7Swords
เขียนโดย จิ้งจอกมายา
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 23.29 น.
แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) The Old Fox
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 6 The Old Fox
เลดี้โรสได้รับการต้อนรับอย่างดีจากหัวหน้าหมู่บ้าน เธอลงจากรถม้าด้วยอาการที่งดงาม ใบหน้าดุจดั่งสาวสะพรั่งตรึงทุกสายตาให้หลงใหลในเสน่ห์ของนาง นางได้ขอพักที่เรือนรับรองอย่างเงียบๆ และให้พวกทหารองครักษ์แยกย้ายพักผ่อนตามตามลูกบ้าน
เลดี้โรสกำชับให้ทหารทุกคนประพฤติตนอย่างสุภาพ จนชาวบ้านประทับใจในความงดงามทั้งกายและใจของนาง และทั้งหมดก็พักอยู่ในหมู่บ้านอย่างสบายอกสบายใจ
เลยถึงยามดึกกองทัพของพวกไวท์ฟอร์ทก็มาถึง
“เซอร์คาร์ลดีเซน” ทหารนายหนึ่งกลับเข้ามารายงานหลังจากออกไปสอบถามขอที่พักกับชาวบ้าน “ที่หมู่บ้านไม่มีที่พักเลย พวกเขามีแขกอยู่ก่อนแล้วขอรับ”
“แขกหรือ? จากไหน?” เอเคลเซธถามด้วยสีหน้าเคลือบแคลง
“พวกเขาบอกว่ามาจากพ็อตเทอร์รี่ขอรับ” เอเคลเซธมองหน้าพ่อของเขา
“ดูนั่น” ลีโอไนดัสชี้ให้ทุกคนมองไปยังบ้านที่มีสองปล่องไฟ และรถม้าที่จอดอยู่
“ของราชวงศ์” เอริคพึมพำ “มาเถอะ ไปต่ออีกหน่อย.... ข้างหน้านี้มีเพื่อนเก่าของข้าอยู่”
พวกไวท์ฟอร์ทขี่ม้าผ่านกระแสลมที่เย็นยะเยือกมาสักครู่หนึ่งผ่านผืนนาสุดลูกหูลูกตาก็เจอเส้นทางแยกเล็กๆ เอริคนำทางพวกเขาเข้าไปเรื่อยๆ ทุกคนต่างเหนื่อย หิว และอ่อนเพลีย จากการเดินทางค่อนคืน และการรบในตอนเช้าถึงสาย ทั้งเรื่องแปลกประหลาดที่พวกเขาได้พบ จวบจนเรื่องการรีบเดินทัพให้เร็วที่สุดจนมาถึงชายแดนพ็อตเทอร์รี่ในตอนนี้
แม้จะหิวจนท้องกิ่ว แต่ก็อยากซบหลังม้าหลับไปทั้งอย่างนั้น ทุกคนต่างกัดฟันขี่ม้าฝ่าสายลมที่หนาวแปลกๆนั้น ต่างกระชับเสื้อคลุมให้แน่นขึ้นและแข็งใจนั่งอานม้าแข็งๆต่อไป
“ข้างหน้านั่น” เสียงของเอริคลอยมาตามสายลม ลีโอไนดัสชะเง้อคอมอง เขาเห็นแสงไฟเล็กๆ ทุกคนขี่ม้าตามไปรู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเหลือทน
เมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้ เอเคลเซธก็เห็นบ้านเล็กๆที่ปลูกห่างจากโรงนาโย้เย้ แต่มีคลองเล็กๆไหลผ่านและผืนนาเตียนโล่งที่เพิ่งจะเก็บเกี่ยวเสร็จ เอริคสั่งให้ทหารลงจากม้าและตั้งค่ายผูกม้าให้เรียบร้อย เขาลงจากมาเดินตัวสั่น โซซัดโซเซไปถึงบ้านเล็กๆหลังนั้นและเคาะประตูสองสามที
ประตูเปิดออกมา ปรากฏร่างของชายแก่ที่ปากคาบกล้องสูบ เขาเบิกตากว้างมองเอริคก่อนจะร้องอย่างดีใจ ดึงเอริคเข้าไปกอดและตบหลังป้าบๆ ปากที่ฟันหน้าเหลือไม่กี่ซี่ร้องอย่างดีใจ
“ให้ตายเถอะ เอริค!! ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเจอเจ้าอีกครั้ง”
“สวัสดี แจ็ค..... มีเหล้ามั้ย?” เอริคถามด้วยอาการสั่นรุนแรงคล้ายกับใกล้จะลงแดง ชายชราจับเครื่องดื่มของเขายัดใส่มือของเอริค ผู้ยกขึ้นดื่มอย่างเงอะงะ
“พวกไอ้หนุ่มตรงนั้นน่ะ!!” ชายแก่ตะโกน “เอาม้าไปผูกหลังโรงนาเลย เอาฟางข้างในมาปูให้มันด้วย เสร็จแล้วมายกของกินไปเตรียมซุปกัน!!” แล้วเขาก็หันมาหาเอริคผู้ซึ่งถือวิสาสะดื่มเหล้าจากขวดเสียงดัง “นี่นึกยังไงถึงออกจากกระดองเรอะ” ชายแก่ถามพลางเดินกุกกักมานั่งที่โต๊ะ และชี้ให้เอริคนั่งด้วย
“แจ็ค..... คุณต้องไม่เชื่อแน่” เอริคบอก เขาสบตาของชายชราด้วยอาการคล้ายเสียสติหน่อยๆ “เราเห็นมัน.....”
ชายชรามีท่าทีอึ้งไม่น้อย เขาไม่พูดอะไร เพียงแต่ดูดควันเข้าสองสามเฮือกใหญ่ๆ แล้วถามค่อยๆว่า “ที่ไวท์ฟอร์ทเป็นไงบ้าง?”
เอริคเล่าเรื่องทั้งหมดให้แจ็คฟัง ชายชราเงียบและฟังอย่างตั้งใจ เขาเงียบไปพักใหญ่หลังจากที่เอริคเล่าจบ
“นอนพักก่อนเถอะ..... ไม่ -- ไม่ใช่ตรงนี้” ชายชราชี้ไปที่เปลญวน เอริคเดินลากเท้าขึ้นไปนอนอย่างว่าง่าย และกระดกเหล้าอึกสุดท้ายราวกับจะกล่อมตัวเองนอน ชายชรามองเขาเงียบๆ ก่อนจะเดินกุกกักออกมาสั่งให้ทหารนอนเบียดๆกันในโรงนาที่มีกองฟางอุ่นๆ หลังจากที่กินไส้กรอกปิ้งกันจนอิ่มแล้ว พวกทหารก็เดินโซซัดโซเซราวกับผีดิบเรียงแถวเข้าโรงนาอย่างว่าง่าย
มีสองคนที่ยังคงนั่งอยู่รอบกองไฟ คือ แม่ทัพโคล์ดี้กับ เอเคลเซธ
“นายน้อยหลับเรียบร้อยแล้วขอรับ” แม่ทัพโคล์ดี้กล่าวก่อนจะสังเกตเห็นชายชราที่เดินกุกกักเข้ามา เขาลุกขึ้นต้อนรับ เช่นเดียวกับเอเคลเซธ
“ดื่มกันก่อนนอนหน่อยมั้ย?” ชายชราเอ่ยถามก่อนจะนั่งลงช้าๆ เพราะปวดข้อเข่า
“ผมเคยได้ยินเรื่องคุณมาบ้าง -- ไม่ทราบคุณคือ แจ็ค ทอมสัน ใช่มั้ยครับ?” เอเคลเซธเอ่ยถาม
“ช่าย... ช่าย..... มีแจ็คเดียวนี่แหละ” ชายชราส่งขวดเหล้าให้กับโคล์ดี้และเอเคลเซธ “วันนี้เจอแต่หนักๆมาสิ”
“เซอร์ทอมสันขอรับ......” แม่ทัพโคล์ดี้เอ่ยอย่างประหม่า
“ข้าเลิกเป็นเซอร์ตั้งแต่ยี่สิบกว่าปีก่อนแล้ว” ชายชราเอ่ยพร้อมกับโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “ตั้งแต่เบโอวูล์ฟเข้ายึดตำแหน่งเจ้านายของข้านั่นแหละ -- ”
“ตอนนี้ เขาเป็นลอร์ดแห่งไวท์ฟอร์ทอย่างเต็มตัวแล้วนะขอรับ” แม่ทัพโคล์ดี้กล่าว “เขาอยู่แบบชาวเหนือ พูดอย่างชาวเหนือ กินแบบชาวเหนือ และสู้อย่างชาวเหนือ -- ”
*“That freak still put the bread in the soup” ชายชราเอ่ยพลางกระดกขวดเหล้า
“ทำไมล่ะครับ” เอเคลเซธเอ่ยยิ้มๆ “ใส่ขนมปังลงในซุปก็อยู่ท้องนานดีออก” ชายชราไม่โต้ตอบเพราะเขาเห็นแววตาขบขันเต้นระริกในดวงตาของ ชายหนุ่ม แจ็คมองเขาอยู่นานก่อนจะบอกให้พวกเขาไปนอน และตัวเขาก็จากไป
รุ่งเช้าชายแก่ก็เกณฑ์พวกทหารไปทำงานในไร่ และให้พวกเขากลับมาตอนหัวค่ำหลังเสร็จงานทั้งหมดในไร่แล้ว ซึ่งก็พบว่าที่บ้านของชายชราได้เตรียมทั้งของกินและเครื่องดื่มไว้รอเรียบร้อยแล้ว
“พวกสอดแนมที่ออกไปแต่เช้าน่าจะกลับมาก่อนเราเปิดเหล้าถังโอ๊คนี่แหละ” ชายชราเอ่ยพลางตบถังไม้โอ๊คที่บ่มเหล้าไว้ -- เสียงเหล้าที่ดังอยู่ข้างในทำเอาเอริคหูผึ่ง
“นี่บ่มแบบไม่ให้มีอากาศหรือนี่” เอริคยืนขึ้นส่งสายตาปรารถนาอย่างแรงกล้ามาที่ถังเหล้านั้น
พอจัดวางอาหารเสร็จและความพยายามสกัด เอริคที่เดินลอยละล่องเข้าไปใกล้ถังเหล้าอย่างไม่น่าไว้วางใจถึงยี่สิบสามครั้ง ทหารสอดแนมก็กลับมารายงานว่าไม่พบอะไรผิดปกติ
ชายชราก็สั่งให้เริ่มงานเลี้ยงได้ เอริคร้องเพลงสรรเสริญของแซงจัวรี่และมีน้ำตาคลอ ขณะที่เปิดก๊อกเทเหล้าออกมาจากถัง
งานเลี้ยงดำเนินไปอย่างรื่นเริง แม้ลมหนาวในตอนนี้ก็ไม่อาจทำให้ความรื่นเริงในยามนี้ลดลง ราวกับทุกคนได้คลายกังวลเรื่องของอัศวินปริศนาและเซเว่นซอร์ดส์ไปชั่วคราว
“พวกเราคงจะอุ่นใจ และพวกที่ไวท์ฟอร์ทคงจะดีใจถ้ารู้ว่า ดิโอลด์ฟ็อกซ์ (The Old Fox) กลับไปไวท์ฟอร์ทกับเรา” เอเคลเซธเอ่ยเบาๆก่อนจะเข้าไปยืนข้างๆชายชราที่ยืนกอดอกมองพวกทหารที่กำลังกินเลี้ยงกันท่ามกลางกองไฟกองใหญ่
“ถึงจะเป็นจิ้งจอกแก่ -- แต่หมาป่าที่ข้าติดตามก็มีแค่ตัวเดียวเท่านั้นแหละ” ชายชราเอ่ยพลางกระดกเครื่องดื่มของเขา
“เป็นเรื่องที่น่าเสียดายและน่าเศร้าที่สุดของประวัติศาสตร์ไวท์ฟอร์ทเลยก็ว่าได้นะครับ ตอนที่คุณถอนตัวออกมาจากไวท์ฟอร์ทน่ะ” ชายหนุ่มเอ่ย เขาเทเหล้าเติมลงในแก้วของชายชรา “มันไม่จำเป็นเลยจริงๆ ลอร์ดโดรเว็ตต์ในตอนนั้น -- ”
“มันไม่เกี่ยวกับที่เขาเป็นคนยังไง.... ยังฟ็อกซ์ (Young Fox)....” ชายชรายกแก้วของเขาขึ้นดื่มอึกใหญ่ “ต่อให้เขาจะเลวกว่านั้นอีกร้อยเท่า ตราบใดที่เขาไม่ขายชาวเมือง ข้าก็จะจงรักภักดีต่อเขา -- ”
“ทั้งๆที่เขาทรยศความศรัทธาของคุณ ยอมแพ้เบโอวูล์ฟ..... ยกเลิกการแต่งงานระหว่างลูกชายคุณกับลูกสาวของเขา -- แล้วส่งลูกสาวของเขาให้กลายเป็นเจ้าสาวของลอร์ดเบโอวูล์ฟน่ะหรือ?” เอเคลเซธเอ่ยถามโดยพยายามใช้น้ำเสียงราบเรียบ
“เมื่อพิจารณาจากผลลัพธ์แล้ว ข้าเดาว่าเจ้าพอใจไม่ใช่หรือ เจ้าซุปขนมปัง?ต” ชายชราหรี่ตามองชายหนุ่ม
“ผมเพียงแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงยังเคารพคนชั่วร้ายแบบนั้น.... คุณไม่เจ็บใจหรือไงที่โดนทำมากขนาดนั้น?”
“หรืออย่างน้อยเขาก็ยังพอจะเชื่อฟังคำแนะนำครั้งสุดท้ายของข้า เพื่อเลี่ยงการนองเลือดของชาวเหนือ.....” ชายชราเอ่ยเสียงเย็น เขาเงยหน้าขึ้นมองฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว “เรื่องที่ข้าคาดไม่ถึงก็คือ เขาฆ่าตัวตายไปโดยที่แบกรับความเลวร้ายไปกับเขาด้วย..... และเพราะแบบนั้นนั่นแหละ -- ข้าถึงได้ออกจากที่นั่นมา......”
เอเคลเซธเบิกตากว้างอย่าตกใจ เขาได้รับรู้ข้อมูลที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนจาก อดีตจิ้งจอกแห่งไวท์ฟอร์ท หากนั่นเป็นเรื่องจริงก็เท่ากับว่า ประวัติศาสตร์เกือบทั้งหมดที่เขารู้เกี่ยวกับอดีตลอร์ดของไวท์ฟอร์ทเป็นเรื่องลวงโลก
“จำเอาไว้.... จิ้งจอกน้อย.....” แจ็คกล่าวอย่างหนักแน่นพร้อมกับหันหนามาหาเขาและจ้องมองเขาอย่างแน่วแน่ “เพื่อชาวไวท์ฟอร์ทแล้ว..... ต่อให้ต้องถูกตราหน้าจากคนทั้งโลกว่าเป็นคนเลวร้าย..... ในฐานะที่เจ้าเป็นจิ้งจอกรุ่นปัจจุบัน เจ้าต้องเลือกทางออกที่ดีที่สุดเพื่อชาวไวท์ฟอร์ทเสมอ..... และจงสนับสนุนผู้นำของเจ้าให้เป็นหมาป่าแห่งเมืองเหนือได้เต็มภาคภูมิแบบนั้น”
“ทราบแล้วครับ.....” เอเคลเซธเอ่ยอย่างหนักแน่น
“ดี......” ชายชราเบือนสายตาไปมองทหารที่กำลังสังสรรค์อย่างร่าเริงเบื้องหน้า “ดีแล้ว.......”
“ขอบคุณมาก แจ็ค......” เอริคเอ่ยกับชายชราที่ยืนกอด อกเอียงคอมองพวกไวท์ฟอร์ทที่เก็บข้าวของพร้อมจะออกเดินทางแล้ว “ข้าจะไม่ลืมรสชาติของเหล้าที่บ่มในถังไม้โอ๊คนั่นเลย”
“เออเฮอะ...... ข้าไม่ติดใจเหล้าอีกสองถังที่หายไปหรอก” ชายชรายอมให้เอริคกอดเร็วๆ ก่อนที่เขาจะเดินไปขึ้นม้าและนำขบวนออกเดินทาง
“ขอบคุณขอรับ ท่านทอมสัน” โคล์ดี้กล่าวอย่างสุภาพก่อนจะตามเอริคไป
“ไอ้หนุ่มนี่......” ชายชราเอ่ยพลางพิจารณาลีโอไนดัส “ลูกของเจ้าสิงโตนั่นล่ะสิ” ลีโอไนดัสของชายชราตื่นๆ เขาก้มหัวให้กับชายชราและรีบขึ้นมาไป “หน้าเหมือนพ่อมันยังกะลูก.....”
“คุณทอมสัน.....” เอเคลเซธรั้งท้ายไว้ เขารอทุกคนออกไปไกลพอสมควรแล้วจึงบอกว่า “ขอบคุณที่ช่วยเหลือเรา และขอบคุณที่ส่งต่อความลับมาให้ผม.....” เขาสบตากับชายชรา ที่ไม่พูดว่าอะไรก่อนจะพูดต่อว่า “ผมจะเป็นจิ้งจอกแห่งไวท์ฟอร์ทแบบเต็มภาคภูมิสมกับที่รับสืบทอดชื่อนี้มา.....”
ชายชราพยักหน้าเงียบๆ เอเคลเซธขึ้นมาและจากอดีตจิ้งจอกแห่งไวท์ฟอร์ทไป......
*“That freak still put the bread in the soup” Jack’s Quote: “ไอ้บ้านั่นก็ยังใส่ขนมปังลงในซุปอยู่ดี”
อาหารดั้งเดิมของไวท์ฟอร์ทคือซุปร้อนๆเฉยๆ โดยไม่มีเครื่องอะไรมาก -- แต่การใส่ขนมปังลงไปในซุปถือเป็นวัฒนธรรมอื่นต่างกับชาวไวท์ฟอร์ทแบบดั้งเดิม แม้ว่าไวท์ฟอร์ทในยุคปัจจุบันจะกินซุปแบบใส่เครื่องและขนมปังบ้างแล้ว แต่การที่แจ็คกล่าวมาดังนี้ เป็นการสื่อว่า เขาไม่ยอมรับในลอร์ดเบโอวูล์ฟนั่นเอง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ