หวงรักประกาศิตลับ

8.0

เขียนโดย ศิริพารา

วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.39 น.

  13 ตอน
  0 วิจารณ์
  15.11K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2559 21.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) หวงรักประกาศิตลับ ตอนที่ 10 100%

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตลอดระยะเวลาห้าวันที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์เด มาร์คอส พอฤทัยพยายามติดต่อพี่สาวที่อยู่สวีเดนและต้องตกใจสุดขีด เมื่อสามวันที่แล้วรู้ข่าวจากเพกาว่า พิลาสินีถูกยิงเข้าที่ต้นแขน ความพยายามที่จะติดต่อพี่สาวก็เป็นผลเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูของพี่สาวดังขึ้นที่ปลายสาย

คำถามที่เธอระรัวเข้าใส่จนพี่สาวไม่ทันตั้งตัว ได้แต่บอกให้เธอใจเย็นและอธิบายว่าตอนนี้ปลอดภัยดีแล้ว เมื่อได้รับคำยืนยันเช่นนั้นพอฤทัยก็โล่งอก รีบถามคำถามใหม่ที่ค้างคาใจมาตลอดหลายวัน

ทั้งนี้เพราะได้แต่ฟังความข้างเดียวจากคนของโลล่าซึ่งรออยู่ที่เมืองไทย พวกเขายืนยันว่า มิสเตอร์ลินเนอุส คอนราดสัน ไม่ยินยอมให้ใครเข้ามายุ่งเกี่ยวกับสิริแอทเซท อีกทั้งไม่ยอมปฏิเสธว่ามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพิลาสินี การนิ่งเงียบเช่นนั้นจึงเป็นเหมือนคำตอบรับที่สื่อหลายแขนงกำลังประโคมข่าว และหุ้นของสิริแอทเซทก็กระเตื้องขึ้นมาจากแดนลบอย่างไม่น่าเชื่อ

ทุกอย่างจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อนัก หากพอฤทัยไม่ได้ยินเรื่องราวความรักของพ่อมดทางการเงินคนดังของโลกและพี่สาวของตน น้ำเสียงกระอ้อมกระแอ้มของพี่สาวที่ยอมรับว่าทุกอย่างเริ่มขึ้นในความรู้สึกที่ไม่ดีเอาเสียเลย มันไม่ต่างจากการบังคับฝืนใจ แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นก็เป็นเพราะต่างคนต่างเข้าใจผิดและไม่ยอมเปิดอกพูดจากันตรงๆ ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างได้คลี่คลายไปในทางที่ดีแล้ว

แม้จะรู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาดลงกลางร่างแต่น้ำเสียงเจือไว้ด้วยความสุขตลอดเวลาที่เล่าเรื่องราวความรักซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางความบาดหมางนั้น ก็ทำให้พอฤทัยอดไม่ได้ที่จะยิ้มไปกับพี่สาว ไร้ซึ่งข้อสงสัย ไร้ซึ่งคำถามใดๆ เมื่อพี่สาวเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอวางสายเสียเอง มีเพียงคำอวยพรอย่างจริงใจให้พี่สาวได้พบกับความสุขอย่างแท้จริงสักที

โทรศัพท์เครื่องบางค่อยๆ ลดลงจากใบหูแต่เจ้าตัวยังคงอยู่ในอาการนิ่งงัน ความข้องใจเกี่ยวกับพี่สาว การโอบอุ้มธุรกิจของครอบครัวจากพ่อมดทางการเงินคนดังของโลกกระจ่างชัด คงเหลือทิ้งไว้แต่คำถามที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของตัวเอง

โอ!... นี่เธอตัดสินใจทำอะไรลงไป

ดูเหมือนว่าการเสียสละและอยากแบ่งเบาภาระของครอบครัวที่เธอทำลงไปนั้นสูญเปล่า ใจหนึ่งยินดีกับความสุข ความสดใส เรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นในชีวิตของพี่สาว แต่อีกใจหนึ่งกำลังกรีดร้องให้กับความใจร้อน ไม่รู้จักยั้งคิดของตน

ความสับสนที่ฉายแววในดวงตาสีน้ำตาลทำให้โลล่านึกสะท้อนใจยิ่งนัก เธอเองก็เพิ่งจะได้ติดต่อ พูดคุยกับมิสเตอร์คอนราดสันและเพิ่งได้รู้ว่า...

การช่วยเหลือสิริแอทเซทนั้นเกิดขึ้นเพราะเขาช่วยเหลือธุรกิจของภรรยา ภาพการหมั้นของลินเนอุสและพิลาสินีถูกส่งมาทางอีเมล์เป็นการยืนยันในทุกคำพูด ยิ่งทำให้โลล่าต้องเป็นฝ่ายกล่าวคำขอโทษที่เข้าไปก้าวก่ายกับเรื่องในครอบครัว

“หนูพรีม...” โลล่าเรียกด้วยความเห็นใจ อดไม่ได้ที่จะสงสารร่างอ้อนแอ้นซึ่งทรุดตัวลงไปนั่งบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง

อ้อมกอดของสตรีสูงวัยไม่ได้ทำให้ความสับสนทั้งมวลเลือนหายไปจากความรู้สึกนึกคิดของพอฤทัย ฝ่ามือที่ลูบแผ่นหลังขึ้นลงในอาการปลอบประโลมไม่ได้ลดความเหน็บหนาวที่เกิดขึ้นภายในใจได้เลย

“โลล่า หนูทำอะไรลงไป” ท้ายประโยคแทบจะหาเสียงตัวเองไม่เจอ

“ฉัน...ฉันไม่รู้มาก่อนว่าเรื่องทุกอย่างมันจะเป็นอย่างนี้ เมื่อกี้นี้ก็เพิ่งจะได้คุยกับมิสเตอร์คอนราดสัน เขายืนยันว่าเป็นเรื่องปกติที่ต้องยื่นมือเข้าช่วยธุรกิจของครอบครัวภรรยา” โลล่า ไม่อยากจะอธิบายต่อเพราะเลขานุการส่วนตัวบอกแล้วว่าในขณะที่เธอกำลังคุยกับลินเนอุส พอฤทัยก็คุยกับพี่สาวเช่นกัน

แล้วท่าทางตกใจระคนสับสนนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพอฤทัยรับรู้เรื่องราวทุกอย่างไม่ต่างจากตน ใบหน้างดงามมีแต่ความกังวลใจค่อยๆ แหงนขึ้นสบสายตา พร้อมกับคำพูดที่ไม่ต้องฟังจนจบประโยคก็รู้ในจุดประสงค์

“ถ้าหนูขอยกเลิก...”

“พูดอะไรอย่างนั้น ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนคืนนั้นฉันจะไม่ขัดข้องเลย แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันล่วงเลยมาจนไม่สามารถกลับไปแก้ไขอดีตได้แล้ว ตอนนี้ทายาทของเด มาร์คอส อาจจะก่อร่างสร้างตัวอยู่กับเธอแล้วก็ได้”

พอฤทัยส่ายหน้า ดวงตาสีน้ำตาลกลอกไปมาอย่างสับสนไม่ต่างจากเด็กกำลังหลงทาง “แต่อาจจะไม่มี ก็เป็นได้นี่คะ”

โลล่าขยับตัวนั่งลงข้างๆ สองมือเลื่อนมาประคองหัวไหล่กลมกลึง รั้งให้หันมาเผชิญหน้า “มองฉันนะหนูพรีม ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ลองคิดดูดีๆ ถ้าตัดเรื่องของสิริแอทเซทออกไป เธอก็เปลี่ยนความจริงที่เกิดขึ้นในคืนนั้นไม่ได้ ใช่ว่าฉันจะรั้งเธอไว้เพราะความเห็นแก่ตัว แต่ฉันเคยบอกไปแล้วว่าอยากได้เธอมาเป็นภรรยาของเซเลส เธอคือดอนญ่าเด มาร์คอส ที่ฉันวางใจ ฉันมั่นใจว่าเธอมีทุกอย่างเพียบพร้อมที่จะทำให้ชีวิตคู่ของเซเลสสมบูรณ์”

“ความรักเป็นรากฐานที่มั่นคงและสมบูรณ์ในชีวิตคู่ค่ะ ดอนเซเลสปราศจากความรู้สึกนั้นต่อหนู แล้วคุณยังจะมั่นใจได้อีกเหรอคะ” เหมือนความกังวลใจในธุรกิจของครอบครัวและเรื่องพี่สาวถูกตัดไป ความทุกข์ใจในสิ่งที่ตนใจร้อนทำลงไปก็ถาโถมเข้ามาจนไม่รู้ว่าจะรับมือด้วยวิธีใด “ปล่อยหนูไปใช้ชีวิตของตัวเองเหมือนเดิมเถอะนะคะ เรื่องที่ผ่านมา... หนูจะถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับความใจร้อน วู่วาม แต่ยังไงเสียหนูก็ยังรักเคารพ ซาบซึ้งในความเมตตาที่คุณมีให้เสมอ”

โลล่า ส่ายหน้าเพราะรู้แก่ใจดีว่าไม่มีวันทำเช่นนั้นได้ “เธอรู้ดีกว่าใครนะหนูพรีม เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นทำให้เธอมีโอกาสตั้งท้องมากแค่ไหน ถึงแม้ว่าถ้าตรวจแล้วอาจจะไม่ท้องแต่เธอก็เป็นเมียของเซเลส แล้วฉันก็รักเธอ เอ็นดูเธอไม่ต่างจากลูกสาวของตัวเองแบบนี้แล้วจะให้ฉันปล่อยเธอไปได้ยังไง”

“ดอนเซเลสไม่ได้คิดอย่างนั้นหรอกค่ะ ขะ...เขา”

น้ำเสียงที่เงียบขาดไปยิ่งทำให้โลล่าคะยั้นคะยอ เพราะคิดไปอีกอย่างว่าหลานชายจะทำให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำน้ำใจ “ทำไม คืนนั้นเซเลสรุนแรงกับเธอเรอะ?”

พอฤทัยส่ายหน้าจนผมเผ้ากระจาย ไม่รู้ว่าจะอธิบายเป็นคำพูดออกไปได้อย่างไรซึ่งคนที่เข้าใจทั้งสองฝ่ายอย่างคาร์เมน ได้แต่ทอดถอนใจไม่รู้ว่าจะช่วยคลี่คลายความตึงเครียดที่เกิดขึ้นนี้ได้อย่างไร

“เขา...” พอฤทัย รวบรวมความกล้าอธิบายก่อนที่โลล่า จะเข้าใจผิดไปมากกว่าเดิม “เขาสั่งให้หนูย้ายไปอยู่ด้วยค่ะ เขามองหนูเป็นแค่นางบำเรอซึ่งไม่มีทางที่จะมองหนูเป็น... ภรรยา”

แม้จะอดโมโหกับคำพูดคำจาของหลานชายแต่ก็โล่งใจได้เปลาะหนึ่งที่เซเลสตร้าไม่ได้หักหาญน้ำใจหรือทำรุนแรงกับหญิงสาวตรงหน้า

“มองฉันหนูพรีม สบสายตาฉันเอาไว้ให้ดี ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิต ตำแหน่งดอนญ่าเด มาร์คอส จะเป็นของผู้หญิงคนไหนไม่ได้ นอกเสียจากเธอ” โลล่า บอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น มั่นคงจนคนฟังอ่อนใจ

“แต่โลล่าคะ หนูไม่อยากเป็นแค่...”

“ขอโทษนะคะที่ดิฉันเสียมารยาทขัดจังหวะ” คาร์เมน ซึ่งเฝ้าสังเกตอยู่ไม่ห่างชิงพูดขึ้นเพราะอารมณ์ของผู้หญิงต่างวัยทั้งสองคนไม่ได้เป็นปกตินัก ยังเอาความต้องการของตนเป็นที่ตั้ง ต่อให้พูดกันอีกนานแค่ไหนก็ไม่อาจจะเข้าใจหรือหาข้อสรุปร่วมกันได้ จึงคิดว่าข้อเสนอของตนอาจจะช่วยยืดระยะเวลาให้ทั้งสองได้ขบคิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น

“มีอะไรก็พูดมา” โลล่า อนุญาตด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก ขณะที่ไม่ยอมปล่อยมือจากหัวไหล่กลมกลึง

“ดิฉันอยากเสนอว่า... รอให้คุณพรีมตรวจร่างกายเสียก่อนดีไหมคะ ส่วนผลจะออกมาเป็นยังไงแล้วค่อยมาหาข้อสรุปกันอีกที ถึงจะคุยกันตอนนี้ก็คงหาข้อสรุปไม่ได้หรอกค่ะ เพราะต่างคนต่างอารมณ์ไม่คงที่ คุณพรีมยังตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยอาจจะตัดสินใจอะไรวู่วามไปบ้าง” คาร์เมน เสนอทางออกที่โลล่าเห็นด้วยอย่างยิ่ง

“จริงสิ ฉันลืมเรื่องนั้นไปเสียสนิท อีกไม่กี่วันเราก็จะได้รู้คำตอบพร้อมกันแล้วนี่นะ” อารมณ์ของโลล่าลดระดับลงอย่างรวดเร็ว

ฝ่ามือที่เลื่อนจากหัวไหล่ขึ้นมาประคองข้างแก้มนุ่มพร้อมมองด้วยสายตาเอ็นดู ทำให้พอฤทัยต้องยิ้มอ่อนตอบกลับ เพราะถ้าเอาเรื่องนั้นยกขึ้นมาพูดแล้วเธอก็ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ปฏิกิริยาของร่างกายที่เลื่อนฝ่ามือขึ้นลูบหน้าท้องและก้มลงมองยังเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

“หนูขอตัวนะคะโลล่า” บอกพร้อมพยุงตัวลุกขึ้น ข่มใจสั่งตัวเองให้เดินออกจากห้องนั่งเล่นอย่างมั่นคง

ตอนนี้เธอกลับอยากอยู่เพียงลำพัง ใช้เวลาอยู่กับตัวเองเพื่อขบคิดว่าจากนี้จะเลือกเส้นทางใดให้กับชีวิต ความใจร้อน วู่วาม ด่วนตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่างลงไปโดยพลการนั้นเป็นบทเรียนราคาแพงที่สุดของชีวิต ซึ่งต้องคอยย้ำเตือนตัวเองให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจผิดพลาดอีกครั้ง

โลล่า เฝ้ามองร่างอ้อนแอ้นที่เดินออกไปจนลับตา ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเรื่องทุกอย่างจะดำเนินมาในลักษณะนี้ อีกด้านหนึ่งเธอเองก็รู้สึกเหมือนว่ากำลังเอารัดเอาเปรียบคนไร้ทางต่อกรอย่างพอฤทัย แต่แท้จริงแล้วไม่เคยมีเจตนาเช่นนั้นเลยด้วยซ้ำ

“ฉันเป็นคนเห็นแก่ตัวใช่ไหม” คงจะมีเพียงคนสนิทกระมังที่ให้คำตอบได้

“อย่าตำหนิตัวเองอย่างนั้นสิคะดอนญ่า ไม่มีใครรู้ว่ามิสเตอร์คอนราดสันจะกลายเป็นสามีของพี่สาวคุณพรีมสักหน่อย แต่ที่ดิฉันขัดคอขึ้นเมื่อครู่เพราะอดสงสารคุณพรีมไม่ได้น่ะค่ะ ดูสีหน้าเธอแล้วคงกำลังสับสน ดิฉันคิดว่าน่าจะให้เวลาเธอได้ทำใจสักหน่อย” คาร์เมนแสดงความคิดเห็น

โลล่าเอนหลังพิงพนักโซฟาพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ “มีหรือที่ฉันจะไม่รู้ แต่ก็อย่างที่เธอว่านั่นแหละนะ ต่างคนต่างก็อารมณ์ไม่ปกติ เอาไว้คุยกันอีกทีก็ดีเหมือนกัน”

คาร์เมนยิ้มรับกับคำพูดของเจ้านาย “สั่งให้คนของเรากลับมาเลยไหมคะ หรือดอนญ่ามีเรื่องให้ทำต่อ”

“สั่งให้ไปเยี่ยมสันต์ที่โรงพยาบาลแล้วค่อยเดินทางกลับมา”

คงจะทำได้เท่านั้นจริงๆ ขึ้นชื่อว่าครอบครัวของพ่อมดทางการเงินคนดังของโลกแล้ว เขาคงไม่ปล่อยให้พ่อตาได้รับการรักษาแบบขาดๆ เกินๆ

“ค่ะ ดอนญ่า” คาร์เมนรับคำ ก่อนจะหมุนตัวตั้งใจจะเดินออกไปตามคำสั่ง แต่เสียงของเจ้านายก็ดึงขึ้นอีกครั้งจนต้องรีบหันกลับ

“เธอว่าหนูพรีมจะท้องไหม” ถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

ไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นอารมณ์ชนิดนี้จากเจ้านาย “จากสถิติที่ดอนญ่าเป็นคนบอกให้ดิฉันทราบว่าการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันนั้น ฝ่ายหญิงมีโอกาสตั้งครรภ์สูงถึงแปดสิบห้าเปอร์เซ็นต์ เป็นเช่นนั้นแล้วดิฉันคิดว่าไม่พลาดหรอกค่ะ”

“เข้าใจตอบนะ คาร์เมน” โลล่า ยิ้มรับกับคำพูดของเลขานุการคนสนิท “อ้อ... โอนเงินที่เตรียมจะใช้อุ้มสิริแอทเซททั้งหมดเข้าบัญชีหนูพรีม จัดการให้เรียบร้อยด้วย”

“ค่ะ ดอนญ่า” รับคำและเดินออกจากห้อง

ในขณะที่โลล่าเอื้อมมือหยิบรูปถ่ายครอบครัวซึ่งวางอยู่โต๊ะข้างโซฟาตัวหรู ครอบครัวที่มีถึงห้าคน ตอนนี้กลับล้มหายตายจากปล่อยให้เธออยู่กับหลานชายเพียงสองคน ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเหมือนว่าเพิ่งผ่านไปไม่นาน

เด็กหนุ่มอายุสิบสองขวบตอนนี้กลายเป็นชายหนุ่มวัยสามสิบห้าปีเต็ม ความเอาแต่ใจยังมีอยู่ในตัวเองอย่างเต็มเปี่ยมเพราะถูกเลี้ยงดูมาด้วยความรักความเอาใจใส่อย่างเหลือเฟือ ทุกอย่างต้องมีเหนือกว่าคนอื่นตามฐานะอันมั่งคั่งของตระกูลเด มาร์คอส

แม้ว่าตอนนี้ความเอาแต่ใจนั้นจะยังอยู่แต่เซเลสตร้าก็รู้จักเลือกที่จะแสดงออกกับแต่ละคนแตกต่างกันออกไป เป็นพัฒนาการของการใช้สายตาออกคำสั่ง ควบคุมให้คนรอบข้างทำตามความต้องการได้เป็นอย่างดี ความเฉลียวฉลาด เปี่ยมไปด้วยไหวพริบปฏิภาณทำให้เขาบริหารองก์กรและบุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความสำเร็จดังกล่าวยิ่งส่งเสริมให้เขาเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงลิบลิ่ว ความคึกคะนองของวัยหนุ่มยังไม่รู้จักยืดหยุ่น ผ่อนปรนกับเรื่องไม่ยุติธรรมรอบตัว เช่นนี้แล้วเธอจะปล่อยให้หลานชายต้องเผชิญหน้ากับเรื่องในอนาคตอันใกล้นี้ได้อย่างไร

ทุกสิ่งอย่างที่ตัดสินใจทำลงไปนั้น รู้ดีว่ามันอาจจะไม่ยุติธรรมสำหรับเซเลสตร้า แต่ก็เป็นเพียงวิธีการเดียวที่เธอคิดว่ามันแก้ปัญหาได้

ความไม่ยุติธรรมที่ร้ายกว่านั้นเกิดขึ้นกับพอฤทัยอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ไม่เคยคิดจะทอดทิ้งหรือมองว่าพอฤทัยเป็นเพียงแค่แม่พันธุ์ที่จะช่วยอุ้มท้องทายาทเด มาร์คอส ช่วยให้ปัญหาที่คาราคาซังคลี่คลาย แต่พอฤทัยเป็นผู้หญิงที่มีความอ่อนหวาน สุภาพ ใจเย็น คุณสมบัติเหล่านี้จะเป็นเสมือนสายน้ำอันชุ่มฉ่ำ เย็นสบายโอบล้อมความใจร้อน วู่วามของเซเลสตร้าให้ทุเลาเบาบางลง

โลล่าคิดพลางไล่ปลายนิ้วไปตามรูปของน้องชายน้องสะใภ้ สุดท้ายวกกลับไปหาสามีซึ่งเป็นคนให้คำมั่นสัญญาที่เป็นเหมือนบ่วงผูกมัดเซเลสตร้าเอาไว้โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ในเหตุผลของการกระทำนั้น

“ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไรคุณถึงตกลงปลงใจทำสัญญาฉบับนั้นขึ้นมา แต่ก็รู้ว่าคุณถูกบังคับและฉันกำลังจะหาทางออกอันละมุนละม่อมให้กับทุกคน อวยพรให้ฉันทำทุกอย่างที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จด้วยนะคะ”

 

ความจริงที่ปรากฏขึ้นในวันนี้ทำให้บรรยากาศในคฤหาสน์เด มาร์คอส ดูเงียบเหงาลงกว่าหลายวันที่ผ่านมา จากเดิมที่ดอนญ่าเวนโตล่าและเซญอริต้าพอฤทัย ต้องออกไปตระเวนเที่ยวตามสถานที่ต่างๆในกรุงบัวโนส ไอเรส แล้วกลับเข้ามาในช่วงบ่ายจัด วันไหนที่เซญอริต้าพอฤทัย เข้าครัวทำอาหารไทยรสชาติจัดจ้าน คฤหาสน์อันเงียบเหงาก็ดูครึกครื้นมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันตา

ความสดใส ร่าเริงของเธอดูเหมือนจะเผื่อแผ่ไปให้ทุกคนได้มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แต่วันนี้หญิงสาวผู้มีใบหน้างดงาม รอยยิ้มอ่อนหวานอยู่เสมอกลับขังตัวเองอยู่ในห้องเกือบสามชั่วโมงแล้ว

พอฤทัยได้แต่ยิ้มเศร้าๆให้กับตัวเอง ทุกครั้งที่ได้ก้มลงมองและลูบหน้าท้องตัวเอง ช่างให้ความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจจนไม่อาจจะบรรยายความรู้สึกออกมาได้ ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรต่อไปเพราะตอนนี้ชีวิตเธอเหมือนกำลังรอคอยคำตอบจากบางสิ่งบางอย่างที่ไม่อาจให้คำตอบกับตัวเองว่า... สิ่งมีชีวิตเล็กๆ นั้นได้ถือกำเนิดขึ้นในตัวเธอแล้วหรือยัง

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่นาทีกี่ชั่วโมง ท้องฟ้าจะเปลี่ยนไปสักกี่เฉดสีก็ยังเป็นท้องฟ้าที่ดูหม่นหมองไม่ต่างจากหัวใจของพอฤทัยเท่าไหร่นัก เพราะสิ่งที่เธอทำได้ในตอนนี้มีเพียงคำว่ารอ...

รอให้รู้อย่างแน่ชัดว่าเธอจะยังเป็นพอฤทัยคนเดิมหรือเป็นพอฤทัยที่มีอีกหนึ่งชีวิตหยั่งรากลึกอยู่ในตัวเธอ?!

...ใต้แผ่นฟ้าเดียวกันแต่ความรู้สึกช่างต่างกันลิบลับ เมื่อเซเลสตร้าไม่อาจค้นหาผู้หญิงที่บังอาจเล่นตลกกับเขาได้พบ เวลาเจ็ดสิบสองชั่วโมงที่จะล่าตัวเธอมากำจัดเชื้อพันธุ์ที่เขาทิ้งไว้ตกไปเพราะตอนนี้ล่วงเลยเข้าวันที่หกก็ยังไม่มีวี่แววแม้แต่เงา

หากมีสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า รูป รส กลิ่นและเสียงของเธอยังตามหลอกหลอนเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน มันน่าสะอิดสะเอียนความคิดของตัวเองที่ไม่อาจจะปล่อยให้ผู้หญิงหน้าไหนเอื้อมมือมาแตะต้องเนื้อตัวได้อีก หวงเนื้อหวงตัวกับผู้หญิงทุกคนแต่ภายในใจกลับโหยหาแม่มดจอมชั่วร้ายในคราบนางฟ้าเพียงผู้เดียว

ไม่ใช่แค่โลกกำลังเปลี่ยนขั้ว แต่กลับเป็นตัวเขาเองที่รู้สึกว่าจิตใจเปราะบางราวกับลูกนกถูกกะเทาะเปลือกก่อนเวลาอันควร!

เขาเกลียดตัวเอง เบื่อหน่ายความรู้สึกที่ย่ำแย่ที่เกิดขึ้นกับตัวเองในหลายวันมานี้นัก ขนาดว่าลูกพี่ลูกน้องที่อยู่อิตาลี เดินทางมาทำธุรกิจบางอย่างและโทรศัพท์ชวนเขาออกไปแฮงเอาท์ตามประสาหนุ่มโสด ยังกลายเป็นกิจกรรมอันน่าเบื่อหน่ายไปในทันที

ทว่าประตูห้องทำงานที่ถูกกระชากออกอย่างแรงพร้อมด้วยร่างสูงใหญ่ของมาเฟียโฉดแห่งซิซิลี ก้าวเข้ามาในห้องทำงานอย่างไร้มารยาท

“เป็นหอกอะไรวะ แกก็รู้ว่าฉันเกลียดคำปฏิเสธ” คอนเนลิโอ ทักทายญาติผู้น้องด้วยน้ำเสียงห้วนจัดแต่กลับมีสีหน้ารื่นรมย์เพราะไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นดอนเซเลสตร้า เด มาร์คอส ผู้มั่งคั่งและทรงอิทธิพลมีสีหน้าหน่ายโลกเช่นนี้

“หัดทำตัวเป็นอารยชนเสียมั่ง ไม่ใช่เจอกันทีไรก็มารยาททรามทุกที” ตอกกลับเจ็บแสบแบบไม่น้อยหน้า

คอนเนลิโอ เวนโตล่า มาเฟียหนุ่มจอมโหด ผู้มีใบหน้าหล่อเหลาดูลึกลับอยู่ในที เฉกเช่นหนุ่มอิตาเลียนแท้ๆ กลับแหงนหน้า ระเบิดเสียงหัวเราะอย่างพออกพอใจเพราะจริงๆ แล้ว ต่างก็รู้ดีว่าสายเลือดมาเฟียเวนโตล่าที่ไหลเวียนอยู่ในตัวของแต่ละคนนั้นเข้มข้นไม่แพ้กัน

“แล้วนั่นเป็นอะไร ดูทำหน้าเข้า” คอนเนลิโอ เดินเข้าไปใกล้ๆ พิงสะโพกสอบเข้ากับขอบโต๊ะทำงาน มองใบสีหน้าเซ็งจิตของญาติผู้น้องซึ่งเกิดหลังตนราวหกเดือน

“ทำงานสิวะ ไม่ได้เป็นมาเฟียนอนสบายอยู่เฉยๆ จะได้มีคนมาส่งค่าคุ้มครองถึงที่”

“ปากมอมแบบนี้ไม่ได้อึ๊บหญิง ลดความดันในสมองล่ะสิ”

เซเลสตร้ารู้ดีว่าญาติผู้พี่มีนิสัยยียวนกวนอารมณ์แค่ไหน ถ้าอยู่ในอารมณ์ปกติก็คงลุกขึ้นเหนี่ยวคอมันลงมาซัดแลกหมัดกันสักยกสองยก แต่ครั้งนี้เขาเบื่อหน่ายทุกคนรอบตัวแล้วที่ร้ายไปกว่านั้น เขากำลังเบื่อตัวเองโดยไม่รู้ถึงสาเหตุ

แน่นอนว่าคนที่เป็นทั้งญาติและเพื่อนเล่นหัวกันมาตั้งแต่เล็กจนโต มีหรือจะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงอาการประหลาดที่เซเลสตร้าแสดงออกมา

“สงสัยแกจะเครียดมากเกินไปจริงๆ ว่ะ” คอนเนลิโอ กอดอกแล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นลูบที่ปลายคางบุ๋มของตนเองอย่างคนกำลังใช้ความคิด

“เบื่อ ผู้หญิงก็เหมือนๆ กันหมด ไม่เห็นมีอะไรแปลกๆ มาให้แก้เซ็ง” คนเบื่อโลกพูดด้วยใบหน้าบึ้งจัดในขณะที่ยังเซ็นเอกสารต่อไปเรื่อยๆ

“อ้าว ไอ้นี่พูดแปลกโว้ย ผู้หญิงก็ต้องเหมือนผู้หญิงสิวะ ถ้าอยากให้ผู้หญิงผิดแปลกไปจากเดิมก็เห็นจะมีแต่พวกShemale หรือแกกำลังเปลี่ยนรสนิยม” คอนเนลิโอ หน้านิ่วคิ้วขมวดนึกถึงชายที่ศัลยกรรมรูปร่างให้กลายเป็นผู้หญิงแต่ยังคงอวัยวะเพศชายเอาไว้ดังเดิม

เซเลสตร้าผุดลุกจากเก้าอี้ทำงานด้วยความเร็วชนิดที่ทำให้คนมองต้องตกตะลึง เมื่อคิดภาพตามคำพูดของมาเฟียหน้ากวน “กูจะอ้วก...”

ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหนแต่การที่เห็นร่างสูงใหญ่ไม่ต่างจากตน วิ่งพรวดเข้าไปในห้องน้ำและโก่งตัวอาเจียนทั้งไออย่างเอาเป็นเอาตายก็ทำให้คอนเนลิโอก้าวตามเข้าไปในส่วนที่เป็นห้องพักผ่อนซึ่งเจ้าของห้องเปิดประตูค้างเอาไว้

ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะตามเข้าไปดูสักหน่อย แต่สภาพเตียงอันยุ่งเหยิงตรงหน้ากลับชักชวนใจให้มาเฟียหนุ่มสาวเท้าเข้าไปกวาดสายตามองอย่างครุ่นคิด

ร่องรอยบนผ้าปูที่นอนสีสะอาดบ่งบอกว่า คนอย่างเซเลสตร้าใช้ห้องทำงานปลดปล่อยความต้องการทั้งที่เจ้าตัวเคยลั่นวาจาเอาไว้อยู่บ่อยครั้งว่าไม่เคยหลวมตัว หลงผู้หญิงคนไหนจนหน้ามืดตามัวต้องใช้เตียงในห้องทำงานมาก่อน ทั้งร่องรอยดังกล่าวยังเป็นของสาว...

ตุ้บ!...

“โอ๊ย... ไอ้หอกหัก ถีบทำไมวะ” ความคิดของคอนเนลิโอต้องหยุดชะงัก เมื่อถูกญาติผู้น้องจำกัดความคิดด้วยแรงถีบที่ข้างสะโพกจนต้องทรุดตัวล้มลงบนพื้น

เซเลสตร้าปรี่เข้าไปดึงผ้าห่มคลุมร่องรอยดังกล่าวด้วยท่าทางหวงแหน ทั้งยังมองคอนเนลิโอตาขวาง สีหน้าบ่งบอกว่ากำลังอารมณ์เสียสุดๆ

มาเฟียจอมโหดหัวเราะพรืด ยักไหล่และยื่นมือทั้งสองข้างออกมาตรงหน้า “อะไรของแกวะ?!”

ตอนนี้เซเลสตร้ารู้ตัวแล้วว่าท่าทางของตนกำลังแปลกประหลาดอย่างมาก ทั้งสายตาสู่รู้ของคอนเนลิโอยังมองมาอย่างคาดคั้นจนต้องแสร้งตวาดดุกลบเกลื่อนความผิดแปลกของตน

“นีล... ถ้าแกไม่อยากเจ็บตัวก็รีบย้ายก้นออกมาซะ ต่อให้มีศักดิ์เป็นพี่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีสิทธิ์มาก้าวก่ายความเป็นส่วนตัว” พูดจบก็เดินออกไปจากห้อง จนคนที่นั่งชันเข่าอยู่บนพื้นมองตามด้วยความขบขัน

หากจะมีใครสักคนบนโลกใบนี้แลกหมัดกับคอนเนลิโอได้อย่างถึงสนุก ชั้นเชิง คนคนนั้นก็คงจะเป็นเซเลสตร้า เด มาร์คอส ซึ่งเขาควรจะหวาดกลัวกับคำขู่ดังกล่าว แต่ตอนนี้กลับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าเซเลสตร้ามีบางอย่างปิดบังเอาไว้และต่อให้ยากยิ่งกว่าการทลายธารน้ำแข็งในขั้วโลกใต้ เขาก็สาบานว่าต้องง้างปากให้เซเลสตร้าสารภาพออกมาให้ได้

“เล่ามา”

เซเลสตร้าถอนหายใจจนไหล่ตกเมื่อเหล่มองคนที่เดินเข้ามาเหนี่ยวคอแล้วลากเข้าไปใกล้ ไม่วายถามด้วยน้ำเสียงคาดคั้น “ก็เดี๋ยวจะพาไปกินเหล้าไง ขอเวลาจัดการเอกสารพวกนี้อีกสิบนาที”

“ตกลงแกจะไม่พูดใช่ไหม” คอนเนลิโอยังข่มขู่ด้วยท่าทางของมาเฟียไม่ผิดเพี้ยน

“กลัวตายล่ะ ไปไกลๆ เลย บอกว่าต้องรีบทำงาน พรุ่งนี้ฉันต้องบินไปเม็กซิโก” เซเลสตร้าผลักร่างของญาติผู้พี่ออกจนสามารถกลับไปทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของตนอีกครั้ง

จากนี้ไปอีกราวสามเดือนครึ่ง เขาต้องบินไปตรวจตราความเรียบร้อยของดี.เอ็ม. เทเลลิ้งก์ในแต่ละสาขาทั่วอเมริกาและแทบทุกประเทศในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งเป็นเช่นนี้ทุกปี หากสาขาใดมีปัญหาเกินกว่าที่ผู้จัดการแต่ละแห่งจะจัดการได้ เขาจึงจะลงไปจัดการด้วยตัวเองซึ่งแล้วแต่กรณี

ทว่าสิบนาทีที่เซเลสตร้าขอจากมาเฟียนิสัยเสียกลับเต็มไปด้วยคำถามและสายตาสู่รู้ จนต้องลอบถอนหายใจอยู่นับครั้งไม่ถ้วน สุดท้ายยังนึกถึงประโยชน์ของการเป็นมาเฟียที่มีลูกสมุนกระจายอยู่มากมาย แน่นอนว่าคอนเนลิโออาจจะสืบสาวถึงที่มาของหน้ากากประดับเพชร ที่เขาไม่สามารถควานหาต้นตอแหล่งผลิตได้โดยไม่รู้สาเหตุ เพราะทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเธอ ดูลึกลับซับซ้อน บางครั้งเหมือนว่ากำลังจะได้เบาะแสแต่กลับมีบางสิ่งบางอย่างขัดขวางเขาไว้จนเวลาล่วงเลยมาถึงบัดนี้ เขายังไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเธอมากไปกว่าเดิมเลยสักนิด

เซเลสตร้านึกหาคำพูดดีๆ ที่จะกล่าวถึงนางฟ้า เพราะไม่อยากให้เธอเสื่อมเสียเมื่อต้องเปิดเผยเรื่องบางอย่างให้คอนเนลิโอได้รู้

คำพูดที่ดูระมัดระวังซึ่งหลุดออกจากปากเซเลสตร้าก็ทำให้รู้ว่าดอนหนุ่มกำลังถูกปั่นหัว มาเฟียผู้มีความระแวดระวังตัวอย่างเต็มเปี่ยม สามารถยืนยันได้ทันทีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความตั้งใจของใครบางคน

“อืม... แกคงจะโดนเล่นงานเข้าให้แล้วล่ะ เซเลส” คอนเนลิโอ ยิ้มหน้าตายบอกด้วยน้ำเสียงไม่ทุกข์ร้อน

“แกล้อฉันเล่นเหรอ นีล?”

รู้ล่ะว่ามันเรียกเพราะกำลังเห็นแสงรางเลือนในทางอันมืดบอด มาเฟียหนุ่มยังพยักหน้าสำทับคำพูดของตัวเองอีกด้วย ในขณะที่เซเลสตร้าคิดแทบหัวจะระเบิดว่าใครมันบังอาจมาปั่นหัวเขาเล่นเช่นนี้

“ใครมันจะกล้าวะ”

“ไม่รู้ไง แต่มันน่าแปลกใจตรงที่สืบเรื่องง่ายๆแค่นี้ กลับไม่ได้ความอะไรเลย ถ้าเกลือไม่เป็นหนอน แกก็ควรต้องพิจารณาตัวเองแล้วล่ะ” คอนเนลิโอบอกอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด เรื่องง่ายๆ แบบนี้คนนอกมักจะมองเกมได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

“แกกำลังจะบอกว่าคนข้างตัวฉันกำลังคิดทรยศ” เซเลสตร้าไม่เคยนึกถึงเรื่องนี้มาก่อน

“แหงสิ ไม่งั้นแกก็ต้องรู้แล้วว่านางฟ้าเป็นใคร” อดไม่ได้ที่จะล้อเลียน เมื่อได้ยินเซเลสตร้าหลุดปากเรียกสาวลึกลับด้วยแววตาเคลิบเคลิ้มว่า นางฟ้า!

แต่เซเลสตร้ากลับไม่ได้ใส่ใจเพราะเส้นทางอันมืดดำในหลายวันที่ผ่านมา กลับมีแสงสว่างเป็นจุดเล็กๆ ให้เขาได้มีหวังว่าจะเริ่มตามหาเธอได้อย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้ว่าต้องหยุดและวางเฉยทำเป็นไม่ใส่ใจอีกแล้ว ทั้งหมดนั้นก็เพื่อให้คนที่สมรู้ร่วมคิดบังอาจเล่นตลกกับเขาเผยตัวออกมาเสียเอง

ในขณะเดียวกันเขาจะใช้วิธีสืบหาแบบคลื่นใต้น้ำ โดยอาศัยคอนเนลิโอเป็นตัวช่วย เพียงเท่านั้นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ฉาบอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาของดอนหนุ่ม คืนนี้เขาต้องพาคอนเนลิโอออกไปหาความสนุกสุดขั้วอย่างที่เคยทำมา เหนือสิ่งอื่นใดเขายังอยากหาคำตอบให้กับตัวเองว่า...

หากไม่ใช่นางฟ้าแสนบริสุทธิ์แล้ว ผู้หญิงคนอื่นจะทำให้เขาเผลอตัวเผลอใจได้หรือไม่?

*****สวัสดีค่ะ นักอ่านที่รัก

เซเลส+พรีม หวงรักประกาศิตลับวางแผงแล้ว สามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์สนพ. อินเลิฟ, ร้านซีเอ็ด, ร้านนายอินทร์

อย่าลืมหิ้วเซเลสกลับบ้านนะคะแล้วจะรู้ว่านวดแผนเซเลสเป็นยังไง อะคึๆ

ขอบคุณค่ะ /ศิริพารา

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา