พักรบสงบศึกรักของนายเต้าหู้กับยายนมสด ♡
เขียนโดย LazyGirl
วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 03.11 น.
แก้ไขเมื่อ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2559 04.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทนำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“ถ้าพี่อยากให้คนอื่นมองว่าตัวเองเป็นผู้หญิง ก็เลิกเห็นคนอื่นเป็นกระสอบทรายได้แล้ว!”
“ผู้ชายที่ให้ผู้หญิงจากค่ายมวยปกป้องอย่างนายไม่มีสิทธิ์มาสอนหรอก!”
พักรบสงบศึกรักของนายเต้าหู้กับยายนมสด ♡
อิิ
“เต้าหู้น้องรัก บอกมาซิว่าวันนี้อยากกินอะไร เดี๋ยวพี่จะทำให้” สาวน้อยถามเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยน้ำเสียงอันหวาน
“คือผมต้องกลับไปกินแกงเขียวหวานฝีมือคุณแม่ที่บ้าน ถ้าผมกินของพี่จนหมดอิ่มแล้ว ผมจะเอาท้องที่ไหนไป…” เสียงของเด็กชายค่อยๆ หายไปในลำคอเมื่อเขาพบว่าสาวน้อยที่นั่งอยู่ข้างๆ กำลังขมวดคิ้วไม่พอใจอยู่
“อยาก-กิน-อะ-ไร!” 4 พยางค์แทนคำขู่บวกกับสีหน้าราวปิศาจของสาวน้อยทำให้เด็กชายไม่กล้าขัด เขาจึงยอมเล่นด้วยอย่างไม่เต็มใจนัก
“เอ่อ….พี่นมสดมีอะไรให้ผมกินบ้างล่ะ?”
“หูย! เยอะแยะเลย มีทั้งขนมครก ส้มตำ ผัดผัก ผัดดอก ไม้น้ำเขียว น้ำแดง ชากาแฟก็มีเหมือนกันนะ^^” สาวน้อยตอบกลับเสียงใสอีกครั้ง รอยยิ้มหวานๆ นั่นมันกำลังทำให้เด็กชายขนลุก
“อ่า…ผมเลือกไม่ถูกเลยงั้นเอาอะไรก็ได้ที่พี่อยากทำแล้วกัน”
“โอเคได้ รอแป๊บนึงนะ” ทันใดนั้น เธอก็ลงมือทำอาหารทันที
ขั้นแรก เธอราดน้ำที่เพิ่งตักจากคลองลงสู่ดินจนชุ่มฉ่ำแล้วใช้ช้อนขุดดินขึ้นมาใส่ใบตอง 1 ก้อน
ขั้นสอง เธอฉีกใบตองมาผสมกับน้ำแล้วขยำๆ มันด้วยมือทั้งข้างจนน้ำเขียว ๆ ไหลออกมาตามง่ามมือ แล้วบรรจงโปะมันลงบนก้อนดิน เป็นอันเสร็จสรรพ
และสุดท้าย…
เธอเอาดินกับน้ำมาผสมกันใส่แก้วแล้วคนให้เข้ากันจนกลายเป็นน้ำสีโคลน…
“อ่ะ เสร็จแล้ว” สาวน้อยยื่นอาหารที่เธอทำสุดฝีมือให้เด็กชายด้วยสีหน้าที่มีความสุขสุดๆ
แต่เด็กชายกลับไม่รู้สึกเช่นนั้นด้วยเลย…
“มันคืออะไรเหรอครับพี่นมสด”
“โอ้ย! นายไม่เคยเล่นขายของรึไง? นี่ใบตองมันคือจาน ไอ้ดินนั่นน่ะคือข้าว ใบตองที่ฉีก ๆ ที่อยู่บนข้าวก็คือผัดผัก ส่วนน้ำนั่นคือโอวัลติน กินโอวัลตินเยอะๆ นายจะได้ฉลาดไง!”
“…” เด็กชายพูดไม่ออก
“นั่งเงียบอยู่ได้ อยากโดนเตะเหรอ? รีบๆ กินมันเข้าไปสิ!”
“ง..งั้นผมกินละนะ…อ้ามม” เด็กชายอ้าปากเคี้ยวลมแกล้งทำหน้ามีความสุขก่อนจะเอ่ยปากชม
“หื้มม อร่อย!”
“…” เด็กสาวทำหน้านิ่ง ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ทั้งสิ้น การที่เธอนิ่งไม่พูดอะไรเลย มันทำให้เด็กชายเริ่มกลัว…
“…พี่ทำหน้าแบบนั้นทำไมอะ?”
“ก็นายไม่ได้กินมัน”
“ผมก็กินแล้วไง ก..กินหมดแล้วอะ หมดจานแล้วนะ”
“ฉันยังไม่เห็นว่ามันจะลดลงไปเลย!” สาวน้อยขมวดคิ้วตะคอกด้วยความโมโห สองมือกำหมัดแน่นเป็นการแสดงให้เด็กชายรู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันทำให้เธอไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง!
“พี่จะให้ผมกินมันจริงๆ เหรอ?”
“ใช่!”
“แต่มันเป็นดินนะ!”
“จะอะไรก็ช่าง ถ้าฉันสั่งให้กิน นายก็ต้องกิน!!” ว่าจบ สาวน้อยก็พุ่งตัวเข้าไปกระชากคอเสื้อของเด็กชายและยัดเศษดินที่เธอเป็นคนขุดใส่ปากของเขา
“แค่ก ๆ!” เด็กชายไม่สามารถต่อกรกับสาวน้อยได้เพราะเขาตัวเล็กกว่าเธอมาก ทั้งอายุที่ห่างกัน 3 ปี ส่วนสูงที่ต่างกัน 10 เซน และพละกำลังของที่สาวน้อยที่มีมากกว่าเด็กชายหลายเท่า
ถึงแม้จะเป็นผู้ชาย แต่ยังไงก็สู้กำลังของหญิงสาวที่เข้าค่ายมวยทุกวันอย่างเธอไม่ได้!
“เอ้า! นักมวยทะเลาะกับกระสอบทรายอีกแล้วว่ะ ฮ่าๆ!” ในขณะนั้นก็มีเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี พวกเขากำลังหัวเราะเยาะเด็กชายและสาวน้อยอยู่
“ยัยนมสดจะฆ่าเต้าหู้เหรอวะ โอ๊ย! ยัยฆาตกรเอ้ย!”
“เอ้า นั่นอะไรเปื้อนเสื้อไอ้เต้าหู้น่ะ ดินกับใบตองเหรอ? เฮ้ อย่าบอกนะว่ายัยนมสดน้อยใจที่ถูกพวกฉันด่าว่าทำตัวแมนไม่มีความเป็นกุลสตรี เลยไปหัดนั่งเล่นขายของแทนเล่นฟันดาบน่ะ? ฮ่าๆ โคตรน่ารักเลยว่ะ!”
“หุบปากเลยนะไอ้เปี๊ยก! แน่จริงมาพูดใกล้ๆหูฉันสิ!!” สาวน้อยตะโกนด่าเด็กชายหัวเกรียนที่ยืนห่างจากเธอประมาณ 5 เมตรอย่างโมโห
“เข้าไปใกล้ก็โดนต่อยสิวะ ฉันไม่ยอมให้เธอทำอะไรฉันอีกแน่ ยัยฆาตกร!!”
“ว้าย! ผู้หญิงอะไรหน้าก็ดำ น่องก็ใหญ่ ถึกแบบนี้เป็นกระเทยรึเปล่าวะ ฮ่าๆ”
“ก็บอกให้หุบปากไง!!”
ผวะ!!
กำปั้นเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยความโกรธของสาวน้อยวิ่งเข้าสู่ใบหน้าของเด็กหัวเกรียนอย่างจังจนเขาตัวเซล้มไปกองกับพื้นพร้อมกับฟัน 1 ซี่ เมื่อเธอเก็บหัวโจกที่ล้อเลียนเธอได้แล้ว เธอก็ไล่ขยี้เด็กผู้ชายที่เหลืออีก 3 คนจนเละ
“พี่นมสดพอเถอะ เดี๋ยวก็โดนดุอีกหรอก คุณลุงบอกว่าห้ามเอาวิชามาทำร้ายคนอื่นไม่ใช่เหรอ…” เด็กชายสะกิดแขนเตือนเบา ๆ
แต่…
“…” เธอหันไปมองเด็กชายด้วยดวงตาแข็งกร้าวราวกับสิงโตกระหายเลือด เด็กชายเริ่มรู้สึกไม่ดีจึงค่อย ๆ ถอยหลังไปทีละก้าวก่อนจะออกตัววิ่งหนี
“จะไปไหน!” สาวน้อยตะโกนไป วิ่งไป หวังให้เขาหยุด แต่ไม่เลย ยิ่งเธอวิ่งตาม เขายิ่งวิ่งหนี ถ้าเขาหยุด เขาต้องตายแน่ๆ !
“แฮ่ก แฮ่ก” เสียงหอบแฮ่ก ๆ ของเด็กชายเล็ดลอดออกมา พร้อมกับความเร็วที่ลดลง เขาไม่มีแรงที่จะวิ่งต่อไปแล้ว ต่างกับสาวน้อยที่ยังมีแรงเหลือถึงแม้เธอจะใช้กำลังไปมากแล้วก็ตาม และในที่สุด เธอก็จับตัวเขาได้
“นี่มันทางกลับบ้านหนิ คิดจะหนีเข้าบ้านหรือไง?” สาวน้อยดึงคอเสื้อของเด็กชายพลางจ้องหน้าถามอย่างหาเรื่อง
“…” เด็กชายไม่ตอบอะไร เขาหลบสายตามองไปยังบันไดทางลงของสะพานข้ามแม่น้ำ หากเขาข้ามสะพานนี่และวิ่งผ่านบ้านไป 2 หลัง ก็ถึงบ้านของตัวเองแล้ว มันน่าเจ็บใจ ที่เขาไม่เคยสู้ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าได้เลย
“ม…แม่ผมรอให้กลับบ้านอยู่ นี่ก็เย็นมาแล้ว ผมควรกลับ…”
“นายยังกลับไม่ได้ ถ้าฉันยังไม่พอใจ…”
“พี่จะต่อยผมระบายอารมณ์เหรอ โอเค ผมจะยืนให้นิ่งๆ นะ พี่รีบๆ ต่อยแล้วกลับบ้านเถอะ แม่พี่ก็คงรออยู่เหมือนกัน”
“นี่นายหาว่าฉันใช้เป็นแต่กำลังหรือไง?!” สาวน้อยเริ่มโมโหอีกครั้ง เธอกระชากเสื้อเด็กชายแรงขึ้นจนเขาเริ่มจะหายใจไม่ออก
“ก็มันจริงไม่ใช่เหรอ…ถึงพี่จะพยายามเล่นขายของเพื่อนผู้หญิงคนอื่นๆ แต่มันลบความดิบเถื่อนในตัวพี่ไม่ได้หรอก”
“เต้าหู้!!”
“ถ้าพี่อยากให้คนอื่นมองว่าตัวเองเป็นผู้หญิง ก็เลิกเห็นคนอื่นเป็นกระสอบทรายได้แล้ว ทางที่ดีอย่าไปเลยไอ้ค่ายมวยน่ะ ที่นั่นมันเป็นที่ของผู้ชาย!”
“ผู้ชายที่ให้ผู้หญิงจากค่ายมวยปกป้องอย่างนายไม่มีสิทธิ์มาสอนหรอก!” สาวน้อยผลักเด็กชายสุดแรง แต่เธอลืมไปว่าข้างหลังนั่นเป็นบันได!
กริ๊งกริ๊งงงงงงงง!!!
“เฮือกกก!!!!”
เอ๊ะ…ห้องนอนที่คุ้นตา แสงสว่างยามเช้าที่คุ้นเคย…
นี่ฉันฝันถึงเรื่องอดีตอีกแล้วเหรอ…
“เฮ้อ…”หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ผ่านมา 12 ปีแล้วสินะ…ตอนนั้นฉันอายุแค่ 9 ขวบเอง ส่วนน้องคนนั้นคงจะ 7 ขวบ
จริง ๆ เด็ก 9 ขวบไม่น่าจะหัวรุนแรงขนาดนั้นนะ เพราะเพื่อนที่โรงเรียนแท้ ๆ เลย ที่ทำให้ฉันเป็นแบบนั้น =_=
แล้วยิ่งกลับมาอยู่ในสถานที่เดิม ๆ แบบนี้ เหตุการณ์ในอดีตมันยิ่งปรากฏมาอย่างเด่นชัดว่าฉันทำอะไร กับใคร ที่ไหน ยังไงไว้บ้าง ยิ่งคิดแล้วยิ่งรู้สึกผิด อยากขอโทษน้องคนนั้นอีกสักครั้งจัง
จะว่าไป เด็กคนนั้นไปอยู่ที่ไหนกันนะ เพราะหลังเกิดเรื่องวันนั้นฉันก็ไม่ไปให้เขาเห็นหน้าอีก และไม่นานฉันก็ย้ายบ้าน บ้านหลังนี้ก็ปล่อยเช่า กลับมาอีกทีบ้านที่เขาเคยอยู่ก็หายไป กลายเป็นสนามเด็กเล่นซะงั้น บ้านหลังข้างๆ ที่ไม่มีรั้วกั้น คุณป้าใจดีที่คอยอบขนมให้กินเสมอ สถานที่ที่ฉันชอบไปแย่งเด็กคนนั้นเล่นเกมบ่อย ๆ
มันหายไปแล้ว
ป่านนี้เด็กคนนั้นคงโตเป็นหนุ่มแล้วสินะ หน้าตาจะเป็นยังไง ยังชอบร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่หรือเปล่า กล้าสู้คนบ้างหรือยังนะ…
ไม่รู้ว่าเขาจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน
แต่ฉันเปลี่ยนไปแล้วนะ เปลี่ยนไปเพราะเขาจริงๆ
“ฮ้าวว เลิกคิดเรื่องอดีตแล้วมาอยู่กับปัจจุบันดีกว่า =_=” เช้านี้ฉันต้องไปเรียนนี่นา ขี้เกียจชะมัด เช็คเฟสก่อนไปอาบน้ำดีกว่า
ฉันคว้าโทรศัพท์ใต้หมอนมาดูแล้วพบว่ามีหนึ่งร้อยกว่าข้อความ นี่เพื่อนฉันมันคุยอะไรกันเยอะแยะวะเนี่ย -O-
ในหนึ่งร้อยข้อความมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่เป็นใจความสำคัญ!
‘วันนี้งดคลาสโว้ย! อาจารย์ไปต่างจังหวัดตั้งแต่เมื่อวานยังไม่กลับ หลับต่อสิเพื่อน รอให้แม่มาปลุกเหรอ!’
อ้าวเฮ้ยจริงดิ! วันนี้ไม่มีเรียนจริงเหรอ? สุดยอด!!^O^
…
แต่ตื่นเช้าเพื่ออะไรฟะ? -_-
…
“ช่างเหอะ” ไหนๆ ก็ตื่นแล้ว ออกไปหาแรงบันดาลใจดีกว่า
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวกินข้าวเติมพลังเรียบร้อยแล้ว ก็หอบสมุดสเก๊ตซ์พร้อมอุปกรณ์เครื่องเขียนคู่ใจพร้อมลุยไปกับโลกกว้าง! ฉันเป็นนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์น่ะ ไม่แปลกที่ไปไหนก็จะพกสมุดสเก็ตซ์ตลอด เวลาคิดอะไรดี ๆ ออกก็จะขีด ๆ เขียน ๆ วาดมันลงไปนี่ล่ะ เผื่อจะเอาไปเป็นแนวคิดตอนทำงานจริงได้บ้าง
“เอาน้ำไปด้วยดีไหมนะ เผื่อหิวน้ำกลางทางจะได้ไม่ต้องซื้อ…หรือวันนี้ไปนั่งชิลที่ร้านกาแฟดีไซน์เก๋ ๆ ดีหว่า?...ถ้าไปไม่ชวนเพื่อนแบบนี้จะโดนด่าไหมนะ?” ฉันยืนคิดมากอยู่หน้าตู้เย็นนานกว่าสิบนาทีเพื่อคิดวิเคราะห์ไตร่ตรองว่าควรเอายังไงกับชีวิตดี จะไปไหน อะไร ยังไง กับใคร
หรือสุดท้ายฉันไม่ควรทำอะไรเลย -_-
ครืด…
เอ๊ะ? เหมือนได้ยินเสียงใครเปิดประตูหน้าบ้าน เพื่อนก็ไม่ได้บอกว่าจะมาหา และประตูมันล็อคอยู่ด้วย หรือว่าจะเป็น…
“จ๊ะเอ๋!!”
“กรี๊ดด!!!” จู่ ๆ ใครก็ไม่รู้อ้าแขนกระโจนเข้ามาทำท่าเหมือนจะกอด ฉันที่ทำอะไรไม่ถูกรีบเอาสมุดสเก็ตอาวุธคู่ใจขึ้นมาพร้อมตีทันที เสียงนั่นมันผู้ชายชัด ๆ ไม่คุ้นหูเลย แล้วเขาไปเอากุญแจหน้าบ้านมาจากไหน!!
“ออกไปนะ! ใครเนี่ย!” ฉันยกสมุดขึ้นตีคนตรงหน้าแต่เขากลับปัดมันออกแล้วดันฉัยจนตัวชิดกับตู้เย็นที่อยู่ข้างหลัง
...
“เจอกันล่าสุดพี่สูงกว่านี้นะ…นี่พี่ตัวเล็กลงหรือผมโตขึ้นกันล่ะ?”
ฮะ??
______________________________________________________
นมสด
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ