Air Walker: เหินฟ้าคว้าฝัน

-

เขียนโดย Valentinlover

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 19.58 น.

  6 ตอน
  0 วิจารณ์
  8,549 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 14.34 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) การปราชัยที่แสนสนุก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

            ร่างสูงผิวสองสีวิ่งอย่างรวดเร็ว ลูกบาสเกตบอลในมือของเขาก็ราวกับแสนเชื่อง ติดตามหนุ่มน้อยไปทุกที่  เขาวิ่งหลบหลีกการสกัดกั่นก่อนจะคว้าลูกทั้งสองมือแล้วก็กระโดด

            การยัดกระแทกลงห่วงส่งเสียงสะเทือนก้อง ท่ามกลางเสียงเฮของกองเชียร์โรงเรียนชื่อดังเรื่องบาสเกตบอล

            “ไหวไหมแอร์” แซนเดอร์ถาม

            แอร์ขมวดคิ้วจนเป็นปม ไม่ได้ตอบ แต่มองตามการเล่นของเด็กหนุ่มในสนามอย่างตั้งอกตั้งใจ

            “เร็วมากเลยครับ เลี้ยงก็คล่อง ถ้าจะจับก็คงยากมาก” กริชเป็นคนตอบแทน

            “เดชาพงศ์ หรือนายเจ็ด เป็นชู้ตติ้งการ์ดตัวทำคะแนนสูงสุดของทีม  เราต้องหยุดนายคนนี้ให้ได้ เราถึงจะชนะ” แซนเดอร์กล่าว

            แอร์หันมามองหน้าแซนเดอร์แต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไร

 

       เดฟแวะซื้อขนมมามากมายจนต้องตามให้พวกน้องๆในชมรมมาช่วย พอมาเขามาถึงโรงยิมก็เห็นแอร์กำลังวิ่งเป็นลิงป้องกันการการโจมตีของกริชกับฮั่น

            แอร์เหงื่อท่วมแสดงว่าวิ่งต่อเนื่องกันยาวนานมากแล้ว แต่สายตาคู่นั้นยังมุ่งมั่นอย่างมาก

            หันไปอีกด้านเห็นแซนเดอร์กับเจสันทำสิ่งใกล้เคียงกัน แต่เป็นการรับการโจมตีจากมีสำรองทั้งห้าคน

            ส่วนคนอื่นๆกำลังเรียนเทคนิคจากการุณย์

            “ซ้อมเกมรับเหรอครับ” เดฟถามเมื่อการุณย์ปล่อยให้เด็กๆฝึกฝนทักษะเลี้ยงลูกอ้อมหลักกันเอง

            “อืม..” การุณย์ตอบแล้วมองไปที่แอร์

            “แต่แอร์เขาเป็นตัวรุกไม่ใช่เหรอครับ” เดฟกล่าว

            “แต่ก็ต้องรับเป็นไม่ใช่เหรอ” การุณย์ย้อนถาม

            เดฟหันไปหยิบข้าวเกรียบแล้วมาส่งให้การุณย์

            “แข่งนัดต่อไปวันศุกร์สินะครับ”

            การุณย์พยักหน้า

            “พวกเราเป็นรองอยู่เยอะเลย.. รายการนี้เขาจะเอาเฉพาะแชมป์กลุ่มเข้ารอบเสียด้วยสิ”

            “อืม... ก็แย่หน่อยที่ เจอของแข็งอย่างนี้ เซนต์ปีเตอร์ แชมป์ปีที่แล้ว..” เดฟเกาหัว แต่อยู่ก็ยิ้มออกมา

            “ไม่รู้จะมีกรณีอย่างนายโป้งกับก้านเพชรไหม”

            “หือ” การุณย์หันมามอง

            “เปล่าๆ ครับผมแค่ระลึกถึงความหลัง”

            นึกถึงการพบกันระหว่างทีมฟุตบอลนวสาครกับมัธยมเซนต์ปีเตอร์เมื่อหลายปีก่อน  ตอนนั้นนวสาครมีโป้ง ฝ่ายเซนต์ปีเตอร์มีก้านเพชรเป็นปีกขวา

            “ก็คงสนุกดี..” เดฟหัวเราะแล้วก็เดินไปหยิบลูกบาสเกตบอลมาลูกหนึ่ง 

 

            เจ็ด.. ชื่อที่ทุกทีมในระดับเยาวชนเกรงกลัว การเลี้ยงลูกแล้วหมุนตัวอย่างคล่องแคล่วของเขาชวนตะลึง ในจังหวะการโจมตีของเขา

แต่วันนี้เจ้าหน้าใหม่ที่อยู่ตรงหน้า มันช่างน่ารำคราญ การเคลื่อนที่ของมันทำให้เจ็ดรู้อึดอัด..

เขาพยายามหลอกล่อด้วยการเคาะลูกบาส ลอดขา หมุนตัว แต่นายคนนั้นก็ยังสมาธิดี ไม่หลงไปกับลีลาของเจ็ด

ลองอีกที ว่าแล้วเจ็ดก็เริ่มต้นเอาไหล่ดัน แล้วจะไถเข้าไป

นายหน้าใหม่พยายามขืนตัว ไม่ให้เสียกระบวนรับ แต่ฉับพลัน เจ็ดก็กระโดดถอยหลัง

ร่างกายจัดระเบียบอย่างดีในอากาศ แล้วชู้ตส่งลูกออกไป

เสียงเฮลั่นจากกองเชียร์สาวๆ เจ็ดตีมือกับเพื่อนๆแล้ว หันไปใช้สามนิ้วตะเบ๊ะส่งให้กองเชียร์ เรียกอาการกระทืบเท้าเต้นเร่าจากเหล่าแฟนๆ

แซนเดอร์ส่งสัญญานสั่งแล้วส่งลูกให้กริช จากนั้นก็วิ่งขึ้นไปแย่งพื้นที่ใต้แป้นกับเซนเตอร์ของฝั่งตรงข้าม

กริชเลี้ยงพาลูกมาเจอการป้องกัน เขาก็หมุนตัวบังลูกก่อนจะพลิกตัวอีกครั้งให้ฮั่น

ฮั่นฝีเท้าว่องไวมาก ได้ลูกก็เลี้ยงอย่างรวดเร็วเข้าไปในเขต แต่พอเห็นคู่ต่อสู้มาขวาง เขาตบลูกบาสย้อนหลังไป

แอร์คว้าลูกแล้วก็หมุนตัวหลบเจ็ดที่จะเข้ามาปัดแล้ว กระโดดชู้ตกระแทกเป้าบนแป้น แล้วลงห่วงไป

"ลูกจะกลับมาหาเจ็ดก่อนเกือบทุกครั้ง.. " นั่นคือคำพูดของโค้ช

"แต่การจับนายเจ็ดได้ก็เป็นแค่ส่วนเดียว หน้าที่ของนาย คือป้องกันการทำคะแนนของเจ็ด ไม่ว่าจะหยุดเขาได้หรือไม่ นายก็ต้องทำให้ดีที่สุด"

แล้วแอร์ก็ปรากฏตัวทันทีที่เจ็ดรับลูกได้

ไอ้นี่..  ทำไมมันช่างดื้อด้านนัก เจ็ดชักหงุดหงิด แถมนายนี่ยังมีจังหวะเท้าที่รวดเร็วไม่แพ้กันอีกต่างหาก

เจ็ดจะหมุนซ้ายมันก็เคลื่อนไปทางซ้ายจะหมุนขวามันก็ตามไปบัง

"ตื้อฉิบเป้ง"

แล้วเจ็ดก็เลิกล้มความพยายาม หันไปส่งลูกขวางสนาม

แต่ทันใด ตอนที่ลูกบาสเกตบอลยังเดินทางในอากาศ

ร่างเล็กแต่รวดเร็วของฮั่นก็ตัดหน้าตบลูกแล้วเลี้ยงหลุดไปคนเดียว

เจ็ดจะสิ่งตามไป แต่ก็ได้แค่มองฮั่นชู้ตไกลจากนอกเส้นลงห่วงไป..

เซนต์ปีเตอร์ 67 นวสาคร 64..

เซนต์ปีเตอร์ขอเวลานอกเพื่อเบรคเกม

 

เดฟกับอัศวะนั่งอยู่ในหมู่กองเขียร์ ทำให้หลายคนหันมามองเพราะทั้งคู่เป็นคนมีชื่อเสียง

แต่เดฟจดจ่อกับเกมจนไม่สนใจใคร

วันนี้นวสาครเล่นแบบเป็นรอง เน้นไม่ได้ก็ไม่ยอมเสียง่ายๆ ควอเตอร์แรกจบสูสีที่ เซนต์ปีเตอร์นำอยู่สามแต้ม ควอเตอร์ที่สองมีการสลับตัวสำรองลงมาเลยโดนทิ้งไปเป็นแปดแต้ม และก็เป็นอย่างนี้ในควอร์เตอร์ที่สาม..  แต่เหมือนแผนของโค้ชการุณย์จะเริ่มออกฤทธิ์ในควอเตอร์สุดท้าย..

ในควอเตอร์สุดท้ายที่เล่นไปได้ราวๆห้านาที นวสาครตีแต้มจี้มาเหลือห่างสามแต้มเท่าเดิม..

ลงสนามมาอีกรอบ ฝ่ายเซนต์ปีเตอร์ไม่ได้ส่งบอลให้เจ็ดพยายามเข้าทำแต่เปลี่ยนส่งลูกเข้าไปข้างในให้ตัวฟอร์เวิร์ดเบียดทำคะแนนจากข้างใน

แต่ก็ยังโดนแซนเดอร์กับเจสันขวางอยู่จนต้องวนออกมาอีก

ที่สุดลูกก็กลับไปหาเจ็ดอีกจนใต้ ทันทีได้บอลเจ็ดก็ได้เห็นหน้าแอร์..

เจ็ดชักใจร้อนเพราะ Shot Clock ใกล้จะหมด จะยิงก็ยิงไม่ได้

ความพรุ่งพล่านทำให้เจ็ดพุ่งปะทะแอร์ตรงๆ จนแอร์ล้มลงไป

กรรมการเป่านกหวีดลั่น แล้วแสดงสัญญาณมือว่าเจ็ดทำฟาวล์เกมรุก

ก็เลยเสียทุ่มฟรีให้นวสาคร

แอร์ทุ่มต่อให้กริชแล้วตัวเองก็วิ่งไปข้างหน้า

กริชพาลูกเลี้ยงลูกไปข้างหน้าแล้ว จ่ายต่อให้แซนเดอร์ แซนเดอร์เลี้ยงบอลเข้าไปในเขตแล้วกลับหลังดันตัวเข้าไปสักครู่ แต่เพราะการตั้งรับแน่นหนา เขาเลยจ่ายกลับไปหากริช กริชรับลูกมาแล้วก็จ่ายต่อให้แอร์ทันที        

แอร์ได้ทีก็จรดเล็งทันทีแล้วส่งลูกลงห่วงไป

กองเชียร์นวสาครเริ่มฟื้นคืนชีพ ส่งเสียงเชียร์กันอึกทึก

ตอนนี้แต้มตามกันแค่หนึ่งแต้มเท่านั้น..

แล้วหลังจากนั้นก็ผลัดกันทำคะแนน จนเหลือเวลาอีกแค่นิดหน่อยเท่านั้น พอลูกผ่านห่วงลงมาแซนเดอร์ก็รีบเอาลูกบาสมาส่งต่อให้กริช

กริชรู้ดีว่านี่คือเพลย์สุดท้ายเขาตัดสินใจ.. ยิงไกลจากครึ่งสนาม..

ลูกบอลลอยไปแล้วโค้งลง พลันมันก็กระแทกห่วง แล้วลอยขึ้น..

            แอร์ที่เบียดเข้าไปใต้แป้นพยายามจะกระโดดขึ้นเพื่อแย่งรีบาวน์ลูก

            แต่สัญญาณหมดเวลาก็ดังขึ้นเสียก่อน

เจ็ดแทบจะทิ้งตัวลงกับพื้นสนามเมื่อได้ยินเสียงสัญญานของหมดเวลาการแข่งขัน

เขาหันไปมองหน้าแอร์ แอร์กำลังตีมือกับเพื่อนๆ แล้วเดินกลับไปที่ม้านั่ง

เขาตัดสินใจเดินเข้าไป

“นายชื่ออะไร”

แอร์หยุด เขาไม่ได้หันกลับไป เพราะบนหลังของเขามีชื่อติดอยู่อย่างเด่นชัด

“หมายถึงชื่อเล่น” เจ็ดเข้าใจเจตนานั้น จึงขยายความ

“แอร์” แอร์หันมา

เจ็ดยื่นมือออกมา

“วันนี้นายเล่นดีนะ.. ฉันเกือบเอาตัวไม่รอด แล้วขอโทษเรื่องฟาวล์ด้วย แล้วถ้าจะว่าไปวันนี้ ถึงทีมจะชนะ แต่ฉันแพ้นาย พลาดท่าให้นาย.. แต่ฉันกลับสนุกมากๆ ขอบใจมาก”

แอร์มองมือนั้นก่อนจะจับด้วย แล้วเขาก็ยิ้ม

“ไม่เป็นไร.. เพราะนายก็ทำให้ฉันสนุกมาก การตามนายนี่มันสนุกจริงๆ”

เจ็ดยิ้มตอบ

“นายเป็นคู่แข่งที่เล่นด้วยแล้วสนุกมาก”

           

             นัดที่เหลือของการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม แม้นวสาครจะเอาชนะอีกสองทีมในกลุ่มเดียวกันได้ทั้งสองนัด แต่เพราะการเข้ารอบจะผ่านได้แค่ทีมเดียวเท่านั้นดังนั้นเซนต์ปีเตอร์จึงผ่านเข้ารอบไปด้วยผลชนะรวด

            กระนั้นสำหรับการุณย์เขากลับพอใจมากในผลงานของลูกทีม.. และเริ่มแผนการฝึกซ้อมสำหรับทัวร์นาเมนท์ถัดไป

            ถึงจะไม่ชนะแต่ก็เล่นได้น่าประทับใจ ดังนั้นทางเดฟจึงเป็นมอบเงินให้ก้อนหนึ่งให้บรรดานักกีฬา เป็นโบนัส

            “พี่เดฟนี่เขาก็ดีนะ” แอร์กล่าวตอนเดินร่วมกับเจสันและกริชกลับบ้าน

            “ช่วยเหลือเรา แถมให้รางวัลเราอีก”

            “ก็แบบ.. เขาคงคิด อยากจะ เป็นเขาแทน ก็ได้” เจสันบอก

            แต่แอร์กับกริชมองหน้าเพราะภาษาไทยของเจสัน..

            “หมายถึงเป็นเล่นเขาแทน” เจสันพยายามแก้

            “โอ้ว..หนักไปกว่าเดิม” กริชส่ายหัว

            “หมายถึง..” เจสันจะแก้อีก

            “เอาพอๆ กูเข้าใจ” แอร์หัวเราะ

            “คือพี่เดฟเขาคิดจะเอาตัวเราเป็นตัวแทนเขา เพราะเขาหมดโอกาสจะได้เล่นแล้วใช่ไหมหละ”

            เจสันก็หัวเราะฮ่าๆตามนิสัย แต่แอร์กับกริชส่ายหัวดุกดิก

            พอมาถึงหน้าสวน กริชกับเจสันก็เดินแยกไปเพราะเจสันพักอยู่ที่หอพักเดียวกับกริช

            แอร์ก็เดินมาต่อไป แต่ยังไม่ทันพ้นเขตรั้วของสวน

            “แอร์.. “

            เสียงกริชเรียกรั้ง

            “หือ..” แอร์ขาน

            “พรุ่งนี้ไปกับกูหน่อยสิ.. กูจะไปประตูน้ำ กูอยากได้เสื้อใหม่”

            “ประตูน้ำ” แอร์ทวนคำ

            “รู้จักรึเปล่า.. เห็นไอ้ข่าน ไอ้ตูลมันบอกว่าเสื้อผ้าเยอะมาก หรือไม่ก็จตุจักรก็ได้” กริชเกาหัวพลางพูด

            “รู้จัก.. แต่พรุ่งนี้มันวันเสาร์กูว่าไปจตุจักรดีกว่า จะได้ดูอย่างอื่นด้วย” แอร์เสนอ

            “ก็ได้.. เอาตามนั้น” กริชกล่าว

           

            แอร์เลือกเอาเสื้อตัวหนึ่งให้กริช เขาทาบลงบนหลัง กริชก็เลยหันมา

            “สวยดีนะ” แอร์บอก

            กริชเลยหันมาแล้วรับเอามาทาบตัว

            “น่าจะพอดีเลย” แอร์กล่าวแล้วยิ้ม

            กริชยิ้มตอบแล้วมองภาพตัวเองในกระจก

            “ถ้ามึงบอกว่าดีกูก็ว่าดีวะ”

            “อ้าว.. มันต้องมึงชอบสิ.. มาเชื่ออะไรกู” แอร์ท้วง

            กริชหัวเราะ

            “กูเชื่อมึง.. สิ่งที่มึงให้กูต้องดีแน่นอน”

            แอร์เงียบไปทันที เขาหันไปมองทางอื่น

            “เฮ้ยก็อาจไม่ดีก็ได้ ไม่คิดบ้างว่ากูอาจอยากจะแกล้งมึงไง” เขากล่าวออกมา

            กริชยิ้มแล้วเอามือล๊อกคอแอร์

            “ไม่หรอกมั้ง.. แล้วถ้ามึง อยากจะแกล้งกู กูก็แกล้งมึงกลับไง”

            แล้วทั้งสองก็นิ่งไปทั้งคู่จนกระทั้งแอร์กล่าว

            “หิวว่ะ.. จ่ายเงินแล้วไปหาอะไรกินกันเหอะ”

            กริชจึงปล่อยมือแล้วเอาเสื้อไปหาคนขาย

 

            หลังจากมืออาหารทั้งสองก็ซื้อไอศกรีมมาคนละถ้วย แล้วมานั่งกินที่สวนที่อยู่ใกล้ๆกับตลาดนัดจตุจักร

            แอร์หันมาเห็นปากกริชเปื้อนมีคราบไอศกรีมสีขาวติดเป็นเหมือนหนวด

            “อะไรวะ กินไอติมเสร็จแก่เลยเหรอ” แอร์หัวเราะ

            กริชทำหน้าเหรอ.. ต่อมาจึงเข้าใจ

            “เลอะเหรอ..” กริชถาม

            แล้วเขาก็ส่งทิชชูในมือให้แอร์

            “เช็ดให้หน่อยสิ..”

            แอร์อึ้งไปนิดหนึ่ง

            “ไอ้บ้า.. เดี่ยวใครเขาก็เข้าใจผิด นึกว่ากูมานั่งจู่จี่กันกลางวันแสกๆ”

            “ใครสน” กริชยักไหล่..มองตาแอร์

            “ถ้าจะจู่จี่แล้วใครจะทำไม”          

            แล้วทั้งคู่ก็เงียบไปทั้งคู่อีกรอบ

            ใน ความเงียบของคนทั้งคู่ พวกเขาอยู่ท่ามกลางเสียงอึกทึกของสวนในตอนบ่ายวันเสาร์ แต่ระหว่างคนทั้งสองมันเงียบจนเหมือนโลกมีเพียงเขาทั้งคู่เท่านั้น

            แววตาที่สบกันนิ่งจนไม่อาจถอนออกจากกันได้โดยง่าย

            “เอาสิแอร์ เช็ดให้หน่อย เดี่ยวกูเช็ดไม่เกลี้ยง”

            แอร์จึงถอนหายใจ แล้วรับกระดาษมา

            “กินเลอะเทอะเดี่ยวพ่อตีเสียเลยไอ้ลูกคนนี้” แอร์แกล้งพูดแล้วเช็ดปาก

            “ฮะพ่อ..” กริชก็รับมุขทำท่าเป็นเด็กเชิดหน้ายื่นปากให้แอร์เช็ด แถมทำตาแป๋ว

            พอเซ็ดสะอาดก็ขยุ้มทิชชู

            “เรียบร้อย” แอร์บอก

            “ไปเดินเล่นต่อ กูจะหาซื้อร้องเท้าแตะ”

            แอร์ลุกขึ้น

            แต่กริชทำหน้าตูมๆ

            “ไม่เอา พ่ออุ้ม” แล้วก็วางถ้วยไอศกรีม ทำท่ากระทืบเท้าชุมือ

            “ไม่เอา ไม่เอา พ่ออุ้ม”

            “ไอ้หอก.. ใครพ่อมึง.. แม่งตัวโตเป็นควาย ใครจะไปอุ้มไหว ลุกๆ” ดึงแขนกริชให้ลุกขึ้น

            “ไปเร็วๆ” แอร์เดินนำหน้าไป

            กริชก็หันไปคว้าถ้วยไอศกรีม แล้ววิ่งตามแอร์ไป..

            สองหนุ่มเดินคู่กันไปในแสงแดดยามบ่าย แม้รอบตัวจะสับสนแค่ไหน.. แต่เหมือนโลกของสองคนจะมีแค่พวกเขาเท่านั้น..

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา