The Central planning
เขียนโดย honey_me
วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 08.51 น.
แก้ไขเมื่อ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 22.08 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) พบเจอ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความในที่สุดฉันก็มายืนอยู่หน้าผับนี้จนได้ ก็มันนอนไม่หลับนี่น่าฉันเดินเข้าไปในผับ ก็มีสายตามากมายจ้องมาที่ฉันเป็นตาเดียว ทำไมถึงพวกผู้ชายพวกนั้นถึงได้มองฉันแบบแปลกๆแบบนี้ รึว่าฉันลืมรูดซิบกางเกงรึไงวะเนี่ย -.,-*
คงเป็นเพราะฉันแต่งตัวปะหลาดไม่เหมือนชาวบ้านเค้าสินะ ฉันก้มมองดูสารรูปตัวเองแล้วไปมองดูสาวๆที่อยู่ด้านในผับมันต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย แหงละฉันใส่แค่เสื้อกล้ามพอดีตัวกับกางเกงยีนขาดๆ มานี่ แถมผมก็ยังปล่อยยาวสยายมาเลย ส่วนผู้หญิงที่ในผับต่างสวยเปรี้ยว เฉียวประชันความสวยกันสุดฤทธ์ อย่างกับนางแบบที่หลุดออปมาจากแคทวอล์ค จึงไม่แปลกที่พวกเค้าจะมองฉันแบบตัวประหลาด พอเข้าไปข้างในก็พบถึงความแออัดของคนแต่ถึงยังไง คนพวกนี้ก็ยังดิ้นกันไม่หยุดเหมือนปลาดุกโดนน้ำเกลืองยังไงยังงั้น เสียงเพลงบีทหนักๆทำให้รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรให้ตายสิไม่ชอบเลยจิงๆ -_-* (แกไม่ชอบเเล้วมาทำไรวะยัยปั้ยหยา)
ฉันด่าตัวเองในใจ ทุกที่เต็มจนไม่เหลือที่ว่างเลยฉันเลยแหวกฝูงชนไปหาที่นั่ง สุดท้ายก็ได้ที่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ใกล้หลังเวที
“รับอะไรดีครับคุณผู้หญิง”
บาร์เทนเดอร์ถาม ขณะที่กำลังง่วนกับการชงเหล้าให้กับโต๊ะข้างอยู่
“ขอเป็นน้ำส้มแก้วนึงคะ”
ฉันสั่งเขาไป เสียงเพลงที่ดังกะหึ่มบวกกับเสียงกรี๊ดที่ดังสนั่นจึงทำให้รู้ได้ว่า ตอนนี้พวกสมาชิกวง THE EST กำลังจะขึ้นร้องเพลงกันแล้ว ผู้คนมากมายต่างก็เข้าไปมุงดูติดขอบเวทีจนฉันมองแทบไม่เห็น แถมเสียงกรี๊ดก็ดังจนกลบเสียงร้องไปหมดแล้ว นี่หูฉันจะพังมั้ยเนี่ย -_-;
ทั้งเสียงกรี๊ด กลิ่นแอลกอลดฮอล์ แถมมาด้วยความอึดอันมันทำให้ฉันรูสึกเหมือนจะขาดใจตายให้ได้ พอร้องได้สามเพลง พวกเค้าก็เปลี่ยนให้อีกวงนึงขึ้นแทน แล้วอยู่ๆบาร์เทนเดอร์ก็ส่งแก้วมาให้ฉัน
“เตกีล่าครับคุณผู้หญิง”
บาเทนเดอร์ส่งแก้วเตกีล่ามาให่ฉันก่อนจะหันหน้ากลับไปชงเหล้าต่อ แต่เอะฉันไม่ได้สั่งน่าน่าของใครกัน ก่อนที่ฉันจะอ้าปากถามบาเทนเดอร์เหมือนเขาจะรู้เลยผายมือไปยังพื้นที่ข้างๆ ฉัน ก็พบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งเป็นคนสั่งให้กำลังยิ้มยิงฟันมาแต่ไกล แถมกำลังเดินมาหาฉัน เขาเป็นคนหน้าตาดีจนออกเวอร์ไปเลยด้วยซ้ำ หน้าตาเหมือนลูกครึ่งค่อนไปทางยุโรป มีดวงตาสีดำสนิทคมกริบแบบเจ้าเลห์นิดๆ ซึ่งรับกับจมูกโด่งๆ ของเค้าได้เป็นอย่างดี และมีริมฝีปากที่บางเฉียบได้รูปทำให้เขามีเสน่ห์จนสาวๆ หลายคนหลงไหล แต่ไม่ใช่ฉันถึงเขาจะหล่อมากแต่ฉันไม่หลงเสน่ห์ผู้ชายง่ายๆ หรอกยะ ที่เขาเข้ามาหาฉัน ก็คิดได้แต่เพียงว่า เขามาไม่ดีแหงๆ
“มาคนเดียวหรอ มาที่นี่ดื่มแต่น้ำส้มฉันว่ามันไม่สมเหตุสมผลนะ ฉันซันแล้วเธอละชื่ออะไร”ดูจากสายตาของเค้าก็รู้ได้ทันทีว่าเค้าเข้ามาหาฉันเพื่อที่จะล่า แต่บอกไว้ก่อนผู้หญิงคนอื่นอาจจะใช่ แต่ว่าหรับฉันปั้นหยาคนนี้นะไม่มีทางที่จะหลงเสน่ห์เขาง่ายๆ หรอก
“แล้วทำไมฉันต้องบอกนายไม่ทราบ แล้วนี่เอาคืนไปฉันไม่นิยมแอลกอฮอล์ “
ฉันยื่นแก้วเตกีร่าคืนให้กับซันเพนาะฉันไม่ดื่มจิงๆ นะ ฉันว่ามันไม่ค่อยอร่อยแล้วอีกอย่างฉันมาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อเที่ยวซักหน่อย
“บอกหน่อยเถอะ น่าไม่สวยแล้วยังยิ่งอีก ผู้หญิงอะไรวะ”
ซันพูดประชดประชัน งอนเหมือนเด็กๆ
“นี่นายเลิกยุ่งกับน้องสาวฉันซักที !!!!”
“เธอเป็นบ้าอะไรเนี่ย น้องเธอเข้ามาหาฉันเองนะ -_-*”
แต่อยู่ๆก็มีเสียงทะเลาะกันเอะอะดังมาจากหลังด้านหลังของเวที เอ๋เสียงนี้คุ้นหูฉันนะหวังว่าคงไม่ใช่อย่างที่ฉันคืดละ ขอไปดูหน่อยแล้วกันเพื่อความมั่นใจ ฉันเดินไปข้างหลังเวทีก็มี ผู้ชายหนึ่งคนทะเลาะกันกับผู้หญิงที่คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นมิรินเพื่อนของฉันอยู่ ส่วนแอนนาถูกผู้ชายคนนั้นโอบเอวเอาไว้ เออมันไม่ใช้เรื่องของฉันไปดีกว่า
เอ๋!!!
เดี๋ยวก่อนเมื่อกี้นี้มันยัยมิรินนี่น่า เหมือนพึ่งนึกได้ฉันนี้มันมันเซ่อจริงๆ เลย
“เฮ้มิรินแกไปทำอะไรอยู่ตรงนั้นนะ”
ฉันเดินเข้าไปหามิริน ทำให้ทั้งสองคนหยุดทะเลาะกันชั่วคราว แล้วหันมามใองฉันเป็นตาเดียว
“ฉันมาตามน้องฉันกลับบ้านนะปั้นหยา แล้วแกมาทำไรที่นี่ปรกติแกไม่เที่ยวนี่”
พอฉันเหลือบไปมองเห็นก็แอนนาถูกผู้ชายคนนั้นโอบเอวเอาไว้ ถ้าฉันดูไม่ผิดเค้าน่าจะเป็น ออกกัสมือเบสแห่งวงTHE EST ซึ่งพอมาเห็นใกล้ๆ แล้วค้าหล่อมาก ค่ะเขามีใบหน้าออกลูกครึ่งไทยผสมชาติทางแทบยุโรป มีผิวที่ขาวโอโม่มาก ส่องประกายวิ้งๆ จนฉันแสบตาไปหมด มีดวงตาที่คมกริบประดุจสายตาของเหยี่ยวที่ทั้งดุดันและเฉียบคม และมีใบหน้าที่หล่อเหลาจนสามารถสยบสาวน้อยสาวใหญ่ได้เพียงแค่ชายตามอง เค้ามีฉายาว่าคาสโน่ว่าเรียกพี่นี่คงไม่ใช่เรื่องที่เอามาล้อกันเล่นๆ แน่ เห็นเค้าเจ้าชู้แบบนี้แต่ก็มีสาวๆ มากหน้าหลายตาตบเท้าเข้ามาเกยตื้นไม่เว้นแต่ละวัน มิน่าละมิรินถึงรู้เรื่องพวกนี้ดีเพราะน้องสาวของมิรินมาพัวพันด้วยนั้นเอง พอตั้งสติได้ฉันเลยคิดว่าต้องช่วยเพื่อนตัวเองก่อน
“นี่แอนนากลับบ้านกับมิรินก่อนเถอะ ใจเย็นเมื่อไรค่อยคุยกัน”
ฉันพูดแล้วมองที่มิรินที แอนนาที แล้วก็มองไปทางออกัสที
“ไม่คะแอนไม่กลับ พี่ปั้นหยาก็ดูพี่มิรินสิคะ เป็นพี่แท้ๆ แต่ทำตัวยิ่งกว่าแม่”
แอนนสพูดออกมาอย่างเดือดดาล แหม๋เด็กสมัยนี้ช่างกล้าแฮะ
“ว่าไงนะยัยแอนนา นี่พี่เป็นพี่แกนะ มาเที่ยวเกาะผู้ชายคนนู้นทีคนนี้ที แกไม่รักศักดิ์ศรีของตัวเองหน่อยหรอ -_-;”
มิรินด่าได้เจ็บแสบมาก แย่ละสิทะเลาะกันใหญ่แล้ว จะทำยังไงดีละเนี่ย
“นี่นายใจคอจะให้พี่น้องเค้าทะเลาะกันอย่างงี้หรอ”
ฉันหันไปตวาดตัวตนเหตุ ที่ทำให้พี่น้องเค้าต้องทะเลาะกัน นี่ฉันด่านายอยู่นะยังจะมาทำตาเยิ้มใส่กันอีก
"ถ้าเธอมาให้ฉันมาคบกับฉันแทนแก้ขัดไปก่อน ฉันอาจจะคืนน้องสาวเพื่อนเธอให้ก็ได้นะ"
หมอนี่ไม่สำนึกแล้วยังจะมาทำเจ้าชู้ใส่กันอีก คนบ้าอะไรในหัวมีแต่เรื่องผู้หญิง ดูสิยังมาทำตาเยิ้มใส่ฉันอีก สำนึกนะมีบ้างมั้ยอีตานี้ "นี่นาย"
ฉันพูดได้แค่นี้จริงๆ นะ เพราะไม่รู้ว่าจะด่าเขาด้วยคำว่าอะไรดีนะสิ
“นี่ไอ้ออกกัส ฉันว่าแกบอกน้องแอนนาให้กลับบ้านก่อนเถอะ ใจเย็นเมื่อไหร่ค่อยเคลียร์กันทีหลัง”
เสียงผู้ชายดังมาจากด้านหลังของฉัน เมื่อฉันหันไปดูตามเสียงก็เห็นว่า เค้าคือคิมมือกีต้าร์สมาชิกของวง THE EST เหมือนกัน เค้าเป็นลูกครึ่งน่าจะมีเชื้อทางญี่ปุ่นรึไม่ก็ทางก็ทางเกาหลี เป็นคนที่หล่อได้กระซวกใส้มากค่ะ มีโครงหน้ารูปใข่ ผสมกับมีดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่คมกริบดุดันที่ทรงพลังมาก สามารถดึงดูดสาวๆ ให้เข้าไปหาได้โดยไม่ต้องร้องขอ เขามีจมูกรั้นนิดๆ บ่งบอกว่าเป็นคนเอาแต่ใจ รับกับริมฝีปากบางสีแดงสดชวนให้น่าสัมผัสตลอดเวลา มีผิวที่ขาวมากแต่ไม่เท่ากับออกัส รูปร่างที่สุดเพอร์เฟ็กของเขาทำให้ผูหญิงหลายคนละลายได้เลยเมื่อแรกพบ เค้ามีฉายาว่าเจ้าแห่งแผนการแห่งวง THE EST
“เออรู้แล้วน่า ถึงแกไม่บอกฉันก็จะทำ แอนนาพี่ว่ากลับไปก่อนเถอะ เดี่ยวเราค่อยเจอกันใหม่นะจ๊ะ”ออกกัสพูดแถมยังเอาจมูกถูข้างแก้มของแอนนาอีก เหมือนพยายามยั่วยัยมิรินเดี๋ยวระเบิดก็ได้ลงหรอก
“นี่นายเลิกลวนลามน้องฉันได้แล้ว”
พูดเสร็จมิรินดูท่าทางจะเหลืออดจริงๆ เข้าไปกระชากแอนนาออกมา ว่าแล้วไงมิรินนะขี้โมโหง่ายแต่ถึงอย่างงั้นเธอก็รักน้องสาวของตัวเองมากเหมือนกัน
“แอนนาเจ็บนะปล่อย”
แอนนาสะบัดแขนอย่างแรง เพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมของมิริน
“พอเถอะหยุดได้แล้วแอนนากลับบ้านกับมิรินเถอะพี่ขอร้อง”
ฉันใช้สายตาอ้อนวอนแอนนา เพื่อให้แอนนาใจเย็นกว่านี้ก่อน แล้วยอมกลับบ้านไปถ้าไม่อย่างงั้นมีหวังเรื่องใหญ่แน่ๆ
“ก็ได้นี่เป็นเพราะพี่ปั้นหยาขอไว้หรอกนะ ฉันถึงยอมไป”
แอนนาพูดจบก็เดินจ้ำอ้าวออกไปนอกผับทันที โดยไม่สนสายตาประชาชีที่มามุงดูเธออยู่ มาเร็วเครมเร็วจริงๆ ยัยคนนี้ ฉันเผลอส่ายหัวให้กับการกระทำของยัยแอนนา
“ขอบใจปั้นฉันไปก่อนละ”
“พูดกับแอนนาดีดีละ”
ฉันจึงตะโกนไล่หลังมิรินที่กำลังเดินออกไป พอพูดเสร็จฉันก็หันกลับไปโดยมาสายตาของคิมจ้องฉันอยู่ก่อนแล้ว
“อุ้ยปลาหลุดมือไปซะแล้วสิ”
ซันที่เงียบอยู่นานพูดยั่วออกัส ที่เอาแต่มองยัยมิรินเดินออกไปนอกผับจนสุดตา นี่เค้าทำอย่างอื่นไม่เป็นแล้วใช่มั้ยเนี่ย
“หุบปากเน่าๆ ของเเก แล้วเก็บเอาไว้ใช้กินข้าวเถอะไอ้ซัน ก่อนที่มันจะกินไม่ได้”
ออกัสพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งๆ พร้อมที่จะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อเห็นได้ชัดว่าเค้ากำลังโกรธมากแค่ใหน
“ส่วนเธอก็ควรจะดูแลคู่ขาของตัวเองให้ดีๆ หน่อย อย่าปล่อยให้มันเอาปากเน่าๆ ของมัน ออกมาระรานชาวบ้านเค้า”
คราวนี้คิมเป็นคนพูด หน้าตาก็ดีทำไมเค้าถึงมาแขวะกับคนที่ไม่รู้จักอย่างฉันเนี่ย ฉันไปทำอะไรให้เค้าเนี่ย
“นี่นายฉันไม่ได้เป็นอะไรกับอีตานี่นะ แล้วกรุณาให้เกียรติคนที่พึ่งเคยเห็นหน้ากันหน่อยสิ หน้าตาก็ดีอยู่หรอกแต่นิสัยใช้ไม่ได้เลย”
ฉันพูดออกไปอย่างโมโห ก็มันน่ามั้ยละฉันไม่ได้ไปทำอะไรเค้าสักหน่อย อยู่ดีดีก็มาแขวะกันแบบนี้นะมันใช้สิ่งที่คนเป็นสุภาพบุรุษเค้าทำกันรึไง
“พอเถอะวะไอ้คิมกลับกันเถอะ”
ออกัสพูดแล้วดึงคิมให้ไปกับเขา โถ่นึกว่าจะแน่ ชิชิ พอฉันเดินออกมาจากผับเพื่อที่จะกลับบ้าน ซันก็เดินตามต้อยๆอย่างกับเด็กน้อยเดินตามเเม่
“นี่นายจะตามฉันไปถึงเมื่อไร”
ฉันหันไปตวาดอีตาซันที่เดินตามฉันเหมือนโรคจิต ที่ชอบเดินตามคนอื่นอยู่นั้นแหละ
“กลับยังไง”
“แท็กซี่สิถามแปลก”
“เดี๋ยวฉันไปส่งแต่งตัวแบบนี้เดียวโดนลากเข้าป่าหรอก”
“ไปกับนายนะสิจะโดนลากเข้าป่า อย่ายุ่งกับฉันนะไปไกลๆ เลยไป”
เมื่อไหร่เขาจะเลิกตามฉันซักทีเนี่ยรู้บางมั้ยว่ามันน่ารำคาญแค่ใหน แล้วฉันจะไปกับเค้าได้ยังไง ฉันว่าถ้ากลับกับเค้าฉันขอโบกรถสิบล้อ ยังจะปลอดภัยกว่าอีก
“นี่เธอ รู้อะไรมั้ยว่าไม่เคยมีผู้หญิงคนใหนปฎิเสธฉัน”
ซันจับแขนฉันไว้แล้วบีบแรงๆ บ่งบอกว่าอารมณ์ของเขาตอนนี้เริ่มเหลืออดเหลือทนกับฉันแล้ว แต่มีหรือปั้นหยาจะยอมชิ -_-#
“ปล่อย “
ฉันขึ้นเสียงแล้วทำตาขวางใส่ซัน ไม่ใช่แค่เค้านะที่โกรธเป็น แต่ฉันเองก็โกรธเป็นเหมือนกัน
“โอเคปล่อยก็ได้คราบ”
ซันคงเห็นว่าฉันเริ่มโกรธเลยยอมปล่อยมือจากฉัน แล้วซันเดินหันกลับไปที่ผับต่อ ฉันจึงเดินออกไปด้านนอกเพื่อจะไปเรียกรถแท็กซี่กลับคอนโด แต่อยู่ๆ ก็มีคนเข้ามาจับแขนฉัน
“นี่นายจะอะไรกับฉันนักหนาเนี่ย”
เอ๋!!!
ฉันหันกลับไปก็เจอเข้ากับผู้ชายหน้าตาอย่างกับกอลิล่าในสวนสัตว์ เข้ามาถือวิสาสะเข้ามาจับแขนฉัน
“คนสวยช่วยไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิจะ”
ยี๋หน้าตาน่ากลัวแล้วยังทำตัวน่าเกลียด เป็นภัยสังคมจิงๆ เลยไอ้พวกนี้รู้จักปั้นหยาน้อยไป เดี๋ยวแม่จับแทงเข่าซะหรอก
“ไม่ว่างคะพอดีรีบไปงานศพค่ะ”
“ศพใครละคนสวย”
“ก็ศพพี่ไงค่ะ”
ฉันตอบกลับไปด้วยสายตาที่เย็นๆ บอกให้เค้ารู้ว่าตอนนี้ฉันเบื่อและรำคาญเต็มทน
“หน่อยแน่นางนี่”
พูดจบไอ้หน้ากอลิล่ามันก็เงื้อมือจะตบฉัน แต่อย่าได้หวังว่าจะทำอะไรฉันได้แต่ก่อนที่ฉันจะทำอะไร ไอ้หน้ากอลิล่า ก็มีคนมาจับที่ข้อมือของมันไว้ จนมันขยับมือไม่ได้
“เฮ้ยผู้หญิงเค้าไม่เล่นด้วยแกยังตอดไม่เลิกหรอวะ”
คิมไม่รู้โผล่มาจากทางใหนตอนนี้เค้า กำลังจับแขนของไอ้กอลิล่าที่เอาไว้ พร้อมทั้งบิดข้อมือแรงๆจนไอ้บ้านั้นร้องลั้น
กร๊อบ!
“โอ้ย!!”
“แกเป็นใครวะมายุ่งเรื่องของผัวเมียเค้าทำไมวะ”
ไอ้หน้าลิงบาบูน ฉันไปเป็นเมียแกกันตั้งแต่เมื่อไร พูดออกมาได้ไม่อายปากเดี๋ยวแม่จับยัดชักโครกซะหรอก
“ยัยนี่เด็กฉันแกนั้นแกนั้นแหละมายุ่งทำไม”
คิมพูดไม่พูดเปล่าแถมยังเอามือมาคล้องเอวฉันไปแนบชิดกับตัวเค้าอีกต่างหาก นี่สรุปว่าฉันมีสามีกี่ละคนเนี่ย
หลายใจจริงเลยเรา -_-’
“อย่ามาทำปากดี ฉันเล็งยัยนี่ตั้งแต่เดินเข้าผับมาแล้ว ถอยไปอย่ามายุ่งดีกว่าน่า”
ผัวะ!
ตุ๊บ
ไอ้หน้ากอลิล่ายังไม่ลดละความพยายามแถมยังจะพยายามปล่อยหมัดใส่คิมแต่คิมไวกว่ามาก รับหมัดของมันได้แถมยังสวนกลับด้วยความเร็วเหนือแสงอีกต่าหาก ทำให้ตอนนี้ไอ้หน้ากอลิล่าล้มลงไปนอนจูปกับยามะตอยบนถนนเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังตะเกียดตะกายลุกขึ้นมาได้อีกแนะ
“ยังลุกขึ้นมาได้อีกหรอเนี่ย”
คิมยืนกอดอกชำเรืองหางตามองดูผลงานของตัวเอง
“ฝากไว้ก่อนเถอะแก”
มันพูดแถมชี้หน้าคิมอย่างคาดโทษ ก่อนจะตะเกียดตะกายวิ่งหนีเข้าผับไป
“แล้วนี่ไปไงมาไงคู่ขาของเธอไปไหนซะละ ถึงปล่อยให้เธอมาเดินอ่อยผู้ชายแถวนี้”
คิมพูดแล้วยืนเต๊ะท่ากอดอกมองมาทางฉัน คิมไอ้ผู้ชายปากเสียไม่เข้ากันกับหน้าตาเขาเลยจริงๆ
“มันเรื่องของฉัน แล้วนายมีอะไรไม่ทราบ”
“แล้วนี่จะไปใหนเนี่ย”
ก็จะให้ไปใหนได้ละ ก็กลับบ้านสิถามแปลกๆ แต่ก่อนที่ฉันจะได้ทำอะไรก็มีคนกลุ่มนึงราวๆ ซัก 10 คนเห็นจะได้วิ่งกรูกันออกมา
“เฮ้ย พวกมันอยู่นั้น”
คนตะโกนใช่ใครที่ใหน ไอ้หน้ากอลิล่ามัน ตีกับคิมไม่ได้เลยพาพวกมาอีกเป็นสิบ แต่ละคนเหมือนหลุดออกมาจากสวนสัตว์ตัวใหญ่อย่างกับหมีควาย ต่างวิ่งกรูกันมาอย่างกับควายที่วิ่งออกมาในประเพณีวิ่งควายยังงั้นเลย โอ้ยอะไรอีกเนี่ยทำไมวันนี้มันถึงได้มีแต่เรื่อง
พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยปั้นหยาด้วยT_T
“Damn!!! เธอทำเรื่องแล้วมั้ยละ”
คิมสบถออกมาก่อนจะหันมามองที่ฉันด้วยสายตาคาดโทษเอาไว้ แล้วอยู่ๆ พวกมันก็พากันวิ่งเข้ามาล็อกตัวฉัน
“ไอ้หน้าหล่อวันนี้ขอซักวันเถอะ หมั่นใส้มานานแล้ว”
ผัวะ!!!
ตุ๊บ
ไอ้เจ้าพวกนั้นวิ่งกรูเข้าไปใส่คิมไม่ยั้ง แล้วเค้าจะเป็นอะไรรึเปล่านะ
“ว่าไงคนสวยถ้ายอมให้พี่พาขึ้นสวรรค พี่จะปล่อยมันไป”
ไอ้หน้ากอลิล่าพูดกับฉันที่มัวแต่หันไปมองคิม ที่กำลังตะลุมบอนกับพวกมันอยู่ คงไม่ว่างมาช่วยฉันแน่ ตอนนี้ฉันขอช่วยตัวเองก่อนแล้วกัน มัวเเต่ทำออ่นแอเดี๋ยวได้สามีหน้าตาพิลึกกันพอดี
กึก!
“โอ้ย”
พอตั้งสติได้ฉันจึงเอาหัวฉันโขกเข้ากับปลายคางของไอ้หน้าเหลี่ยมที่ล็อกตัวฉันไว้ ทำให้มันเอามือไปกุมที่คางแทน ฉันเลยหลุดออกมาได้ จากนั้นคิมก็วิ่งหนีมาทางฉัน เท่านั้นยังไม่พอเค้าจับมือแล้วลากฉันไปด้วย
“เฮ้นายจะพาฉันไปไหนเนี่ย”
“เงียบเถอะ ฉันสู้ไม่ไหวเพราะมันมีเยอะเกินไป แล้วก็วิ่งตามมาถ้าไม่อยากเป็นเมียไอ้พวกนั้น”
“เฮ้ยมันอยู่นู้น”
เสียงหนึ่งในกลุ่งของไอ้กอลิล่าดังไล่หลังมาติดๆ ทำให้คิมตอนนี้ที่เร็วอยู่แล้ว วิ่งเร็วขึ้นไปอีกนี่เค้าจะไปแข่งโอลิมปิกรึไงเนี่ย
“เร็วเข้าสิเธอนะ”
แหงละสิก็ก้าวหนึ่งของเขา เท่ากับสองก้าวของฉันเลยนี่ ถึงฉันจะวิ่งเร็วแต่คิมเร็วกว่า ดีนะที่ฉันใส่แค่รองเท้าผ้าใบมาไม่งั้นมีหวังได้ตกตึกกันบ้างละ วิ่งมาได้ไกลพอสมควร เค้าก็พาฉันหลบหลังกองขยะคะที่อื่นไม่มีแล้วใช่มั้ย =^=
“นี่นายไม่มีที่อื่นแล้วรึไง”
อุบ!!
“เงียบเถอะน่า รึเธออยากมีสามีหน้าตาพิลึกพวกนั้นนะ”
พูดไม่พอยังเอามือมาปิดปากฉันอีก จับอะไรมาบ้างก็ไม่รู้แถมยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ทำให้ตอนนี้ฉันได้กลิ่นน้ำหอมผสมกับกลิ่นบุหรี่จางๆ ของเขา จนใจฉันเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ใกล้เกินไปรึเปล่าเนี่ย โอ้ยปั้นหยาจะเป็นลม
“พวกมันไปทางใหนวะ”
เสียงพวกไอ้กอลิล่าถามพรรคพวกของมัน
“หายไปใหนแล้วเนี่ยไวอย่างกับลิง ลองไปดูทางนู้นก่อนเถอะ”
ตึกๆๆๆๆ
พูดจบก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งกรูกันออกไปจากบริเวณนั้น ซักพักเสียงของเจ้าพวกนั้นก็เงียบไป
“เจ้าพวกนั้นไปกันหมดแล้ว ออกไปกันเถอะ”
คิมพูดแล้วปล่อยมือที่ปิดปากฉันออก ทำให้เราสบตากัน แต่ก่อนที่อะไรจะเลยเถิด เสียงโทรศัพท์ของคิมก็ดังขึ้น
ตืดดดดดด ตืดดดดดดด
“ฮัลโหล”
“เอารถฉันมาให้ที ตอนนี้อยู่ที่... มีเรื่องนิดหน่อยเออขอบใจ”
พูดจบคิมก็จับมือฉันออกมาจากกองขยะ ซักพักรถสปอร์ตหรู 2 คัน ก็มาจอดตรงที่เรายืนอยู่ แล้วออกัสก็ถือกุญแจเดินออกมาแล้วยื่นกุญแจให้คิม
“ขอบใจ”
“เออไม่เป็นไร ไปก่อนละไอ้ชินมันรอรออยู่”
พูดจบออกัสก็เดินไปขึ้นรถอีกคันที่ชินขับอยู่
“เราก็ไปกันบ้างเถอะ”
“เรายังไง”
ฉันทำหน้าเอ๋อได้โล่ รู้สึกว่าสติสตังที่เข้าใกล้ผู้ชายหล่อมากเกินไปยังกลับมาไม่สมบูรณ์
“ก็ใช่ไงหรือเธอจะรอให้ไอ้พวกนั้นกลับมาก็ได้นะ”
คิมพูดแล้วเดินไปที่รถเค้า
“เดี๋ยวคิมรอด้วย”
ไปกับเค้าคงดีกว่าเผชิญหน้ากับไอ้พวกนั้น เพราะตอนนี้ฉันเองก็ไม่อยากมีเรื่องอยู่ด้วย สุดท้ายเค้าก็ขับรถมาส่งฉันที่คอนโดจริงๆ เราเลยลำลากันอย่างคนมีมารยาท จากนั้นฉันก็เข้าห้องอาบน้ำแล้วล้มตัวลงนอน แต่จนแล้วจนรอดก็นอนไม่หลับซักที
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ