญวัย เธอรับราชการเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ
ให้กับโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งด้วยเหตุนี้เอง ฐากูรที่พึ่งย้ายเข้ามาศึกษามัธยมปลาย
ณ โรงเรียนแห่งนี้จึงได้พบกับไอยเรศในฐานะครูที่ปรึกษา
ฐากูรรู้สึกดีกับไอยเรศมากเขามักจะไปเรียนพิเศษกับเธอเสมอในตอนเย็น
แต่แล้วเมื่อชายหนุ่มได้ตัดสินใจบอกความรู้สึกของตัวเอง
กับผู้หญิงที่ตนรักแล้วนั้น เขาจึงได้รับการปฏิเสธกลับมาทันที
ส่งผลให้ผู้ที่มีความอ่อนแอในความผิดหวังต้องเศร้าโศกเป็นอย่างมาก
ชายหนุ่มคิดสั้นปิดชีวิตลงด้วยยานอนหลับเกินขนาด
แต่แดนยมโลกยังไม่ต้องการรับดวงจิตที่ใสสะอาดของเขา
ฐากูรจึงปลอดภัยจากเหตุการณ์ครั้งนี้
แต่เรื่องไม่คาดคิดก็ยังไม่สงบจบลง..ไม่แน่นักว่าคือเวรกรรม
ที่ผลุนผลันตามสนองหรือไม่ใช่ ไอยเรศผิดหวังจากความรัก
ตามเส้นทางของมนุษย์โลกที่บ้างต้องพานพบ
เธอทิ้งชีพลงยังขุนเขาสูงชันในจังหวัดกระบี่
ทั้งนี้ฐากูรได้ตามติดคิดตายจากไปพร้อมๆกับผู้หญิงที่เขารัก
แต่อาจด้วยยังไม่ใช่เวลาของเขา..ฐากูรรอดชีวิตมาได้อีกครั้งราวกับปฏิหาริย์…
ภายในห้องพักพิเศษของผู้ป่วยที่พึ่งจะทุเลาลงจากอาการขั้นวิกฤต
ฐากูรฟื้นจากการหลับใหลมาแล้วประมาณสองชั่วโมง
สิ่งที่เขาได้รับฟังจากปากของแพทย์ผู้รักษา
นั่นคือการเปลี่ยนแปลงขั้นสูงสุด ชายหนุ่มมีน้ำตาคลอ
ใบหน้านิ่งเฉยสนองกับภาวะร่างกายที่ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้อีกต่อไป
อัมพาตเกิดขึ้นกับฐากูรเขาเงียบเชียบเนื่องจากไม่สามารถพูดได้
เพราะกล้ามเนื้อทุกอย่างล้วนแล้วไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะบังคับให้เคลื่อนไหว
“ ไม่เป็นไรนะคะคุณเล็ก น้าจะดูแลคุณเล็กเองนะคะ ”
ไหมจันทร์ น้าสาว..ของฐากูรพูดขึ้น
ขณะที่นั่งเฝ้าไข้หลานชายอยู่ไม่ห่าง ชายหนุ่มกระพริบดวงตาช้าๆอย่างอ่อนแรง
หยดน้ำของความเศร้าโศกล่วงหล่นลงผ่านขมับ
“ แอ๊ด..! ”
ผู้เฝ้าไข้หันมองเมื่อเสียงประตูห้องถูกเปิดออก
ฉวีวรรณ..มารดาของฐากูรเดินเข้ามาในห้อง
พี่สาวสบตาน้องเธอสักครู่ ไหมจันทร์ส่งยิ้มให้กับผู้มาใหม่
คนเป็นแม่ย้ายสายตาไปหาลูกชายอันเป็นที่รักและย่างกายเดินเข้าไปหา
ไหมจันทร์ที่นั่งอยู่ใกล้เตียงคนไข้จึงลุกขึ้นเลี่ยงออกไปยืนอยู่อีกฝั่ง
ดวงตาของฐากูรเหลียวมองแม่ของเขา
ฉวีวรรณส่งยิ้มบางเบาพร้อมกับเอื้อมมือไปวางแนบแก้ม
“ ไม่เป็นไรแล้วนะลูก อย่ากังวลไปเลย
ทุกอย่างเป็นไปตามอย่างที่เล็กต้องการทั้งหมด ”
ไหมจันทร์ขมวดคิ้วสงสัยในสิ่งที่พี่สาวเอ่ย
ชายหนุ่มสบตามารดาและมีน้ำตาไหลหยด..
“ ปานคุณจะมาเป็นลูกของแม่..มาเป็นน้องของเล็ก ”
“ ปานคุณเป็นใครกันคะพี่วรรณ? ”
ไหมจันทร์รีบถาม ฉวีวรรณสูดลมหายใจเข้ายืดตัวขึ้นเล็กน้อย
“ ปานคุณเป็นน้องสาวของไอยเรศ.. ”
“ แล้วทำไมเขาต้องมาเป็นลูกของพี่ด้วยล่ะคะ ” ไหมจันทร์ตกใจไม่ใช่น้อย
“ นี่เป็นความต้องการของตาเล็ก ” ฉวีวรรณตอบกลับราบเรียบ
“ แต่ไอยเรศทำให้คุณเล็กต้องเป็นแบบนี้นะคะ ”
น้องสาวทักท้วงนิดหน่อย ฉวีวรรณหันมองและพูดขึ้นอีกครั้ง
“ ตาเล็กคุยกับฉันไว้ตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่อง ปานคุณจะเข้ามาอยู่ในบ้าน
ในฐานะลูกสาวของฉัน มีสิทธิ์ในบ้านเทียบเท่ากับลูกๆของฉันทั้งสองคน ”
ไหมจันทร์นิ่งไปสักครู่ก่อนจะพยักหน้าน้อมรับรู้
ฉวีวรรณหันมองลูกชายเห็นแววตาของความยินดี
ที่แม่ของตนได้จัดการทุกอย่างตาม...คำสัญญา..
“ ฉันเลี้ยงคนมาก็มาก ถ้าจะเลี้ยงอีกสักคนก็คงไม่เป็นไร ”
ไหมจันทร์คลี่ยิ้มออกมาด้วยพี่สาวเป็นคนใจดีโอบอ้อมอารีมาก
จึงไม่แปลกอะไรถ้าจะประสงค์เช่นนี้..ทุกอย่างดูเหมาะสม
ไปตามความต้องการแต่หากมองเลยผ่านมารดาที่เฝ้าเยี่ยมไข้
ว่องไวไปจรดบานประตูเล็งเห็นถึงแววตาของหญิงสาว
ที่แวววาวเอาเรื่อง ดูแข็งขึงและเต็มไปด้วยความคิด
นัยน์นั่นไม่โอนอ่อนยอมปราณีแต่ก็สงบไม่คิดโวยวายจะดีหรือร้ายก็ยากจะคิดเดา.........
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ