คำหอม

-

เขียนโดย Bush

วันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 10.54 น.

  6 ตอน
  0 วิจารณ์
  8,664 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 กันยายน พ.ศ. 2558 11.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) แสงทองส่องหล้า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

พิธีวิวาห์ของฟองดูและกำไรเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของแม่ดวงเดือนที่มองดูสถานการณ์แล้วน่าเป็นห่วงเลยจัดการวางแผนให้ฟองดูและหมวยได้ตกร่องปล่องชิ้นกันด้วยวิธีง่าย ๆ คือเดินเข้ามาในซอยบ่อนไก่มาที่บ้านเช่าของคำหอมและเล่าให้ฟังว่าตอนนี้เธอและแจคต่างแยกย้ายกันไปคนละทางและดวงเดือนเองไร้ที่พึ่งซึ่งก็เท่ากับกำไรหลานสาวในไส้จะต้องตกระกำลำบาก

 

"แกก็รู้นะคำหอมว่ากำไรมันมีฉันอยู่คนเดียวและตอนนี้ฉันเองพูดที่จริงก็รับหุ้นกรรมแถมคุกจากไอ้แจคผัวแสบมาเพียบตำรวจตามตัวไปสอบปากคำไม่เว้นแต่ละวันไอ้หนีฉันไม่รู้จะหนีไปไหนอยู่แล้วขืนไปยิ่งตกหนักแต่กำไรมันมีพ่อที่มีชนักติดหลังอยู่แกก็รู้ฉันเลยคิดว่าไหน ๆ ฟองดูกับฉันก็แก่อ่อนกว่ากันปีเดียวแล้วฉันก็ไม่รู้จะหันหน้าไปฝากฝังนังหมวยกำไรกับใครเค้าดีไปกว่าไอ้ฟองหลานชายแกนิสัยใจคอมันก็ดูใช้ได้เหมือนแก...ลองคุยกับมันดูแล้วกันนึกว่าเมตตาลูกนกลูกกาเอาบุญคำหอมนะแกก็เพื่อนฉันคนหนึ่งซอยหน่อยแน่"

 

แต่เมื่องานวิวาห์ที่จัดขึ้นเพียงแค่การผูกข้อไม้ข้อมือแต่ก็คือการเริ่มมีชีวิตคู่ที่ปราศจากความรักจากฟองดูทำให้คนที่รักอยู่เพียงฝ่ายเดียวอย่างกำไรหรือ หมวยต้องเจ็บปวด เมื่อฟองดูมีเเต่ความเป็นพี่ชายเเละเย็นชาจนหมวยไม่ทานทนเเละเลือกจะจากไปเเต่ลูกที่เกิดมาโดยไม่ตั้งใจไม่อาจทำให้จบกับพ่อของลูกคือฟองดูได้ง่ายดายอีกต่อไป

 

ฟองดูพอรู้ว่าจะมีลูกให้รู้สึกดีใจจนแทบจะกระโดดตัวลอยและในความเป็นจริงตัวเขาเองก็มีความรักในลูกเมียของตนเองอยู่มิใช่เสแสร้งแต่ด้วยนิสัยของหมวยกำไรเอาแต่ใจตัวเองและไม่ฟังใครทำให้เอาแต่อารมณ์มากขึ้นแต่คำหอมได้แต่ปลอบลูกชายว่า

 

“ต้องอดทนมันท้องไส้อย่าไประเบิดอารมณ์หรือเผลอไปใช้ความรุนแรงอะไรเสียชาติเกิดเป็นผู้ชายอายเค้าตายไม่ได้เล้ยนะไอ้ฟองทนมันหน่อยมันท้องอารมณ์แบบนี้ทุกคน...”

 

ดวงเดือนพยายามหาอาชีพทำเป็นเรื่องเป็นราวด้วยการยึดอาชีพขายอาหารตามสั่งในเพิงใกล้ ๆ บ้านหรูหลังใหญ่ที่เคยพักแม้ว่าตอนนี้ตัวป้าเดือนจะย้ายมาอาศัยอยู่ในบ้านเช่าหลังเล็ก ๆคนเดียวในบริเวณใกล้เคียงเพราะกำไรได้ย้ายออกไปอยู่กับฟองดูสามีตั้งแต่แต่งงานแต่งการ

 

วันนี้เกิดเรื่องแปลกประหลาดอีกเมื่ออยู่ ๆ ก็มีผู้หญิงเดินตามหลังแจคอดีตสามีของดวงเดือนเข้ามาสั่งข้าวผัดกระเพราเนื้อรสแซบกินแต่น่าแปลกที่สั่งจานเดียว “ขอไข่ดาวไม่สุก...เธอว่าอะไรนะอ้อไม่มีอะไรแม่จ้อยนะเร้อเธอไม่กินแล้วล่ะ....หมดเวลาแล้วสำหรับเธอ”

 

ดวงเดือนรู้สึกงง ๆ แต่ลูกค้าเริ่มเยอะขึ้นและทยอยเข้ามาเรื่อย ๆ เพราะเป็นช่วงเที่ยงบ่ายลูกค้ากำลังหิวข้าวกลางวันกันเลยจำต้องละความสนใจหันมาปรุงอาหารขายให้ลูกค้ามือสาละวนไปเลยลืมไปเองจนกระทั่งแจควางเงินไว้ให้ที่ข้าง ๆ โต๊ะวางตู้กระจกใส่พวกเส้นก๋วยเตี๋ยว ผัก เนื้อ รวมทั้งเครื่องปรุงสารพัดอย่าง และก่อนไปแจคยังพูดขึ้นด้วยความห่วงใยลอย ๆ ขึ้นมาว่า “พวกของปรุงรสที่มีรสหวานอย่างเช่นนี่ ชูรสตัวสำมะคัญ ซีอี๊ว และอย่างอื่นที่คล้าย ๆ กันกินกันเข้าไปเถอะตายผ่อนส่งนะจะบอกให้”

 

“ฉันคิดไม่ถึงว่าผู้คนไทยจะใจคอโหดร้าย แถมเลวกว่าคนสมัยฉันนี่มันสมคบฝรั่งมั่งค่าเพื่ออะไรไม่เห็นได้อะไร ได้กำปั่นทองคำแบบพญาจักรีอะไรนั่นสมัยนั้นตอนที่ฉันมีชีวิตอยู่มิสเตอร์ได้รับบทเรียนชนิดที่คนไทยที่พบที่เห็นแทบจะขำกันบ่อน้ำตาทะลัก บ้างก็โดนตัดคอทิ้งแบบฝรั่งมันฆ่าต่อหน้าตำรวจ ผู้หญิงก็โดนจับไปขังที่ซ่องแถวปาดังเบซาร์มันบอกเพื่อสั่งสอนไม่มีใครได้ตังค์คือฝรั่งมันแกล้งรุมสกรัม แล้วเลือกแต่ลูกสาวเจ้านามสกุล มีคำว่า ณ นั่น ณ นี่มาเป็นแถวแล้วแม่พวกนี้หน้าตาผิวพรรณงามเพราะพ่อมีตังค์ก็หาแต่แม่ที่มีตำแหน่งนางงามบ้าง ลูกสาวผู้ดีมีการศึกษากันทั้งนั้นแต่โง่คือพวกมันคิดไม่ถึงว่าจะทำร้ายกันถึงขนาดนี้ดูทีรึยังไม่สำนึกไม่เห็นฝรั่งอย่างพวกมิสเตอร์ให้ประโยชน์อะไรเลยหลอกใช้ทั้งเพแล้วนี่ก็อีกนั่นแหล่ะไม่ผิดปากอีจ้อยเห็นมาจนเป็นผีร่วมร้อยปีมาแล้วก็ยังงี้ไม่มีเป็นอย่างอื่น ก็ยังโง่งมงายไม่รู้สร่างไปช่วยมันทำร้ายคนไทยด้วยกันเองเพียงหวังอำนาจเงิน อำนาจมาเฟียแล้วเป็นไงนี่ทำประเทศอาเชียนใหม่กลุ่มบูชากรรมชั่ว ประเทศกรรมบูชา ประดิดธงใหม่เสียวิลิศมาหรา มะงมมะหงาหรากันทั้งแผ่นดินมานับร้อยปีแล้วยังไม่หายโง่ต้องตัดหัวทิ้งแบบฝรั่งอย่างพวกมิสเตอร์ว่าเสียแล้วจริง ๆ เชื่อฉันจะได้เข็ดหลาบกันหรือไม่ก็ลดความโง่ลง”

 

กำไรให้หงุดหงิดเมื่อฟองดูเดินมากับสาวสวยข้างบ้านที่เธอกำลังเรียนหนังสืออยู่ที่วิทยาลัยพาณิชย์แห่งหนึ่ง

 

“ส้มเรียนเกี่ยวกับภาษาต่างประเทศเพิ่งจบอนุปริญญาแต่กำลังหางานอยู่เห็นลุงคำหอมพอรู้จักพวกค่ายโซนี่ส้มเลยสนใจอยากลองเข้าไปทำงานดูแต่ไม่มีใครรู้จักก็ลำบากค่ะพี่ฟอง”

 

หลายวันมานี้เองที่ส้มเพียรเข้ามาคุยกับฟองดูหลายครั้งแล้วเพื่อให้ช่วยแนะนำว่าเป็นคนรู้จักกัน เพราะฟองดูเป็นศิลปินในสังกัดโซนี่แต่พอรู้เรื่องราวกลฉ้อฉลในแวดวงธุรกิจบันเทิงของที่โซนี่ส้มเลยจำต้องเปลี่ยนใจ

 

“ได้ไม่คุ้มเสียเงินเดือนก็นิดหน่อยเชื่อผมเถอะน้องส้มไปทำงานที่อื่นดีกว่าพะเร้อเกวียน...ดีไม่ดีจะมีหุ้นแถมคุกให้ส้มอีกคน”

 

กำไรกระฟัดกระเฟียดไม่เท่าไรเริ่มอาละวาดทะเลาะเบาะแว้งขว้างปาข้าวของใส่ฟองดูทำเอาเขาโมโหเดินหนีออกไปเสียจากบ้านเช่าแต่กำไรรีบวิ่งไปกระชากหมายจะไม่ให้สามีเดินหนีออกไปโดยง่าย แต่เท้าไปเหยียบเอาข้าวของที่ตัวกำไรเองขว้างออกไปสารพันอย่างทำให้เท้าของเธอลื่นไถลออกไปแม้ว่าฟองดูจะพยายามรีบคว้าตัวเอาไว้แต่ไม่ทันเพราะต่างฝ่ายต่างกำลังออกแรงฉุดรั้งกันพลอยทำให้กำไรล้มคว่ำคะมำหงายหลังและแท้งลูกที่ตั้งครรภ์เพียงหนึ่งเดือนทันที

 

“หนูขอโทษด้วยแล้วกันพ่อแม่เดือนพี่ฟองด้วยหนูไม่ได้ตั้งใจจะเลิกกันก็ได้ไม่ว่าทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน...”

 

สารพัดที่กำไรจะไร้สาระก่อความน่ารำคาญไม่หยุดหย่อนจนป้าเดือนทนไม่ไหวตบหน้าให้ดังฉาดใหญ่จนกำไรน้ำตาร่วงพรู....

 

“กูจะบอกให้นะนังมณีนังแก่เจ็ดสิบกว่านี่คือรอความตายอยู่แล้วแต่ถ้ายั่วโมโหมากก็จะตัดคอมึงทิ้งเสียหัวคิดไม่ดี...”

 

ฝรั่งตาน้ำข้าวลูกน้องมาเฟียขายยาโมโหอย่างรุนแรงที่มาทวงค่าเช่าตึกแถวที่ปารมีมาถืออภิสิทธิ์ใช้ทำออฟฟิศบริษัทใหม่ของเธอแต่เธอไม่ยอมจ่ายซ้างั้นอ้างว่าเป็นเมียของแจคคนหนึ่งทำไมจะต้องจ่าย

 

“จ่ายทำไมฉันเมียแจคคนหนึ่งเหมือนกันไปฟ้องร้องเอาแล้วกันน้ำหน้าอย่างพวกมึ้ง”

 

“กูไม่ฟ้องกูฟันคอมึ้งสองคนแม่ลูกขาดกระเด็นหวือตายตกตามกันทั้งสองคนแน่มาทำเป็นหัวดีโกงกูกันอย่างนี้กูเสี่ยงคุกผู้หญิงแม่เชื้อกูก็เสี่ยงคุกติดคุกกันจริง ๆ ก็มีมาโกงกันต่อหน้าไม่มีทางจิตใจมึงต่ำกันอย่างนี้ถึงตายกันบ้าง ถูกพวกกูเอาไปกักขังขายในซ่องบ้าง จิตใจต่ำถึงต้องโดนอย่างนี้ไม่สงสารพวกกู แล้วพวกกูจะสงสารมึ้งไปทำมะไรเฮ้อ...อีจิตใจต่ำ”

 

แจคยืนดักอยู่หน้าตึกแถวอาคารพาณิชย์ที่ปารมีตั้งแง่จะมาใช้ฟรี ๆ พอเห็นหน้าแจควันนี้ปารมีรู้สึกชาวาบอย่างบอกไม่ถูก “หน้าตาน่ากลัวโคตรเห็นเราแล้วด้วยทำใจดีสู้มันไปก่อนแล้วกัน”

 

แต่แจคเหมือนรู้ท่าพลางตะโกนเรียก “นังหมูมึ้งมานี้มารับกรรมความจิตใจต่ำของมึ้งกับยายมณีแม่มึ้ง...”

 

สิ้นเสียงแจคสาดน้ำกรดเข้าไปเต็มใบหน้างามของปารมีเธอล้มลงร้องหวีดปานขาดใจจนสลบเหมือดไปเดี๋ยวนั้นแต่หลังจากนั้นใบหน้าพิการตาบอดสนิทสองข้างไม่ต่างกันกับสาวไทยเมียเก่าของแจค และในช่วงบ่ายวันนั้นเองระหว่างที่ยายมณีกำลังยืนรีรอเพื่อรอเรียกรถกลับบ้านพักหลังจากเดินออกมาจากตึกผู้ป่วยที่โรงพยาบาลตำรวจแจคก็เปิดประตูด้านคนนั่งข้างคนขับออกมาแล้วสาดน้ำกรดโครมเข้าใบหน้ายายมณีด้วยอีกคน ยายมณีร้องหวีดได้ไม่เท่าไรก็สลบคาป้ายรถเมล์และสิ้นใจตายด้วยทนพิษบาดแผลไม่ไหวเพราะอายุมากกว่าเจ็ดสิบแล้ว

 

“หมูไม่รู้จะพูดยังไงใคร ๆ เตือนมาเยอะแล้วนานมากแล้วแต่หมูไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ขึ้นเล้ยด้วยความสัตย์จริง...โธ่แม่หมูขอโทษ...”

 

ความร้ายกาจของแจคหวนกลับมาอีกครั้งด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตาและก่นเกลียดความเห็นแก่ได้เห็นแก่ตัวจิตใจต่ำของพวกผู้หญิงที่แม้กระทั่งกับแม่แท้ๆของแจคเอง

 

“เอาเปรียบแม้แต่กับแม่แท้ ๆ ของกูเอาไว้ไม่ได้”

 

 

 

 

 

.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา