ซากุระฤดูร้อน 18+

-

เขียนโดย sanny17

วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.41 น.

  20 ตอน
  0 วิจารณ์
  20.59K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 15.53 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) ตอน13

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
หญิงสาวไม่กล้าแม้แต่จะออกจากห้องเลยทั้งวันนั้น ด้วยร่องรอยการถูกเสพสมที่แม้ใส่เสื้อผ้าปกปิดขนาดไหนก็ไม่มิด 
   คืนนั้นชินอิจิไม่ได้กลับมาและฉันก็หวังให้เขาหายไปจากชีวิตฉันซะ จะได้ไม่ต้องมาเจ็บปวดกันอยู่แบบนี้ เช้านี้ฉันตื่นมาด้วยร่างกายที่ดูดีขึ้นกว่าเดิมและที่สำคัญ วันนี้แม่นัดฉันไปลองชุดเข้าบริษัทครั้งแรกด้วย ตอนนี้ฉันจึงอยู่ในห้องรวมชุดแต่งกายของที่บ้านที่มีแทบทุกแบบรวมกันเอาไว้ หน้าโต๊ะกระจกมีฉันนั่งอยู่และที่ตู้เสื้อผ้าก็กำลังถูกรื้อค้นโดยฝีมือแม่ฉันเอง
 
    "ฮารุจังจ๊ะ... เอานี่ไปลองสิ" ฉันหยิบชุดจากมือแม่หายเข้าไปในห้องเปลี่ยนก่อนจะกลับออกมาในชุดกระโปรงทรงเอครึ่งน่องและเสื้อเชิร์ตสีขาวติดกระดุมสวมทับด้วยสูททำงานผู้หญิงสีน้ำเงินเข้ม
 
   "ลูกแม่สวยมากจ้ะ นี่เป็นชุดที่ฮิซูกิเขาส่งมาให้น่ะ" แค่ได้ยินชื่อเขาน่าเรียวเล็กก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ ทั้งเขิน ทั้งหดหู่เมื่อนึกถึงผู้ชายอีกคนที่เข้ามาพัวพันในชีวิต
 
   "ฮารุจัง"
 
   "คะ " 
 
   "มีอะไรปรึกษาแม่ได้นะ แม่ก็ผ่านวัยลูกมาแล้ว อาจแนะนำอะไรลูกได้บ้าง" นี่หน้าตาฉันคงบอกทุกข์จนแม่ยังถามสินะ
 
  "เปล่าค่ะแม่" แต่ฉันกลับตอบปฏิเสธออกไป ไม่รู้จะพูดอธิบายอย่างไร หรือเรื่องแบบนี้มีใครมาพูดด้วยหรือ
 
  "ฮารุจัง" ฉันโดนเรียกซ้ำอีกครั้ง และคราวนี้แม่ไปนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้ง ให้ฉันยืนเคว้งอยู่กลางห้องคนเดียว
 
  "แม่เห็นผู้ชายปีนออกจากห้องลูก" สิ้นเสียงหวานแบบอบอุ่น หญิงสาวกลางห้องถูกช็อตให้ยืนแข็งอยู่กับที่
 
   "เขาเห็นแม่ และที่สำคัญ ดูไม่ตกใจอะไรเลย แถมกระโดดออกไปหน้าตาเฉยอีกด้วย"
 
   "เห็นแวบเดียวแม่ก็รู้ว่าเขา ...หล่อ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น"
 
   "เขาทำไม่ถูก และแม่ไม่ยอมในทุกกรณี ต้นเดือนหน้าจะมีพิธีของลูกและฮิซูกิ เตรียมตัวไว้ด้วยจ้ะ"
 
  "ที่สำคัญ พ่อหนุ่มคนนั้น ....ไม่ต้องมาแนะนำให้แม่รู้จักนะจ้ะ มันไม่ใช่เวลาเสียแล้ว ลูกกำลังจะแต่งงาน"
 
   "และแม่ก็หวัง........ ว่าเรื่องของเขาและลูก กำลังจะจบลง เร็วๆนี้" 
 
   นายหญิงของบ้านเดินสง่าออกไปด้านนอก โดยทิ้งหญิงสาวตัวเล็กไว้ในห้องแต่งตัวเพียงคนเดียว
  ไม่ว่าจะตอนไหน ฉันก็ไม่มีสิทธิพูด ไม่ว่าเรื่องอะไร แต่เล็กจนโตถูกเลี้ยงมาเหมือนโดนตั้งโปรแกรมอยู่แล้ว อยากทำหรือไม่อยากทำก็โดนสั่งให้ทำเสมอ ชินเสียแล้วกับการโดนมองข้าม แต่ที่น้ำตามันร่วงไหลไม่หยุดอยู่ตอนนี้ ก็คงเป็นเพราะความรู้สึกที่โดนกระทำมันเลวร้าย จนไม่อยากจะสู้กับอะไรแล้ว บิดาที่เป็นครเดียวที่ให้ความอบอุ่นได้ก็ไม่เคยแม้แต่จะมีเวลามาสนใจใยดี มารดาที่แม้จะมอบสิ่งที่ดีให้ทุกอย่างก็ไม่เคยถามว่าอยากจะรับไหม ไหนจะชินอิจิ ไหนจะ..... ทุกเรื่องที่ได้เจอมา ฉันโตมาได้ยังไงกันนะ 
   ชินอิจิที่เข้าใจฉันทุกอย่าง สอนในเรื่องที่ไม่เคยรู้ อยู่ข้างๆในวันที่เหงา ก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้ายที่ฉันไม่เข้าใจ และจะไม่มีวันเข้าใจอีกต่อไป 
   ฉันคงต้องเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่เข็มแข็งกว่านี้ และฉันจะทำให้ได้ ฉันจะไม่เป็นฮารุจังผู้อ่อนแออีกแล้ว
 
 
   สามวันที่ผ่านมาฉันย้ายออกมานอนที่คอนโดที่บิดาซื้อไว้ให้ตอนจบไฮสคูล และวันนี้ฉันมีนัดเข้าบริษัทของฮิซูกิเพื่อไปลองทดสอบงาน แม้จะยังไม่ได้ทำจริง แต่เรียนรู้ไว้เพราะเป็นช่วงรอเปิดเทอม ฉันก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ชินอิจิหายไปเลยตลอดสามวัน เขาคงหาฉันไม่พบ หรือไม่ ...ก็คงไม่หาอีกแล้ว และนั่นก็เป็นเรื่องดีไม่น้อย 
   ฉันใส่ชุดที่แม่ให้ลอง หรือก็คือชุดที่ฮิซูกิฝากมาให้นั่นเอง ฉันกำลังนั่งอยู่ที่โซฟารับแขกในห้องทำงานใหญ่ของเขา ขณะที่ว่าที่คู่หมั้นของฉันกำลังก้มหน้าก้มตาเตรียมเอกสารเพื่อเข้าประชุมใหญ่ในไตรมาสที่2ของปี เป็นห้องประชุมกว้างที่ติดกับห้องทำงานของเขา มีเก้าอี้ประมาณน่าจะสามสิบตัวได้ ทางหัวโต๊ะหันหน้าเข้ามายังห้องทำงาน และจอก็อยู่ทางด้านหลังของเก้าอี้ประธานใหญ่ซึ่งก็คงเป็นที่นั่งของเขา ฮิซูกิเป็นนักธุรกิจไฟแรงที่นั่งแท่นแทนบิดาได้ไม่นาน และบริษัทของเขากำลังไปได้สวย ฉันกำลังเรียนรู้งานจากเขาอยู่ และองค์ประกอบของห้องประชุมทั้งหมดที่ฉันรู้ ก็เพราะผนังห้องระหว่างห้องประชุมกับห้องทำงานที่นี่เป็นประจกน่ะสิ เขาดีไซน์กันได้แปลกใหม่และทันสมัยไม่น้อย ในห้องประชุมที่ตอนนี้มีบอร์ดบริหารนั่งอยู่กันแล้วเล็กน้อย แต่ประธานใหญ่กลับกำลังเตรียมเอกสารจนแฟ้มวางเกลื่อนเต็มโต๊ะทำงานใหญ่ไปหมด
    สามวันที่ผ่านมา ฮิซูกิเติมเต็มชีวิตฉันได้เยอะเลยทีเดียว ฉันไม่ต้องเหงา และแถมยังได้เป็นตัวของตัวเองขึ้นอีกมากโข ท่าทางการทำงานที่ขยันขันแข็งนั่น ดูหล่อเหลาเอาการทีเดียว
 
    "เสร็จละ เดี๋ยวพี่ขอประชุมสามชั่วโมงนะที่รัก เดี๋ยวกลับมา" 
 
  ไม่ต้องสงสัย ฉันตอบตกลงแต่งงานกับฮิซูกิแล้ว และเขาขอใช้ชีวิตเหมือนเราคบหากันมานาน คำแทนตัวถูกเปลี่ยนไป และท่าทางสนิทสนมของเรามีมากขึ้น ฉันย้ายออกจากบ้านมาอยู่ที่คอนโดแล้วเพราะทนแรงกดดันไม่ไหว มันเป็นแรงกดดันของความละอายต่อบาปของฉันเอง ฉันทำผิดต่อบุพการี ต่อว่าที่สามีในอนาคต และฉันต้องจบมันลงก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้
 
    "ค่ะ สู้ๆนะคะ" ฮิซูกิเดินรวบเอกสารทั้งหมดมาให้เลขาที่เป็นผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขา เจ้าหล่อนเป็นคนดูนิ่งๆ ไม่พูดมาก และทำงานเก่งทีเดียว
 
   เลขาเขาเดินนำออกไปถึงประตู ฮิซูกิเลยฉวยโอกาสเดินแวบมาทางที่ฉันนั่งอยู่ก่อนจะก้มลงจูบปากฉันอย่างดูดดื่มเพียงครู่เดียวก่อนจะรีบวิ่งหนีมือฉันออกไป 
   ถึงแม้เราจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ฮิซูกิกลับทำให้ฉันอุ่นใจเหมือนเราสนิทกันมามากกว่าสิบปี ที่ฉันนั่งอยู่เป็นโซฟายาวที่หันหน้าสู่ประตูทางออกของห้อง หรืออีกทีก็หันข้างใส่ห้องประชุมนั่นเอง ฉันจึงสามารถมองเห็นอีกฝั่งได้ทุกอย่าง และไม่แน่ใจว่าคนอีกฝั่งจะมองเห็นฉันไหมนะ แล้วที่ทำไปเมื่อกี้...... นึกขึ้นได้ใบหน้าก็ร้อนผ่าวทั้งๆที่แอร์เย็นฉ่ำ 
    ฮิซูกิเข้าไปนั่งประจำที่ของเขาเรียบร้อยซึ่งก็คือหันหน้ามาทางฉันทั่งกึ่งนั่งกึ่งนอนมองดูเขาอยู่ กระจกอีกด้านคงเป็นเลนส์ปรอทดำ ที่ถ้าเกิดไม่เพ่งมากก็คงมองไม่เห็นอีกฝั่ง ต่างจากฝั่งนี้ที่ดูใสแจ๋วเมื่อมองไปยังห้องประชุม ก็ยังคล้ายนั่งอยู่ในห้องเดียวกัน
   นี่เป็นการลอบดูพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมประชุมหรือเปล่านะ หญิงสาวคิดเล่นๆก็ยังขำเบาๆ
 
 
    "มีความสุขมากสินะ.." แต่เสียงข้างล่างที่ดังขึ้นกลับทำให้คนตัวเล็กต้องนั่งตัวตรงดิ่งและตั้งสติว่านี่ไม่ใช่มโนเสียงหรือหล่อนคิดไปเอง .....เสียงชินอิจิ
 
   "มีผัวใหม่ จะไม่หันมาสนผัวเก่าหน่อยหรือ"
 
   ชัดแจ๋ว แม้ไม่ต้องหันไปก็รู้ว่านี่เป็นเสียงของชินอิจิ .... เขาเข้ามาได้ยังไง
 
   "คุณ! ...... เข้ามาได้ไง!" ฉันยืนขึ้นเต็มความสูงแต่ก็ยังไม่เท่าคนที่ยืนอยู่ก่อน ที่แม้วันนี้จะใส่ส้นสูงมาแล้วก็ยังต้องเงยหน้าคุยกับเขาอยู่ดี
 
    "เป็นไงบ้าง หนีฉันไปสามวัน พ้นไหม คิดถึงลูกชายฉันบ้างหรือเปล่า" 
 
    "หยาบคาย คุณมัน...." หมดคำจะบริภาษ ต่อให้ด่าแรงแค่ไหนชินอิจิก็ไม่มีวันเป็นเดือดเป็นร้อนหรอก เขาหนังหนา และฉันในวันนี้จะไม่ยอมเขาเหมือนกัน
 
    "ไม่ตอบแสดงว่าคิดถึง ทำไม... ผัวใหม่มันไม่อึดหรือว่าลีลาไม่ดีล่ะ" เขาสอดมือเข้าไปในกระเป๋าท่าทางสบายๆ แถมยังเอียงคอถามเหมือนเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศ
 
     "เขาดีทีเดียวแหละ อ่อนโยน สุภาพบุรุษ ให้เกียรติ แถมยังท่าเยอะด้วย" 
 
     "งั้นเหรอ... ไปแอบเอากันตอนไหนล่ะ ห้องน้ำ สวนสนุก ร้านอาหาร ใต้ต้นไม้ สระว่ายน้ำแบบที่ฉันทำหรือเปล่า" ชินอิจิยังคงตีรวนหญิงสาว เอาเรื่องที่เคยทำมาพูด แต่คนตัวเล็กตรงหน้าเขานี่สิแปลกไป ไม่มีท่าทางว่าจะเขินอายเหมือนเมื่อก่อนสักนิด คนตัวโตจึงตัดสินใจไปนั่งกอดอกอยู่บนโซฟาด้านข้างหญิงสาวซึ่งอยู่ติดกัน และเอวกระโปรงยาวรัดรึงก็เลยระดับสายตาเขามาหน่อยเดียว
 
    "ไม่หรอก นั่นมันธรรมดาไป พวกเราเมคเลิฟบนลิโม่รอบเมือง แถมตอนไปดินเนอร์ก็ยังแอบได้เล็กน้อยพอตื่นเต้นดี แถมเขาใช้ลิ้นเก่งชะมัด ขอบคุณคุณด้วยที่สอนฉันตั้งมากมาย ซูกิคุงชมปร๋อเลยล่ะ ว่าฉันก็ใช้ลิ้นเก่ง"
 
   สิ้นคำพูดอวดดีคนตัวเล็กถูกจับเหวี่ยงให้นอนยาวตามพื้นโซฟา ก่อนกระโปรงผ้าฮานาโดะที่แนบทุกสัดส่วนจะถูกดึงขึ้นไปจนเห็นสายถุงน่องที่รัดกันเอาไว้ข้างในดูเซ็กซี่ ชั้นในตัวบ้างถูกดึงออกชนิดที่เจ้าของไม่ทันตั้งตัว
ชินอิจิคำรามลั่นชิดเนินดอกไม้งามก่อนจะใช้นิ้วแหวกทางเปิดเปลือยความชมพูให้ลิ้นเข้าไปดูดดึงดัง ซวบซาบ 
 
   "แน่ใจหรือว่าทำกันจริงๆ ถ้างั้นขอพิสูจน์หลักฐานหน่อย!" เสียงเล็กแม้จะคร่ำครวญออกไปมากแค่ไหน เรียกให้คนช่วยเท่าไหร่ก็ไม่มีใครได้ยิน ด้วยห้องทำงานที่ใช้การก่อสร้างแบบเก็บเสียงระดับดีเยี่ยม คนตัวเล็กว่าที่คู่หมั้นเจ้าของตึกจึงถูกผู้บุกรุกชอนไชสำรวจความช่ำชองจนเขารู้ว่าแท้จริงแล้ว ดอกไม้กำลังซ่อมแซมตัวเองและไม่ได้รับการเติมเต็มใดๆตั้งแต่วันที่เขาทิ้งให้ห่างหายไป แม่ตัวดีนี่โกหกเขา ....แต่แทนที่จะโกรธ ชินอิจิกลับยิ้มร่าและระเรงริ้วอย่างฉับไวแกล้งคนขี้โกหกใต้อาณัติเขาจนร้องครางไม่ได้ศัพท์
 
   "ปล่อยฉันนะ!! พี่ซูกิ ช่วยฮารุด้วย!" แม้จะร่ำร้องเพื่อให้พ้นมือปีศาจนี่แค่ไหนแต่ก็ไม่มีแววว่าใครจะได้ยิน นาทีนี้ ฉันคงต้องช่วยตัวเอง
 
    เมื่อร่างสูงผละออกไปปลดตะขอกางเกง หญิงสาวจึงใช้จังหวะยันตัวขึ้นของชายหนุ่ม แนบรองเท้าส้นสูงขึ้นไปเต็มอกก่อนจะออกแรงจนชินอิจิหงายหลังลงไป ตั้งหลักได้ก็วิ่งไปคว้ากระเป๋าริมโต๊ะวางแจกันชิดกระจกเตรียมตัวจะวิ่งออกไป เผลอมองคนที่นั่งประชุมอยู่หน้านิ่งก็นึกอายขึ้นมาเสียอย่างน้ัน นึกขึ้นได้ว่าตนเองยืนอยู่ตรงนี้ทั้งๆที่ยังไม่ได้รวบกระโปรงลง เปิดเผยความสาวต่อสาธารณะชน ตั้งสติดึงกระโปรงลงได้ก็เตรียมเผ่นไปยังประตูเต็มที่ แต่ทว่ากลับมีมือที่ไวกว่าเอื้อมมาด้านหลังกระชากกระโปรงบางขึ้นอีกครั้งก่อนจะยกเรียวขาสวยที่สวมส้นสูงเอาไว้ขึ้นพาดกับโต๊ะวางแจกันตัวเดิน
   ความแข็งแกร่งสอดเข้ามาจากทางด้านหลังไม่ทันให้หญิงสาวได้ตั้งตัว จุดประสานนอกจากความชื้นจากลิ้นของเขาแล้วไม่มีสารใดปนเปื้อน ชั้นในขาดกระจุยถูกทิ้งไว้ในถังขยะข้างโซฟาชุดและตอนนี้นอกจากกระโปรงที่ถูกถกขึ้นแล้วจึงไม่มีอะไรปิดบัง
 
    "กรี้ด!!! เอาออกไปนะ อีตาบ้า!" หญิงสาวร้องด่าเขามั่วเพราะการถูกเติมเต็มไร้การเล้าโลมสร้างความเจ็บจุกให้ตน และไม่ทันไรเขาก็ปลดกระดุมเสื้อเชิร์ตสีขาวออก ชั้นในตะขอหน้าถูกปลด และโนมเนื้อที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวจึงถูกปล่อยออกมาอย่างชิดกันแน่น เพราะตัวเสื้อเชิร์ตรั้งเอาไว้ 
 
    "อย่านะ ไอ้คนเลว ทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง จะแจ้งตำรวจ!"
 
    "เอาสิ แจ้งมาจับผัว ก็เอาสิ" เขาพูดย้ำเสียงเข้มก่อนจะสวนกายจากทางด้านหลังเติมเต็มจนจุดประสานเริ่มมีน้ำจากกายสาวไหลมาหล่อลื่นจนทำให้เสียงของการเสียดสีดังเข้าหูทั้งคู่
 
   "ผัวฉันไม่ใช่คุณ!! ปล่อยนะ!! ไม่!" 
 
 
 
 
 
ฮาโหย นานๆ มาทีก๊ะหลายๆตอนหน่อยเนอะ
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์นะก๊าบ
เห็นแล้วชื่นใจเวอร์อ่ะ จริงๆนะ
เชื่อจิ ว่ามีให้ลุ้นเยอะกว่านี้อีกกกก
เก๊าแอบโดนดุมานิดหน่อยตอนลงที่เว็บอื่นด้วย
คือบทมันพีคไปนิ้ส อิอิ รอลุ้นกันน้า
เอาอีกที ขอบคุณมากๆๆๆ นะคะที่เม้น เม้นมาเยอะยังไม่ดีใจเท่าโดนโหวตเลยอะจริง
จุบๆ รักคนอ่าน

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา