[YAOI]Devil...The heart of mafia ดวงใจมาเฟีย

-

เขียนโดย WhiteWrite

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 23.45 น.

  5 บท
  0 วิจารณ์
  7,946 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 23.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) บทที่3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     

บทที่3

 

แสงแดดยามเช้าทะลุผ่านหน้าต่างเข้ามา ทำให้ร่างสูงขยับตัวน้อยๆก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่ดวงตาคมเห็นคือใครบางคนที่เขาลากกลับมาที่คอนโดด้วยเมื่อวานกำลังหลับสนิท คริสตอฟลุกขึ้นมองนาฬิกาที่บ่งบอกเวลาแปดโมง

 

สายขนาดนี้แล้วหรือ..?

 

ร่างสูงรีบเดินเข้าห้องน้ำไปทันที ใช้เวลาไม่นานนัก ก็ออกมาในคราบของชายหนุ่มประธานบริษัท ชายในชุดสูทมองคนที่ยังหลับอยู่บนเตียงแล้วตัดสินใจปลุกอีกฝ่ายให้ตื่นเพราะนี่มันเลยเวลาเข้างานมาแล้ว

 

"ตื่นได้แล้ว"เพียงแค่สะกิดเบาๆดวงตาสีฟ้าก็ปรือขึ้นอย่างว่าง่าย ท่าทางเหมือนฟรานเชสจะเป็นคนตื่นง่ายพอสมควรเลยทีเดียว 

 

ร่างสูงมองคนเพิ่งตื่นที่กำลังพยายามควานหาแว่นอย่างขำขันเล็กน้อย มือเรียวปัดป่ายไปทั่ว ผิดๆถูกๆจนชนนู่นชนนี่ ร่างสูงเห็นท่าไม่ดีกลัวจะไปปัดโคมไฟตกแตกเข้าจึงหยิบแว่นให้

 

"ขอบคุณครับ"เมื่อฟรานเชสรู้สึกตื่นเต็มตาก็ต้องพบเจอกับความปวดหัวและปวดล้าไปหมดทั้งตัว 

 

"ลุก ฉันต้องรีบไปทำงาน"เสียงเข้มเอ่ยสั่ง ร่างโปร่งพยายามจะยันตัวลุกขึ้นมาแต่กลับพบว่าเขาเกร็งหน้าท้องแทบไม่ได้เพราะมันปวดจากการโดนซ้อมเมื่อวาน ฟรานเชสพยายามจะลุกขึ้นอย่างทุกลักทุเลอีกครั้งหัวก็ปวด ท้องก็ปวดแถมรู้สึกเหมือนมีไข้อ่อนๆ วันนี้เขาคงต้องขอลางานไปนอนพักที่บ้านเสียแล้ว

 

คริสตอฟมองดูคนตรงหน้าอย่างเฉยชา อันที่จริงก็พอจะเดาได้อยู่ว่าคงรู้สึกไม่ค่อยดี ดื่มไปเยอะเสียขนาดนั้นยังไงก็ต้องมีแฮงค์กันบ้าง แต่จะให้เขาใจดีให้นอนต่อก็ไม่ใช่เรื่องในเมื่ออีกฝ่ายรู้ดีอยู่แล้วว่าวันนี้ต้องไปทำงานเมื่อคืนก็ควรจะยับยั้งตัวเองได้ไม่ให้ดื่มมากไป

 

"เร็ว ฉันไม่ได้มีเวลามานั่งรอนายทั้งวันนะ"ยิ่งได้ยินเสียงเร่งแบบหงุดหงิดฟรานเชสยิ่งลุกลี้ลุกลน ร่างโปร่งก้าวลงจากเตียงแบบเหนื่อยอ่อนแล้วเข้าห้องน้ำไป

 

"ฉันให้เวลานายแค่สิบนาที แล้ววันนี้ห้ามลางานเป็นอันขาด"ฟรานเชสชะงักเล็กน้อยก่อนพยักหน้ารับ ยังไงมันก็เป็นความผิดของเขาเองที่ไม่รู้จักหยุดดื่มเมื่อวาน

 

สิบนาทีต่อมาร่างโปร่งออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่โทรมไม่ต่างจากเดิม หน้าตาอิดโรยบอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวไม่สบาย

 

"เสร็จแล้วครับ"แต่ถึงอย่างนั้นฟรานเชสก็ยังคงเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงอยู่ดี เมื่อหัวหน้าใหญ่สุดอย่างประธานบริษัทห้ามเขาลางานเขาก็คงจะต้องไปทำงานอย่างเลี่ยงไม่ได้ถึงแม้ร่างกายจะบอกให้พักผ่อนแค่ไหนก็ตาม

 

คริสตอฟมองสภาพคนตรงหน้าด้วยความสงสารเล็กๆ แต่ยังไงก็ตามเขาจะไม่ใจอ่อนเด็ดขาด อีกอย่างยังไม่รู้จริงๆเลยว่าหมอนี่มีจุดประสงค์คิดร้ายกับแก๊งของเขาหรือไม่

 

เมื่อเตรียมตัวเรียบร้อยชายหนุ่มร่างสูงก็เปิดประตูห้องออก แล้วก็พบกับเลโอที่มายืนรออยู่แล้ว

 

"สายแล้วนะครับ แล้ววันนี้ก็มีประชุมตอนเช้าด้วย"เลขาหนุ่มเอ่ยเตือน เพราะนี่สายแล้วและทุกคนก็กำลังรอท่านประธานบริษัทอยู่เพียงคนเดียว

 

"ถ้าบริษัทเสียหาย บอกไว้เลยว่าเป็นความผิดของนาย"คริสตอฟหันไปพูดกับฟรานเชสแล้วเดินออกไปทันที ทำเอาร่างโปร่งงงไม่น้อย

 

...ทำไมถึงเป็นความผิดเขาได้ละ?

 

เมื่อหัวหน้าเดินออกไปเลโอก็หันไปมองใบหน้าแสนโทรมของใครอีกคนแล้วเอ่ยถามขึ้น

 

"เมื่อคืนนายท่านไม่ได้ทำอะไรนายใช่ไหม"ฟรานเชสส่ายหน้าเป็นคำตอบ

 

"แล้วทำไมถึงได้โทรมขนาดนี้ วันนี้หยุดงานไปเถอะ"เลโอว่า ดูจากใบหน้าที่แสนซีดเซียวและอาการซึมๆก็เดาได้ไม่ยากว่าคงไม่สบาย

 

"ไม่ได้หรอกครับ ท่านประธานไม่ให้หยุด"ฟรานเชสตอบเบาๆ เขาปวดหัวตุบๆเหมือนมีคนเอาค้อนมาทุบ

 

"นายท่านน่ะหรอ?"เลโอถามย้ำ ถึงนายท่านจะเย็นชาดูโหดเหี้ยมแต่ก็ไม่ได้เป็นคนใจดำถึงขนาดให้คนที่ไม่สบายฝืนไปทำงานเสียหน่อย เมื่อก่อนตอนที่เขาหรือแอนโทนินไม่สบายนายท่านยังอนุญาติให้หยุดงานได้ง่ายๆ แล้วกับแค่พนักงานบริษัทระดับล่างคนหนึ่งที่ดูโทรมเหมือนศพทำไมนายท่านถึงไม่ยอมให้หยุดกัน

 

"นายคงไม่ได้ไปทำอะไรให้นายท่านไม่พอใจหรอกใช่ไหม"เลโอชักไม่มั่นใจ ฟรานเชสคิดย้อนไป เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย มีแต่ฝ่ายท่านประธานนั่นแหละที่จ้องจะจับผิดเขา

 

 ..หรือว่าจะเพราะว่า..

 

"ท่านประธานคงไม่ชอบที่ผมไม่รู้จักยับยั้งตัวเองไม่ให้ดื่มมากไปจนไปทำงานไม่ไหวล่ะมั้งครับ เลยให้ผมไปทำงานเพื่อจะได้รู้ว่าคราวหน้าอย่าทำแบบนี้อีก"ร่างโปร่งพูดออกไปตามที่คิดซึ่งเลโอก็คิดว่านั่นเป็นเหตุผลที่เป็นไปได้

 

"ยังไงก็ตามวันนี้ก็ดูแลตัวเองดีๆละกัน"ถึงแม้จะเป็นคนที่นายท่านสงสัยแต่เลโอก็เป็นห่วง ฟรานเชสไม่ได้ดูมีพิษภัยอย่างที่นายท่านของเขาเห็นสักนิด

 

"ขอบคุณครับ"แล้วทั้งสองก็รีบเดินไปที่รถที่จอดอยู่ชั้นล่างทันทีเมื่อไม่เห็นวี่แววของนายท่านที่เดินนำไปก่อนหน้านี้ และเมื่อมาถึงรถก็พบว่าท่านประธานบริษัทนั่งรออยู่ในนั้นเรียบร้อยแล้ว

 

"มัวแต่ทำอะไรกันอยู่เนี่ย ทำไมนายท่านลงมาก่อนล่ะ อ่าวแล้ว ฟรานเชสทำไมโทรมงั้นอะ"แอนโทนินที่ยืนรออยู่ที่รถถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นหน้าของคนที่เดินตามหลังคู่หูตัวเองมา

 

"ผมแฮ้งค์น่ะครับ"ฟรานเชสฝืนยิ้มตอบแล้วก็สะดุ้งตกใจเล็กๆเมื่อเสียงเข้มดังมา

 

"ไหนว่าสายแล้วเลโอ"คริสตอฟเปิดกระจกรถแล้วเอ่ยกับเลขา ใบหน้าคมขมวดเหมือนไม่พอใจอะไรบางอย่าง

 

"ครับ แล้วคุณฟรานเชส.."

 

"นาย ไปทำงานเอง ฉันไม่ใช่รถรับส่ง แล้วไม่ต้องคิดหนีกลับบ้าน ถ้าวันนี้ไม่เจอที่บริษัท ฉันจะไล่นายออก"คริสตอฟหันไปบอกร่างโปร่งที่ยืนอยู่เสร็จก็ปิดกระจกรถอย่างไม่ฟังคำทักท้วงใดๆทั้งสิ้น ในใจร่างสูงกำลังหงุดหงิดเล็กน้อยว่าทำไมเลขาทั้งสองคนของเขาถึงได้ดูสนิทกับชายหนุ่มคนนี้มากนัก ทั้งๆที่เขาสงสัยหมอนั่นแท้ๆว่าจะเป็นไส้ศึกเพราะพฤติกรรมแปลกๆเมื่อวาน แต่ทั้งสองคนกลับคุยอย่างสนิทใจกับคนๆนี้ซะได้

 

ก็บอกแล้วไงว่าอย่ามองคนที่หน้าตา!

 

"เอ่อ ไปบริษัทถูกไหม"แอนโทนินถามเขาคิดไม่ถึงว่านายท่านจะไม่พาฟรานเชสไปด้วย

 

"ผมเรียกแท๊กซี่ไปก็ได้ครับ"ร่างโปร่งว่า อันที่จริงเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่คือที่ไหน

 

"มีเงินหรือเปล่า"แอนโทนินยังคงถามต่อ  ฟรานเชสรู้สึกว่าเลขาหนุ่มทั้งสองคนช่างเป็นคนดีจริงๆผิดกับเจ้านายลิบลับ

 

"พอมีบ้างครับ"ว่าพลางล้วงประเป๋ากางเกงที่มีเงินอยู่ร้อยกว่าๆ

 

"ที่นี่ไกลจากบริษัทพอสมควรนะ ถ้ามีเงินแค่นี้นายต้องไม่มีเงินกินข้าวเที่ยงแน่"แอนโทนินบอก หากหักค่าแท๊กซี่ไปจากเงินในมือคนตรงหน้าก็อาจจะเหลือไม่ถึงสามสิบบาทด้วยซ้ำ

 

"เอาเงินฉันไปก่อน"เลขาหนุ่มล้วงกระเป๋าตัวเองแล้วยื่นให้อีกฝ่ายห้าร้อย

 

"ผมรับไว้ไม่ได้หรอกครับ! อดข้าวเที่ยงแค่มื้อเดียวไม่เป็นอะไรหรอกครับ!"ฟรานเชสพูดอย่างตกใจ ถึงแม้เงินอาจจะไม่พออาหารกลางวันแต่เขาไม่ได้มีนิสัยชอบหยิบยืมเงินหรือเป็นหนี้บุญคุณใคร

 

"ไม่กินได้ยังไง นายไม่สบายอยู่นะ"แอนโทนินว่าอย่างเป็นห่วง ถึงจะรู้จักกันไม่นานแต่เขาก็สัมผัสได้ว่าฟรานเชสเป็นคนดีอย่างไม่น่าเชื่อ และทันใดนั้นกระจกรถก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง

 

"จะคุยกันอีกนานไหม!"ทั้งสองคนที่คุยกันอยู่สะดุ้งทันที แอนโทนนินหันไปมองเจ้านายตัวเองอย่างหวาดๆเขาไม่ได้ยินเสียงนายท่านที่เจือไปด้วยความกราดเกรี้ยวแบบนี้นานแล้ว เพราะนายท่านมักจะเป็นคนใจเย็นเสมอ

 

"แอนโทนินขึ้นรถ! ส่วนนายรีบไสหัวไปได้แล้ว!"แอนโทนินต้องรีบขึ้นรถอย่างช่วยไม่ได้ ส่วนฟรานเชสก็ได้แต่ยืนมองรถที่เคลื่อนตัวออกไปด้วยความรวดเร็ว

 

ท่านประธานบริษัททำเหมือนกับว่าเขาเป็นคนอยากตามมาที่คอนโดเอง ทั้งๆที่ตัวเองลากเขามาแท้ๆจะไปส่งสักนิดหนึ่งก็ไม่ได้ นี่ล่ะมั้งที่เขาบอกว่าคนรวยมักเอาแต่ใจ

 

เมื่อไม่มีทางเลือกและนี่ก็สายมากสำหรับการเข้างาน ฟรานเชสก็เดินออกไปด้านหน้าคอนโดหยิบผ้าปิดปากที่มักมีสำรองไว้ในกระเป๋ากางเกงขึ้นใส่และโบกแท๊กซี่เพื่อไปบริษัท

 

- - - - - - - - - - - - -

 

ค่าแท๊กซี่แพงอย่างที่แอนโทนินว่า ฟรานเชสมองเงินในมือของตนเองที่เหลือเพียงแค่ยี่สิบบาทอย่างอับจนหนทาง เที่ยงนี้กินน้ำลูบท้องไปก่อนแล้วกัน

 

ร่างโปร่งขึ้นลิฟท์มาที่ชั้นประจำและเดินไปที่โต๊ะ แต่ยังไม่ทันได้นั่งลงดี โจที่นั่งข้างๆก็พูดขึ้น

 

"มาทำงานซะสาย ไปกกกับใครมา ระวังหัวหน้าจะลงโทษเอานะ"เสียงที่เอ่ยออกมานั้นดูไม่ได้เป็นมิตรอย่างแท้จริง

 

"ผมจำได้ว่าพวกคุณทิ้งผมไว้"ฟรานเชสบอกไปตามที่ถามท่านประธานบริษัทมา ตอนนี้เขารู้สึกโกรธเล็กน้อย เพื่อนพวกนี้จะอยากแกล้งเขาไปถึงไหนกัน

 

"เพ้อรึเปล่า นายนั่นล่ะที่เมาจนพาผู้หญิงเข้าโรงแรมไปแล้วทิ้งพวกฉันไว้"โจยังคงแก้ตัว แน่นอนว่าฟรานเชสไม่เชื่อคำพูดพวกนั้น เพราะเมื่อคืนเขาตื่นมาในคอนโดของท่านประธานบริษัทไม่ได้ตื่นมาพร้อมผู้หญิงคนไหนแต่อย่างใด แต่ร่างโปร่งก็ไม่ได้เถียงอะไรไปเพราะไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืด รู้ดีว่าถึงพูดไปอีกฝ่ายก็คงจะแต่งเรื่องขึ้นมาเถียงเขาอีกอยู่ดี

 

ฟรานเชสหยิบงานมาทำและเลิกสนใจเพื่อนร่วมงานของเขาทำให้โจไม่พอใจเล็กน้อย ในใจคิดว่าจะบอกหัวหน้าเรื่องที่หมอนี่มาสายโด่งแล้วใส่ความว่าไปค้างโรงแรมกับผู้หญิงดีหรือไม่ แต่คิดยังไม่ทันจบพนักงานหญิงคนหนึ่งก็เดินมาที่โต๊ะของฟรานเชส

 

"เอ๋อ หัวหน้าเรียกน่ะ"ร่างโปร่งพยักหน้ารับและเดินไปหาหัวหน้าที่ห้อง ยังไงก็คงโดนว่าบ้างล่ะที่มาสายเสียขนาดนี้

 

เมื่อเข้ามาในห้องหัวหน้าเขานั่งอยู่ที่โต๊ะและกำลังทำงานอยู่ ขายาวก้าวไปยืนอยู่ด้านหน้า

 

"หัวหน้าเรียกผมหรือครับ"ฟรานเชสพูดขึ้นเรียกให้คนเป็นหัวหน้าเงยหน้าขึ้นมามอง

 

"ทำไมวันนี้มาสาย"สุชาติยกขาขึ้นไขว่ห้างกอดอกมองคนตรงหน้านิ่ง ฟรานเชสไม่รู้จะตอบไปอย่างไรเพราะเขาต้องโดนหัวหน้าว่าแน่ เมื่อวานหัวหน้าก็เตือนเขาแล้วว่าอย่าดื่มมากจนมาทำงานไม่ไหว และเมื่อฟรานเชสเงียบเป็นคำตอบคนเป็นหัวหน้าก็รู้ถึงเหตุผลทันที

 

"ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าดื่มมากไป"สุชาติลุกขึ้นมาจากเก้าอี้มาหยุดยืนตรงหน้าลูกน้องของเขา

 

"ผมขอโทษครับ"ฟรานเชสเอ่ยเสียงเบาแต่เสียงนั้นติดจะแหบไปสักเล็กน้อยจนคนฟังสังเกตุได้

 

สุชาติเดินเข้าไปใกล้ฟรานเชสและเอื้อมมือจะถอดผ้าปิดปากออกร่างโปร่งรีบจับมือนั้นไว้ทันที

 

"หัวหน้าจะทำอะไรครับ!"ฟรานเชสดึงมือหัวหน้าเขาไว้ไม่ให้ถอดผ้าออก ทำไมช่วงนี้ถึงมีคนชอบถอดผ้าปิดปากเขาออกนักก็ไม่รู้ เมื่อวานก็โดนหัวหน้าถอดไปทีแล้วตอนดึกก็โดนถอดอีกเพราะเมื่อตอนตื่นมาที่คอนโดก็ไม่มีผ้าปิดปากแล้ว

 

"ฉันแค่จะดูหน้านาย"สุชาติบอก เขาแค่อยากดูเท่านั้นว่าอีกฝ่ายป่วยหรือไม่แต่ฟรานเชสกลับเข้าใจว่าหัวหน้าของเขาต้องการที่จะดูหน้าตาน่าเกลียดๆของเขาอีก

 

"ไม่เอาครับ"ร่างโปร่งสะบัดหน้าออกแต่มืออีกฝ่ายก็ไวกว่า สุชาติรีบกระตุกผ้าออกจากใบหน้าฟรานเชสทันที และใบหน้าที่แสนจะซีดเซียวก็ปรากฏขึ้น

 

"ไม่สบายแล้วทำไมไม่หยุดงานพักผ่อน"สุชาติพูดอย่างอ่อนโยน ทำเอาร่างโปร่งงงไปทันที นี่สรุปว่าหัวหน้าไม่โกรธเขาแล้วหรือทั้งเรื่องเมื่อวานและเรื่องที่เขามาสาย

 

"แล้วเมื่อวานเจ็บหรือเปล่า ฉันขอโทษ"คนเป็นหัวหน้าขอโทษออกมาทำเอาฟรานเชสไปต่อไม่ถูก เขาตามอารมณ์หัวหน้าไม่ทันอีกแล้ว

 

"ไม่เป็นไรมากหรอกครับ"ฟรานเชสบอกรีบสวมผ้าปิดปากกลับไปตามเดิม

 

"หน้านายซีดมากรู้ตัวหรือเปล่า นอนพักเถอะ"ฟรานเชสมองหน้าหัวหน้าเขาอย่างสงสัย ไม่โกรธเขาแถมยังให้เขานอนอีกหรือ 

 

"ไม่ได้หรอกครับผมต้องทำงาน"แต่ความรับผิดชอบและความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่มีในจิตใจทำให้ฟรานเชสไม่กล้าที่จะไปนอนอย่างที่หัวหน้าบอก

 

 “ไม่สบายขนาดนี้ฝืนทำงานเดี๋ยวก็ป่วยหนักหรอก”ร่างโปร่งส่ายหน้าน้อยๆ เขาไม่อยากให้ใครมาเห็นว่าเขาแอบอู้งานมานอนที่ห้องหัวหน้ายิ่งเขาเพิ่งมีเรื่องมากับท่านประธานบริษัทเขาต้องยิ่งระวังตัวเพราะยังไม่อยากถูกไล่ออกในเร็ววันนี้

 

 “หัวหน้าครับ...”

 

 “เมื่อวานบอกให้เรียกฉันว่ายังไง”สุชาติเอ่ยขึ้นมองใบหน้าเลิ่กลั่กของลูกน้องคนตรงหน้า มันแปลกมากจริงๆที่อยู่ดีๆหลังจากเห็นใบหน้าของฟรานเชสและนิสัยที่ดูซื่อๆความโกรธก็ค่อยๆจางลงจนแทบไม่เหลือแถมยังเปลี่ยนเป็นความเอ็นดูห่วงใยอีกต่างหาก

 

 “ผมเรียกไม่ได้หรอกครับมันไม่สุภาพ”เพราะนิสัยแบบนี้ไงถึงทำให้สุชาติรู้สึกเอ็นดูนัก ฟรานเชสเหมือนเด็กคนหนึ่งที่ทำตามคำสั่งสอนของพ่อแม่อย่างเคร่งครัด มีมารยาทและมีความรับผิดชอบ

 

 “ฉันอนุญาต...เรียกสิ”เมื่อหัวหน้าพูดแกมบังคับฟรานเชสเลยต้องตามใจอย่างช่วยไม่ได้

 

 “คุณโอห์ม...”ถึงแม้จะเรียชื่อเล่นแต่ร่างโปร่งตรงหน้าก็ยังคงมีมารยาทอยู่ดี ช่างเถอะแค่นี้คนฟังก็ดีใจจะแย่แล้ว

 

 “ดีมาก วันนี้นอนพักเถอะฉันทนฟังเสียงนายไม่ได้จริงๆ”สุชาติโอบไหล่ฟรานเชสถึงแม้ฟรานเชสจะสูงกว่าแต่ก็ไม่มากนัก

 

 “ผมจะนอนได้อย่างไรล่ะครับนี่มันเวลางาน”ฟรานเชสยังคงเถียง

 

 “ไปนอนตรงโซฟา นอนในห้องฉันไม่มีใครว่าหรอก”สุชาติพูดพาคนที่คนโอบอยู่เดินไปนั่งที่โซฟาตรงข้ามโต๊ะทำงานของเขา มือหนาดันไหล่บางให้นั่งลงไปและหยิบหมอนใบเล็กๆมาให้เสร็จสรรพ

 

 “ให้ผมนอนจริงๆหรือครับ”ฟรานเชสถามอย่างไม่มั่นใจนัก มีที่ไหนลูกน้องมานอนในห้องของเจ้านายตัวเองแบบนี้

 

 “จริงสิ นอนไป”ว่าแล้วก็ดันตัวอีกฝ่ายให้นอนราบลง

 

 “เดี๋ยวตอนเที่ยงฉันจะซื้ออะไรมาให้กิน แล้วเดี๋ยวฉันจะปลุกเอง”ฟรานเชสมองหัวหน้าเขาอย่างไม่เชื่อสายตานัก เมื่อวานจะฆ่าเขาแทบเป็นแทบตายแต่วันนี้กลับทำดีกับเขาจนเหมือนคนละคน เทียบกับท่านประธานบริษัทแล้ว... ผู้ชายคนนั้นดูแย่ไปเลย

 

 “คุณโอห์มครับ”เมื่อถูกเรียกสุชาติก็เงยหน้าขึ้นมอง เห็นดวงตาสีฟ้ากำลังจ้องมองเขาผ่านเลนส์แว่นหนา

 

 “ขอบคุณมากนะครับ”บอกเสียงแผ่วเบาแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราไปด้วยความอ่อนเพลียในขณะที่คนฟังเริ่มหน้าร้อนขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ มือหนาถอดแว่นออกให้อีกฝ่ายเบาๆแล้วกลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะของตนเอง ไม่รู้ทำไม แต่พอมีลูกน้องคนนี้มานอนอยู่ในห้องเขากลับจิตใจสงบอย่างบอกไม่ถูก

 

ฟรานเชส...นายต้องเล่นมนต์อะไรกับฉันแน่ๆ

 

- - - - - - - - - - -

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา