The World of Dungeon นี่นะหรือคือโลกดันเจี้ยน?
เขียนโดย Cristena
วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.34 น.
แก้ไขเมื่อ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558 22.49 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) Dungeon003 : หนีตายอลหม่าน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความDungeon003 : หนีตายอลหม่าน
ร่างของชายหนุ่มที่มาปรากฏอยู่กลางทุ่งหญ้า ที่ต้นไม้ใหญ่บ้างประปรายล้อมรอบ สายลมที่พัดผ่านอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าความสดชื่นและสบายตัวได้อย่างดี กลิ่นของพืชพรรณและสายลมเข้ามาในโสตประสาทการรับรู้ วิวทิวทัศน์เป็นพื้นป่ากว้างไกลสุดตา
ก่อนที่เขาจะเดินยังโขดหินแห่งหนึ่งที่มันตั้งตระหง่านขึ้นมา
“นี่มันเหมือนในเกมจริงๆนะเนี่ย.....” เขาบ่นพึมพำ ก่อนจะรู้สึกว่ามีเรื่องที่ต้องทำก่อน เขายกมือขึ้นมาแล้วเลื่อนลงเหมือนกับจะดูหน้าต่างสถานะของตน เพียงแต่
.....ว่างเปล่า.....
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขานิ่งไปซักพักก่อนที่ทำแบบเดิมอีกรอบ และก็เป็นอีหรอบเดิม
....ว่างเปล่า ไม่มีอะไรปรากฏขึ้นมา....
เขาเริ่มอารมณ์เสียเล็กน้อยก่อนปัดอีกครั้ง และก็เป็นเหมือนเดิมไม่มีอะไรเกิดขึ้นมา
เขาเลยทั้งปัด สไลด์ และอื่นๆที่เขาสรรหาคิดได้ ทั้งบนทิศทางซ้ายไปขวา ขวาไปซ้าย บนมาล่าง ล่างมาบนและอีกทั้งแนวทแยงก็เป็นเหมือนเดิม ใช้สองนิ้วก็แล้ว สามถึงห้าก็แล้ว มีบางครั้งเขาตะโกนพลางเลื่อนไปด้วยก็ปรากฏว่าเป็นเหมือนเดิม
ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จนในที่สุดเขาใช้เวลากลับมันไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมง จนเขาเริ่มจับทริคอะไรได้บางอย่าง ที่นี้เขาจินตนาการถึงหน้าต่างข้อมูลที่เขาคิดขึ้นมาได้และเลื่อนนิ้วชี้กับนิ้วกลางลงกลางอากาศ พลันก็ปรากฏหน้าต่างโฮโลแกรมอะไรบางอย่างขึ้นมา
หน้าต่างสถานะตัวละคร |
ชื่อ ลอส ฉายา : –– อายุ : 17 ปี เผ่าพันธุ์ : มนุษย์ อาชีพ : นักผจญภัย แฟมิลี่ : –– กิลด์ : –– Status : F Skill : SSS Experience : 0 |
“เป็นแบบนี้จริงๆด้วย”
ลอสพึมพำ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจากการลองคิดขึ้นมา ที่เขาเสียเวลาไปชั่วโมงกว่านั้นมันขาดอะไรบางอย่างที่ทำไม่ให้สำเร็จหรือไม่ปรากฏหน้าต่างขึ้นมา นั่นเพราะเขาลืมจินตนาการถึงลักษณะของหน้าต่างและข้อมูล ซึ่งการที่เขาเลือกภาพโฮโลแกรมนั้น จากที่เขาคิดมันจะไม่เหมือนกับสร้อยคอมือหรือการ์ดที่มันมีรูปร่าง ซึ่งน่าจะถูกป้อนโปรแกรมเอาไว้ล่วงหน้าก่อนอยู่แล้ว นั้นน่าจะทำให้พวกเธอสองสาวเปิดขึ้นมาได้เลย แต่เขาก็ไม่รู้วิธีเปิดมันเช่นกันเนื่องจากจะลองดูเท่านั้น
แต่โฮโลแกรมของเขา ต่างจากของพวกเธอที่ไม่มีรูปร่าง ดังนั้นการที่เขาจะเปิดหน้าต่างตัวละครขึ้นมาได้นั้น ต้องอาศัยหลักการจินตนาการให้มันเกิดขึ้นมานั่นเอง
ส่วนข้อมูลเขาก็ใส่เฉพาะที่จำเป็นลงไปก่อน จากการอยู่โลกเก่าของเขา เขามีโอกาสได้เล่นเกมแล้วศึกษาพวกหน้าต่างสถานะนั่นทำให้เขาจำมาเอาลองใช้ดู ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร
เขาเลื่อนมือไปแตะตรงคำว่า สเตตัส[Status] พลันก็มีหน้าต่างขึ้นอีกมาอีกหน้าต่างหนึ่ง
Status[สเตตัส] |
Strength(STR) : 15 ระดับ : F Agility(AGI) : 20 ระดับ : F Itelligent(INT) : 25 ระดับ : F Accuracy(ACC) : 15 ระดับ : F Luck(LUGK) : 10 ระดับ : F Ability(ABI) : 20 ระดับ : F |
รวม 105 ระดับ : F |
เมื่อเปิดค่าสถานะดูเขาก็พบว่า มันเป็นค่าที่น้อยต่ำเตี้ยเรี่ยดินอย่างมาก ค่า STR ไม่ใช่ค่าของเลือด(HP) ตามในเกมออนไลน์ที่เขาเคยเล่น แต่มันคือค่าพารามิเตอร์ที่เป็นความอดทน แข็งแกร่ง ซึ่งน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการถืออาวุธหรืออุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเขาจะขอเรียกว่าไอเทม
เมื่อเขาอ่านทั้งหมดแล้ว เขาก็สรุปได้ดังนี้
STR คือ ค่าความแข็งแกร่งของร่างกาย อดทน ซึ่งวิธีการเพิ่มค่านั้นน่าจะเป็นการฝึกฝนที่เกี่ยวข้องโดยใช้ร่างกายเป็นหลักและมีส่วนเกี่ยวข้องในการถือไอเทมต่างๆ
AGI คือ ค่าความเร็วและหลบหลีกของร่างกาย การจะเพิ่มค่านี้คงต้องหมั่นวิ่งบ่อยๆ ถ้าจะให้ดีคงต้องวิ่งแบบเลือดตาแทบกระเด็น
INT คือ ค่าความฉลาด ปฏิภาณไหวพริบและค่าพลังเวทมนต์ด้วยถ้าอิงจากเกมที่เขาเคยเล่น จะเพิ่มค่านี้ได้ต้องไปที่ๆมีพลังธรรมชาติแล้วดูดซับพลังมาเอาไว้ในตัว
ACC คือ ค่าความแม่นยำ ซึ่งอยากเพิ่มมันได้ก็ต้องฝึกฝนเหมือน STR
LUCK ตามตรงตัวของมันคือความโชคดี ซึ่งผมก็ไม่รู้วิธีการเพิ่มค่าของมันเช่นกัน
และอย่างสุดท้าย คือ ABI น่าจะเป็นทักษะธรรมดาที่เราสามารถทำได้ เช่นการฟัน มันก็จะเพิ่มให้ การปรุงยาหรือการปีนป่าย ซึ่งมันจะปรากฏขึ้นมาได้จาก การกระทำของเรา
ลอสถอนหายใจยาวๆ เมื่อเห็นระดับสเตตัสเป็น F หมด ซึ่งข้อมูลนี้เขาไม่ได้คิดมันขึ้นมา ซึ่งมันน่ามาจากค่าสถานะจริงๆของเขาที่เป็นอยู่ เขาเพียงแค่จัดตำแหน่งว่ามันควรอยู่ตรงไหน ข้อมูลมันก็ปรากฏขึ้นมาให้เอง
มีเพียงสกิลนี่แหละที่เขาสงสัยว่าทำไมระดับของมันถึงเป็น SSS ทั้งที่เขาได้สกิลแปลภาษาสูงสุดเป็นแค่ระดับ S เท่านั้น ซึ่งเขาได้นึกทบทวนก็ได้คำตอบออกมา
“หรือมันจะเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายกันนะ” ลอสพึมพำก่อนจะจิ้มไปยังคำว่า สกิล[Skill] เพียงแค่นั้นเขาก็อ้าปากค้างกับสิ่งที่เห็น
Skill[สกิล] |
สกิล แปลภาษา (S) [Passive Skill] |
ระยะเวลา : ตลอด ไม่มีดีเลย์ |
- สามารถพูดคุยภาษาอื่นได้ทุกภาษา - สามารถฟังภาษาอื่นได้ทุกภาษา - สามารถเขียนภาษาอื่นได้ทุกภาษา - สามารถอ่านภาษาอื่นได้ทุกภาษา |
สกิล Release Status (SSS) [Passive Skill] |
ระยะเวลา : ตลอด ไม่มีดีเลย์ |
- ค่าสถานะทุกอย่างที่เรียนรู้หรือได้มาจะเพิ่มขึ้น 4 เท่า |
สกิล ร่างสถิตแห่งพระเจ้า (SSS) [Active Skill] |
ระยะเวลา : ดีเลย์ 3 วัน |
- ร่างสถิตแห่งพระเจ้าองค์ที่ 9 คามิเอล ลูอิซ อาส อาดาเรีย |
ความสามารถสกิล |
- เมื่อเรียกใช้สกิลร่างสถิตแห่งพระเจ้า ค่าสถานะทุกอย่างเพิ่ม 100,000 หน่วย เป็นเวลา 3 นาที (ขั้นที่ 1 ) - จะเพิ่มค่าสเตตัส 0.05 เท่าของสเตตัสทั้งหมด เมื่อมอนเตอร์ถูกสังหารด้วยร่างนี้ /จำนวน 1 ตัว (ขั้นที่ 1 ) - สามารถเสริมที่ติดมาจากสกิลได้ [สกิล เกราะแห่งเทพพระเจ้า] (ขั้นที่ 1 ) - ?????????? (รอปลดขั้นที่ 2 ) |
ความสามารถเสริม |
สกิล เกราะแห่งเทพพระเจ้า (SS) [Active Skill] |
ระยะเวลา : จนกว่าสกิลร่างสถิตแห่งพระเจ้าจะหมดเวลาลง |
- การโจมตีทุกอย่างที่ระดับ SS ลงไปไม่สามารถทำอันตรายได้เป็นเวลา 1 นาที - อาวุธทุกอย่างที่ระดับตั้งแต่ S ลงไป จะสลายหายไปเมื่อมาสัมผัสกับเกราะ |
เมื่อชายหนุ่มมองแล้วก็แทบไม่อยากเชื่อสายตาพลางขยี้ตาแล้วขยี้ตา เมื่อคิดว่าเป็นเพียงแค่ความฝัน ทว่ามันคือความจริง เขาได้รับที่มากมายจากพระเจ้าถึงจะยังไม่เป็นก็เถอะ แต่ที่สะกิดใจเขา คือความสามารถสกิลที่มันขึ้นว่า ????? (รอปลดขั้นที่2) แน่นอนว่า ไอ้พระเจ้าต้องให้เขาทำอะไรบางอย่างแน่ หรือไม่ก็ต้องไปเจอหน้าอีกฝ่ายแล้วถามตรงๆเลย
“โคตรโหดชิบ.....” ชายหนุ่มเปรยออกมาไม่ได้ ด้วยน้ำหน้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก โดยหารู้ไม่เจ้าตัวที่กำลังพูดถึงนี้กำลังหัวเราะขำกลิ้งนอนลงไปกลับพื้นที่อีกฝ่ายแสดงสีหน้านี้ออกมา ก่อนจะเมื่อลืมอะไรไปบางอย่าง
“ชั่งมันเถอะ.....” เขาตัดบทสนทนา
พลันแสงสีส้มค่อยๆลับขอบฟ้าไป เขาพึ่งมารู้สึกตัวว่าเขาใช้เวลาวันหมดไปกับการนั่งเปิดหน้าต่างค่าสถานะ ไม่รู้ว่ามันเริ่มมืดแล้ว จากการที่เขามีประสบการณ์เล่นเกมออนไลน์จากโลกเก่า กลางคืนนั้นมอนเตอร์จะเก่งกว่าตอนกลางวันมาก ซึ่งเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทฤษฏีมันจะใช้กับโลกแห่งนี้ได้หรือไม่ ทว่าขออย่าให้ใช้ได้เลยก็แล้วกัน ไม่งั้นเขานี่แหละที่จะซวย
เขากระโดดลงจากโขดหิน พลันกำลังจะเดิน ก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างจากการด้านหลัง
กรร......
เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นที่ด้านของเขา และเสียงฝีเท้าที่วิ่งตีออกข้างอย่างรวดเร็วดังกระฮึม ทำให้รู้ว่ามันไม่ได้มีแค่ตัวเดียว สัญชาตญาณของเขาร้องเตือนว่าให้รีบไปจากที่นี่ ก่อนที่มันจะวิ่งล้อมเขาได้สำเร็จ
ความคิดชั่ววูบแล่นผ่านไป สายเลือดของความสงสัยที่เป็นนักวิทยาศาสตร์กำเริบ ลอสหันหน้าไปข้างหลังอย่างช้าๆ ก่อนดวงตาสีนิลจะเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นร่างของมัน
ร่างของมันที่ยืนด้วยสี่ขา ตัวของมันสีดำเมื่อมขนาดตัวราว 1-2 เมตรเท่าความสูงของเขา ดวงตาสีตาสีแดงจับจ้องมาทางเขาที่ราวกับจะเป็นอาหารของมันในค่ำคืนแห่งนี้ ปากที่อ้าค้างอยู่เผยเขี้ยวอันแหลมคมทั้งสองข้างที่สามารถฉีกกระชากด้วยพลังอันง่ายดาย
พลันหน้าต่างของข้อมูลของมันก็ปรากฏขึ้นมา
หมาป่าทมิฬ : ดาร์ก แวร์วูฟ L.V. 3
|
รายละเอียด |
- มันปรากฏตัวตอนกลางคืน เพื่อสังหารเหล่านักเดินทาง เขี้ยวของมันสามารถกระชากเนื้อให้ฉีกจากกันได้ เพียงแค่กัดครั้งเดียว - เมื่ออยู่ในตอนกลางคืน ได้รับแสงจากดวงจันทร์ ค่าสถานะของมันทุกอย่างเพิ่ม 2 เท่า |
เพียงแค่นั้นเสียงถี่หยิบดังขึ้น ปรากฏร่างของดาร์กแวร์วูฟเหมือนกันหมดทุกตัว มีเพียงบาดแผลที่แตกต่าง เลเวลของมันบางตัวต่างออกไปแต่เลเวลต่ำสุดคือเลเวลสาม นั่นทำให้เขาได้ข้อมูลเพิ่มมาอีกอย่างว่า มอนเตอร์ทุกชนิดสามารถพัฒนาฝีมือได้ ซึ่งไม่รู้ว่ามันเป็นความจริงหรือไม่ แต่เจ้าพวกนี้ก็ได้ไขข้อกระจ่างให้แกเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เท่านั้นเอง ขาของเขาก็ก้าวออกไปอย่างไร้จุดหมาย แต่ก้าวไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว เพื่อต้องการหนีจากสัตว์ร้ายอันหิวโชพวกนี้
พลันหน้าต่างค่าสเตตัสของปรากฏขึ้นมา เมื่อเขาได้รับความสามารถอย่างหนึ่งมา
Ability(ความสามารถ) ทักษะการวิ่ง - เมื่อเลเวลทักษะนี้เพิ่มขึ้น การวิ่งจะเร็วขึ้น |
ลอสปิดหน้าต่างนี้ลงไปฉับพลัน พลางหันไปมองพวกมันที่เห็นเขาวิ่งหนีอย่างบ้าระห่ำ ตัวที่เหมือนกับจ่าฝูงกู่ร้องคำราม
โฮก..... ฮู่วววว
สกิลแปลภาษาอันแสนสุดพิเศษก็ทำงานทันที
“ฆ่ามัน ต้องเอามันมาเป็นอาหารค่ำให้ได้!”
“รับทราบ!” พวกมันตอบรับอย่างพร้อมเพรียงและไล่ตามเขาไปอย่างรวดเร็ว
การไล่ล่าเริ่มต้นขึ้นแล้ว....
เขาวิ่งมาเรื่อยๆ หลบหนีพวกมันมา จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถสลัดมันหลุดจากการติดตามได้ เขาวิ่งไปเรื่อยจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปกี่ชั่วโมงแล้ว บนร่างกายของเขามีบาดแผลหลายแหล่ง รอยฝังเขี้ยวก็มันปรากฏสีแดงอย่างเด่นชัด เขาพึ่งมาคิดได้ ที่มันกัดตอนแรก เจ้าพวกนี้มันฉลาดมาก สามารถตามกลิ่นเขาได้จากรอยเลือด เป็นมอนเตอร์ที่ไม่สามารถเอาไปเทียบกับในเกมออนไลน์ได้เลย เกมที่เขาเคยเล่นมาทั้งหมดกระจอกไปเลย ไม่มีมอนเตอร์ตัวไหนในเกมต่อให้เป็นบอส ก็เทียบกับเจ้าหมาป่าทมิฬไม่ได้เลย
และสิ่งที่เกมออนไลน์เทียบไม่ติดก็คือ....
นี่คือชีวิตจริง ที่เอาไปแขวนอยู่บนเส้นด้าย จะตายตอนไหนก็ไม่รู้ ทั้งอย่างนั้น ทว่าจิตใจของเขาสงบอย่างประหลาด ทั้งที่มันไม่เกิดขึ้นอย่างนี้มาก่อน ราวกับว่าเขากำลังสนุกอยู่ สนุกที่ได้เอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง เพราะโลกเก่าคงไม่มีเรื่องแบบนี้ให้เขาทำเป็นแน่
ส่วนถ้าถามว่าทำไมเขาถึงวิ่งหนีแทนที่จะลองต่อสู้กับมัน เขาต้องขอบอกว่าเขาลองแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะสะกิดความเจ็บปวดให้แก่มันไม่ได้เลย นั่นสงสัยเป็นเพราะค่าสถานะของเขาที่มันต่ำมากๆเป็นแน่ ถึงไม่สามารถสร้างความเสียหายฝากฝังเอาบนร่างของพวกมันได้เลยแม้แต่น้อย และอีกอย่างเขายังไม่รู้ว่าโลกแห่งนี้มันโหดร้ายขนาดไหน จึงคิดว่าเลือกทางหนีคงเป็นเหตุผลมากที่สุดในตอนนี้
ก่อนที่จะคิดอะไรร่างของเขาก็ลอยกระเด็นไปด้านหน้ากระแทกกับรากของต้นไม้ที่ขวางอยู่ กระอักเลือดออกมาคำโต สายตาก็จ้องมองพวกมันที่เข้ามาใกล้
เป็นครั้งที่เท่าไรไม่รู้ที่เขาโดนมันพุ่งชนใส่ ร่างกายที่แทบขยับเขยื้อนไม่ได้ อวัยวะภายในบอบช้ำ กระดูกขาหักจนรู้สึกเจ็บเหมือนโดนอะไรมาทิ่มแทง
ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นอีกครั้งและก้าววิ่งออกไป เจ้าหมาป่าดูเหมือนกับกำลังเล่นกับเหยื่อ มันจะทำให้อีกฝ่ายหมดแรงก่อนแล้วก่อนกิน เพราะสีหน้าที่ดิ้นรนของอีกฝ่ายมันกระตุ้นความอร่อยเนื้อของเหยื่อ
ลอสวิ่งออกมาป่ามาได้สำเร็จ เบื้องหน้าของเขามีทุ่งหญ้าสลับเนิน สีหน้าอันร้อนรนเหลือบมองด้านหลัง เหล่าหมาป่าที่ตามล่าเขาอย่างไม่มีการหยุดยั้ง ทั้งที่เขาเสียพลังไปมากมายจากความเหนื่อยล้า แต่ขาก็ของก็ยังคงวิ่งต่อไป พลันสายตาหันไปมองเห็นบางอย่างที่ตั้งอยู่เบื้องถัดเนินไปอีก มันเป็นลักษะของกำแพงที่สูงหลายล้อมราวกับว่าป้องกันจากอะไร
เนื่องด้วยทัศนียภาพในตอนนี้เป็นช่วงเวลากลางคืน ความมืดเข้าปกคลุมไปทั่ว เลยมองไม่เห็นว่ามันคืออะไร แต่ในหัวสิ่งที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ไม่ใช่นอกจากอะไรที่มันคงเกี่ยวข้องกับเมือง
กำแพงที่หลายล้อมนั่นอาจจะเป็นเมืองหรืออย่างอื่นก็ได้
เขาวิ่งไปก่อนจะสะดุดเท้าตัวเองอีกข้าง ทำให้ล้มตัวลงไปข้างหน้าก่อนจะรีบจัดแจ้งลุกขึ้นมาและวิ่งต่อไป
เขาสัญญากับลูอิสเอาไว้แล้วว่าจะต้องช่วยเขาให้ได้ ดังนั้นเขาไม่มีเวลามามัวนอนเล่นอยู่ตรงนี้หรือมาทิ้งชีวิตที่นี่
เมื่อมาถึงสายตาที่มองเห็นได้ในระยะ 50 เมตร เขาก็รีบวิ่งเร็วขึ้นมากกว่าเดิม ทว่าเหมือนกับว่าที่ผ่านมาพวกมันแค่เล่นกับเหยื่อเท่านั้น ตอนนี้มันคิดจะฆ่าอีกฝ่ายขึ้นมาจริงๆแล้ว
อ้าก!!!
ความเจ็บปวดจากหัวไหล่ส่งผ่านมายังร่างกาย เขี้ยวของมันฝังเข้าไปในหัวไหล่ เขาดิ้นพรากและยังออกวิ่งต่อไป ความเจ็บปวดที่สามารถฉีกกระชากเนื้อให้ขาดออกจากกันได้ เขี้ยวที่ทิ่มแทงมันทรมานใจจะขาด แต่เขายังคงสติอันน้อยนิดเอาไว้ได้ พลางเปลี่ยนจากการวิ่งมาเป็นการเดิน
อ้าก!!!
ก่อนที่อีกตัวมันฝังเขี้ยวอันแหลมคมที่ขาของเขา เป็นการตัดกำลังอีกฝ่าย เขาตอนนี้ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้แล้วก็เอนตัวลงนอนราวกับหุ่นเชิดที่เชือกขาด ดวงตาสีนิลจ้องใบหน้าของมัน
ถึงจะเดินไม่ได้ ตัดกำลังไปขนาดไหน ความเจ็บปวดทรมานสักเพียงใด ดวงตาสีนิลของเขาก็ยังไม่ปรากฏดวงตาของคนที่ยอมแพ้เลยแม้แต่น้อย ทำให้มันฉุนเฉียวไม่น้อยที่ไม่เป็นดั่งที่มันคาดเอาไว้
และร่างกายรับภาระก็เกินขีดจำกัด เขาสลบไปทั้งอย่างนั้นอีกไม่กี่ก้าวของรอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชนี้แล้ว
มันกู่ก้องคำราม เมื่อเป้าหมายของมันสิ้นฤทธิ์ ตัวที่เป็นจ่าฝูงเดินเข้ามาใกล้มัน มองใบหน้าของเหยื่อที่เป็นอาหารค่ำอันโอชะ มันอ้าปากเผยให้เห็นเขี้ยวที่คมกริบเรียงติดกัน ก่อนจะฆ่าอีกฝ่าย
พลันเสี้ยววินาทีที่มันปากของมันจะได้ลิ้มลองเนื้อมนุษย์ โลหิตก็สาดกระเซ็นขึ้นมา กว่าจะมารู้ตัวก็สายไปสำหรับมันเสียแล้ว
เมื่อร่างของมันถูกผ่าแบ่งครึ่งเป็นสองท่อน ก็จะตามมาด้วยเสียงอันโหยหวนของตัวอื่นๆ ตัวที่อ่อนแออกว่าเห็นท่าไม่ดีจึงเรียกพรรคพวกหนีกลับเข้าป่า จนไม่มีเสียงร้องของพวกมันหลงเหลืออยู่ พลันมีร่างของใครบางคนปรากฏขึ้นมา ร่างนั้นจ้องมองร่างที่ไม่ได้สติของชายหนุ่มก่อนแบกขึ้นมาที่ไหล่แล้วเดินไปด้านหลังที่มีกำแพงตั้งตระหง่านเปิดอยู่ราวกับกำลังรอคอยต้อนรับการกลับมาของใครบางคน.........
--------------------------------------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ