ซากุระฤดูร้อน 18+
เขียนโดย sanny17
วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.41 น.
แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 15.53 น. โดย เจ้าของนิยาย
20) one last time
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"พ่อแม่ของคุณ ชื่อคุณนายฮึตสึโนะ กับ คุณชายฮัน ตระกูลคาชินาระ ไม่ใช่สองคนนั่น ไดเสะ เป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณพ่อคุณ ส่วน เรกิยะ คือน้องสาวของริน ภรรยาไทจิ"
"เรื่องของครอบครัวคุณก็คือ คุณนายฮัตสึโนะ ไว้ใจให้ไทจิเข้าทำงานที่ฝ่ายบริหารของบริษัท แต่ถูกพิษความโกงเล่นงาน ทั้งสี่คนนั่น ไทจิ ริน ไดเสะ เรกิยะ รวมหัวกันฮุบธุรกิจของบ้านคุณ บังเอิญว่าแม่ของคุณหนู คุณโรสเป็นเพื่อนกับคุณนายฮัตสึโนะ แม่ของคุณพอดี ทางผู้ใหญ่ของทั้งคู่มีพินัยกรรม หากลูกของทั้งสองฝ่ายโตแล้วต้องแต่งงานกันเพื่อรวบรวมธุรกิจการงานให้เป็นหนึ่งเดียว"
"ไทจิกับริน ได้โอกาส วันที่แม่ของคุณปวดท้องใกล้คลอด คุณโรสก็อยู่ด้วย เรกิยะพยายามทำร้ายคุณแม่ของคุณ คุณโรสช่วยเอาไว้แต่ไม่เป็นผล สี่คนนั้นรุมทำร้ายพวกคุณจนหมดสติ พอดีที่พวกเราไปช่วยไว้ได้ทันที ....แค่คุณคลอดออกมา แม่ของคุณก็เสีย คุณพ่อคุณพลาดท่าตอนสู้กัน คุณโรสต้องเสียชีวิตเพราะพินัยกรรมที่ต้องผูกมัดสายเลือดกันตกไปเป็นลูกชายของรินกับไทจิ"
"ตอนที่พวกเราไปรับคุณที่โรงพยาบาล เพื่อจะดูแลคุณแทนพวกเขา คุณหายไปแล้ว กว่าพวกเราจะตามเจอพวกมันก็ใช้เส้นจนทะเบียนว่าคุณเป็นลูกทางกฎหมาย จนพวกเราทำอะไรไม่ได้"
"เรื่องราวมันถึงได้เป็นแบบนี้ คุณหนูของผมจะตามล้างคนที่ทำร้ายแม่ของเขาเพราะแค่คำว่าไม่รู้จักพอ และเขาก็กำลังแก้แค้นให้คุณ.... คุณอย่าไปไว้อาลัยคนชั่วพวกนั้นเลยครับ เขาทำร้ายผู้ให้กำเนิดคุณโดยแท้จริง และเลี้ยงคุณเอาไว้ก็เพื่อผลประโยชน์ในวันนี้เท่านั้น.... ความจริง หากคุณโรสและคาชินาระตัวจริงยังอยู่ วันมงคลสมรสควรเป็นของคุณหนูและของคุณฮารุต่างหาก"
คุณหลิน หรือ ผู้ช่วยของคุณนาตะ พ่อของชินอิจิ อธิบายอย่างกระจ่างแจ้งจนฉันแทบไม่อยากจะเชื่อว่านี่มันคือเรื่องจริง ฉันถูกคนที่ฆ่าพ่อแม่ตายตั้งแต่เด็กเลี้ยงมาจนโตเชียวหรือ เขาฆ่าพ่อกับแม่ฉันและเลี้ยงฉันเอาไว้ด้วยเรื่องเท่านี้จริงๆหรือ
"ป้าโจวคะ......" ฉันหันไปถามใครคนนึงที่เขาหายจากชีวิตฉันไปเมื่อตอนสิบสองขวบ ป้าโจวเป็นพี่เลี้ยงของฉันตั้งแต่จำความได้ แต่จู่ๆวันนึงเขาก็หายไป เพียงเพราะหล่อนรู้ความจริงทุกอย่างเกี่ยวกับฉัน แม่ ไม่ใช่สิ... ยายปีศาจส่งคนไปเก็บเธอตอนที่เธอกลับจากส่งฉันไปเรียน แต่คนของคุณนาตะช่วยเอาไว้
เพราะกลัวว่าฉันจะรู้ความจริงจากปากของหล่อน เธอจึงสั่งฆ่าคนอย่างนั้นหรือ ....ฉันเชื่อแล้วว่าคนแบบนี้มีอยู่จริง
ป้าโจวพยักหน้าให้ฉันแทนคำตอบ น้ำตาของเธอไหลเป็นทางยาว ความเหี่ยวย่นตามกาลเวลาไม่ทำให้แววตาทนุถนอมฉันหายไปเลยสักนิด
"คุณหนูรู้ไหมคะ ว่าป้าเป็นห่วงคุณหนูขนาดไหน กินไม่ได้นอนไม่หลับ จะกลับไปหาก็ไม่ได้ คอยแต่ฟังข่าวจากคุณเรียวว่าคุณหนูเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้ป้าดีใจที่สุดที่คุณหนูปลอดภัย เรื่องร้ายๆในชีวิตพ้นไปแล้วนะคะคุณหนู"
ป้าโจวกอดฉันไว้ในอ้อมแขนที่ถึงแม้จะเหี่ยวย่นแต่กลับอบอุ่นคุ้นเคย หากนี่คือฝันคงเป็นฝันที่ฉันเจ็บปวดที่สุด .....ตอนที่รู้ว่าพวกเขาไม่รักยังไม่เจ็บเท่าฉันไปรักไปกตัญญูกับคนที่ฆ่าพ่อแม่ของฉันเลย
ในชีวิตของฉันมีแต่คนหวังผลประโยชน์ ไม่ว่าใคร.... เข้ามาในชีวิตฉันเพราะฉันมันโง่ หลอกง่าย และผลประโยชน์เยอะก็เท่านั้น
ตอนนี้ฉันก็เหลือแค่ป้าโจวคนเดียว ที่รักและเป็นห่วงฉันด้วยใจจริงที่สุด...
"คุณฮารุปลอดภัยแล้ว อยู่กับป้าโจวก่อนนะครับ ผมต้องรีบตามไปทำธุระกับคุณท่านคุณหนู"
คุณอาไทจิ กับ น้าริน ฆ่าพ่อแม่ฉัน
ส่วนคนที่ฉันเข้าใจว่าเป็นพ่อและแม่แท้ๆกลับเป็นคนที่สมรู้ร่วมคิด พวกเขาเลี้ยงฉันเอาไว้เพราะผลประโยชน์ในวันข้างหน้า
ธุรกิจและสมบัติในพินัยกรรมจะถูกมอบเมื่อเราแต่งงานกันตามตกลง ซึ่งที่จริงแล้ว พินัยกรรมได้กำหนดเอาไว้ว่าต้องเป็นลูกชายของคุณโรส หรือก็คือ ชินอิจิ เรียว ไม่ใช่ฮิซูกิ
เรื่องทั้งหมดนั้นฉันเข้าใจผิดมาโดยตลอด ฉันถูกคนพวกนั้นปิดบังความจริงอย่างโหดร้าย พ่อแม่ฉันถูกฆ่าตายก็โหดร้ายเกินจะทนแล้วนี่ฉันยังต้องมารับรู้เรื่องบ้าๆพวกนี้อีก
ป้าโจวเปิดจดหมายที่พ่อและแม่ทิ้งเอาไว้ให้ก่อนท่านตาย ใจความของจดหมายทำนองว่าท่านสงสัยอยู่แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นและหากเป็นจริงหรือมีอะไรผิดพลาด ให้รู้ว่าพวกเขารักฉันมาก และขอให้มีชีวิตอยู่อย่างเข้มแข็ง
ฉันจะเข้มแข็งได้อย่างไรล่ะ.... ตอนนี้ชีวิตฉันมันก็เหมือนไม่เหลืออะไรแล้ว คุณหลินรายงานว่าเรกิยะ ไดเสะ และ ไทจิเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แต่ฮิซูกิกับคุณลิน หนีไปได้ คนที่ฆ่าพ่อแม่ฉันเขาตายแล้ว ฉันไม่มีอะไรจะพูด ...ทุกอย่างมันเกิดขึ้นและจบลงในเวลาอันสั้น
จนฉันตั้งตัวไม่ทัน.... และแทบไม่อยากจะเชื่อว่ามันเกิดขึ้นแล้วจริง
1 อาทิตย์ที่ผ่านมาฉันยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล อาการบอบช้ำทางจิตใจของฉันเริ่มดีขึ้น ฉันเริ่มปรับตัวและยอมรับความเป็นจริงได้ ป้าโจวคอยปลอบใจและดูแลฉันไม่ห่าง
ไม่มีใครออกมาพูดอะไรอีก เรื่องทุกอย่างสิ้นสุดลงแค่วันนั้น แม้กระทั่งชินอิจิ ....เขาก็ยังไม่โผล่มาเยี่ยมฉันบ้างเลย มีแต่คุณหลินที่มาทุกวันและก็รายงานแค่ว่าคุณหนูไม่ว่างครับ คุณหนูไม่อยู่...... เขาคงไม่อยากเจอฉัน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หรือเรื่องของเราคงจบลงเพียงเท่านั้น หรือเพราะเขารู้ว่าฉันมีอะไรกับฮิซูกิก็เลยโกรธ หรืออันที่จริง เขาก็แค่ใช้ฉันเป็นตัวเชื่อมในการล้างแค้นพี่น้องใจบาปพวกนั้น... ได้แต่คิดและก็ต้องน้อยใจไปวันๆ.... ฉันเลิกหวังอะไรต่อมิอะไรไปแล้ว ทุกอย่างที่ฉันคิดในชีวิตมันพลิกไปหมดเลย หากจะมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีก ก็คงไม่แย่กว่านี้สักเท่าไหร่
"คุณหนู.... ทำไมทำหน้าเศร้าอย่างนั้นอีกล่ะคะ ไม่เอานะคะคนดีของป้า เดี๋ยวไม่สวยนะป้าจะบอกให้ ไม่เอาค่ะคนเก่ง ไม่ร้องไห้นะคะ"
แค่มีคนมาคอยอยู่ข้างๆปลอบใจในตอนนี้ น้ำตาก็พาลจะไหลมันเสียดื้อๆ ฉันกอดป้าโจวแน่น ตอนนี้มีชีวิตฉันก็เหลือแค่ป้าคนเดียวที่คอยอยู่เคียงข้างเป็นเหมือนที่พักพิงในชีวิต
"ทำไมพี่เรียวไม่มาเยี่ยมหนูบ้างล่ะคะป้า"
ฉันถามออกไปอย่างที่ใจนึก ป้าโจวเล่าว่าช่วงที่หายไป ก็อยู่ทำงานที่บ้านของคุณนาตะ รอเวลาที่จะกลับมาหาฉันอีกครั้ง ดังนั้นป้าโจวน่าจะรู้บ้างว่าเขาหายไปไหน
"ป้าว่าคุณเรียวก็คงยุ่งๆน่ะค่ะ เลยมาไม่ได้"
"หนึ่งอาทิตย์แล้วนะคะ .....นี่มันหนึ่งอาทิตย์แล้ว เขาคงลืมหนูไปแล้ว"
ไม่ว่าใครก็คงจะเห็นฉันอยู่ในสายตาแค่ตอนฉันมีประโยชน์นั่นแหละ
"ป้าโจว.... เราออกนอกเมืองไปอยู่บ้านคุณย่ากันเถอะ หนูไม่อยากอยู่กับความทรงจำแย่ๆที่นี่ " ฉันหมายถึงบ้านที่อยู่ในเขตชนบทที่เคยไปเมื่อตอนเด็ก ที่ดินส่วนนั้นเป็นชื่อฉันก่อนคุณย่าจะเสีย ที่เงียบสงบเรียกร้องให้ฉันไปหาเหลือเกิน ฉันไม่อยากอยู่กับสิ่งที่คอยตอกย้ำเรื่องทั้งหมด ฉันไม่อยากเห็นมันซ้ำๆทุกวัน อยากจะลืม ลืมให้หมด ....คนใจร้ายอย่างชินอิจิด้วย
"โถ่ ...คุณหนูคะ ป้าโจวมีหน้าที่เลี้ยงคุณหนูตั้งแต่แบเบาะ ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลก ป้าจะคอยตามดูแล คุ้มครองคุณหนูตลอดค่ะ คุณหนูอยู่ที่ไหนป้าจะไปที่นั่น ป้ารักคุณหนูนะคะ คุณพ่อคุณแม่ท่านก็รัก ท่านฝากคุณหนูไว้กับป้าตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง"
"หนูรักป้าโจวนะ ป้าอย่าทิ้งหนูไปอีกคนนะคะ หนูไม่เหลือใครแล้ว"
หญิงสาวร้องไห้กอดซุกหน้าอยู่กับอกหญิงชรา จู่ๆความเป็นจริงกลับเป็นสิ่งเหลวไหล เรื่องที่เป็นอย่างในละครกลับเกิดขึ้นจริง เข็มทิศชีวิตหันหัวเปลี่ยนทิศจนไม่มีใครตั้งตัวได้ หากแต่ชีวิตต้องก้าวต่อไปข้างหน้า ใครยังอยู่ก็ต้องกำหนดทางเดินกันเอาเอง หญิงสาวเลือกทางเดินของชีวิตใหม่อีกครั้ง ก้มหน้ารับชะตากรรม และมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างคนเข้มแข็ง
สตรีสองคนที่มีอายุต่างวัยเก็บข้าวของที่จำเป็นต่อการย้ายที่อยู่อาศัยเรียบร้อย
ฉันออกจากโรงพยาบาลได้สองวันนับวันนี้ด้วย ตามจริงคุณหมอพยายามเกลี้ยกล่อมให้ฉันอยู่ต่อ เพราะหมอว่าแผลยังไม่ลงตัวดีเท่าไหร่ แต่ฉันกลับรู้สึกว่าร่างกายก็เกือบเป็นปกติทุกอย่าง ดังนั้น ฉันก็เลยคิดว่าควรรีบทำอะไรให้เข้าที่เข้าทางเสียที ฉันจะกลับไปอยู่กับพ่อแม่ที่แท้จริง ฉันรู้ทีหลังว่าพวกท่านถูกฝังเอาไว้ที่สุสานในเขตชุมชนชนบทที่ฉันกำลังจะย้ายไป ธุรกิจมากมายที่ต้องตกเป็นของฉันก็ไม่ได้มีเยอะอะไรนัก เพราะส่วนมากก็ยังคงเป็นหุ้นส่วนอยู่ไม่เกิน 60% จึงไม่ต้องจัดการอะไรมากมาย แค่สมบัติติดตัวก็คงจะอยู่รอดสองคนแบบไม่ลำบากนัก ....ชีวิตตรงนั้นคงทำให้จิตใจของฉันสงบสุขดีได้ เอาล่ะ ฉันพร้อมแล้ว ....ลาก่อน ทุกอย่างที่เคยมีเคยเป็น ลาก่อน ชินอิจิ....
น้ำตาที่คิดว่าน่าจะหมดไปแล้วก็ยังคงมีซึมอยู่ที่หางตา ไม่มีแม้แต่เงาของเขา ไม่มีแม้แต่คำบอกลา ไม่มีอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเขาที่ฉันควรรู้ ต่างคนต่างอยู่ ฉันพร่ำบอกตัวเอง ว่าเกมส์จบแล้ว...
"รถมาแล้วค่ะคุณหนู..." เสียงฝีเท้าเดินมาข้างหลังกล่าวชัดถ้อยชัดคำถึงการจากลาอย่างถาวร
หญิงสาวนั่งหันหน้าจากสวนด้านล่างขึ้นไปมองริมหน้าต่าง ห้องที่มีใครคนนึงแอบปีนขึ้นมาหาประจำ ฮารุปาดรอยน้ำตาลวกๆก่อนจะตัดใจลากกระเป๋าสองใบเดินตามหญิงชราที่ติดตามไปด้วยกัน
"เป็นอย่างไรบ้างคะ" ประตูรถปิดลงเรียบร้อย หญิงชราท่าทางอบอุ่นถามเจ้านายสาวตัวน้อยที่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จา แววตาไร้ความสดใสแห่งวัย
ส่วนคนถูกถามที่เข้าใจว่า การจากลาที่ๆเติบโตมานั้นส่งผลอย่างไรต่อความรู้สึกหล่อนบ้าง ตอบไปอย่างไม่จริงจังนัก
"ตื่นเต้นดีค่ะ ไม่เคยจากบ้านนานๆเสียที ลุ้นอยู่เหมือนกัน"
ทั้งที่ความจริงคนถามนั้นอยากรู้อาการของเจ้าตัวมากกว่า ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลข้าวปลาก็รับอย่างกับแมวดม พูดน้อยลงกว่าแต่ก่อน แถมใบหน้าไม่มีแม้แต่สีเลือด คุณหนูของเธอคงสะเทือนใจไม่น้อย แต่ความเข้มแข็งในแววตากับการแสดงออกว่าไม่เป็นไรนั้นกลับบอกได้อย่างดี ว่าคุณหนูน้อยของเธอเติบโตขึ้นมากเพียงใด
"คุณหนูก็..... " ป้าโจวเอ็ดอย่างไม่เอาเรื่อง ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบต้นแขนแน่นเนื้อเบาๆอย่างปลอบใจ "นอนเสียเถิดนะคะ เดี๋ยวป้าบอกทางคุณเขาเอง คุณหนูไม่คุ้นนัก ไม่ต้องสนใจหรอกคะ พักผ่อนนะคะคนดีของป้า"
หญิงสาวยิ้มรับน้อยๆ ก่อนจะค่อยๆเคลิ้มหลับไปด้วยความอ่อนแรง คืนที่ผ่านๆมาก็หลับตาไม่ค่อยสนิทเสียด้วย มือเหี่ยวย่นยังคงมีความรักความทนุถนอมคอยลูบไล้ปลอบโยนจนคนที่อ่อนเพลียอยู่แล้วเผลอหลับไปในที่สุด
"ทำไมอุ้มมาล่ะ เป็นอะไร" เสียงทุ้มจากคนที่นั่งอยู่ห้องรับแขกของบ้านดังขึ้นอย่างไม่พอใจ จนคนที่อุตส่าห์มีน้ำใจถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆ เพราะสายตาขุ่นวับนั่นมองอย่างเอาเรื่อง
"เอ่อ... คุณเขาไม่ตื่นครับ" ตอบอย่างตะกุกตะกักจนกระทั่งคนที่นั่งสง่าอยู่ลุกขึ้นพรวดเดินตรงมายังจุดที่ตนยืนอยู่ ตกใจจนแทบจะปล่อยร่างนุ่มนิ่มที่ไม่รู้ตัวว่าสร้างหายนะให้ตนเพียงใดร่วงลงกับพื้น
"ส่งมา แล้วก็ออกไป" ร่างสูงสั่งเสียงเย็น จนคนถูกสั่งลนลานทำอะไรไม่ถูก ส่งตัวคนหลับใหลหันซ้ายหันขวามั่วไปหมด จนคนใจร้อนเริ่มมีเสียงฮึ่มฮั่มในลำคออย่างไม่ถูกใจ
"คุณเรียวคะ ...ใจเย็นๆนะคะ คุณหนูคงเหนื่อยมากถึงหลับพับไปแบบนั้น ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่นค่ะ เลยได้พ่อคนนี้อุ้มมาส่ง ขอบใจนะจ้ะพ่อคุณ ไปทำหน้าที่เถอะจ้ะ"
นานเข้าจึงมีเสียงระฆังมาช่วยชีวิตเอาไว้ คนโปรดสัตว์ได้บาปจึงรีบร้อนค้อมศีรษะรุดออกไปอย่างเร็วผล็อย
"น้องเป็นอะไรครับ ทำไมไม่รู้สึกตัวเลยแบบนี้" ชินอิจิเอ่ยถามคนดูแลส่วนตัวของหญิงสาวในอ้อมแขนอย่างสุภาพ เป็นห่วงคนตัวเล็กจับใจ กว่าจะมีเวลาจัดการปัญหาตัวเองก็ไม่ได้หลับได้นอนไปหลายวัน
"ข้าวไม่ทาน กลางคืนเอาแต่ร้องไห้น่ะค่ะ ป้าจนใจจริงๆ ขออภัยที่ทำหน้าที่ได้ไม่ดีนะคะ คุณหนูเลยพลอยอ่อนแอไปแบบนี้"
"ไม่ใช่ความผิดป้าหรอก ให้คนเอาของไปเก็บเถอะครับ ส่วนของน้องเอาไว้ห้องผมนะ เย็นๆค่อยให้เด็กไปจัด ขอให้เธอพักผ่อนสักหน่อยก่อน" สิ้นเสียงสั่งการของนายน้อยของบ้าน คนตัวโตก็เดินช้อนคนในอ้อมแขนติดมือไปด้วย
ร่างบางสมควรแก่การทนุถนอมอย่างเป็นที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้ถูกวางบนเตียงนุ่มในห้องอุณหภูมิเย็นสบาย บ้านทรงสมัยใหม่ไม่มีเคล้าความเป็นชาวญี่ปุ่นนักนอกจากรูปบรรพบุรุษและเครื่องใช้ในบ้านบางอย่าง
แม้จะมีงานอย่างอื่นต้องทำแต่เวลานี้ที่ไม่ได้เจอแม่ตัวเล็กหลายวันแล้วเขาก็ขออู้บ้าง ถือว่าพักผ่อนไปด้วยเลยก็แล้วกัน วงแขนกว้างอบอุ่นลูบผมสลวยเล่นเพลินมือ วงหน้าหวานถูกเขากดจูบไปทั่วบริเวณ ขนาดทั้งกอดทั้งจูบคนขี้เซายังไม่มีทีท่าจะตื่น ชินอิจิตัดสินใจนอนหลับไปพร้อมกันกับเธอซะเลย หลังจากพักผ่อนน้อยมากมาหลายวัน งานก็มีเคลียร์ไปแล้วหลายอย่าง เรื่องสำคัญมากถูกจัดการจนเข้าที่เรียบร้อย นอนสักพักก็ดีเหมือนกัน ไม่ได้กอดตัวนิ่มๆตั้งหลายวัน แน่ใจเลยว่าเดี๋ยวตื่นมาก็ต้องรบกับเธออีก มีหลายอย่างที่หญิงสาวสมควรรู้จากปากเขาเอง และถึงไม่พูดก่อน คนตัวเล็กก็คงจะเฝ้าถามตนอยู่จนกว่าจะได้คำตอบเป็นแน่
บนเตียงกว้างใต้ผ้าห่มผืนหนาก็เลยมีความอบอุ่นจากการแตะต้องกายกันเข้าสู่ห้วงนิทรารมย์ เหมือนความฝันแสนสุข ละอองแห่งความห่วงหาอาทรลอยอยู่รอบกาย แม้หลับใหลก็รู้สึก กายบางขยับเข้าหาความแข็งแรงที่นอนพักอยู่ข้างๆอย่างไม่รู้ตัว แค่รู้สึกเหมือนไออุ่นรออยู่ตรงนั้น ร่างกายก็ทำไปโดยสัญชาตญาณ
หญิงสาวกระพริบตาปริบๆ อย่างคนนอนเต็มอิ่ม ช่วงเวลาบ่ายคล้อยไม่สมควรแก่การนอนยาวๆเพราะจะทำให้ปวดหัว หากแต่ลืมตาได้สักพักแล้วก็ยังไม่มีทีท่าจะขยับไปทางไหน ด้วยอาการอยากนอนนิ่งๆไม่ต้องคิดอะไรบ้าง ...เธอคงหลับยาวไป และคงอยู่ที่บ้านไร่ชนบทแล้วในตอนนี้
แต่ เอ.... เพดานสลักลายสวยเป็นรูปคล้ายมังกรกำลังเกี้ยวมรกตอะไรสักอย่าง โคมไฟดูราคาแพงระยับแบบนี้ เขตชนบทเขาก็นิยมใช้กันด้วยหรือ
แต่สิ่งที่ทำให้คนกำลังงุนงงตกใจยิ่งกว่าคือเสียงคล้ายคนขยับตัวเปลี่ยนท่านอน และเสียงลมหายใจที่ทอดถอดออกมาอย่างผัดผ่อนน้ำหนัก มีใครนอนอยู่กับเรา
นี่มันชินอิจิ... ทำไมเขามานอนอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ
อันที่จริงนี่เป็นครั้งแรกหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาเป็นอาทิตย์ ใบหน้าหล่อเหลาเอาการคล้ายจะดูอ่อนเพลียเล็กน้อย แต่ก็ยังคงความดุดันเอาไว้ เสียงหายใจเข้าออกสม่ำเสมอทำให้เข้าใจได้ว่าเขายังหลับอยู่ และก็อดไม่ได้ที่จะเอามือไปลูบไล้อย่างห่วงหา
แต่พอตระหนักนึกขึ้นได้ก็ชะงักมือเอาไว้เท่านั้น
เราทำได้หรือ นี่ไม่ใช่พี่เรียวของเรา เขาคือชินอิจิ ลูกชายคุณนาตะ ร่ำรวยมากมาย ที่เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตเราเขาก็มีจุดประสงค์ แต่ก็เอาเถอะ ..... ทุกอย่างผ่านไปแล้ว
จะถามใครได้ว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร หรือว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหนกันแน่ สภาพแวดล้อมทำไมฉันรู้สึกเหมือนกับว่ายังอยู่ในตัวเมืองเหมือนเดิม ไม่คลับคล้ายว่าสภาพอากาศและสิ่งก่อสร้างงดงามอลังการแบบนี้จะมีอยู่ในชนบท
ครั้นจะปลุกคนข้างกายมาถาม ก็ไม่ใช่ที่ หญิงสาวจึงค่อยๆขยับลุก เดินอย่างเงียบเชียบไปที่ริมประตู ตั้งใจจะเปิดออกไปและตามหาคำตอบเอาเองทว่า
"จะไปไหน" เสียงเรียกขึ้นจากข้างหลังกลับทำให้รู้สึกเหมือนโดนครูฝ่ายระเบียบเรียกเสียอย่างนั้น แค่เขาตื่นมาเจอเธอที่กำลังจะออกไปจากห้อง ทำไมหล่อนต้องตกใจด้วยล่ะ
จะตอบเขาว่าอะไรดีล่ะ ที่นี่ที่ไหนยังไม่รู้ จะตอบถูกได้อย่างไรว่าจะไปไหน
"กลับมานี่ ปิดประตูด้วย" เสียงของเขายังคงนิ่ง ไม่มีอารมณ์แปรปรวนเหมือนเคยๆ
จบล้าวววว สำหรับอัพให้อ่านเนอะ มันค้างก็ช่วยเค้าอุดหนุนทีน้า
ราคา 60 บาทเอง
ที่พี่เมพเลยนะจ้ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ