คำหอม
เขียนโดย Bush
วันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 10.54 น.
แก้ไขเมื่อ 17 กันยายน พ.ศ. 2558 11.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ข้าวก้นบาตร
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเสียงตะโกนโหวกเหวกดังลั่นผับเสียงโต๊ะเก้าอี้ล้มระเนระนาดเสียงตะโกนด่าขรมเป็นภาษาอังกฤษฟังไม่ศัพท์เกิดขึ้นหลังจากที่มิสเตอร์ฝรั่งห้าคนท่าทางดูดีกระเป๋าหนักเดินอาดๆเข้ามานั่งที่โต๊ะสี่ด้านข้างเคาร์เตอร์เหล้าหลังจากสั่งเหล้ากับแกล้มมาดื่มพอได้ที่เริ่มลวนลามเริ่มแซวสาวเสริฟลามไปแซวอ้ายคำหอมนักร้องจนต่างฝ่ายต่างอารมณ์ขึ้นลุกขึ้นซัดกันมั่วไปหมดสักพักอ้ายคำหอมถูกหามกลับมาบ้านเช่าหลังจากกลับจากคลินิคเล็กๆหน้าปากซอยบ่อนไก่ฟองดูซึ่งกำลังนั่งซักเสื้อผ้าที่ใส่แล้วเมื่อวันก่อนของพ่อกับของตนเองมือน้อยๆกำลังสาละวนกับกะละมังซักผ้าพลาสติกราคาถูกสามใบสองร้อยบาทรวมกับถังและตะกร้าใส่ผ้าใบขนาดกลางเข้าชุดสีเขียวอ่อนเหมือนกันจำต้องรีบหันมามองแล้วล้างไม้ล้างน้ำฟองผงซักฟอกออกจากมือทั้งสองข้างอย่างลุกลน
"ขอบคุณมากครับลุุงหนูค่ารถเท่าไรครับ"
"บ่ เป็นหยังเดี๋ยวข้าหักค่าซักรีดของข้าจากที่เอ็งจะคิดข้าตอนสิ้นเดือนก็แล้วกัน อ้อ แล้วข้าวปลาไม่ต้องห่วงกว่าจะทำงานได้อีกโดน เดี๋ยวข้าเอาจากที่หลวงพ่อท่านแบ่ง ๆ มาให้บ้างแค่สองคนพอกันตายได้อยู่"
ว่าแล้วลุงหนูก็รีบเดินกลับออกไปที่รถสามล้อเช่าพาตุเรงออกไปหน้าปากซอยที่วินสามล้อเพื่อคืนรถให้กะเช้าคนต่อไป ชีวิตคนเราจนก็คือคนขอแค่กลัวบาปยากดีมีจนมีการศึกษาหรือไม่มีก็ตามที
"คือมิสจ้อยคนไทยให้หลักฐานสำคัญหลายอย่างเช่นพวกอัดสเตอร์เสียงแล้วก้ออีหยังหลายอยู่ครับอ้อ ของสะสมภาพนายพลเอกอาทิตย์ วงศ์สวรรค์ชาวอุบลคนไทยดูจากหน้าตาแล้วก็การเก็บสุ่มตัวอย่างเลือดผลออกมาแล่วท่านใหญ่คือ อนุชาท่านเป็นคนไทยลูกติดท้องมาแต่ท่านนายพลผู้นี่"
ท่านเล็กหนีตามระเบียบแต่ก่อนหนีท่านฝากรักกับอีจ้อยด้วยการสั่งคนฆ่าจ้อยทิ้งอย่างไม่มีเยื่อใยหรือแม้แต่ความเวทนาสงสารแม่หญิงตัวน่อยเยี่ยงแม่จ้อยเลย
"ช่วยด้วยจ้ะฉันสู้ไม่ได้หรอกจ้ะอย่าทำร้ายฉัน...ฉันช่วยคนลาวคนไทยด้วยให้พ้นภัยจากฝรั่งมั่งค่า...ฝรั่งมันกำลังจะฆ่าฉัน..."
ไม่มีใครได้ยินแม้แต่เสียงหรีดหริ่งเรไรเพราะเป็นห้องติดเครื่องปรับอากาศในสถานทูตฝรั่งเศสที่หลวงพระบาง สักครู่ยามเดียวร่างไร้วิญญาณศีรษะถูกทุบด้วยเก้าอี้ไม้น้ำหนักราวสักสองกิโลอย่างไม่ปราณีปราศรัยจนร่างน่อยทรุดฮวบขาดใจตายเลือดท่วมกายถูกหามออกมาใส่ไว้ท้ายรถตู้จากนั้นคนขับชาวลาวรีบขับว่ิ่งบึ่งออกไปริมแม่น้ำพระบางแล้วโยนศพของแม่จ้อยลงไปให้เป็นอาหารแก่หมู่ปลาและสัตว์น้ำจำพวกจระเข้ซึ่งในสมัยนั้นมีอยู่ค่อนข้างพอสมควรเลยทีเดียว
เหม่อมองดูสายน้ำวน
เหม่อมองสายชลช่างไหลริน
เหม่อมองดูนกผกผิน...
พ่อคำแพงทำหน้าที่เป็นผู้จัดการใหญ่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้ค่ายเพลงโซนี่มิวสิคเงินเดือนแค่เรือนหมื่นแต่หุ้นมหาศาลแต่หารู้ไม่ว่านี่คือหุ้นแถมคุก สุดท้ายแจคจำต้องหนีด้วยน้ำตาเหมือนกับที่ใครต่อใครเคยได้ยินแจคพูดเล่นเสมอว่า "ให้หมดแหล่ะแต่ไปเสี่ยงดวงเอาเองหน่อย"
ทุกคนฟังแล้วฮาตรึมด้วยคิดว่าเจ้านายใจดีแถมหล่อและขี้เล่นแต่ท้ายที่สุดถึงเข้าใจว่า
"อ้อ เสี่ยงดวงจริง ๆ เว้ยเวรเอ๋ย"
แจคหลบไปพักอยู่แถวชานแดนอุบลอำเภอโขงเจียมเลียบ ๆ หนองคายค่อนมาทางท่าเสด็จที่โรงแรมแบบยุโรปสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งบรรยากาศอึมครึมแบบประหลาดล้ำอะไรไม่อะไรเท่าแม้แต่พนักงานต้อนรับยังดูเหมือนหุ่นหรือผีดิบที่ไร้วิญญาณถามคำตอบคำแบบไม่เข้าท่าฟังแล้วชวนให้ย้ายที่พักแต่แจคจำใจเพราะว่าดูแล้วน่าจะปลอดภัยเพราะเหมือนบ้านคนเก่าๆนำมาดัดแปลงให้เช่าพักแรกมากกว่า
"บ้านหลังนี้ของใครน้อง" แจคเอ่ยถามขึ้นก่อนจะเข้าห้องนอน "ท่านนายพลอาทิตย์" เสียงพนักงานที่มาเก็บเสื้อผ้าที่ใส่แล้วของแจคและภาชนะถ้วยชามที่แจคสั่งอาหารเข้ามากินในห้องเพราะรู้สึกวังเวงเหงา ๆ ชอบกล แจคยืนเหม่อมองออกไปด้านนอกต้นไม้ร่มครึมอากาศเหมือนฝนใกล้จะตกหนักเสียงลมเงียบกริบ "เงียบอย่างกับอยู่ในป่าช้าโรงแรมอะไรว่ะความจริงสวยสงบดีแต่เหมือนมีเมฆทะมึนปกคลุมอยู่เลยทำลายบรรยากาศที่น่าอยู่แบบสงบสุขไปหมดฉิบ"
กลางดึกเสียงระบำแบบสุโขทัยบรรเลงเพลงลาวแพนเรียกเสียงฮือฮาในความฝัน "อ้อระบำแบบนี้ฉันเคยเห็นตอนงานลอยประทีบลอยกระทง" "พิธีจองเปรียงเจ้าค่ะ...ฉันชื่อจ้อยเป็นตัวนางเอกเห็นเทริดนี่มั้ยมิสเตอร์แปลกและสวยกว่าของเพื่อน ๆ ฉัน" แจคนั่งจ้องหน้าแม่จ้อยความรู้สึกเห็นอกเห็นใจแล่นเข้ามาในอกวูบแบบไม่เข้าใจ ทำไมฉันรู้ว่าเธอมีชีวิตที่น่าสงสารยังไงแปลกไม่เห็นเคยมีใครเล่าให้ฟังนี่หว่า
แสงแดดส่องมาทางหน้าต่างที่แจคใช้มือตลบชายผ้าม่านมาผูกไว้เป็นปมแบบสบาย ๆ ไม่ได้ใช้ผ้ารัดชายผ้าม่านตามแบบปกติ แจคหรี่ตามองแสงแดดที่ส่องกระทบน้ำตาไหลอาบแก้มแบบไม่ได้ตั้งใจและยังไม่รู้ชะตาชีวิตของตนว่าจะเป็นไปยังไงต่อ "นายพลอาทิตย์ วงศ์สวรรค์ ในความเป็นจริงถ้าฉันคิดแบบแม่จ้อยตัวเท่าเมี่ยงก็คงจะดีเหมือนกันเพราะอย่างน้อยก็ไม่เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นอเมริกัน"
"ฉันดีใจที่ฉันได้ชดใช้ความผิดต่อพ่อแม่ของฉันและอีกอย่างก่อนตายฉันได้รวบรวมหลักฐานทุกอย่างที่มีประโยชน์ต่อพี่น้องชาวลาวและคนไทยด้วยกันเองไปให้เจ้าหน้าที่ทางการที่ฉันเชือถือได้ทำให้อย่างน้อยก็ผ่อนหนักเป็นเบาล่ะจ้ะ" ความจริงมิสจ้อยพูดถูกหลายอย่างคนเราถึงที่ก็คือตายแต่ก่อนตายอย่างน้อยเราก็ได้ให้ประโยชน์แก่แผ่นดินแก่ชาวโลก ถ้ามิสจ้อยไม่นำหลักฐานต่างๆไปให้แก่ทางการจนเป็นเหตุให้เธอถูกทารุณกรรมจนตายเหตุการณ์เลวร้ายกว่าที่เคยอุบัติขึ้นต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนแล้วตัวฉันเล่าจะทำยังไงดีว่ะนี่ฉันต้องทำอะไรสักอย่างหรือหลายอย่างก่อนที่จะต้องจบชีวิตทำไงได้พลาดไปแล้วไม่ได้ตั้งใจแต่ทำลงไปแล้วด้วยความไม่ยั้งคิดไม่มีสติและนี่มันบ้านไอ้นายพลอาทิตย์ที่เป็นพ่อแท้ ๆ ของไอ้ท่านชายเล็กจอมปลอมที่เกือบทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงกว่าที่เคยเป็นแก่พวกชาวลาวและไทยด้วยเข้าใจแล้วล่ะ ฮือ แม่ครับผมรักแม่
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ