เสน่ห์รักเจ้าเมืองเหนือ
เขียนโดย กรุงสยาม
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.44 น.
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) แบบนี้เรียกว่าหึงหรือเปล่า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความช่วงบ่ายของวันนั้นเมื่อกันต์เสร็จธุระกับเจ้าหลวงรังสิมันต์จึงรีบกลับมายังคุ้มหลวงทันที เมื่อเดินเข้ามาด้านในก็ได้ยินเสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานดังออกมาจากห้องนั่งเล่นนิ่วหน้าสงสัยกว่าวันนี้มีแขกมาเยือนหรืออย่างไร
ร่างบางย่างก้าวเข้ามาหยุดอยู่หน้าประตูกระจกของห้องนั่งเล่นมองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งรูปร่างอวบอึ๋มกำลังดีซึ่งเธอเองก็รู้จักกำลังนั่งสนทนาอยู่กับเพาภิรมย์อย่างสนิทสนม ใบหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นบึ้งนิดๆเริ่มไม่พอใจหน่อยๆเมื่อระยะความใกล้ชิดมีจนมากเกินไป
“ อ้าว...กันต์ กลับมาแล้วเหรอ ” พิมพรรณที่เดินมาจากด้านหนึ่งในมือมีจานที่วางเรียงขนมไทยถือมาด้วย
หลานสาวไม่ได้ตอบอะไรดูเหมือนจะไม่ได้สนใจกับคำถามก็ว่าได้เมื่อสายตาเอาแต่จดจ่ออยู่กับสองสาวในห้องนั่งเล่น พิมพรรณมองหน้ากันต์และหันมองตามสายตาที่หลานเธอเพ่งมองจึงเอ่ยพูดขึ้น
“ อ๋อ นั่นคุณมาริษา เจ้าของห้างสรรพสินค้าในเมืองไง ”
“ แล้วมาทำไม ” กันต์ถามกลับในขณะที่ยังคงยืนมองอยู่อย่างนั้น
“ เค้าตั้งใจมาหาพี่เพ็ญ แต่บังเอิญพี่เพ็ญติดประชุมอยู่ที่ออฟฟิศ ก็เลยนั่งคุยอะไรไปเรื่อยๆ ” พิมพรรณกล่าว
“ คงคุยกันถูกคอซินะ ” ริมฝีปากบางเอ่ยพูดออกมาเบาๆ ผู้เป็นน้าเห็นกิริยาของหลานสาวก็พอจะเดาได้ถึงพฤติกรรมบางอย่าง พิมพรรณจึงเปิดประตูเข้าไป “ ขนมมาแล้วค่ะ ”
“ อ้าว...เจ้า สวัสดีค่ะ ไม่ได้เจอเสียนานเลยนะคะ ” หญิงสาวที่ชื่อมาริษาเอ่ยทักทายเมื่อเงยหน้ามาเจอกันต์
เพาภิรมย์เมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงรีบหันมามองเห็นร่างบางที่กำลังมองมาเช่นกัน ริมฝีปากสวยฉีกยิ้มหวานๆให้ แต่กันต์กับส่งสายตาจิกๆพร้อมใบหน้าบึ้งตึงก่อนที่จะเหลือบไปพูดกับมาริษา
“ สวัสดีค่ะ ”
“ เจ้าสบายดีนะคะ ” มาริษาถามต่อ
“ สบายดีค่ะ ” สีหน้าของกันต์ไม่ได้ยิ้มแย้มกลับแต่อย่างไร จนพิมพรรณที่ยืนดูอยู่มุมหนึ่งอดยิ้มกับตัวเองไม่ได้
“ ทานขนมด้วยกันซิคะเจ้า ” มาริษาเอ่ยชวน
“ เชิญตามสบายเถอะค่ะ กันต์ไม่ชอบแย่งของของใครกิน ” ร่างบางเอ่ยตอบเรียบๆเหล่หางตามองเพาภิรมย์นิดๆ ใบหน้าสวยหันไปยิ้มกับพิมพรรณและมองสาวน้อยของเธอเริ่มรู้สึกถึงอาการแปลกๆ
“ น้าพรรณ ดูแลแขกให้ดีด้วยนะคะ.......อย่าให้ใครลุ่มล่าม ” กันต์หันหน้ามาพูดกับน้าสาวและทิ้งประโยคเสียงแข็งส่งท้ายก่อนที่จะเดินออกไป พิมพรรณยิ้มพยักหน้าเบาๆ เพาภิรมย์เม้มปากอมยิ้มกับตัวเองเมื่อเห็นกันต์ออกอาการหึงหวงเธอ
เมื่อร่างบางขึ้นมาบนห้องของตัวเองจึงนั่งลงกับโซฟาปลายเตียงสักพัก สายตาเพ่งมองไปที่ประตูรอว่าจะมีใครตามขึ้นมาหรือไม่ “ ไม่มาก็ไม่ต้องมา...กินขนมหวานจนเพลินแล้วมั้ง ชึ่ย!! ” กันต์บ่นกับตัวเองด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีนักเมื่อเพาภิรมย์ไม่ได้ตามขึ้นมาหาอย่างที่เธอคิด
ถอนหายใจด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเล็กๆก่อนที่จะตรงเข้าไปยังห้องเสื้อและทำการเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาเป็นชุดสบายๆพลางกวาดสายตาไปทั่วๆห้องกว้างไร้วี่แววสาวใหญ่ของเธอหน้าตาจึงเริ่มบูดเบี้ยวขึ้นมาทันที
“ นี่ไม่มาจริงๆเหรอเนี่ย ” ริมฝีปากบางบ่นพึมพำกับตัวเองเมื่อเพาภิรมย์ยังไม่มาหา ก่อนที่จะรีบออกจากห้องเพื่อลงไปด้านล่าง ร่างบางรีบก้าวขาเร็วๆไปที่ห้องนั่งเล่น
“ ไปไหนแล้วอ่ะ...หายไปทั้งคู่ ” เมื่อมาถึงก็บ่นกับตัวเองอีกครั้งน้ำเสียงเริ่มกระวนกระวายใจเมื่อมาที่ห้องเดิมแต่กลับไม่เจอทั้งคู่อยู่ที่นี่แล้ว
ขาเรียวเร่งฝีเท้าเดินหาทั้งคู่ว่าอยู่ที่ไหนสำรวจทุกที่ของห้องรับแขกห้องพักผ่อนต่างๆแต่ไร้วี่แวว จึงเดินวนไปทางสระว่ายน้ำก็ไม่เจอใคร ไปทางริมสระบัวก็ไม่มีวนกลับมาที่โต๊ะอาหารก็ไม่พบใครทั้งนั้น
“ โอ๊ย!! หายไปไหนกันหมดเนี่ย ” กันต์เริ่มร้อนรนใจรู้สึกว่าตอนนี้คุ้มหลวงใหญ่เกินไปเมื่อหาเพาภิรมย์ไม่เจอ ระหว่างนั้นเองหญิงรับใช้คนหนึ่งถือถาดของว่างต่างๆกำลังจะเดินออกไปทางหน้าคุ้ม
“ เดี๋ยวก่อน...” หญิงรับใช้หันมาและรีบเดินเข้ามาหาทันที “ เห็น...คุณเพาหรือป่าว ”
“ เห็นค่ะ คุณเพากำลังช่วยคุณพรรณปลูกต้นไม้อยู่กับคุณมาริษาค่ะ ” สิ้นเสียงหญิงรับใช้อารมณ์ร้อนก็พุ่งขึ้นหน้าทันทีนี่หายไปอยู่ด้วยกันอย่างนั้นเหรอความไม่พอใจเริ่มเข้ามาในหัวอีกครั้ง ก่อนที่กันต์จะหยิบถาดของว่างมาจากหญิงรับใช้และมุ่งหน้าเดินออกไปหาเป้าหมายทันที
เมื่อมาถึงบริเวณสวนดอกไม้หลากสีต่างๆใบหน้าเรียวยืนมองอ้าปากค้างนิดๆดวงตาเพ่งมองสองสาวที่เธอตามหากำลังงุ่นง่านช่วยกันปลูกต้นไม้ สายตาเพ่งเล็งไปยังเพาภิรมย์ที่ช่วยสอนมาริษาเพราะดูเหมือนเธอจะทำไม่ค่อยเป็นนัก
“ น้าพรรณ!!!! ” เสียงหวานเรียกดังลั่นเมื่อหันไปเห็นน้าสาวยืนอยู่มุมหนึ่ง จนพิมพรรณสะดุ้งรวมถึงเพาภิรมย์และมาริษาพากันหันมามองเป็นตาเดียว
“ อะ..อะไรกันต์ เรียกซะตกอกตกใจหมด ” พิมพรรณที่กำลังตัดกิ่งเล็กๆของต้นไม้เก่าๆถามสีหน้าตกใจ
“ น้าพรรณทำอะไร ” ร่างบางเมื่อเห็นเพาภิรมย์มองมาเธอจึงรีบเบือนหน้าหันมาพูดกับน้าสาว
“ ตัดแต่งกิ่งก้านต้นไม้ ” พิมพรรณตอบใบหน้ายังคงเหวอๆ
“ แล้วทำไมไม่ตั้งใจทำ ลูบๆคลำๆอยู่ได้ ” กันต์ทำพูดว่าพิมพรรณแอบเหล่ไปทางเพาภิรมย์ที่มีสัมผัสมือไม้มาริษาดูจะใกล้ชิดเหลือเกิน
“ จ้ะๆ น้าจะตั้งใจจ้ะ ” พิมพรรณยังคงงงงวยตอบออกมา
เพาภิรมย์อมยิ้มมองร่างบางชอบใจที่เห็นกันต์เป็นแบบนั้น ยังคงส่งยิ้มหวานๆให้กับร่างเล็กก่อนที่มาริษาจะเรียกเธอเพื่อถามเรื่องการพรวนดิน เมื่อกันต์เห็นภาพที่มาริษาจับแขนของเพาภิรมย์ ก็เม้มปากกัดกัดฟันแน่นวางถาดของว่างที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะเสียงดัง ก่อนที่จะสะบัดหน้าเดินออกไปอย่างอารมณ์เสีย
เพาภิรมย์ยิ้มหันมองตามหลังสาวน้อยของเธอ ระหว่างที่กันต์กำลังจะเดินออกไปจากบริเวณนั้นก็พบกับอิงฟ้าที่ตั้งใจมาหาเธอเข้าพอดี
“ เจ้าขาาาา ” อิงฟ้าเมื่อเห็นกันต์จึงส่งเสียงร้องเรียกมาแต่ไกล
“ อิงฟ้า...” เสียงกันต์เรียกตอบเบาๆและยิ้มให้ เพาภิรมย์เห็นเช่นนั้นก็เริ่มไม่พอใจขึ้นมาทันที
“ ฟ้าตามหาเจ้าเสียทั่วคุ้มเลยค่ะ คิดถึ๊งคิดถึง ” อิงฟ้าไม่พูดป่าวสองมือเกี่ยวคล้องคอกันต์เอาไว้พร้อมกับยื่นจมูกเข้าไปหมายจะหอมแก้มแต่กันต์กับรั้งใบหน้าถอยหลังนิดๆเพราะนึกถึงเพาภิรมย์ที่อยู่ใกล้ๆก่อนที่จะเปลี่ยนความคิดเมื่อเสียงของมาริษาแว่วเข้ามาในหูจึงเอียงแก้มให้อิงฟ้าหอมเสียฟอดใหญ่
ร่างสูงยืนมองจ้องตาเขม็งเริ่มมีอาการหวงนิดๆแต่ก็ยังไม่เสียอารมณ์เพราะเชื่อว่ากันต์ไม่ได้คิดอะไรกับอิงฟ้าแต่ก็อดที่จะหึงไม่ได้ “ เจ้าคะ เจ้าขา ชิ!! ยัยเด็กแอ๊บแบ๊ว ” ริมฝีปากสวยพึมพำกับตัวเองเบาๆและชะเง้อมองอีกครั้งเมื่ออิงฟ้าเกี่ยวแขนสาวน้อยของเธอเดินเข้าไปด้านใน
สักพักใหญ่.... เพาภิรมย์พร้อมพิมพรรณเดินเข้ามายังคุ้มหลวงเมื่อมาริษากลับไปแล้ว ไม่รอช้าเพาภิรมย์รีบปรี่เข้าไปยังห้องใกล้ๆริมสระว่ายน้ำทันทีเพราะได้ยินเสียงทีวีดังออกมาจากห้องนั้น ร่างสูงหยุดกึกสีหน้าเริ่มไม่พอใจเสียแล้วเมื่อเห็นอิงฟ้ากำลังคะยั้นคะยอที่จะป้อนเค้กให้กับสาวน้อยของเธอสีหน้ายิ้มแย้มดูมีความสุขน่าดู
“ ฉันว่าเธอควรจะจัดการยัยอิงฟ้าซะหน่อยนะ รู้สึกจะล้ำเส้นมากขึ้นทุกวัน ตามสบายเลยเพา ลุย! ” พิมพรรณที่ไม่ค่อยชอบอิงฟ้านักเอ่ยบอกเพื่อนสาวเพราะหวงหลานตัวเอง เพาภิรมย์ยืนมองกำมือแน่นก่อนที่จะตัดสินใจสะบัดหน้าหนีและเดินออกนอกคุ้มไปทันที
“ อะ..อ้าว..อ้าว......หึ่ย ทำไมเป็นแบบนี้เนี่ย อุส่ายุ เดินหนีซะงั้น ” พิมพรรณงงกับตัวเองเมื่อเห็นเพาภิรมย์เดินออกไปทั้งทีความจริงน่าจะเข้าไปโวยวายเสียมากกว่า
“ กันต์...น้ามีเรื่องจะปรึกษา มานี่แป๊บนึงซิ ” พิมพรรณรีบพูดตัดหน้าอิงฟ้า ที่พยายามจะป้อนเค้กเข้าปากให้กับเจ้าขาของเธอ กันต์เลี่ยงจากเด็กสาวตรงหน้าและรีบออกมาหาพิมพรรณ
“ มีอะไรเหรอ น้าพรรรณ ” หลานสาวถาม
“ สนใจอิงฟ้าอยู่ได้ คุณเพาของกันต์น่ะงอนหน้าคว่ำเดินออกนอกคุ้มไปแร้ว! ”
“ อ้าว...ไปไหนแล้วล่ะคะ ” กันต์สีหน้าร้อนรน
“ ไม่รู้....กลับกรุงเทพแล้วมั้ง ” พิมพรรณยืนกอดอกพูดประชดหลานสาวเธอ
“ หึ่ย..นี่..ไม่ได้นะ ” กันต์ตกใจหันมองหน้าประตู
“ รีบไปตามหาซะไป เดี๋ยวอิงฟ้า น้าจัดการเอง ” พิมพรรณกระซิบกระซาบบอก กันต์พยักหน้ารับเบาๆและรีบเดินออกไปทันที
เพาภิรมย์เดินหงุดหงิดออกมายังนอกคุ้มหลวงในมือถือกิ่งไม้เล็กๆโบกไปโบกมาเรื่อยเปื่อย เมื่อนึกถึงกันต์ก็ยิ่งไม่พอใจที่ไม่ยอมสนใจเธอแต่กับให้ความสำคัญกับอิงฟ้าเสียอย่างนั้น ร่างสูงเดินเหม่อๆมาถึงยังน้ำตกมองไปยังสายน้ำใสๆจึงถอดรองเท้าเดินลงไปนั่งที่โขดหินและเอาเท้าแกว่งน้ำเล่นเบาๆ
“ นั่งคิดถึงใครอยู่คะ ” เสียงกันต์ดังขึ้นหลังจากเดินตามหาเพาภิรมย์เสียนาน
เพาภิรมย์สะดุ้งหันมองแต่ไม่ตอบอะไรทั้งที่ตัวเองนั้นดีใจเป็นที่สุดที่กันต์ตามมา ยังคงก้มหน้ามือปัดป่ายสายน้ำเล่นไม่พูดอะไร กันต์อมยิ้มเหล่มองสาวสวยก่อนที่จะถอดรองเท้าของเธอและเดินไปนั่งข้างๆพร้อมกับยื่นจมูกเข้าไปหอมแก้มหนึ่งฟอด
“ ทำไมเงียบล่ะคะ ” เสียงหวานเอ่ยถาม
“ .......... ” ใบหน้าสวยนิ่งไม่ตอบอะไรพร้อมกับลุกขึ้นยืนหมายจะออกไปจากตรงนั้น กันต์รีบยืนตามคว้าแขนข้างหนึ่งของเพาภิรมย์ออกแรงดึงให้หันกลับมาจนร่างสูงเสียหลักถลาเข้ามากอดร่างบางซะเต็มที่ ริมฝีปากบางยิ้มหวานๆให้ก่อนจะเอื้อมมือเข้าไปกอดคนรักไว้และทิ้งร่างของเธอและเพาภิรมย์ลงไปในสายน้ำด้วยกัน
“ ตู้ม!!! ” เสียงน้ำใสๆดังสนั่นพร้อมกับกระจายเป็นวงกว้างเมื่อร่างของสองสาวหล่นลงกระทบผิวธารา ด้วยแรงกระแทกและแรงดันของน้ำสองร่างจึงแยกออกจากอ้อมกอด
************************
ลบเนื้อหาบางส่วน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ