The Water's Pure Heart: ดวงใจของสายน้ำ

-

เขียนโดย Valentinlover

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เวลา 22.14 น.

  56 ตอน
  0 วิจารณ์
  53.18K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 10.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

56) ฉันคือจุ๊ยคนเดิมของนายเสมอ อาราอิ... บทอวสาน..

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

        

ชาย หนุ่มวัยสามสิบกลางๆยืนกอดอกฟังเสียงเพลงจากวงดนตรีนักศึกษาที่กำลังบรรเลง เพลงแจ็สชื่อดัง พวกเขามีกันสามคน  คนหนึ่งเล่นแซกโซโฟน อีกคนไวโอลีน และอีกคนเล่นคีย์บอร์ด 

นั่นชวนให้ชายหนุ่มนึกถึง The Trio Tenders ตอนนี้วงนั้นกลายเป็นอดีต สมาชิกทุกคนแยกย้ายไปมีชีวิตของตัวเอง 

โดยเฉพาะคนหนึ่งกลายเป็นนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จมากมายทั้งที่อายุยังน้อย

แล้วก็ยังนึกไปถึงวงดนตรีสามคนที่เด็กหนุ่มผู้มีรอยยิ้มสดใสเป็นนิตย์ชมดูอย่างสนใจ จนเขาอดไม่ได้จะเข้าไปขอร้องให้เขาได้ร่วมแสดง..

“โอโตซัง” เสียงเรียกของเด็กชาย พร้อมร่างเด็กชายวัยราวสิบปีวิ่งมาหาในชุดนักกีฬาเบสบอล

“โชจังอย่าวิ่ง” หญิงสาวเดินตามมา

“จะวิ่งทำไมเดี่ยวก็ล้มไปอีก  นี่ดูสิได้แผลใหญ่เลยเห็นไหม” ว่าแล้วก็ดึงแขนให้ชายหนุ่มดู

“เอาน่านามิจัง  เด็กผู้ชายก็ต้องซนอย่างนี้ล่ะ มีแผลนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอกน่า” ชายหนุ่มกล่าวแล้วย่อตัวลงมาเด็กชาย

“ล้างแผลแล้วรึยัง” เขาถาม

“เรียบร้อยครับ  ผมทำตามที่โอโตซังสอนทุกอย่างเลย” โชจังตอบ

“อาราอินายก็เข้าข้างกันเข้าไปนะ  ซนขนาดนี้ไม่ไหวหรอกนะ” นามิจังตอบแล้วส่ายหัว

“กลับกันเถอะ เดี่ยวต้องเปิดร้านอีก” อาราอิกล่าวแล้วก็เดินไปคู่กับโชจัง

นามิจังยิ้มแล้วมองชายหนุ่มก่อนจะเดินไปเคียงข้าง

“เออนี่... วันนี้มีนักดนตรีคนใหม่มานะ  เขาโทรศัพท์มาสมัครงาน  เขาบอกว่าอยากได้งานทำในญี่ปุ่น  ฉันก็เลยให้เข้าทำงานเลย”

“อะไรกัน  ยังไม่ได้มาด้วยตัวเอง ทำไมนามิจังถึงรับเข้ามาเลยล่ะ หน้าตาเป็นยังไงก็ยังไม่รู้”

“เอาน่า... คนนี้นามิรับรองว่าอาราอิต้องชอบแน่นอน”

“ขนาดนั้นเชียว แสดงว่าต้องมีชื่อเสียง”

“เอาไว้เจอก็รู้เองน่าอาราอิ”

 

The Water’s Pure Heart คือ ชื่อของผับที่อยู่บนชั้นสองของโรงแรมที่อยุ่ในย่านนัมบะ ผับนี้เป็นผับแจ๊สที่มีชื่อเสียงเรื่องการแสดงสด ทั้งนี้เพราะนักแซกโซโฟนชื่อดังของญี่ปุ่นทำงานอยู่ที่นี่ 

แต่อาราอิผู้เป็นเจ้าของร่วมกับนามิจัง กำลังปวดหัวกับการที่อยู่ๆ ซาดากะ โทชิ นักแซกโซโฟนตัวหลักของผับมาลาออกไปเพื่อไปร่วมวงดนตรีแจ๊สชื่อดังของญี่ปุ่น ที่โตเกียว

อาราอิประกาศหานักดนตรีมาเกือบเดือน  ซึ่งนามิจังก็แนะนำว่าควรจะจ้างนักดนตรีมีชื่อเสียงมาแสดงทดแทนไปก่อน  แต่ต่อมาอาราอิก็เริ่มหนักใจเพราะต้นทุนมันสูงมาก หากพวกเขาไม่ได้นักดนตรีใหม่มาเร็ววัน  มีหวังต้องปิดกิจการเพราะขาดทุน

ดังนั้นพอนามิจังบอกว่ามีนักดนตรีใหม่แล้ว  แม้ยังอุบไม่ยอมบอกชื่อเขาก็ยังรู้สึกดี  เพราะตอนนี้นามิจังมีความรู้เรื่องดนตรีมากขึ้นแล้ว คงจะสามารถแยกได้ว่าอะไรคือของดี  และอะไรก็แค่ธรรมดา  เธอคงแน่ใจแล้วว่านักดนตรีคนนี้คือคนที่ใช่

ทว่าตอนนี้เขากำลังหงุดหงิดมาก.. เพราะทุกวันเขาจะต้องมองยืนมองกล่องแซกโซโฟนโซปราโน่ที่ก็เก็บเอาในตู้กระจก ข้างโต๊ะทำงาน ก่อนออกไปทำงานในร้าน

แต่วันนี้ตู้นั้นว่างเปล่าไม่มีกล่องแซกโซโฟน

“นามิจัง” อาราอิกดโทรศัพท์ออกไปด้านนอก

“ใครเอาแซกโซโฟนตัวนั้นไป”

เขารอสักครู่  ประตูห้องก็เปิดเข้ามา

แต่ไม่ใช่นามิจัง แต่เป็นหนุ่มรุ่นพี่ร่างสูงพอๆกับเขา คิมูระซัง

“อ้อ.. ฉันเอาไปให้นักดนตรีใหม่” เขาบอก

กับคิมูระ อาราอิยังเกรงใจตามภาษาคนที่เด็กกว่า แต่เขาก็ยังไม่พอใจ

“แล้วรุ่นพี่ให้เขาไปได้ยังไง” อาราอิถาม

“ก็เขาบอกว่าเขาต้องใช้โซปราโน่  แต่เขาไม่มีโซปราโน่  มีแต่อัลโต้กับเทนเนอร์  ฉันก็เลยต้องเอาให้เขาไป” คิมูระซังกล่าว

“นายออกมาดูเองดีกว่า เขากำลังจะเล่นแล้ว”

อาราอิรู้สึกหงุดหงิดแต่เพราะคิมูระซังคือสามีของนามิจัง  และเป็นรุ่นพี่ อายุมากกว่าก็เลยต้องเกรงใจ ไม่ได้ตอบโต้ออกไป

จะว่าไปสองคนนี้ที่ได้สมรักสมรสกันก็เพราะอาราอิมากราบขอร้องกับบิดาของนามิจังด้วยตัวเอง 

เขาสารภาพเรื่องราวนอกใจแบบผิดเพศของเขาให้ท่านฟังด้วย ท่านจึงได้ยอมให้อาราอิหย่าขาดจากนามิจัง และยอมให้แต่งงานใหม่กับคิมูระซัง   ซี่งทั้งนี้เพราะนามิจังท้องได้สี่เดือนแล้ว

กระนั้นเขากับนามิจังก็ยังรักษามิตรภาพที่ดี  คิมูระซังกลายเป็นเพื่อนสนิทอีกคนของเขา และโชจังก็เรียกเขาว่าเป็นพ่ออีกคนหนึ่ง

อาราอิส่ายหัวไปมาก่อนจะลุกขึ้น

อยากเห็นนักว่านักแซคโซโฟนหน้าใหม่คนนี้จะเก่งแค่ไหน  ทำไมทั้งนามิจังและคิมูระซังถึงได้ความสำคัญกันขนาดกล้าเอาของรักของหวงของ เขาไปให้ใช้

ผับนี้ตกแต่งด้วยสไตร์โมเดิร์นด้วยสีสันที่เรียบง่ายแต่งดงาม 

มีพื้นที่ให้เวทียกพื้นที่ใช้ในการแสดงสด  ซึ่งจะมีแกรนด์เปียโนตัวใหญ่ตั้งอยู่ด้วย 

อาราอิออกมายังไม่ได้เห็นเวทีพื้นยก แต่ได้ยินเสียงปรบมือคนคนดู 

ต่อ มาเขาก็ได้ยินเสียงของโซปราโนแซกโซโฟนที่เขาหวงแหนกำลังเปล่งเสียงอันไพเราะ ของมันออกมาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มันถูกเก็บเอาไว้ในกล่อง..

เสียงของมันอัศจรรย์  มันงดงามและทำให้เพลง Petite Fleur ของ Sidney Bechet สว่างสดใสในบรรยากาศของผับแจ๊สที่มีเพียงแสงสลัว

นี่มัน.. ไม่ผิดแน่แล้ว  สักกี่คนในโลกที่จะเล่นได้ระดับนี้ คนที่ลากหางเสียงได้ไพเราะไม่แพ้กับต้นฉบับ  แม้จะไม่เหมือนกัน แต่ก็เป็นหางเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ หางเสียงที่เขย่าจิตวิญญาณ แม้แตกต่างเล็กน้อยกับการบรรเลงของ Sidney Bechet แต่ก็ทำให้เกิดความงดงามอีกรูปแบบหนึ่งของบทเพลง

บทเพลงตรึงคนฟังให้อยู่กับที่ และเผลอจับที่หัวใจ เพราะนี่คือเสียงของ The Soul Waver ที่สั่นหัวใจคนมาแล้วทั่วโลก

มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้...

ชายหนุ่มเดินมาถึงหน้าเวที  บนนั้นมีชายหนุ่มในชุดสีดำสนิท  กำลังถ่ายทอดบทเพลงนั้นอย่างเต็มความสามารถ 

เจ้าของที่แท้จริงของโซปราโน่แซกโซโฟนตัวนี้

Selmer Paris Series III Model 53 Jubilee Edition มันเคยรอเจ้าของตัวจริงเป็นเพื่อนอาราอิหลายปี   แต่บัดนี้มันกำลังเปล่งเสียงออกมาอย่างทรงพลัง...

ราวกับมันกำลังร้องบอกอาราอิว่า นี่อย่างไรคนที่เราเฝ้ารอมานับสิบปี...

อาราอินึกไปถึงตอนที่เขาได้รับมันคืนมา

ที่สนามบินสุวรรณภูมิ 

หนุ่มน้อยส่งยื่นกล่องแซกโซโฟนคืนมา

"ในเมื่อนายจะกลับไปจัดการเรื่องของนามิจัง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหนได้ หรือสำเร็จหรือเปล่า.. ฉันก็จะยังไม่รับมันเอาไว้  นายเอามันกลับไปก่อน แล้ววันหนึ่งเมื่อฉ้นกลับมาอีกครั้งฉันจะมาขอมันคืนไป"หนุ่มดวงหน้าจีนกล่าว แล้วจ้องลึกในดวงตาของเขา

"และถ้านายยังเหมือนเดิม และฉันยังเหมือนเดิม ฉันจะไม่จากนายไปไหนอีกเลย"

 

เดินมาเรื่อยๆ เพียงสองคน ชายหนุ่มสองคนยังไม่ได้พูดจา  จนกระทั้งเดินมาถึงริมน้ำที่มองไปเห็นชิงช้าสวรรค์ของเทพฟุกุโรกุยูริมคลอง ย่านโดทนโบริ

ทั้งสองยังคงนั่งเงียบต่อไป  มองสายน้ำเต้นระริกล้อแสงไฟ ทำให้เกิดประกายระยิบระยับ

“นายได้เข้าปาจิงโกะบ้างหรือยัง” ชายหนุ่มถาม

อาราอิยิ้มจางๆ

“เข้าแล้ว  ก็คิดถึงนายไงก็เลยเข้าไป  แต่ไม่ได้เล่นละคร หรือหัวเราะโฮ่ๆตอนเข้าไปหรอกนะ”

“แล้วเป็นไง  หมดตูดเลยใช่ไหมล่ะ” ชายหนุ่มถาม

“ก็หมดกระเป๋าเลยล่ะ เพราะฉันเล่นเป็นที่ไหนล่ะ” อาราอิหัวเราะใสๆ

แล้วทั้งคู่ก็เงียบไป

“นายเป็นยังไงบ้าง” อาราอิถาม

“ก็.. ลำบากน่ะ  เหนื่อยจะแย่  วันๆหนึ่งซ้อมเป่าแซกจนแก้มป่องแล้วเห็นไหมเนี่ย” เขาเอามือจิ้มแก้มให้ดู

“ไม่ใช่มันป่องเพราะอ้วนหรอกเหรอ” อาราอิตอบบนรอยยิ้ม

“ไม่นะเว้ย... ดูๆนี่หน้าท้องแบนราบ” เขาถลกเสื้อให้ดู

อาราอิหัวเราะ

“นายนี่เหมือนเดิมเปี๊ยบ  เป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น”

เขามองหน้าอาราอิที่สว่างขึ้น

“แล้วนายเป็นยังไงบ้าง”

“ก็วันๆก็ทำงานอยู่ที่ผับ พาลูกนามิจังไปเที่ยวบ้าง แล้วก็ทำงาน ชีวิตวนๆเวียนอยู่อย่างนี้”อาราอิตอบ

แล้วก็เงียบไปสักครู่ จนกระทั้งอาราอิเป็นฝ่ายเริ่มก่อน

“เราทั้งคู่ยังเหมือนเดิมรีเปล่า” อาราอิถามแล้วหันมองหน้า  แม้จะมีวัยมากขึ้น แต่ดวงหน้านั้นก็คือดวงหน้าเดิมที่เขาปรารถนาจะได้เห็น

“ก็นายคิดว่าเปลี่ยนไหมล่ะ”  ถามกลับ สบตานิ่ง

“ก็เปลี่ยนนะ  ตอนนี้นายคือ Mr. Jerome Jang  The Soul waver นักดนตรีระดับโลก ส่วนฉันเป็นแค่เจ้าของผับแจ๊สธรรมดาคนหนึ่ง” อาราอิตอบ

“แล้วทำไมนายไม่เรียกฉันว่า จุ๊ยล่ะ.. ในเมื่อสำหรับนายฉันคือไอ้จุ๊ย...” จุ๊ยกล่าวออกไป  แล้วก็กอดร่างนั้นไว้

“ฉันคิดถึงนายทุกวัน  สิบปีมานี่ไม่มีสักวันที่ฉันเป็นคนอื่น  ใครจะเรียกฉันว่ายังไง  แต่ฉันก็คือไอ้จุ๊ย  ไอ้จุ๊ยที่รักนายเสมออาราอิ”

อาราอิดันจุ๊ยออกไปนิดหนึ่ง  เขายิ้มแล้วมองจุ๊ยให้เต็มตา

“ฉันก็เหมือนกัน.. ฉันคิดถึงนาย ทุกวัน... ยิ่งได้ยินเสียงเพลงของนายฉันก็ยิ่งคิดถึง  ฉันรอนานมากให้นายกลับมา”

แม้บรรยากาศรอบตัวในย่านโดทนโบริจะวุ่นวายสักเพียงไร

แต่สำหรับคนสองคนที่รอคอยกันอย่างยาวนาน.. โลกรอบข้างพลันเงียบไป

อาราอิจุมพิตลงที่ริมผีปากแดงๆ  แล้วก็กอดร่างนั้นเอาไว้แนบแน่น..

“ฉันจะไม่ปล่อยนายไปไหนอีกแล้วจุ๊ย”

 

เทพฟุกุโรกุยูเหมือนจะมองมา ตอนที่สองคนลุกขึ้นแล้วก็โอบเอวประคองกันเดินไป.. รอยยิ้มของท่านหมายความว่าอย่างไร..

แต่สำหรับคนทั้งคู่รอยยิ้มที่อยู่บนสองใบหน้า  สื่อสารออกมาตรงกันคือความสุขใจ...

สายน้ำที่ทอดยาวเต้นระริกล้อแสงแพรวพราว เหมือนกับมันเริงระบำแสดงความยินดีกับคนที่มีชื่อเป็นสายน้ำ...

จุ๊ย นทีธาร The Water's Pure Heart ที่ทั้งหัวใจมีเพียง โยชิฮิสะ อาราอิ เพียงคนเดียวเท่านั้น

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา