The magic book
เขียนโดย mayu_mayu
วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 14.09 น.
แก้ไขเมื่อ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2560 09.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
บทนำ
บทนำ
ตึก... ตึก... ตึก... เด็กสาวคนหนึ่งเดินอยู่ท่ามกลางความมืดมิด มีเพียงรอบๆตัวเท่านั้นที่มีแสงสว่าง เธอเดินตรงเข้าไปในความมืดมิดอย่างไม่มีจุดหมาย เด็กสาวเฝ้าถามตนเองว่า ‘ที่นี่คือที่ไหน’ และคิดเพียงว่าหากเดินไปเรื่อยๆจะต้องเจอทางออกเป็นแน่ เธอเดินต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งมองเห็นแสงสว่างอยู่รำไร เธอมองมันด้วยความดีใจโดยหวังว่ามันจะเป็นทางที่จะพาเธอออกไปจากสถานที่แห่งนี้ เธอรีบวิ่งตรงไปยังแสงไฟ วิ่ง วิ่ง และวิ่งไปเรื่อยๆ วิ่งไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจร่างกายที่กำลังประท้วง เธอวิ่งไปเรื่อยๆจนกระทั่งล้มลง ความรู้สึกเจ็บปวดราวกับร่างกายกำลังถูกแผดเผาค่อยๆคืบคลานเข้ามาเช่นเดียวกับความมืดที่เริ่มเข้ามาแทนที่แสงสว่างรอบๆตัวทีละน้อย ทุกครั้งที่มันขยับเข้ามา เธอรู้สึกราวกับพลังชีวิตถูกดูดออกไป เธอมองไปยังไปยังทางออกอีกครั้ง ในที่สุดเด็กสาวก็รวบวมพละกำลังที่เหลืออยู่ยืนขึ้นอีกครั้ง เธอกัดฟันขณะพยายามต่อสู้กับความเจ็บปวด แล้วก็ออกวิ่งอีกครั้ง
เมื่อเด็กสาววิ่งมาถึงแสงนั้นก็รู้สึกราวกับว่าแสงอันอบอุ่นนี้ได้ช่วยเยียวยาเธอ ความรู้สึกเจ็บปวดราวกับร่างกายกำลังถูกแผดเผานั้นค่อยๆถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกสดชื่นราวกับคนที่เพิ่งตื่นนอน เบื้องหน้ามีเพียงตะเกียงน้ำมันซึ่งเป็นจุดกำเนิดของแสงเท่านั้น ทำให้เธอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก แต่ก็ยังหยิบตะเกียงน้ำมันนั้นขึ้นมาพลางมองสำรวจไปรอบๆโดยอาศัยแสงไฟจากตะเกียงน้ำมัน จนพบทางเดินสายเล็กๆซึ่งทอดตัวยาวเข้าไปในความมืด เหมือนแสงแห่งความหวังถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง เธอออกเดินไปตามทางสายเล็กๆนั้นด้วยหวังว่ามันจะพาไปสู่แสงสว่างหรือก็คือทางออกนั้นเอง
ทางเดินสายนี้เกิดจากการนำหินมาเรียงต่อกัน สองข้างทางเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิดที่ขึ้นขนาบข้างทางเดินนี้ เบื้องหลังของดอกไม้คือป่าที่มีพันธุ์ไม้หายากเต็มไปหมด หิ่งห้อยบินออกมาฉายแสงบ้างเป็นครั้งคราว มันคงจะเป็นภาพที่งดงามมากหากแต่ทุกอย่างล้วนเป็นสีดำ สีแห่งความมืดมิดที่คอยยั่วยวนให้คนหลงผิด เด็กสาวเดินมาบนทางสายนี้ด้วยความประหลาดใจพลางชื่นชมความหลากหลายของดอกไม้ เธอเกือบโดนความมืดจากเหล่าดอกไม้กลืนกินไปหลายครั้งแต่สุดท้ายเธอก็ได้รับความช่วยเหลือจากตะเกียงน้ำมัน
ทุกครั้งที่ความมืดเหล่านั้นจะกลืนกินเด็กสาว ตะเกียงน้ำมันก็จะเปล่งแสงสว่างออกมาครอบคลุมตัวเด็กสาวเพื่อช่วยขับไล่ความมืดที่มากล้ำกราย แต่เมื่อเด็กสาวได้สติ แสงสว่างที่ครอบคลุมตัวเธออยู่ก็มลายหายไปทันที
สุดทางของถนนนั้นไม่ใช่ความมืดมิดอย่างที่เด็กสาวแอบหวาดกลัวอยู่นิดๆ แต่ก็ไม่ใช่ทางออกอย่างที่เด็กสาวคาดหวังไว้อยู่ดี เบื่องหน้าเธอปรากฏผืนน้ำ ยาวสุดสายตา แต่พอเธอหันหลังไปมองทางที่พึ่งเดินมานั้นก็พบว่า มันได้หายไปแล้ว เหลือเพียงความมืดมิดเท่านั้น เบื่องหน้าของเธอคือสะพานโค้งที่โผล่พ้นขึ้นมาจากน้ำ เมื่อไม่มีทางเลือกเด็กสาวจึงได้แต่เดินขึ้นไปบนสะพานนั้นเท่านั้น สะพานนั้นพาเธอไปเจอกับศาลากลางน้ำ มันเป็นศาลารูปทรงหกเหลี่ยมที่มีพื้นที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา เสาหกต้น และ หลังคาเท่านั้น แต่ถ้าลองสังเกตดีๆจะพบว่าที่กึ่งกลางของศาลานั้น มีช่องสี่เหลี่ยมใส ที่มองลงไปในช่องนั้นจะสามารถเห็นผืนน้ำที่อยู่ เบื้องล่างได้
เด็กสาวเข้าไปยืนในศาลา แต่ยังไม่ทันทรงตัวดีนักสะพานที่เดินมาก็จางหายไปทำให้เด็กสาวสะดุ้งตกใจสะดุดล้มแล้วตะเกียงก็ถูกเหวี่ยงไปวางไว้ตรงช่องที่อยู่ตรงกลางศาลาพอดิบพอดี
พลันเกิดแสงสว่างขึ้นมาจากเบื้องล่างของตะเกียงน้ำมัน แสงสว่างนั้นจ้าขึ้นเรื่อยๆ เด็กสาวตาพร่าเพราะแสงนั้นอย่างรวดเร็ว ก็นะแสงสว่างนี้มันสว่างมากยิ่งเด็กสาวล้มอยู่ ระดับสายตาของเธอจึงอยู่ระดับเดียวกับจุดกำเนิดของแสงสว่างพอดิบพอดี เด็กสาวหรี่ตาลงพลางพยายามจ้องเข้าไปในแสงสว่างเบื้องหน้า ความพยายามนี้ทำให้เธอสูญเสียการมองเห็นไปชั่วขณะ
เด็กสาวกะพริบตาอีกครั้งเพื่อปรับสายตาให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมตรงหน้า แต่เพียงแค่หญิงสาวกะพริบตาเท่านั้นจากแสงสว่างจ้าแสบตาเมื่อครู่ก็เปลี่ยนเป็นแสงสีเหลืองนวลตาจากหิ่งห้อยที่บินไปมาท่ามกลางความมืดมิด
เบื้องหน้าของเด็กสาวคือสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกราวกับอยู่ในโลกของเทพนิยาย ต้นไม้ขนาดมหึมา ที่กิ่ง ลำต้น หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มีขนาดใหญ่พอ ต่างถูกเกาะสลักด้วยลวดลายงดงามและที่น่าแปลกก็คือ ลวดลายเหล่านั้นคล้ายประตู และด้านหน้าของต้นไม้มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ เมื่อเด็กสาวเดินไปใกล้แอ่งน้ำนั้นก็ปรากฎหนังสือเล่มหนึ่งลอยขึ้นมาจากแอ่งน้ำแล้วมาหยุดตรงหน้าเธอ มันเก่าและเปียกจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม เด็กสาวยื่นมือไปรับหนังสือเล่มนั้น พลันหนังสือก็ค่อยๆเปล่งแสงออกมาล้อมรอบตัวมันและเด็กสาว หนังสือค่อยๆคืนสภาพเดิมของมันอย่างช้าๆ ในขณะที่เด็กสาวก็รู้สึกถึงพลังสายหนึ่งที่ไหลเข้ามาในร่าง ทั้งที่มันเป็นสิ่งแปลกปลอมแท้ๆ แต่ร่างกายของเธอกลับไม่ต่อต้านมันแม้แต่น้อย ตรงข้ามร่ายกายของเธอกลับดูดซับพลังนั้นด้วยความโหยหา ราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่ขาดหายไปเมื่อนานมาแล้ว....
-------------------------------------------------
หิ่งห้อยที่บินไปบินมาอยู่เมื่อครู่ต่างมองที่ผู้บุกรุกเป็นสายตาเดียวกัน ก่อนที่หิ่งห้อยตัวนึงจะบินมาอยู่ตรงหน้าของหญิงสาว มันทำให้เด็กสาวตกตะลึง เพราะสิ่งที่เธอเรียกว่าหิ่งห้อยนั้นแท้จริงแล้าคือเทพธิดาองค์น้อยๆไม่สิจะต้องเรียกว่า ภูต และตนที่บินมาตรงหน้าคงจะเป็นราชินีแห่งเหล่าภูติ เพราะทันทีที่เธอมาถึงตรงหน้าเด็กสาว ร่างของเธอก็เปลี่ยนเป็นสตรีวัยกลางคนที่งดงามและแสนอ่อนโยน บนศีรษะของเธอถูกประดับด้วยมงกุฏคริสตัลที่ถูกสร้างขึ้นอย่างปราณีต
เธอค่อยๆถอนสายบัวให้เด็กสาวอย่างช้าๆและงดงาม เด็กสาวที่บัดนี้สวมใส่อาภรณ์ที่งดงาม ผมที่สยายอยู่กลางหลังถูกมัดเป็นทรงอย่างสวยงาม ร่างของเธอเปล่งรัศมีแห่งพลังออกมาจางๆ พลังที่แม้แต่ราชินีแห่งเหล่าภูติยังยำเกรง พลังแห่งปาฏิหาริย์ที่คอยโอบอุ้มที่นี่ตลอดมา บัดนี้มันได้กลับไปหาผู้เป็นนายอีกครั้ง
เด็กสาวเหม่อลอยราวกับตกอยู่ในภวังค์พลางพึมพำเบาๆ....
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ