The World of Dungeon นี่นะหรือคือโลกดันเจี้ยน?

8.3

เขียนโดย Cristena

วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.34 น.

  6 ตอน
  0 วิจารณ์
  8,413 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558 22.49 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) Dungeon003 : หนีตายอลหม่าน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                       Dungeon003 : หนีตายอลหม่าน

 

                        ร่างของชายหนุ่มที่มาปรากฏอยู่กลางทุ่งหญ้า ที่ต้นไม้ใหญ่บ้างประปรายล้อมรอบ  สายลมที่พัดผ่านอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าความสดชื่นและสบายตัวได้อย่างดี กลิ่นของพืชพรรณและสายลมเข้ามาในโสตประสาทการรับรู้  วิวทิวทัศน์เป็นพื้นป่ากว้างไกลสุดตา 

 

                        ก่อนที่เขาจะเดินยังโขดหินแห่งหนึ่งที่มันตั้งตระหง่านขึ้นมา

 

                        “นี่มันเหมือนในเกมจริงๆนะเนี่ย.....”  เขาบ่นพึมพำ ก่อนจะรู้สึกว่ามีเรื่องที่ต้องทำก่อน  เขายกมือขึ้นมาแล้วเลื่อนลงเหมือนกับจะดูหน้าต่างสถานะของตน  เพียงแต่

 

                        .....ว่างเปล่า.....

 

                        ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เขานิ่งไปซักพักก่อนที่ทำแบบเดิมอีกรอบ และก็เป็นอีหรอบเดิม

 

                        ....ว่างเปล่า  ไม่มีอะไรปรากฏขึ้นมา....

 

                        เขาเริ่มอารมณ์เสียเล็กน้อยก่อนปัดอีกครั้ง และก็เป็นเหมือนเดิมไม่มีอะไรเกิดขึ้นมา

 

                        เขาเลยทั้งปัด สไลด์ และอื่นๆที่เขาสรรหาคิดได้ ทั้งบนทิศทางซ้ายไปขวา ขวาไปซ้าย บนมาล่าง ล่างมาบนและอีกทั้งแนวทแยงก็เป็นเหมือนเดิม ใช้สองนิ้วก็แล้ว สามถึงห้าก็แล้ว มีบางครั้งเขาตะโกนพลางเลื่อนไปด้วยก็ปรากฏว่าเป็นเหมือนเดิม

 

                        ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

                        จนในที่สุดเขาใช้เวลากลับมันไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมง จนเขาเริ่มจับทริคอะไรได้บางอย่าง ที่นี้เขาจินตนาการถึงหน้าต่างข้อมูลที่เขาคิดขึ้นมาได้และเลื่อนนิ้วชี้กับนิ้วกลางลงกลางอากาศ พลันก็ปรากฏหน้าต่างโฮโลแกรมอะไรบางอย่างขึ้นมา

 

 

    หน้าต่างสถานะตัวละคร

  1. :  1                                     ระดับ (Status) :   F                       ตำแหน่ง   :   ––

    ชื่อ  ลอส                                       ฉายา   :   ––

    อายุ   :   17  ปี                                เผ่าพันธุ์   :  มนุษย์                         อาชีพ  :  นักผจญภัย

    แฟมิลี่   :   ––                                 กิลด์  :  ––

   Status  :  F                                     Skill  :  SSS                                    Experience  :  0

 

 

                        “เป็นแบบนี้จริงๆด้วย” 

 

                        ลอสพึมพำ  เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจากการลองคิดขึ้นมา  ที่เขาเสียเวลาไปชั่วโมงกว่านั้นมันขาดอะไรบางอย่างที่ทำไม่ให้สำเร็จหรือไม่ปรากฏหน้าต่างขึ้นมา  นั่นเพราะเขาลืมจินตนาการถึงลักษณะของหน้าต่างและข้อมูล  ซึ่งการที่เขาเลือกภาพโฮโลแกรมนั้น จากที่เขาคิดมันจะไม่เหมือนกับสร้อยคอมือหรือการ์ดที่มันมีรูปร่าง ซึ่งน่าจะถูกป้อนโปรแกรมเอาไว้ล่วงหน้าก่อนอยู่แล้ว นั้นน่าจะทำให้พวกเธอสองสาวเปิดขึ้นมาได้เลย แต่เขาก็ไม่รู้วิธีเปิดมันเช่นกันเนื่องจากจะลองดูเท่านั้น 

 

                        แต่โฮโลแกรมของเขา ต่างจากของพวกเธอที่ไม่มีรูปร่าง ดังนั้นการที่เขาจะเปิดหน้าต่างตัวละครขึ้นมาได้นั้น ต้องอาศัยหลักการจินตนาการให้มันเกิดขึ้นมานั่นเอง

 

                        ส่วนข้อมูลเขาก็ใส่เฉพาะที่จำเป็นลงไปก่อน จากการอยู่โลกเก่าของเขา เขามีโอกาสได้เล่นเกมแล้วศึกษาพวกหน้าต่างสถานะนั่นทำให้เขาจำมาเอาลองใช้ดู  ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร

 

                        เขาเลื่อนมือไปแตะตรงคำว่า สเตตัส[Status] พลันก็มีหน้าต่างขึ้นอีกมาอีกหน้าต่างหนึ่ง

 

 

   Status[สเตตัส]

   Strength(STR)  :   15   ระดับ  :  F                 Agility(AGI)  :   20       ระดับ  :  F

   Itelligent(INT)  :   25   ระดับ  :  F                  Accuracy(ACC)  :  15  ระดับ  :  F

   Luck(LUGK)  :     10   ระดับ  :  F                  Ability(ABI)  :  20       ระดับ  :  F

   รวม     105             ระดับ  :   F

 

 

                        เมื่อเปิดค่าสถานะดูเขาก็พบว่า มันเป็นค่าที่น้อยต่ำเตี้ยเรี่ยดินอย่างมาก  ค่า STR ไม่ใช่ค่าของเลือด(HP) ตามในเกมออนไลน์ที่เขาเคยเล่น  แต่มันคือค่าพารามิเตอร์ที่เป็นความอดทน แข็งแกร่ง ซึ่งน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการถืออาวุธหรืออุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเขาจะขอเรียกว่าไอเทม 

 

                        เมื่อเขาอ่านทั้งหมดแล้ว เขาก็สรุปได้ดังนี้

 

                        STR  คือ ค่าความแข็งแกร่งของร่างกาย อดทน ซึ่งวิธีการเพิ่มค่านั้นน่าจะเป็นการฝึกฝนที่เกี่ยวข้องโดยใช้ร่างกายเป็นหลักและมีส่วนเกี่ยวข้องในการถือไอเทมต่างๆ

 

                        AGI คือ ค่าความเร็วและหลบหลีกของร่างกาย  การจะเพิ่มค่านี้คงต้องหมั่นวิ่งบ่อยๆ ถ้าจะให้ดีคงต้องวิ่งแบบเลือดตาแทบกระเด็น

 

                        INT  คือ ค่าความฉลาด ปฏิภาณไหวพริบและค่าพลังเวทมนต์ด้วยถ้าอิงจากเกมที่เขาเคยเล่น  จะเพิ่มค่านี้ได้ต้องไปที่ๆมีพลังธรรมชาติแล้วดูดซับพลังมาเอาไว้ในตัว 

 

                        ACC  คือ ค่าความแม่นยำ ซึ่งอยากเพิ่มมันได้ก็ต้องฝึกฝนเหมือน STR

 

                        LUCK  ตามตรงตัวของมันคือความโชคดี ซึ่งผมก็ไม่รู้วิธีการเพิ่มค่าของมันเช่นกัน

 

                        และอย่างสุดท้าย คือ  ABI น่าจะเป็นทักษะธรรมดาที่เราสามารถทำได้ เช่นการฟัน มันก็จะเพิ่มให้ การปรุงยาหรือการปีนป่าย ซึ่งมันจะปรากฏขึ้นมาได้จาก การกระทำของเรา

 

                        ลอสถอนหายใจยาวๆ  เมื่อเห็นระดับสเตตัสเป็น F หมด ซึ่งข้อมูลนี้เขาไม่ได้คิดมันขึ้นมา ซึ่งมันน่ามาจากค่าสถานะจริงๆของเขาที่เป็นอยู่  เขาเพียงแค่จัดตำแหน่งว่ามันควรอยู่ตรงไหน  ข้อมูลมันก็ปรากฏขึ้นมาให้เอง

 

                        มีเพียงสกิลนี่แหละที่เขาสงสัยว่าทำไมระดับของมันถึงเป็น SSS  ทั้งที่เขาได้สกิลแปลภาษาสูงสุดเป็นแค่ระดับ S เท่านั้น ซึ่งเขาได้นึกทบทวนก็ได้คำตอบออกมา 

 

                        “หรือมันจะเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายกันนะ”  ลอสพึมพำก่อนจะจิ้มไปยังคำว่า สกิล[Skill]  เพียงแค่นั้นเขาก็อ้าปากค้างกับสิ่งที่เห็น

 

                       

   Skill[สกิล]

   สกิล   แปลภาษา (S) [Passive Skill]  

    ระยะเวลา  :  ตลอด ไม่มีดีเลย์

-                  สามารถพูดคุยภาษาอื่นได้ทุกภาษา

-                  สามารถฟังภาษาอื่นได้ทุกภาษา

-                  สามารถเขียนภาษาอื่นได้ทุกภาษา

-                   สามารถอ่านภาษาอื่นได้ทุกภาษา

    สกิล   Release Status (SSS) [Passive Skill]

     ระยะเวลา :  ตลอด ไม่มีดีเลย์

-                   ค่าสถานะทุกอย่างที่เรียนรู้หรือได้มาจะเพิ่มขึ้น  4  เท่า

 

 

    สกิล   ร่างสถิตแห่งพระเจ้า (SSS) [Active Skill]  

     ระยะเวลา  :  ดีเลย์  3  วัน

-                   ร่างสถิตแห่งพระเจ้าองค์ที่ 9   คามิเอล  ลูอิซ  อาส  อาดาเรีย

ความสามารถสกิล

-                   เมื่อเรียกใช้สกิลร่างสถิตแห่งพระเจ้า  ค่าสถานะทุกอย่างเพิ่ม 100,000 หน่วย  เป็นเวลา  3 นาที  (ขั้นที่ 1 )

-                   จะเพิ่มค่าสเตตัส 0.05 เท่าของสเตตัสทั้งหมด เมื่อมอนเตอร์ถูกสังหารด้วยร่างนี้ /จำนวน 1 ตัว  (ขั้นที่ 1 )

-                   สามารถเสริมที่ติดมาจากสกิลได้  [สกิล  เกราะแห่งเทพพระเจ้า] (ขั้นที่ 1 )

-                   ??????????   (รอปลดขั้นที่ 2 )

ความสามารถเสริม

     สกิล  เกราะแห่งเทพพระเจ้า (SS) [Active Skill]  

     ระยะเวลา  :  จนกว่าสกิลร่างสถิตแห่งพระเจ้าจะหมดเวลาลง

-                   การโจมตีทุกอย่างที่ระดับ SS ลงไปไม่สามารถทำอันตรายได้เป็นเวลา 1 นาที

-                   อาวุธทุกอย่างที่ระดับตั้งแต่ S ลงไป จะสลายหายไปเมื่อมาสัมผัสกับเกราะ

                       

 

                        เมื่อชายหนุ่มมองแล้วก็แทบไม่อยากเชื่อสายตาพลางขยี้ตาแล้วขยี้ตา เมื่อคิดว่าเป็นเพียงแค่ความฝัน  ทว่ามันคือความจริง เขาได้รับที่มากมายจากพระเจ้าถึงจะยังไม่เป็นก็เถอะ แต่ที่สะกิดใจเขา คือความสามารถสกิลที่มันขึ้นว่า   ?????  (รอปลดขั้นที่2)  แน่นอนว่า ไอ้พระเจ้าต้องให้เขาทำอะไรบางอย่างแน่ หรือไม่ก็ต้องไปเจอหน้าอีกฝ่ายแล้วถามตรงๆเลย

 

                        “โคตรโหดชิบ.....”  ชายหนุ่มเปรยออกมาไม่ได้ ด้วยน้ำหน้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก  โดยหารู้ไม่เจ้าตัวที่กำลังพูดถึงนี้กำลังหัวเราะขำกลิ้งนอนลงไปกลับพื้นที่อีกฝ่ายแสดงสีหน้านี้ออกมา  ก่อนจะเมื่อลืมอะไรไปบางอย่าง

 

                        “ชั่งมันเถอะ.....”  เขาตัดบทสนทนา

 

                        พลันแสงสีส้มค่อยๆลับขอบฟ้าไป  เขาพึ่งมารู้สึกตัวว่าเขาใช้เวลาวันหมดไปกับการนั่งเปิดหน้าต่างค่าสถานะ ไม่รู้ว่ามันเริ่มมืดแล้ว จากการที่เขามีประสบการณ์เล่นเกมออนไลน์จากโลกเก่า กลางคืนนั้นมอนเตอร์จะเก่งกว่าตอนกลางวันมาก  ซึ่งเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทฤษฏีมันจะใช้กับโลกแห่งนี้ได้หรือไม่  ทว่าขออย่าให้ใช้ได้เลยก็แล้วกัน ไม่งั้นเขานี่แหละที่จะซวย

 

                        เขากระโดดลงจากโขดหิน  พลันกำลังจะเดิน ก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างจากการด้านหลัง

 

                        กรร......

 

                        เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นที่ด้านของเขา  และเสียงฝีเท้าที่วิ่งตีออกข้างอย่างรวดเร็วดังกระฮึม ทำให้รู้ว่ามันไม่ได้มีแค่ตัวเดียว  สัญชาตญาณของเขาร้องเตือนว่าให้รีบไปจากที่นี่ ก่อนที่มันจะวิ่งล้อมเขาได้สำเร็จ   

 

                        ความคิดชั่ววูบแล่นผ่านไป  สายเลือดของความสงสัยที่เป็นนักวิทยาศาสตร์กำเริบ  ลอสหันหน้าไปข้างหลังอย่างช้าๆ ก่อนดวงตาสีนิลจะเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นร่างของมัน

 

                        ร่างของมันที่ยืนด้วยสี่ขา ตัวของมันสีดำเมื่อมขนาดตัวราว 1-2 เมตรเท่าความสูงของเขา  ดวงตาสีตาสีแดงจับจ้องมาทางเขาที่ราวกับจะเป็นอาหารของมันในค่ำคืนแห่งนี้ ปากที่อ้าค้างอยู่เผยเขี้ยวอันแหลมคมทั้งสองข้างที่สามารถฉีกกระชากด้วยพลังอันง่ายดาย 

 

                        พลันหน้าต่างของข้อมูลของมันก็ปรากฏขึ้นมา

 

 

 

           หมาป่าทมิฬ :  ดาร์ก  แวร์วูฟ         L.V. 3

 

รายละเอียด

-                   มันปรากฏตัวตอนกลางคืน เพื่อสังหารเหล่านักเดินทาง  เขี้ยวของมันสามารถกระชากเนื้อให้ฉีกจากกันได้ เพียงแค่กัดครั้งเดียว 

-                   เมื่ออยู่ในตอนกลางคืน ได้รับแสงจากดวงจันทร์  ค่าสถานะของมันทุกอย่างเพิ่ม 2 เท่า

                       

 

                        เพียงแค่นั้นเสียงถี่หยิบดังขึ้น  ปรากฏร่างของดาร์กแวร์วูฟเหมือนกันหมดทุกตัว มีเพียงบาดแผลที่แตกต่าง  เลเวลของมันบางตัวต่างออกไปแต่เลเวลต่ำสุดคือเลเวลสาม   นั่นทำให้เขาได้ข้อมูลเพิ่มมาอีกอย่างว่า  มอนเตอร์ทุกชนิดสามารถพัฒนาฝีมือได้  ซึ่งไม่รู้ว่ามันเป็นความจริงหรือไม่  แต่เจ้าพวกนี้ก็ได้ไขข้อกระจ่างให้แกเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

                        เท่านั้นเอง ขาของเขาก็ก้าวออกไปอย่างไร้จุดหมาย แต่ก้าวไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว เพื่อต้องการหนีจากสัตว์ร้ายอันหิวโชพวกนี้

 

                        พลันหน้าต่างค่าสเตตัสของปรากฏขึ้นมา เมื่อเขาได้รับความสามารถอย่างหนึ่งมา

 

 

    Ability(ความสามารถ)   ทักษะการวิ่ง

-                  เมื่อเลเวลทักษะนี้เพิ่มขึ้น การวิ่งจะเร็วขึ้น

 

 

                        ลอสปิดหน้าต่างนี้ลงไปฉับพลัน  พลางหันไปมองพวกมันที่เห็นเขาวิ่งหนีอย่างบ้าระห่ำ  ตัวที่เหมือนกับจ่าฝูงกู่ร้องคำราม

 

                        โฮก.....  ฮู่วววว

 

                        สกิลแปลภาษาอันแสนสุดพิเศษก็ทำงานทันที

 

                        “ฆ่ามัน ต้องเอามันมาเป็นอาหารค่ำให้ได้!”

 

                        “รับทราบ!”  พวกมันตอบรับอย่างพร้อมเพรียงและไล่ตามเขาไปอย่างรวดเร็ว

 

                        การไล่ล่าเริ่มต้นขึ้นแล้ว....

 

 

 

                        เขาวิ่งมาเรื่อยๆ หลบหนีพวกมันมา จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถสลัดมันหลุดจากการติดตามได้  เขาวิ่งไปเรื่อยจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปกี่ชั่วโมงแล้ว บนร่างกายของเขามีบาดแผลหลายแหล่ง รอยฝังเขี้ยวก็มันปรากฏสีแดงอย่างเด่นชัด เขาพึ่งมาคิดได้ ที่มันกัดตอนแรก เจ้าพวกนี้มันฉลาดมาก  สามารถตามกลิ่นเขาได้จากรอยเลือด เป็นมอนเตอร์ที่ไม่สามารถเอาไปเทียบกับในเกมออนไลน์ได้เลย  เกมที่เขาเคยเล่นมาทั้งหมดกระจอกไปเลย ไม่มีมอนเตอร์ตัวไหนในเกมต่อให้เป็นบอส ก็เทียบกับเจ้าหมาป่าทมิฬไม่ได้เลย

 

                        และสิ่งที่เกมออนไลน์เทียบไม่ติดก็คือ....

 

                        นี่คือชีวิตจริง ที่เอาไปแขวนอยู่บนเส้นด้าย  จะตายตอนไหนก็ไม่รู้  ทั้งอย่างนั้น ทว่าจิตใจของเขาสงบอย่างประหลาด ทั้งที่มันไม่เกิดขึ้นอย่างนี้มาก่อน  ราวกับว่าเขากำลังสนุกอยู่ สนุกที่ได้เอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง เพราะโลกเก่าคงไม่มีเรื่องแบบนี้ให้เขาทำเป็นแน่

 

                        ส่วนถ้าถามว่าทำไมเขาถึงวิ่งหนีแทนที่จะลองต่อสู้กับมัน เขาต้องขอบอกว่าเขาลองแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะสะกิดความเจ็บปวดให้แก่มันไม่ได้เลย นั่นสงสัยเป็นเพราะค่าสถานะของเขาที่มันต่ำมากๆเป็นแน่ ถึงไม่สามารถสร้างความเสียหายฝากฝังเอาบนร่างของพวกมันได้เลยแม้แต่น้อย และอีกอย่างเขายังไม่รู้ว่าโลกแห่งนี้มันโหดร้ายขนาดไหน จึงคิดว่าเลือกทางหนีคงเป็นเหตุผลมากที่สุดในตอนนี้ 

 

                        ก่อนที่จะคิดอะไรร่างของเขาก็ลอยกระเด็นไปด้านหน้ากระแทกกับรากของต้นไม้ที่ขวางอยู่  กระอักเลือดออกมาคำโต  สายตาก็จ้องมองพวกมันที่เข้ามาใกล้

 

                        เป็นครั้งที่เท่าไรไม่รู้ที่เขาโดนมันพุ่งชนใส่  ร่างกายที่แทบขยับเขยื้อนไม่ได้  อวัยวะภายในบอบช้ำ  กระดูกขาหักจนรู้สึกเจ็บเหมือนโดนอะไรมาทิ่มแทง

 

                        ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นอีกครั้งและก้าววิ่งออกไป  เจ้าหมาป่าดูเหมือนกับกำลังเล่นกับเหยื่อ มันจะทำให้อีกฝ่ายหมดแรงก่อนแล้วก่อนกิน เพราะสีหน้าที่ดิ้นรนของอีกฝ่ายมันกระตุ้นความอร่อยเนื้อของเหยื่อ

 

                        ลอสวิ่งออกมาป่ามาได้สำเร็จ เบื้องหน้าของเขามีทุ่งหญ้าสลับเนิน สีหน้าอันร้อนรนเหลือบมองด้านหลัง เหล่าหมาป่าที่ตามล่าเขาอย่างไม่มีการหยุดยั้ง  ทั้งที่เขาเสียพลังไปมากมายจากความเหนื่อยล้า แต่ขาก็ของก็ยังคงวิ่งต่อไป พลันสายตาหันไปมองเห็นบางอย่างที่ตั้งอยู่เบื้องถัดเนินไปอีก มันเป็นลักษะของกำแพงที่สูงหลายล้อมราวกับว่าป้องกันจากอะไร

 

                        เนื่องด้วยทัศนียภาพในตอนนี้เป็นช่วงเวลากลางคืน ความมืดเข้าปกคลุมไปทั่ว  เลยมองไม่เห็นว่ามันคืออะไร  แต่ในหัวสิ่งที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ไม่ใช่นอกจากอะไรที่มันคงเกี่ยวข้องกับเมือง

 

                        กำแพงที่หลายล้อมนั่นอาจจะเป็นเมืองหรืออย่างอื่นก็ได้

 

                        เขาวิ่งไปก่อนจะสะดุดเท้าตัวเองอีกข้าง  ทำให้ล้มตัวลงไปข้างหน้าก่อนจะรีบจัดแจ้งลุกขึ้นมาและวิ่งต่อไป

 

                        เขาสัญญากับลูอิสเอาไว้แล้วว่าจะต้องช่วยเขาให้ได้  ดังนั้นเขาไม่มีเวลามามัวนอนเล่นอยู่ตรงนี้หรือมาทิ้งชีวิตที่นี่

 

                        เมื่อมาถึงสายตาที่มองเห็นได้ในระยะ 50 เมตร เขาก็รีบวิ่งเร็วขึ้นมากกว่าเดิม  ทว่าเหมือนกับว่าที่ผ่านมาพวกมันแค่เล่นกับเหยื่อเท่านั้น  ตอนนี้มันคิดจะฆ่าอีกฝ่ายขึ้นมาจริงๆแล้ว 

 

                        อ้าก!!!

 

                        ความเจ็บปวดจากหัวไหล่ส่งผ่านมายังร่างกาย  เขี้ยวของมันฝังเข้าไปในหัวไหล่ เขาดิ้นพรากและยังออกวิ่งต่อไป ความเจ็บปวดที่สามารถฉีกกระชากเนื้อให้ขาดออกจากกันได้  เขี้ยวที่ทิ่มแทงมันทรมานใจจะขาด  แต่เขายังคงสติอันน้อยนิดเอาไว้ได้ พลางเปลี่ยนจากการวิ่งมาเป็นการเดิน 

 

                        อ้าก!!!

 

                        ก่อนที่อีกตัวมันฝังเขี้ยวอันแหลมคมที่ขาของเขา เป็นการตัดกำลังอีกฝ่าย เขาตอนนี้ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้แล้วก็เอนตัวลงนอนราวกับหุ่นเชิดที่เชือกขาด ดวงตาสีนิลจ้องใบหน้าของมัน

 

                        ถึงจะเดินไม่ได้  ตัดกำลังไปขนาดไหน ความเจ็บปวดทรมานสักเพียงใด ดวงตาสีนิลของเขาก็ยังไม่ปรากฏดวงตาของคนที่ยอมแพ้เลยแม้แต่น้อย  ทำให้มันฉุนเฉียวไม่น้อยที่ไม่เป็นดั่งที่มันคาดเอาไว้

 

                        และร่างกายรับภาระก็เกินขีดจำกัด เขาสลบไปทั้งอย่างนั้นอีกไม่กี่ก้าวของรอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชนี้แล้ว

 

                        มันกู่ก้องคำราม เมื่อเป้าหมายของมันสิ้นฤทธิ์  ตัวที่เป็นจ่าฝูงเดินเข้ามาใกล้มัน มองใบหน้าของเหยื่อที่เป็นอาหารค่ำอันโอชะ  มันอ้าปากเผยให้เห็นเขี้ยวที่คมกริบเรียงติดกัน ก่อนจะฆ่าอีกฝ่าย

 

                        พลันเสี้ยววินาทีที่มันปากของมันจะได้ลิ้มลองเนื้อมนุษย์  โลหิตก็สาดกระเซ็นขึ้นมา  กว่าจะมารู้ตัวก็สายไปสำหรับมันเสียแล้ว 

 

                        เมื่อร่างของมันถูกผ่าแบ่งครึ่งเป็นสองท่อน ก็จะตามมาด้วยเสียงอันโหยหวนของตัวอื่นๆ  ตัวที่อ่อนแออกว่าเห็นท่าไม่ดีจึงเรียกพรรคพวกหนีกลับเข้าป่า  จนไม่มีเสียงร้องของพวกมันหลงเหลืออยู่  พลันมีร่างของใครบางคนปรากฏขึ้นมา ร่างนั้นจ้องมองร่างที่ไม่ได้สติของชายหนุ่มก่อนแบกขึ้นมาที่ไหล่แล้วเดินไปด้านหลังที่มีกำแพงตั้งตระหง่านเปิดอยู่ราวกับกำลังรอคอยต้อนรับการกลับมาของใครบางคน.........

 

                        

 

 

 

                                                   --------------------------------------------           

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา