The God เทพีแห่งความหวัง(Hope)

6.3

เขียนโดย WindyWizzard

วันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.54 น.

  5 chapter
  0 วิจารณ์
  7,241 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 มกราคม พ.ศ. 2560 19.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) ฟื้นแล้ว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ความเดิมตอนที่แล้ว..หลังจากที่มาซุมิและคิโยโกะได้เข้ามาอาศัยในวังและอยู่ในความดูแลของคาซึกิและมาโมรุ คิโยโกะที่รู้ว่ามาซุมิพี่สาวของเธอนั้นกำลังจะฟื้นจากห้วงนิทราก็ดีใจเป็นอย่างมากส่วนด้านคาซึกิก็ได้ออกไปทำเรื่องบางอย่างเพียงตัวคนเดียว...เชิญอ่านได้เลยค่ะ

เช้าวันหนึ่ง แสงแดดยามเช้าอ่อนๆได้ลอดผ่านช่องผ้าม่านมากระทบกับร่างของมาซุมิที่ค่อยๆลุกขึ้นมานั่งด้วยความงัวเงีย..มาซุมิกวาดตามองรอบๆก่อนที่จะพูดเบาๆว่า"ที่นี้มัน..ที่ไหน?"..ท่ามกลางความงุนงงนั้นก็มีคนบางคนเปิดประตูห้องเข้ามาปรากฏร่างของเด็กสาวที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี "คิโยโกะ?"มาซุมิเรียกคิโยโกะที่ยืนทำหน้าตกใจอยู่ตรงหน้าประตู.."พ..พี่" คิโยโกะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือก่อนที่จะเริ่มร้องไห้ออกมาพร้อมวิ่งไปกอดมาซุมิที่อยู่บนเตียงด้วยความคิดถึง"ฮือ ฮือ ในที่สุดพี่ก็ฟื้นซักทีรู้ไหมหนูเป็นห่วงพี่มากแค่ไหน?!" "...พี่ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง..ไม่ร้องนะ^^"มาซุมิพูดปลอบคิโยโกะ...หลังจากที่คิโยโกะร้องไห้เสร็จแล้ว..ก็เปลี่ยนมานั่งคุยกัน "แบบนี้นี่เองหลังจากนั้นพวกคนในวังก็พาเราเข้ามาอยู่ที่นี่ในความดูแลของพวกองค์ชายจนกว่าจะแน่ใจว่าปลอดภัยแล้วยังงี้เหรอ?"มาซุมิพูดขึ้นหลังจากที่ฟังเรื่องราวจากคิโยโกะ.."ใช่ พี่คาซึกิน่ะเขาเข้าไปช่วยพี่จากกองไฟคนเดียวเลยนะส่วนมาโมรุก็คอยช่วยดูแลหนูอยู่ข้างนอก"คิโยโกะเล่าด้วยน้ำเสียงร่าเริง"ว่าแต่คาซึกิกับมาโมรุเนี่ยคือองค์ชายลำดับที่สามและสี่ของอาณาจักรวิสทอเรียใช่ไหม?"มาซุมิถามคิโยโกะจึงตอบว่า"แม่นแล้ว>w<""แล้วไปเรียกชื่อเขาเฉยๆแบบนั้นมันก็เสียมารยาทสิคิโยโกะ- -;"มาซุมิพูดพร้อมทำหน้าเหงื่อยตกเล็กน้อย"ไม่เป็นไรหรอกน่าาา ก็มาโมรุเขาเป็นคนบอกเองนี่นาว่าไม่ต้องพูดคำสุภาพแล้วก็ให้เรียกชื่อเฉยๆด้วย มาโมรุน่ะเห็นเป็นคนนิ่งๆไม่สนโลกแต่ลึกๆน่ะเป็นคนที่อ่อนโยนและใจดีสุดๆเลยถึงบางครั้งจะทำตัวกวนประสาทหน้ารำคาญบ้างก้เถอะ"คิโยโกะเล่านินทามาโมรุไปมา"เดี๋ยวเถอะ ถ้าเขามาได้ยินระวังจะโดนเอาคืนนะ"มาซุมิเตือนคิโยโกะด้วยน้ำเสียงดุนิดๆ..จนกระทั่ง..."ได้ทีว่าลับหลังเลยนะ- -*"มาโมรุที่แต่งตัวแบบสบายๆพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆแฝงไปด้วยความโกรธเล็กน้อยขณะยืนอยู่ข้างๆคิโยโกะ..คิโยโกะที่ได้ยินเสียงมาโมรุก็หันไปมองด้วยความตกใจก่อนจะพูดเสียงดังว่า"น..นายเข้ามาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ยแถมไม่ขออนุญาตก่อนด้วย!"..มาโมรุมองคิโยโกะนิ่งๆ"ฉันเข้ามาตอนเธอพูดว่า'ไม่เป็นไรหรอก' แถมฉันก็ขออนุญาตพี่เธอแล้วด้วยนะ" คิโยโกะได้ฟังก็หันหน้าไปทางมาซุมิที่กลั้นหัวเราะไว้อยู่"นี่พี่แกล้งหนูเหรอ!"คิโยโกะโวยวาย แต่มาซุมิแกล้งทำเป็นไม่สนใจแล้วหันไปพูดกับมาโมรุแทนว่า"ว่าแต่มาโมรุมาที่นี้เพื่อมาพาคิโยโกะไปใช่ไหมคะ" มาโมรุทำตาปริบๆก่อนจะถามว่า"ค..ครับ คุณรู้ได้ยังไง?"มาซุมิยิ้มให้แต่ไม่ตอบอะไรก่อนที่จะหันไปหาคิโยโกะแล้วพูดว่า"ในเมื่อเขามาตามแล้วก็รีบไปซะสิ""ค..ค่ะว่าแต่พี่รู้ได้ไงว่ามาโมรุจะพาหนูไปไหนน่ะ"คิโยโกะถาม"ลืมความสามารถของพี่ไปแล้วเหรอ"มาซุมิยิ้มเรียบๆก่อนที่จะให้คิโยโกะออกไปกับมาโมรุ..เมื่อคิโยโกะกับมาโมรุออกไปแล้วมาซุมิก็พรางหันหน้าไปทางหน้าต่างก่อนจะพูดพึมพำว่า"จากนี้..คงต้องลำบากกันหน่อยล่ะนะ"....ด้านคาซึกิที่นั่งทำท่าครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ก็ถูกอะซึโกะถามว่า"คิดอะไรอยู่เหรอ?"คาซึกิสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะกลับมาสีหน้านิ่งเหมือนเดิมเเล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า"เหตุลอบวางเพลิงในครั้งนั้นกับการลอบฆ่าน่ะเป็นฝีมือของอาณาจักรเรเวเวนที่อยู่ทางทิศตะวันออก.." "จ..จริงเหรอแล้วพวกเขาต้องการอะไรจากเรากันแน่" อะสึโกะถาม "เรื่องนั้นฉันก็ไม่รู้..แต่เธอไปเช็คอาการมาซุมิรึยังวันนี้น่ะ"คาซึกิถาม..เมื่อได้ยินดังนั้นอะสึโกะจึงตอบด้วยสีหน้าน้อยใจนิดๆว่า"อืม..เดี๋ยวก็จะไปแล้วล่ะ เธอดูห่วงมาซุมิจังเลยนะ" คาซึกิทำหน้าประหลาดใจกับคำถามของอะสึโกะ"ก็ไม่เชิงว่าห่วงหรอกฉันแค่คิดว่าพอมาซุมิหายดีจะขอถามรายละเอียดเรื่องหนึ่งหน่อยน่ะเผื่อมันจะเป็นประโยชน์ต่อคดีไฟไหม้น่ะนะ ท่านพ่อเองก็บอกให้ฉันรีบๆจัดการเรื่องนี้โดยเร็วด้วย ทำไมเหรอ- -?" อะสึโกะรีบตอบด้วยเสียงตะกุกตะกัก"ป..ปล่าว งั้น ฉ..ฉันขอตัวไปดูมาซุมิก่อนนะ" "อืม ฝากด้วยละกัน"คาซึกิตอบ อะสึโกะรีบสาวเท้าเดินออกไปพรางคิดในใจว่า"นี่เราคิดไปเองเหรอเนี่ย..แต่ว่าพูดหน่อยว่า อย่าหักโหมมาก หน่อยก็ได้ รู้สึกน้อยใจอย่างแปลกๆ"..ณ ห้องสมุด "ว้าวว!!"คิโยโกะร้องออกมาเมื่อเห็นหนังสือที่อยู่ล้อมห้องมากกว่าหมื่นเล่มอ่านทั้งชีวิตก็ยังไม่หมดห้อง.."ชอบใช่ไหมล่ะ?"มาโมรุถามคิโยโกะ.."อื้ม ชอบที่สุดเลย" คิโยโกะขานรับ "ถ้างั้นก็เลือกอ่านได้ตามสบายหอสมุดนี้เปิดตลอดถ้าว่างก็มาอ่านได้เสมอนะ" มาโมรุบอก"เห!จริงเหรอ งั้นฉันไปหาหนังสืออ่านก่อนนะ"คิโยโกะพูดเสร็จก็รีบวิ่งไปหาหนังสืออ่านเลย หลายนาทีผ่านไป "อ่านหมดแล้วห้าเล่มสนุกจังเลย เอาไปเก็บแล้วหาเล่มอื่นอ่านต่อดีกว่า" คิโยโกะลุกออกจากเก้าอี้เพื่อจะนำหนังสือไปเก็บเข้าชั้น.."อืม ว่าแต่มาโมรุหายไปไหนของเขาเนี่ย คงจะเดินหาหนังสืออยู่แถวนี้ละมั้งก็ห้องสมุดมันกว้างนี่นา"คิโยโกะพูดกับตัวเองก่อนจะค่อยๆไล่หาหนังสือจนไปสะดุดกับหนังสือเล่มใหญ่ปกสีน้ำเงินเล่มหนึ่ง'ประวัติอาณาจักรวิสทอเรียดินแดนแห่งสงบสุขและเชื้อราชวงค์'...

 To be continue

 

ตัวอย่างตอนต่อไปคิโยโกะ":มาโมรุนี่คือ..?" คิโยโกะได้รู้เรื่องส่วนตัวของครอบครัวตะกูลแบล็คเวลโดยความบังเอิญ 

มาโมรุ:"พอสักที..เธอไม่ควรรู้อะไรไปมากกว่านี้แล้ว! " การทะเลาะกันทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น..

มาซุมิ:"อดีตของพวกนายน่ะน่าเศร้าจังนะ"มาซุมิได้เป็นจุดน่าสนใจของคาซึกิ

คาซึกิ:"ยุ่งเรื่องคนอื่นมากไปหน่อยนะเธอน่ะ แต่ว่า..." เกิดเหตุการ์ณบางอย่างมากมายทำให้ระยะห่างของคนสองคนย่นเข้ามา...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา