ราชินี แพนทัสเนีย

7.7

เขียนโดย LittleBlue

วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 01.44 น.

  9 ตอน
  0 วิจารณ์
  10.90K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 14.30 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ตามหา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หญิงสาวปิดสมุดเล่มหนาลงเมื่ออ่านจบหน้าสุดท้าย หลังจากการมาในห้องสมุดทุกๆวันตลอดทั้งเดือนเธอก็เข้าใจอะไรมากขึ้นเกี่ยวกับโลกใบนี้ เธอได้ข้อสรุปว่าโลกนี้นั้นเทคโนโลยีไม่ได้ก้าวหน้าเท่าโลกที่เธอจากมา แต่ความไม่สะดวกทั้งหลายก็มีเวทมนช่วยทดแทนได้ อย่างสาเหตุที่ทำให้ภายในปราสาทอบอุ่นกว่าข้างนอกมากเหมือนมีเครื่องทำความร้อนนะก็เพราะเวทมน เรื่องนี้เธอ๔ามเจ้าของปราสาทเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวยังได้อ่านเกี่ยวกับเวทมนอีกด้วย และเธอได้ทำการขอให้เนโรช่วยเรี่องนี้อย่างจริงจังซึ่งเมื่อพูดกับเขาจริงๆเขาก็ยอมง่ายๆ พูดถึงผู้ชายผมดำทมิฬผู้นั้นก็... หญิงสาวยกสายตาออกจากตัวอักษรและมองไปรอบๆ ‘เอะไม่อยู่นิ ไปไหนของเขา? แปลก?’ หญิงสาวได้แต่เอ็ะใจเพราะตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมา ทุกวันที่เธออยู่ในห้องสมุดนั้นชายหนุ่มคนนั้นก็จะอยู่ด้วยตลอด เธอมักจะรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองเธอราวกับต้องการให้สายตานั้นทะลุผ่านร่างของเธอให้ได้ ด้วยความสงสัยว่าชายหนุ่มหายไปไหนหญิงสาวจึงตัดสินใจวางหนังเล่มใหม่ที่เธอพึ่งหยิบมาอ่านลงและออกจากห้องสมุดไป ‘อย่างไรซะเราก็จะขอเขาสอนเวทมนให้ด้วย’ เธอคิดในใจในขณะที่เท้าเดินไปตามทางของปราสาท ผ่านห้องอาหาร ไม่มี ผ่านห้องนั้งเล่นไม่มี ห้องครัว ห้องนอน ข้างนอกในอานาเขตปราสาทก็ไม่มีวี่แววของชายผมดำคนนั้น หญิงสาวหยุดยืนอยู่ข้างนอกซึ่งอยู่ในรั้วปราสาทอย่างครุ่นคิด ‘หรือว่าเขาจะออกไปข้างนอกนั่น?’ เมื่อคิดเช่นนั้นเธอก็ตัดสินใจออกไปดูซักหน่อย หนึ่งเธอต้องการตามหาเขา สองคือเธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าข้างนอกแบบด้านนอกมันเป็นยังไงกันแน่ ตอนเขาพาเธอเข้ามา ท้องฟ้าก็มืดแล้วแถมลงแรง มองอะไรไม่ค่อยจะเห็น ส่วนครั้งที่ออกมาปาหิมะจริงๆก็ยังอยู่ข้างในส่วนปราสาท ตอนแรกชายหนุ่มไม่ยอมให้เธอออกมาเองแต่ตอนหลังเขาก็อนุญาต เอาเป็นว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอออกมาข้างนอกจริงๆหลังจากหนึ่งเดือน หญิงสาวเดินไปที่เจ้าสิ่งที่เอาไว้หมุนเปิดปราตู เธอหมุนมันด้วยความยากรำบากแต่ก็ทำสำเร็จ เมื่อประตูเปิด ทุกอย่างก็ยังดูขาวโพลนเหมือนเดิม แต่เธอสังเกตเห็นป่าไหมอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลตรงหน้า เธอมองไปรอบๆให้แน่ใจว่าไม่เห็นเนโรก่อนจะมุ่งหน้าไปตรงทางป่านั้น แน่นอนว่าเธอนะกลัวหลงป่าเพราะฉะนั้นเธอตั้งใจไหวแล้วว่าจะไมาเข้าไปลึกมาก ถ้าไม่เห็นชายหนุ่มตรงแถวชายป่าเธอก็จะล้มเลิกกลับไปรอในปราสาท


หญิงสาวก้มหัวหลบกิ่งก้านเหนือศรีสะ ดวงตาสีทองของเธอจ้องเข้าไปข้างใน ‘โหแค่เข้ามาก้าวเดียวทำไมมันมืดกว่าข้างนอกขนาดนี้เนี่ย?’ เธอคิดในใจ แล้วค่อยเดินต่อไป สายตาของเธอนั้นสังเกตบริเวณรอบๆอย่างตื่นตัว เธอรู้สึกว่าปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า แต่ยิ่งเดินไปรอบๆก็ยิ่งมืดลงซึ่งมันแปลกมากเพราะเธอไม่ได้เดินเข้าไปข้างในแต่เป็นด้านข้างแบบรอบๆมากกว่า เพราะหญิงสาวรู้สึกว่ามันมืดกว่าข้างนอกมากเกินไปจึงไม่กล้าเดินลึกเข้าไปกว่านี้ เธอไม่อยากเสี่ยง แต่ดูเหมือนเดินจะคิดผิด เธอรู้สึกว่าบรรยากาศมันไม่ปกติจริงๆ เธอควรจะออกจากที่นี่โดยด่วน เธอตัดสินใจหาทางออก เธอหันไปรอบๆ มันมืดมาก ทางออกอยู่ตรงไหนนะ หญิงสาวเริ่มวิตกนิดหน่อยแต่เธอก็ยังมีสติ เธอจำทิศทางได้อย่างแม่นยำ เธอไม่เคยลืมทิศหรืงไม่รู้ทิศ มันเป็นสิ่งที่เธอมีมาแต่เด็ก เป็นความสามารถแปลกประหลาดและดูไร้ค่าในโลกที่มีเทคโนโลยีครบถ้วนและทิศไม่ได้สำคัญในชีวิตประจำวันสักเท่าไหร่ แต่ในที่นี่เธอรู้สึกขอบคุณความสามารถนั้น เธอมุ่งสู่ทางออกแต่แล้วเธอก็สะดุด มันเป็นกิ่งไม้ใหญ่ตรงพื้น แต่ว่ามันดูแปลกๆ หญิงสาวหรี่ตาลง เธอย่อเข่าสัมผัสเจ้ากิ่งไม้ เธอเบิกตามันไม่ใช่ไม้ มันแข็งราวหิน หิมะดูจะทำให้มองไม่ค่อยออกเพราะรูปร่างมันไม่ต่างจากกิ่งไม้แต่อย่างใด ถึงอย่างไรเจ้าสิ่งนี้ทำให้เธอมองรอบๆอีกรอบ และเธอก็เริ่มรู้ว่าต้นไม้ต่างๆรอบๆไม่ใช่ต้นไม้ มันเป็นอะไรซักอย่างที่ดูเหมือนหิน เธอลูบหิมะออกทำให้เห็นว่าภายใต้หิมะมันเป็นสีเทาแปลกตา ‘ที่นี่ไม่ใช่ป่า หรือว่า’ แต่ไม่ทันไรหญิงสาวก็รู้สึกหนาวที่กระดูกสันหลังอย่างกะทันหัน สันชาตยานสั่งให้เธอกระโดดหลบไปด้านข้างโดยไม่ต้องหันไปมอง มันเป็นความรู้สึกที่ว่าถ้าไม่ทำก็ได้ หญิงสาวกระโดดหมุนตัวไปด้านข้างอย่างชำนาน พอดีว่าก่อนที่เธอจะเรียนจบเธอได้มีประสบการทำอะไรหลายอย่าง และยิมนาสติกก็เป็นหนึ่งในนั้น รวมถึงทักษะการต่อสู้กับศัลปะการป้องกันตัวต่างๆ ช่วงที่เธอยังเรียนอยู่นั้นเธอรู้สึกเบื่ออะไรต่อมิอะไรเร็อย่างมาก เวลาทำอะไรได้แล้วก็อยากทำอย่างอื่น มันเป็นช่วงเวลาที่เธอกำลังหาตัวเองอยู่ จนกระทั่งมาเจอการร้องเพลง

หญิงสาวหลบได้อย่างหวุดหวิด แต่เสื้อผ้าเธอด้านหลังไม่วายถูกถากเป็นทางยาว หญิงสาวรีบพลิกตัวไปมอง ทำให้เห็นว่าสิ่งที่จ้องทำร้ายเธอมันเหมือนกลุ่มก้อนควันดำๆที่มารวมตัวกัน ไม่มีร่าง ไม่ใช่คน และที่สำคัญไม่ได้มีแค่ก้อนเดียวแต่หลายสิบอัน ไว้เท่าความคิดหญิงสาวขยับหนีทันที เส้นผมสีเงินของเธอสะบัดอย่างแรงตามฝีเท้าทีเร็วที่สุดที่เธอจะทำได้ เมื่อมีตัวที่พุ่งเข้ามาเธอก็เบี่ยงหลบ ทุกครั้งล้วนฉิวเฉียด ให้ทำไงได้ถึงเธอจะมีความสามารถแต่ก็ไม่ได้ฝึกร่างกายไว้สู้กับอะไรที่ไม่ใช่มนุษย์แบบนี้ เจ้าพวกเงาดำนี้ร้วนแล้วรวดเร็วจนน่าใจหาย เธอต้องออกไปจากนี่ ใช่เธอต้องออกไป หญิงสาวมุ่งสู่ทางออก แต่เจ้าพวกนี่มาขวางแถมยังบังคับให้เธอวิ่งไปทางตรงกันข้าม ตอนนี้เธอยิ่งอยู่ลึกเข้าไปข้างใน เธอตัดสินใจจับก้อนหินปาใส่เจ้าพวกนั้นแต่หินก็ได้แต่ทะลุผ่านไป หญิงสาวเบิกตากว้าง เธอเริ่มลนลานอย่างแท้จริง เพราะเจ้าสิ่งนี้นอกจากจะเร็วจนเหลือเชื่อยังมีร่างที่แตะต้องไม่ได้ แล้วอย่างนี้ทักษะต่อสู้ที่เธอรู้มันจะไปช่วยอะไร หญิงสาวหอบหายใจแรงแต่เธอก็ไม่ได้หยุดฝีเท้าลง ‘ฉันไม่อยากตาย ฉันจะไม่ตาย ไม่ใช่ที่นี่ ไม่ใช่แบบนี้’ หญิงสาวทุลักทุเลวิ่งหนีพยายามวิ่งซิกแซ็กเพื่อให้ไม่เป็นเป้านิ่งแต่ถึงอย่างนั้นความเร็วเธอก็ตกลงเรื่อยๆ จนในที่สุดเธอก็โดนจนได้ เจ้าสิ่งนั้นพุ่งเข้ามาด้านหลังของเธออีกครั้งแต่ครั้งนี้มันไม่พ้น หญิงสาวล้มลงอย่างแรง เสื้อด้างหลังฉีกขาด ความรู้สึกอุ่นๆของโลหิตอาบอยู่เต็มหลัง หญิงสาวกัดฟันไม่มีเสียงกรีดร้องแม้แต่น้อย เธอกลิ้งไปด้านข้างก่อนจะรีบลุกขึ้น ‘เจ็บ’ เธอคิดในใจ แต่ก็วิ่งต่อไป ทันใดนั้นเธอก็สะดุดล้มลง สะดุดอะไรไม่สะดุดๆกระโปรงตังเอง หญิงสาวสบทที่หนึ่งในใจ หญิงสาวพยายามลุกขึ้นอีกครั้งตั้งใจจะวิ่งต่อ ถ้าคร้ังนี้เธอรอด หญิงสาวสัญญากับตัวเองว่าสิ่งแรกที่จะทำคือตัดกางเกงให้ตัวเอง แต่ว่าความหวังอันริบหรี่ก็ราวกับดับหายไปเมื่อข้างหน้านั้นมีเจ้าก้อนดำๆดักอยู่และด้านหลังก็ยังไร่ตาม สายตาของเธอมองไปรอบๆพยายามหาทางหนี ‘ไม่มีๆๆ!’ หญิงสาวหลับตาอย่างจำยอม ‘ไม่ทันแล้ว’ เธอคิด ‘นี่เราต้องตายแล้วสินะ คุญแม่ คุญพ่อ เจ้าน้องชาย...’ ความคิดของเธอร่องไปไกล จนในที่สุด ‘เอ็ะ ทำไมฉันยังคิดได้นานขนาดนี้?’

ชีว่าค่อยๆลืมตาขึ้น สิ่งที่เห็นคือแผ่นหลังแกร่งอันคุ้นเคย “เนโร” หญิงสาวร้องอย่างตกใจ สายตาดำดุส่งมาหาเธอ ราวกับจะบอกว่ากลับครั้งนี้เธอเจอดีแน่ๆ หญิงสาวกลืนนำ้ลาย เธอกลัวเจ้าก้อนดำนะแต่ชายหนุ่มข้างหน้าแอบน่ากลัวกว่าอย่างไรไม่รู้

จากนั้นก็เกิดการต่อสู้ขึ้น หญิงสาวทึ่งในความเก่งกาจของชายหนุ่ม เขาทั้งว่องวายและแม่นยำแถมไม่มีการชะงักในการลงดาบ แต่แล้วเธอก็ขมวดคิ้ว ‘เนโรใช้ดาบและมันก้ฟันโดน แต่หินทะลุนี่’ สายตาของเธอจับจ้องไปที่ดาบ ‘หรือดาบนั่นจะไม่ธรรมดา’ แต่ในขณะที่เธอจมดิ่งสู่ความคิดนั้น ‘เอาตรงๆนะไม่ใช่ลืมว่าตัวเองกำลังอยู่ในอันตรายแต่ฉันอ่านออกว่า เนโรอยู่เนี่ยฉันปลอดภัยแน่นอน’ มือของคนตัวสูงก็คว้ามาที่เอว อุ้มเธอคิดและออกวิ่ง ชีว่าตกใจนิดหน่อยเพราะไม่คิดจะถูกอุ้นกะทันหันแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้โวยวายยึดโกะชายหนุ่มแน่น เขาพาเธอขึ้นม้าพร้อมตัวเขาแล้วออกตัวทันที หญิงสาวมองเห้นแสงด้านหน้า เธอถอนหายโล่งอก ‘ออกมาได้แล้ว’

“ออกมาทำไม?” คำถามคนตัวโตเต็มไปด้วยโทษะแบบเงียบขรึม ทำให้หญิงสาวเกร็งอย่างไม่ได้ตั้งใจ “ข้ามาตามหาเจ้า” หญิงสาวตอบเสียงนิ่งๆผิดกับความคิดที่กลัวเต็มทน “ตามหาข้า?” เสียงนี้ออกเป็นคำถามและดูเหมือนนำ้แสนเย็นชาดุดันดูจะอ่อนลง หญิงสาวที่รู้สึกได้จึงเริ่มใขชื้นขึ้น เธอพยักหน้าครางนี้มองหน้าคนที่ส้อนท้ายอยู่ด้านหลังด้วย เขามองเธอ ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆผ่านสีหน้า “ทำไม” เสียงทุ่มถาม “ก็อยากให้ช่วยอะไรซักหน่อย” หญิงสาวตอบตามจริง ครางนี้ชายหนุ่มขมวดคิ้วและนำ้กลับมาดุอีกครั้ง “แค่ให้ข้าช่วย ไม่จำเป็นต้องออกไปตามหา” มันคือคำสั่ง หญิงสาวพยักหน้า ‘หลังจากครางนี้ยังไงๆก็จะไม่ออกไปหรอก’

“จะว่าไป...” หญิงสาวว่าจะถามถึงป่าแปลกประหลาดกับเงาดำๆพวกนั้นแต่ก็ถูกขัดขึ้นมา “เจ้าบาดเจ็บ” เสียงที่เอ่ยดูจะเต็มไปด้วยโทษะจนหญิงสาวสะดุ้ง “เจ้าอย่าขยับตัวมาก เลือดมันจะออกมากขึ้น” ชายหนุ่มดุเธอพร้อมกับเอามือทาบลงหลังเธอเบา หญิงสาวส่งเสียงครางเบาๆด้วยความเจ็บ แต่ก็ไม่ได้บ่น ชายหนุ่มพึมพับอะไรซักอย่างจากนั้นเธอก็รู้สึกดีขึ้นที่หลัง จากการจับใจความของเธอมันน่าจะเป็นการใช้เวทมนเพื่อรักษา “ขอบคุณท่านมาก” หญิงสาวเอ่ยกับคนข้างหลัง

ชายหนุ่มชะงักมือที่จะเอาออกจากหลังของหญิงสาวข้างหน้าเมื่อได้ยินเสียงหวานเอ่ยขอบคุณ มันทำให้ไฟโทษะเบาบางลง ใช่เขาโกรธหญิงสาวที่ออกมาโดยไม่คิด แต่เขาโกรธตัวเองมากกว่าที่เป็นต้นเหตุและที่ไม่ได้บอกเธอไว้ก่อนว่าอย่าออกไปข้างนอก เขาไล่มือเบาๆบนหลังของร่างบาง “เจ้าอย่าได้ทำแบบนี้อีก ห้ามออกมาโดยไม่มีข้า ข้างนอกมันอันตราย” หญิงสาวที่นั่งข้างหน้าไม่ได้ตอบเขา เธอเพียงพยักหน้าเข้าใจ ริมฝีปากของชายหนุ่มยกขึ้น เมื่อเห็นว่าหญิงสาวแสนดื้อคนนั้นดูจะตั้งอกตั้งใจทำตามที่เขาพูดกว่าทุกครั้ง นำ้เสียงของเขาจึงอ่อนลงอีก “ข้ารักษาให้เจ้านั้น เพียงปิกบาดแผลให้เลือดหยุดไหล ยังไม่หาย เจ้าก็อย่าขยับมาก” เมื่อเห็นเธอพยักหน้า เนโรก็ดึงมือออกจากหลังอันขาวเนียนของเธอ เขากำชับมือรอบเอวบางและดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด

ชิว่านั้นรู้สึกตกใจกับสัมผัสที่หลังโดยมือหนา เธอเกร็งตัวโดยไม่ทันคิด ก็ตอนนี้เจ้าผู้ชายข้างหลังกำลังลูบหลังของเธออยู่ มันน่าอายจะตาย ตอนนี้นะเธอก็กึ่งโป้นั่นแหละเพราะเสื้อผ้าด้านหลังฉีกขาดหมด หลังของเธอจึงเปิดเผยหมด ‘นี่เขาทำอะไรไม่คิด’ หญิงสาวนึกในใจ แต่ก้ไม่ได้ห้ามออกไป จากนิสัยของคนข้างหลังคงไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นกับเธอหรอก อีกอย่างเขาช่วยชีวิตเธอไว้ และนี่ก็เป็นครั้งที่สองแล้ว ดูเหมือนเธอจะติดหนี่เขาจริงๆซะแล้ว เมื่อเขาระมือออกหญิงสาวก็ถอนหายใจโล่งอกเบาๆแต่ก้ต้องกลั้นหายใจอีกรอบเมื่อมือแกร่งกำชัดเธอเข้าไปแนบอกแกร่ง เสียงหัวใจเต้นของเขา เสียงลมหายใจอุ่นของเขา เธอล้วนได้ยินล้วนรู้สึกได้ เธอรู้สึกหน้าแผ่วร้อน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอใกล้ชิดกับผู้ชายแต่เนโรเป็นนั้นไม่เหมือนคนอื่นๆ เขาแตกต่างทำให้เธอทำอะไรไม่ถูกเพราะเธอไม่รู้เขาคิดอะไร “เจ้ายังหนาวอยู่ไหม ทนได้ไหม เดี๋ยวก็ถึงแล้ว” สิ่งที่ถูกกล่าวออกมาทำให้หญิงสาวเลิกกลั้นหายใจ ‘ที่แท้เขาคิดว่าเราจะหนาวเพราะหลังเปิดเผยต่อลมเลยให้หลังเราแนบกับเขาจะได้อุ่น’ เมื่อรู้เหตุผลหญิงสาวก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ได้แต่นึกขอบคุณชายหนุ่ม “อย่าห่วงข้า จะว่าไปเจ้าพวกก้อนดำๆนั้นคือสิ่งชั่วร้ายใช่หรือไม่”

ชายหนุ่มเลิกคิ้วกับคำถามที่อยู่ก็ออกมา แถมเธอยังทายถูก “ถูกต้อง” ชายหนุ่มตอบ

“ถ้างั้นไอป่าประหลาดนั่นก็พื้นที่สีเทาอย่างนั้นสินะ จริงสิตามแผนที่นั้นมีฝั่งหนึ่งของชายแดนแพนทัสเนียนั้นติดกับพื้นที่สีเทาอยู่” หญิงสาวพูดขึ้น ชายหนุ่มจ้องใบหน้าหวานที่เหมือนจะถามแต่นำ้เสียงนั้นบ่งบอกว่ามั่นใจเต็มร้อยอย่างอดชื่มชมไม่ได้ เพราะหญิงสาวจับจุดและเข้าใจอะไรได้เร็วจริงๆ “ใช่แล้ว” จากนั้นพวกเขาก็ถึงปราสาท ชายหนุ่มอุ้มหญิงสาวลงและออกเดินโดยยังมีเธอในแขน

“นี่เนโร ข้าเดินเองได้” หญิงสาวสะกิดแขนแกร็งเบาๆ แต่ชายหนุ่มดูจะไม่สนใจที่เธอพูดแม้แต่น้อยพาเธอมาถึงห้องนอน วางเธอลงเตียงแล้วยัดเธอใต้ผ้าห่ม “นอน” เสียงทุ้มราวออกคำสั่ง หญิงสาวเบ้ปากอย่างช่วยไม่ได้ขณะนอนมองหน้าคมค้ายของชายหนุ่มที่ยืนมองเธออยู่เรียกสายตาดุมาหา หญิงสาวหันหน้าไปทางอื่นและรีบหลับตาทันที ‘ไว้ต่อกันตอนเช้าละกัน’ จากนั้นหญิงสาวก็นอนหลับไปอย่างรวดเร็ว

เนโรมองใบหน้าค่อนคลายของร่างบางบนเตียงก็รู้สึกโล่งใจ เขายืนมองอยู่อย่างนั้นไม่ไปไหนอยู่นานทีเดียวก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เธอและไร่มือไปตามเส้นผมของเธอเบาๆ ผละออกแล้วเดินจากห้องไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา