BAD GUYS DAMAGE หนุ่มหล่ออันตราย ร้ายให้รัก
เขียนโดย TheDaziie
วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.57 น.
แก้ไขเมื่อ 7 มีนาคม พ.ศ. 2559 00.42 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) BGD || ตอน 2 : จุดชนวน (2) 100%
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
CHAPTER 2
จุดชนวน (2)
"เดี๋ยวเธอสองคนตามครูออกมานอกห้องด้วย" อาจารย์ (แต่ชอบเรียกแทนตัวเองว่าครู) ละสายตาจากสิ่งที่อยู่ในมือมามองผมกับคนตัวเล็กข้างๆ จากนั้นก็หันไปออกคำสั่งกับคนอื่นๆ ด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด "ส่วนที่เหลือ... นั่งทำข้อสอบของตัวเองไปเงียบๆ ไม่อนุญาตให้ออกจากห้องสอบจนกว่าจะหมดเวลา และจะไม่มีการหยิบโพยขึ้นมาดูหรือแอบลอกกันโดยเด็ดขาด ถ้าจับได้... ครูจะปรับตกทั้งห้อง!"
สิ้นประโยคอันน่าสะพรึงกลัวทุกคนก็กลับไปประจำที่ของตนเองและตั้งหน้าตั้งตาทำข้อสอบต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็แหงล่ะ! ลองยังมีท่าทีสงสัยกันอยู่สิ อาจถูกกาหัวกระดาษข้อสอบไม่ต่างจากผมก็ได้
อ้อ! แล้วถ้าใครกำลังนึกภาพอาจารย์รัตนาใส่แว่นหนาเตอะอายุราวสี่สิบปลายๆ บอกเลยว่าผิดถนัด เพราะจริงๆ แล้วอาจารย์ท่านนี้อายุประมาณสามสิบต้นๆ เท่านั้นเอง แต่ชื่อเสียงในเรื่องความโหดไม่แพ้อาจารย์ท่านอื่นเลย เผลอๆ อาจจะโหดกว่าด้วยซ้ำ ยิ่งตอนเห็นท่าทางใจเย็นและใบหน้ายิ้มแย้มนั่นก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกกลัวมากกว่าตอนโมโหร้ายซะอีก
ผมเดินตามอาจารย์ออกมาจากห้องสอบโดยมียัยขี้ฟ้อง (ตั้งฉายาให้เยอะมาก) เดินตามอยู่ข้างหลัง ตอนนี้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักโทษที่ถูกผู้คุมเดินประกบหน้าประกบหลังเลยว่ะ แค่ลอกโพยข้อสอบเองนะ... ทำไมต้องทำเหมือนผมไปฆ่าใครตายด้วย
"แล้วนี่เป็นอะไร... ทำไมถึงต้องใส่หน้ากากอนามัย" สีหน้าฉงนสงสัยกึ่งจับผิดของอาจารย์ฉายชัดไม่ปิดบัง ผมจึงตอบออกไปอย่างไม่ปิดบังเช่นกัน
"ไม่สบายครับ"
"อืมมมม... ถ้างั้นหายไวๆ นะจ๊ะ"
"ครับ"
"ครูว่าเรามาเริ่มสะสางคดีความกันดีกว่า..." น้ำเสียงผ่อนคลายแต่ฟังแล้วขนลุกดังขึ้นอีกครั้งหลังจากเดินเข้ามาในห้องว่างถัดจากห้องสอบเรียบร้อยแล้ว เจ้าของประโยควางกระดาษโพยลงบนโต๊ะตรงหน้าพลางจ้องมองผมด้วยสายตากดดัน "หลักฐานชัดเจนขนาดนี้ครูคงไม่จำเป็นต้องถามนะว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องสอบ และเธอเองก็น่าจะรู้ดีกว่าตัวเองทำผิดกฎ... ใช่ไหมกวิน"
"ครับ" ผมตอบเสียงเบาอย่างยอมรับในการกระทำของตัวเอง
"ในเมื่อเธอรู้ตัวว่าทำผิดแล้วทำไมถึงคิดจะทำร้ายผู้คุมสอบ"
"เพราะยัยนี่... เอ่อ เพราะผู้หญิงคนนี้กาหัวกระดาษข้อสอบของผม ผมก็เลย..."
"ก็เลยโมโหจนถึงขั้นจะลงไม้ลงมือ?" อาจารย์พูดต่อประโยคขณะที่สายตายังคงจ้องมองผม
"ครับ ก็ประมาณนั้น"
"แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ... ยังไงเค้าก็เป็นผู้หญิง และเป็นผู้คุมสอบในวันนี้ด้วย เธอไม่ควรแสดงปฏิกิริยาแย่ๆ แบบนั้นใส่เค้านะ"
"..."
"ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอขัดขวางการทำงานของผู้คุมสอบด้วย ในเมื่อเค้าเห็นว่าเธอทุจริตในการสอบ เค้าก็มีสิทธิ์จะทำแบบนั้นกับเธอ ครูเองก็บอกไว้ตั้งแต่ก่อนเริ่มสอบแล้วไม่ใช่เหรอว่าถ้าจับได้จะถูกกาหัวกระดาษข้อสอบ" น้ำเสียงของอาจารย์ยังคงราบเรียบ ไม่มีท่าทีฉุนเฉียวหรือเกรี้ยวกราดอะไรเลย แต่นั่นกลับทำให้ผมหวั่นใจมากขึ้นไปอีก สู้ตะโกนใส่หน้าผมซะยังดีกว่า
และใช่! อาจารย์บอกไว้แบบนั้นจริงๆ ผมไม่เถียงหรอก แต่ไม่ใช่แค่ผมหรือเปล่าวะที่ทุจริต คนอื่นๆ ในห้องก็ทำเหมือนกันแต่ทำไมถึงมองข้าม ทำไมถึงมีแต่ผมที่ซวยอยู่คนเดียว!
เออ! ยอมรับว่ากำลังพาล แต่มันก็เป็นเรื่องจริงไม่ใช่เหรอวะ... ถ้าจะโดนก็ต้องโดนกันหมดทุกคนที่ทุจริตสิมันถึงจะยุติธรรม!
"..." เมื่อเห็นว่าผมเงียบ อีกฝ่ายเลยพูดต่อ
"ครูรู้ว่าเธอไม่พอใจที่เค้าทำแบบนั้น แต่ทุกอย่างที่เค้าทำเป็นเพราะครูสั่งเอง คนที่เธอควรจะโกรธคือครู... ไม่ใช่เค้า" อาจารย์คงเห็นสายตาที่ผมเหลือบมองคนข้างๆ พร้อมกับขบกรามแน่นเลยพูดดักทางไว้ แต่ถึงจะพูดยังไงผมก็ไม่ชอบใจยัยผู้คุมสอบหน้านิ่งนี่อยู่ดี
"..."
"เอาล่ะ! กฎก็ต้องเป็นกฎ ในเมื่อเธอทำผิดเธอก็จะไม่ได้คะแนนในส่วนของข้อเขียนแม้แต่คะแนนเดียว!"
"ได้ไงอาจารย์! แล้วที่ผมเขียนคำตอบลงไปแล้วล่ะ"
"เขียนคำตอบจากโพยไม่ถือว่าเป็นการทำข้อสอบนะจ๊ะ เพราะฉะนั้นการสอบในครั้งนี้เธอจะได้คะแนนในส่วนของข้อช้อยส์เท่านั้น ส่วนข้อเขียนก็ศูนย์คะแนนตามระเบียบ"
"...!!!"
เวรเอ๊ย! ผมอยากบีบคอยัยคนข้างๆ ชะมัด ยัยนี่ทำให้ผมได้ศูนย์คะแนนในส่วนของข้อเขียน หงุดหงิดชิบ!
"ส่วนเราน่ะ..." อาจารย์เลื่อนสายตาไปมองผู้หญิงอีกคนที่เอาแต่ยืนเงียบมาตั้งแต่ต้น เงียบจนผมสงสัยว่ายัยนี่ได้เอาปากออกมาจากห้องสอบด้วยหรือเปล่า "ไม่ต้องไปคุมสอบแล้วนะ กลับไปได้เลย เดี๋ยวครูให้อลิสาคุมแทน"
"เอ่อ... จะดีเหรอคะ"
"เถอะน่า... กลับไปเถอะ ขอบใจมากนะที่มาช่วยครู" เมื่อได้รับการยืนยัน... อีกฝ่ายก็พยักหน้าช้าๆ พร้อมกับยกมือไหว้อย่างนอบน้อม เหอะ! เห็นแล้วหมั่นไส้ว่ะ
"งั้นหนูขอตัวนะคะ" พูดจบก็หมุนตัวเดินออกจากห้องไปทันที ส่วนผมทำได้เพียงมองตามหลังยัยนั่นไปอย่างไม่สบอารมณ์เท่านั้น
ทำไมผมจะไม่รู้ว่าอาจารย์กำลังปกป้องลูกศิษย์ของตัวเองอยู่! ไม่อย่างนั้นคงพูดชื่อยัยนั่นออกมาแล้ว ไม่กั๊กเอาไว้แล้วเรียกแต่ 'ผู้คุมสอบ' แบบนั้นหรอก
"ผมกลับได้หรือยัง" ตัดสินใจถามออกไปเมื่อไม่เห็นว่าจะมีอะไรให้พูดคุยกันอีก แต่พอได้ยินคำตอบ... เรียงคิ้วทั้งสองข้างก็ขมวดเข้าหากันโดยอัตโนมัติแทบจะทันที
"ยังจ้ะ ครูมีงานจะให้เธอทำ... เป็นการลงโทษที่ทุจริตในการสอบ"
"งาน... งานอะไรครับ" รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ยังไงไม่รู้แฮะ
"เธอต้องทำรายงานหัวข้อกฎหมายการปกครองท้องถิ่นห้าร้อยหน้า"
"ห้าร้อยหน้า!!!" ผมทวนคำเสียงดังด้วยความตกใจหลังได้ยินบทลงโทษสุดสะพรึงนั่น คนสั่งงานพยักหน้าช้าๆ ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบซึ่งตรงข้ามกับผมโดยสิ้นเชิง
"ใช่จ้ะ ภายในหนึ่งเดือนนะ"
"หนึ่งเดือน!!!" อีกครั้งที่ผมพูดเสียงดังจนเกือบจะกลายเป็นตะโกน ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ชายผมอาจจะกรี๊ดลั่นห้องเหมือนพวกนางร้ายในละครไปแล้วก็ได้
และอาจารย์รัตนาก็เปรียบเสมือนแม่พระเอกที่คอยขัดขวางไม่ให้นางร้ายเข้าใกล้ลูกชายของท่านด้วยการหาเรื่องกลั่นแกล้ง (แค่สมมตินะ อย่าคิดจริงจังกันล่ะ)
"ถูกต้อง" ท่านตอบรับคำถามกึ่งอุทานของผม
"แต่มันเยอะเกินไปนะครับอาจารย์!" ผมแย้งเสียงฉุน รู้สึกเหมือนถูกกลั่นแกล้งมากกว่าถูกลงโทษซะอีก
ให้ตายเถอะ! ทำรายงานห้าร้อยหน้าภายในเวลาหนึ่งเดือนใครจะไปทันวะ! ทุกวันนี้แค่เรียนก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ยังต้องมาทำรายงานบ้าบอนี่อีก หักคะแนนจนเหลือศูนย์มันคงยังไม่สาแก่ใจอาจารย์สินะครับ
"อนุญาตให้คัดลอกมาจากอินเตอร์เน็ตได้ แต่ห้ามมั่วเนื้อหาเด็ดขาด และขอให้ส่งตรงเวลาด้วย" ทว่าอีกฝ่ายกลับเมินคำโต้แย้งของผมและสรุปเกี่ยวกับรายงานที่มอบหมายให้เสร็จสรรพ
"..." ส่วนผมก็ได้แต่ยืนเงียบ หมดคำพูดจะโต้แย้งแล้ว
"เธอจะไม่ทำรายงานส่งครูก็ได้ แต่ถ้าเลือกที่จะไม่ทำ... ก็เชิญไปดรอปเรียนวิชานี้ได้เลย"
"..."
"ทั้งหมดมีแค่นี้ กลับบ้านได้"
พูดจบอาจารย์ก็เดินออกจากห้องไปโดยทิ้งให้ผมยืนกำหมัดแน่นอยู่เพียงลำพัง อารมณ์โกรธสุ่มอยู่ในอกจนแทบจะระเบิด ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยรู้สึกแย่อย่างนี้มาก่อน
ปึง!
ผมทุบกำปั้นลงบนโต๊ะด้วยความหงุดหงิด สายตาจ้องมองไปยังโพยข้อสอบเจ้าปัญหาอย่างคับแค้นใจพลันก็นึกถึงใครอีกคนซึ่งเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
เธอจะไม่ได้อยู่อย่างสงบสุขแน่ฉันขอสาบาน!
ตอนนี้ผมอยากเล่นงานยัยนั่นสุดๆ เลย และเชื่อเถอะว่าคนอย่างกวินไม่มีทางปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ แน่… ผู้หญิงคนนั้นต้องได้รับบทเรียนที่สาสม คอยดูแล้วกัน!
[จบบรรยายพิเศษ : กวิน]
"คงไม่ตามมาหรอกใช่ไหม..."
ฉันบ่นพึมพำขณะกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากตึกพลางหันกลับไปมองด้านหลังด้วยความหวาดระแวงว่าผู้ชายคนนั้นจะตามมา รู้ไหม... ถึงฉันจะแสดงสีหน้าราบเรียบเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่จริงๆ แล้วฉันกลัวมาก! สายตาที่เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธคู่นั้นยังติดตาฉันอยู่เลย
สมมติเกิดเขาตามมาจริงๆ ฉันจะร้องให้ใครช่วยดีล่ะ แล้วจะมีใครยอมช่วยฉันหรือเปล่า...
เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธมากแค่ไหนที่ฉันกาหัวกระดาษข้อสอบและยึดโพยแผ่นนั้นมา ทั้งตวาดทั้งกระชากคอเสื้อ ทำเหมือนฉันเป็นใครสักคนที่เขาเกลียดแสนเกลียด... เกลียดจนถึงขั้นต้องไม้ลงมือแม้ฉันจะเป็นผู้หญิงก็ตาม
ถ้าอาจารย์รัตนาไม่เข้ามาเห็นเสียก่อน ฉันคงถูกเขาทุ่มลงพื้นอย่างไม่ออมแรงไปแล้ว!
สาบานว่าฉันไม่ได้อยากให้เรื่องราวบานปลายเลยสักนิด แต่เพราะไอ้ความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายและไม่ชอบเห็นใครทำผิดต่างหากเป็นตัวกระตุ้นให้ฉันทำแบบนั้นลงไปจนกลายเป็นสร้างความซวยให้ตัวเองแทน!
เรื่องทั้งหมดมันเริ่มมาจากเมื่อเช้านี้ขณะที่ฉันกำลังนอนฝันหวาน... กลับต้องสะดุ้งตื่นเมื่อมีสายเรียกเข้าจากอาจารย์รัตนา ท่านโทรมาขอให้ฉันไปคุมสอบแทนอาจารย์ผู้ช่วยที่เข้าโรงพยาบาลกะทันหัน ตอนแรกฉันปฏิเสธไปเพราะคิดว่าไม่เหมาะสมที่นิสิตจะไปคุมสอบ อีกอย่าง... ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นในภายหลังเพราะรู้ตัวเองดีว่าเป็นคนยังไง ทว่าอาจารย์รัตนาก็ยืนยันว่าต้องเป็นฉันเท่านั้น เมื่อไม่มีทางเลือกฉันจึงตอบตกลงและรีบเดินทางไปยังตึกที่ใช้ในการสอบอย่างด่วนที่สุด
แต่แล้วฉันก็เกือบได้เข้าไปนอนเล่นอยู่ในโรงพยาบาลแทนการไปคุมสอบ เมื่อความเร่งรีบทำให้ฉันวิ่งตัดหน้ารถคันหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ ฉันโดนเจ้าของรถคันนั้นตะคอกใส่อย่างหัวเสียแต่สมองกลับไม่รับรู้อะไรเลยเพราะมัวแต่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทั่งได้ยินเขาตะคอกกลับมาอีกหนฉันจึงได้สติและรีบหลีกทางให้จนลืมพูดขอโทษไปเสียสนิท
พอขึ้นมาถึงที่หมายฉันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งในชุดนิสิตถูกระเบียบยืนถือซองสีน้ำตาลซึ่งเดาว่าน่าจะเป็นชุดข้อสอบอยู่หน้าห้องเลยตัดสินใจเดินเข้าไปหา และได้รู้ว่าเธอชื่อ 'อลิสา'นิสิตคณะศึกษาศาสตร์ ซึ่งเธอถูกอาจารย์เรียกตัวให้มาช่วยคุมสอบเช่นกัน ไม่กี่อึดใจอาจารย์รัตนาก็เดินออกมาบอกให้ฉันกับอลิสาเข้าไปแจกกระดาษข้อสอบ (เราคุมสอบห้องเดียวกัน) ส่วนตัวท่านเองไปคุมสอบอีกห้องหนึ่ง...
หน้าที่ก็ไม่มีอะไรมากแค่เดินตรวจความเรียบร้อยและคอยสังเกตว่านิสิตคนไหนมีท่าทีจะหยิบโพยข้อสอบออกมาดูหรือแอบส่งซิกขอคำตอบจากเพื่อนข้างๆ บ้าง ถ้าเห็นใครมีท่าทีเข้าข่ายก็ให้ตักเตือนหรือไม่ก็ยึดโพยแผ่นนั้นมาได้เลย แต่ผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้วสถานการณ์ยังคงดีอยู่... กระทั่งฉันกับอลิสาถูกอาจารย์รัตนาเรียกไปพบเพื่อคุยเรื่องบทลงโทษสำหรับคนทุจริตในการสอบ เมื่อผู้คุมสอบไม่อยู่จึงเหมือนเป็นการเปิดทางให้กับคนเหล่านั้นได้ทำผิด และเมื่อกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งฉันก็เห็นว่ามีคนๆ หนึ่งที่กำลังลอกคำตอบจากโพยอย่างโจ่งแจ้ง
เขาไม่ได้สังเกตเลยว่าฉันยืนมองการกระทำแย่ๆ ของเขามาสักพักหนึ่งแล้ว จนเจ้าตัวเงยหน้าขึ้นจากกระดาษข้อสอบนั่นแหละถึงได้เห็นว่าฉันยืนอยู่ตรงหน้าเขา...
ฉันพูดเตือนและพยายามจะยึดโพยแผ่นนั้นมา แต่ก็อย่างที่ได้อ่านกันก่อนหน้านี้... เขาไม่ยอมทำตามแถมยังตีหน้ามึนทำข้อสอบต่อไปอย่างไม่สะทกสะท้าน วินาทีนั้นคำพูดของอาจารย์รัตนาที่ว่า 'ถ้าเตือนแล้วไม่ฟังก็กาหัวกระดาษข้อสอบได้เลย' ก็แวบเข้ามา... แม้ไม่อยากทำแต่มันเป็นวิธีเดียวที่จะหยุดการกระทำอันน่ารังเกียจนั่นได้
แน่นอนว่ามันได้ผลชะงักเลยล่ะ! ทุกคนในห้องรวมถึงผู้เคราะห์ร้าย (แต่ก็สมควรโดนแล้ว) ตกอยู่ในอาการช็อกกันถ้วนหน้า แต่ไม่กี่วินาทีต่อมาฉันก็ถูกชายร่างสูงตรงหน้าตะคอกใส่ก่อนกระชากคอเสื้อประหนึ่งกำลังมีเรื่องกับพวกนักเลงหัวไม้ก็ไม่ปาน
ฉันรู้ว่ามันเป็นการกระทำอันโง่เขลาและบ้าบอสิ้นดีที่ทำแบบนั้นลงไป แม้จะได้รับอนุญาตจากอาจารย์เจ้าของวิชาแล้วก็ตาม แต่ฉันทนเห็นคนทุจริตในการสอบไม่ได้จริงๆ ยิ่งเห็นต่อหน้าต่อหน้าแบบนี้ก็ยิ่งทนไม่ได้ ถ้าไม่ทำให้เป็นตัวอย่าง... คนอื่นๆ ก็จะมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย เป็นเรื่องที่ใครๆ เขาก็ทำกัน...
อันที่จริงฉันไม่ใช่คนพูดเยอะ ไม่ชอบพูดประโยคยาวเหยียด บางวันแทบไม่ได้เปล่งเสียงด้วยซ้ำ แต่รู้สึกได้ว่าวันนี้ฉันพูดเยอะมากกว่าทุกวัน... (เพราะต่อปากต่อคำกับเขาไง) เยอะจนนึกรำคาญตัวเอง
ฉันไม่รู้หรอกนะว่าอาจารย์รัตนาลงโทษอะไรเขาบ้างนอกจากการหักคะแนน (ท่านบอกตอนเรียกฉันกับอลิสาไปคุยน่ะ) มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของฉันที่จะต้องเข้าไปยุ่ง หน้าที่ของฉันมีแค่คุมสอบและลงโทษคนที่ทำผิด... นอกเหนือจากนั้นปล่อยให้เป็นไปตามเวรตามกรรมที่ได้กระทำมาของเขาก็แล้วกัน
อ้อ! อีกอย่างที่อยากบอกเกี่ยวกับหน้าตาของคู่กรณี (เดาว่าน่าจะมีคนสงสัยอยู่บ้าง) คือฉันจำหน้าผู้ชายคนนั้นไม่ได้หรอกนะ... ก็เล่นใส่หน้ากากอนามัยปิดปากปิดจมูกซะขนาดนั้นใครจะไปรู้ล่ะว่าหน้าตาเป็นยังไง จำได้แค่ว่าเขาชื่อ 'กวิน' (ได้ยินอาจารย์เรียกชื่อ) เท่านั้นเอง และในมหาวิทยาลัยแห่งนี้คงไม่ได้มีคนชื่อกวินแค่คนเดียวกระมัง...
ก็ได้แต่หวังว่าเขาจะยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป ทว่าในความรู้สึก... ฉันว่าตัวเองควรหมั่นทำบุญและสวดภาวนาขออย่าได้พบเจอกับเขาคนนั้นอีกเลยจะเป็นการดีที่สุด ไม่อย่างนั้นชีวิตฉันอาจไม่มีวันได้สัมผัสคำว่า 'สงบสุข' อีกต่อไปก็ได้!
TO BE CONTINUED...
ภาพประกอบจาก : www.tumblr.com , www.siamzone.com ฯลฯ
The-Daziie's Talk
[02/04/2016] อาจารย์รัตนาคนจริง! สั่งรายงานห้าร้อยหน้าว่าโหดแล้ว ให้เวลาแค่หนึ่งเดือนและห้ามมั่วเนื้อหานี่โหดกว่า! พี่กวินแจ็กพอตแตกจ้า 5555555 งานเข้าเต็มๆ เลย ไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี แต่ก็ทำตัวเองทั้งนั้นอ่ะเนอะ แต่คนซวยจริงๆ คือพิณนาต่างหาก พี่กวินโกรธขนาดนี้คงไม่รอดแน่ๆ T____T เอาใจช่วยพิณนาด้วยนะทุกคนนนน
[15/04/2016] ครึ่งหลังจะเป็นนางเอกบรรยายเสียเป็นส่วนใหญ่... อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ นางก็ขี้บ่นไปเรื่อยแหละ 55555 เอาเป็นว่ามาช่วยลุ้นชาร์ปหน้ากันดีกว่าว่านางจะ 'รอด' หรือจะ 'เละ'...พระเอกเราก็เจ้าคิดเจ้าแค้นเหลือเกิน!
นักอ่านคนไหนสนใจสั่งซื้อนิยาย สอบถามได้ที่แฟนเพจ The-Daziie นะคะ โดยการเสิร์ชหาชื่อนี้ใน Facebook ได้เลย (จริงๆ ทำลิ้งค์ไว้แต่มันกดไม่ได้ ยังไงใครสนใจเสิร์ชหาชื่อแล้วกันเนอะ)
ตัวอย่างหน้าปกนิยายค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ