Waiting for love รอเธอรัก...ควักหัวใจยัยเพื่อนซี้
เขียนโดย ภีรภร
วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.44 น.
แก้ไขเมื่อ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2558 17.18 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) ทะลึงเบเบ๊
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
บทที่ 13 ทะลึงเบเบ๊
หลังจากเลิกเรียน เราทั้งห้าพร้อมหน้าพร้อมตาเดินออกจากโรงเรียน ตลอดทางเดิน เสียงซุบซิบนินทาเรื่องฉันก็ลอยเข้าหูมาไม่ขาดสาย นินทาได้ก็นินทาไป ตราบใดที่ยังไม่มาระรานฉันจะไม่โต้ตอบ
พอถึงหน้าโรงเรียนเราก็หยุดใต้ร่มไม้ แล้วแยกย้ายกันเดินซื้อของกินตามทางเดินข้างที่พ่อค้าแม่ค้าต่างจับจองพื้นที่ขายของหลังเลิกเรียน. ฉันหยุดที่ร้านขายน้ำ สั่งน้ำแดงหนึ่งแก้ว. ขณะที่เดินกแล้วมา เด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามากระชากแขนข้างที่ถือน้ำแดงอย่างแรง น้ำแดงในสาดกระเซ็นเปียกแขนแชะเสื้อผ้าฉัน สีแดงฉ่านเต็มเนื้ินักเรียนสีขาว
"อุ๊ย ขอโทษๆนะคะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ค่ะ. หนูคิดว่าเป็นเพื่อน". เด็กคนนั้นรีบหยิบน้ำแข็งที่ตกบนพื้นขึ้นมาถูตามเสื้อฉันพยายามขอโทษพลางลูบน้ำแข็งลงบนเสื้อไปมาเหมืิอนหวังจะช่วยล้างสีแดงแต่กลับช่วยให้เสื้อฉันเปียกมากกว่าเดิม
"น้องคะ พี่ไม่เป็นไร เสื้อพี่เปียกหมดแล้ว"
"ขอโทษค่ะ พี่เจ้าฟ้า"
"รู้จักพี่ด้วย?"
"พี่ออกจะดัง หนูต้องรู้จักอยู่แล้ว"
"ดังในทางเสียหาย พี่ก็ไม่อยากดังหรอกนะ"
"หนูเข้าใจพี่ บางทีการที่เราอยู่เฉยๆ คนอื่นก็หมั่นไส้เพราะเขาอิจฉา. พี่อย่าคิดมาก พี่ไม่เป็นก็อย่าสนใจเสียงนกเสียงกาเลย หนูคนหนึ่งล่ะที่ไม่อิจฉา". เด็กคนนี้ช่างเข้าใจพูด ไม่ตัดสินคนเพียงภายนอกถ้าคนอื่นในโรงเรียนคิดแบบนี้ก็ดี ฉันเอ่ยขอบคุณเด็กหญิงตรงหน้าเบาๆก่อนที่จะถูกมือหนาคว้าเข้าที่ต้นแขนอีกข้างดึงออกห่างเด็กหญิง
"เจ้าฟ้า ทำไมแกเหมือนหมาตกถังน้ำแดงแบบนี้".มันน่าตีปากมะขามจริงๆ รู้ว่าเป็นห่วงแต่ยังไม่วายกัดจิก "ใครทำแกวะ หรือว่าแกอยากอาบน้ำแดง แล้วนี้เจ็บตรงไหนมั้ย" มันจับฉันหมุนซ้ายหมุนขวาหาร่องรอยบาดเจ็บ มันจะเจ็บได้ยังไง ฉันโดนน้ำแดงเว้ย พอจับฉันหมุนจนเสร็จมันก็เพ่งสายตามองเสื้อฉัน"นี่เลือดหรือน้ำแดงวะ"
"น้ำแดงค่ะ"
มะขามหันขวับไปตามเสียงบอกกล่าวทันที
"นี่เธอ! ทำอะไรเจ้าฟ้า"
เด็กหญิงสะดุ้งตกใจเสียงมะขาม รีบถอยกรูดออกห่างทันที
"หนูกระชากแขนพี่เค้าค่ะ แต่หนูไม่ได้ตั้งใจนะ"
"อุบัติเหตุน่ะ" ฉันรีบชิงตัดบทก่อนที่มะขามจะเข้าใจผิด และก่อนที่น้องจะกลัวไปมากกว่านี้
"แล้วไป คราวหลังก็ระวังหน่อย"
"ค่ะ" น้องยกมือไหว้ขอโทษเราสองคน ก่อนจะยืนเอียงคอมองฉันกับมะขามเหมือนคิดอะไรอยู่แล้วยิ้มออกมาอย่างมีเลสนัย"พี่สองคนดูเหมาะกันดีนะ พี่มะขามดูเป็นห่วงพี่เจ้าฟ้ามากเลย ถ้าไม่รู้ว่าพี่สองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน คงคิดว่าเป็นแฟนกันแล้ว"
"พี่ไม่ได้เป็นเพื่อน"
ฉันกับน้องมองหน้ามะขามทันที ฉันมองเพราะกลัวเหลือเกิน่ว่ามันจะมาไม้ไหนอีก จะรับมือยังไง ส่วนน้องคงเขาใจว่ามะขามเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ซึ่งก็เข้าใจถูกแล้ว ><
"หมายความว่ายังไงคะ!" เมื่อตั้งสติได้ น้องก็ถามออกมาอย่างสุดเสียงด้วยสีหน้าตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้ยิน
"ตามนั้น"
"><."
"0_0"
โอ้ววว มันเล่นบอกคนอื่นแบบ0นี้ไม่อายบ้างหรือไง หลังจากฟังคำตอบของมะขามน้องก็เจอเซอร์ไพร์อีกรอบ อ้าปากค้างไปสามวิก่อนจะสรุปเองโดยเร็ว
"พี่มะขามชอบพี่ชอบเจ้าฟ้า แล้วพี่เจ้าฟ้าชอบพี่มะขามมั้ย"
0_0 ถามอะไรเนี่ย แหนะ ยังจะหันมาคาดคั้นทรงสายตาอีก ฮึ่ย! อย่าคาดคั้นช้านนน
"ฮ่าๆ ถามมากเกินไปแล้วน้อง เก็บปากน้องไว้ถามครั้งหน้าดีกว่า ตอนนี้เจ้าฟ้าอายจนแข่งขาอ่อนแล้วมั้ง"
"โห พี่ปากร้ายอ่ะ."
"คนปากร้ายมักใจดี"
"พี่ดูเป็นห่วงพี่เจ้าฟ้ามากเลย"
"แน่นอน"
"ขอเป็นแฟนสิ"
"ขออยู่แล้ว"
สองคนนี้คุยอะไรกัน ไม่เห็นหัวฉันรึไง แล้วแต่คำที่พูดมันช่างสร้างอาการหนาวๆ ร้อนๆ บนหน้า เหลือเกิน ขอเป็นแฟนงั้นหรอ โอ๊ย~ใจเต้นเป็นจังหวะสามซ่าแล้ว
"เร็วๆนะพี่ หนูเชียร์"
"ไปได้แล้ว ไป"
"ค่า สวัสดีค่ะ" และแล้วน้องก็เดินลิ่วๆไปขึ้นรถรับส่ง ทิ้งบรรยายหนาวๆร้อนๆ ไว้ ให้ฉันเผชิญอยู่กับคนตรงหน้าที่ทำเอาใจเต้นแรง
"กลับบ้านกัน" เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับมือหนาคว้าเข้าที่ต้น่แขนรั้งให้ฉันออกเดิน
___________________________________________
ฉันออกเดินตามการฉุดรั้งอย่างไร้แรงต้านทานมาตลอดทางจนใกล้ถึงบ้าน ตลอดระยะทางกลับบ้านมะขามมองมาเป็นระยะและทุกครั้งจะรีบซ่อนรอยยิ้มที่ผุดขึ้นเสมอ เราสองคนไม่ปริปากคุยกันเลยตั้งแต่เดินจากหน้าโรงเรียน. ด้วยสภาพจิตใจที่กำลังปั่นปวน ฉันคงไม่แข็งแกร่งพอจะรับมือกับคำพูดมันได้ แต่ก่อนที่จะถึงบ้านมะขามก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะพลางส่งสายตากรุ้มกริ่ม"อีกหน่อยเป็นแฟนเจอรุกหนักกว่านี้นะ" ฉันรีบงุดหน้าหลบสายตาที่มองมาอย่างรวดเร็ว
"หึ~ เขินฉันหรอ"
ไม่เขินก็บ้าแล้ว><
"ชินได้เแล้วมั้ง ^^".
ไม่ ไม่มีทางชินง่ายๆ
"บอกแล้วไง ต่อไปเป็นแฟน จะเขินกว่านี้"
อ่า~ รุกเกินไปแล้ว >< เป็นแฟนงั้นหรอ ทำไมหน้ายิ่งร้อนผ่าวขึ้น
"เวลาแกเขิน"
"..."
จะชมแล้วด่าตามหลังหรือไง
"น่ารักดี"
>< อ่าา~ เลือดฉูบฉีดวิ่งเข้าหัวใจ ใจเต้นตึกตัก มันจะรุกหนักเกินไปแล้วนะ ฉันไม่ไหวแล้ว ย้าก!!!
"ไอ้มะขาม!!!"
ฉันออกแรงทั้งทุบทั้งตีหลังมันอย่างไม่ยั้งมือ เจ้าตัวก็รีบเอามือปัดป้องเป็นพลันวัล
ตุบตับๆ !!!
"เฮ้ย เจ็บนะเว้ย"
พลั้ว!!!
เตะเข้าข้างพับทีนึง มันเกือบหน้าคะมำลงพื้นแต่ยังยั้งตัวไว้ได้ทัน ฉันออกแรงทุบลงไปตรงไหล่อีกสองสามที
"พลังช้างพลังควายเข้าสิงแกรึไง"
"อ๊าก~ แกทำฉันสติหลุด!!!" ฟาดกระเป๋าใส่หลังไม่ยั้งมือ. ฉันเกลียดมัน ทำสติสะตังฉันหาย ความเป็นตัวเองหายไป
ป้าบ!!!
"แต่งงานกันไป แกจะไม่ซ้อมฉันทุกวันหรอวะ"
แต่งงาน!!! งั้นหรอ !!! มันยังไม่หยุดหยอดอีก โอ๊ยยย~~~ ฉันฟาดกระเป๋าลงไปอีกไม่ยั้ง ก่อนจะเตะเข้าที่สะโพกมัน แล้วรีบวิ่งเข้าบ้าน
"โหดแบบนี้ เจอจูบที แกไปไม่รอดแน่!!!" เสียงตะโกนตังไล่หลังมาทำเอาฉันสติหลุดอีกครั้ง จูบ!!!
"ไอ้ลามก!!!".
"ลามกตรงไหนครับ.คนรักกัน เขาทำกัน"
คนรักกัน! ทำกัน! อ๊าก!!! จะเว้นวรรคทำไม! ไม่ฟังๆ ปิดหูๆ เดินเข้าบ้านสิเจ้าฟ้า จะยืนเป็นหินอยู่ทำไม!!! ได้แต่ก่นด่าทอตัวเองในใจ ฉันพ่ายแพ้แก่ตัวเองอย่างหมดสภาพ มะขามจู่โจมราวกับยิ่งปืนกลใส่ไม่ยั้ง ใส่เต็มทุกแม็ก
______________________________________________________________________________
หลังจากที่รวบรวมสติประกอบร่างเดิมได้แล้ว เก้าอี้นอนตรง่ระเบียบห้องนอนก็ถูกฉันจับจองเป็นที่พักผ่อนสมองเป็นที่พักผ่อนสมองหลังจากวันนี้ทั้งวันต้องเผชิญมรสุมเสียงซุบซิบนินทาอย่างหนาหู ใครๆก็บอกต้องปลงให้ตกกับสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งฉันก็เห็นด้วย แต่การจะไม่สนใจเลยก็เป็นไปได้ยาก ด้วยพื้นฐานนิสัยแล้วถึงแม้จะทำอะไรไม่ละเอียดอ่อนเหมือนผู้หญิงแต่ความรู้สึกฉันค่อนข้างละเอียดอ่อนจนกลายเป็นอ่อนไหวง่ายๆกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
หลายครั้งที่พยายามทำตัวให้เข้มแข็ง ฝ่าฟันอุปสรรคด้วยตนเอง แต่ถึงอย่างนั้นระหว่างทางฉันก็ยังต้องการใครสักคนคอยเคียงข้าง คอยฉุดรั้งยามล้ม คอยเตือนยามหลงผิด เหตุการณ์วันนี้ทำเอาฉันทำตัวไม่ถูกแม้สี่หนุ่มจะคอยให้กำลังใจ บอกให้ทำตัวเหมือนเดิม ถึงกระนั้นมันกลับยากมากที่จะทำตัวให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กลับต้องคิดหนักเพิ่มอีกเรื่อง เรื่องมะขามฉันก็ยังรับมือไม่ไหว แล้วไหนจะเรื่องณดลกับบทสัมภาษณ์ที่ชวนให้เข้าใจผิดหรือเข้าใจถูกกันแน่ ถ้าหากณดลชอบฉันอย่างที่ใครๆพากันเข้าใจ แล้วมะขามยังรุกหนัก หากเป็นเรื่องอื่นฉันคงปรึกษามะขามได้แต่เรื่องนี้จะไปขอความช่วยเหลือจากใครได้ ฉันจะทำยังไงดี ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว ฉันไม่อยากอยู่ท่ามกลางผู้ชายสองคน (ปกติก็อยู่ท่ามกลางสี่คนนะ)
"เจ้าฟ้า" เสียงนี้มัน ฉันเบนสายตาไปยังต้นเสียง ร่างสูงโปร่งกำลังกอดอกพิงสะโพกไว้กับพนักพิงเก้าอี้หน้าระเบียง เหอะ! คงคิดว่าเท่ล่ะสิ แต่มันก็เป็นแบบนั้น โคตรเท่ เฮ้ย! ฉันชมมะขามอีกแล้ว ตบปากด่วน!
"มีอะไร" ถามออกไปอย่างห้วนๆ
"แกคิดมากอยู่หรอ"
"เออสิ. จะไม่คิดได้ยังไง เจอคนเกลียด หมั้นไส้เกือบทั้งโรงเรียนแล้วมั้ง"
"บอกแล้วไง ยังมีฉันอยู่ เรื่องนี้มันเล็กน้อยออก แค่คนเกลียดยังดีกว่าไม่มีคนสนใจนะ ถ้ามีเกิดอะไรขึ้นกับแกฉันไม่ปล่อยพวกนั้นไว้แน่่" มะขามบอกด้วยน้ำเสียงที่มุ่งมัั่น. แฝงไว้ด้วยความเป็นห่วง. การยืนยันว่าจะอยู่ข้างๆ มันทำให้ฉันอุ่นใจขึ้นมา แล้วอย่างเรื่องณดลมันจะช่วยฉันได้ไหมทั้งที่ณดลอาจจะชอบฉัน และที่แย่ไปกว่านั้นอาจจะจีบ แช้วอย่างนี้มันจะทำไง
"แต่บางเรื่องแกจะช่วยฉันได้จริงๆ น่ะเหรอ"
"เรื่องไหนล่ะ ส่วนตัวจนถึงขั้นช่วยอาบน้ำมั้ย" มันพูดออกมาอย่างยิ้มๆ อ่ะ นี่มันจะลามกขึ้นทุกวันแล้วนะ ตั้งแตบอกชอบฉัน "เฮ้ย! นี่อย่านะ...แกคิดไปถึงไหนเนี่ย หน้าตาแกนี่หื่น ขนลุกว่ะ" ยังจะทำท่าท่างประกอบด้วยกาลูบแขนแรงๆ
"ไอ้มะขาม! แกพูดอะไรของแกหา! ฉันไม่ได้หื่นซะหน่อย" ฉันรีบแก้ข้อกล่าวหาด้วยตวาดกลับไปจนมันสะดุ้งโหยง ฉันไม่ได้คิดอะไรเลยนะ ก็แค่หน้าอกแน่นๆ เท่านั้นเอง เอ๊? ทำไมเดี่ยวนี้ฉันคิดเรื่องทะลึ่งบ่อยจัง
"ฮ่าๆ แก้ตัวไปก็เท่านั้น...ที่ว่าจะช่วยมันก็มีขอบข่ายอยู่หรอก อย่างเรื่องจะอาบน้ำให้น่ะ ใครมันจะหื่นกามขนาดนั้นวะ เว้นแต่..." มะขามหยุดพูดก่อนมองฉันด้วยสายตากรุ้มกริ่ม"แกยอม...ยอมเป็นมากกว่าแฟน"
"O_O"
เฮือก!!!
"เรียกว่าภรรยาหรือเปล่าน้า~~~"
"ไอ้ชั่ว ไอ้ลามก วิปริตผิดเพศ หยาบคาย หน้าหนา ไอ้บ้าาาา!!!!"
"ฮ่าๆ ฉันล้อเล่น ด่าซะฉันหมดความเป็นคนเลยนะ ฮ่าๆ" ยังมีหน้ามาหัวเราจะเป็นจะตาย. คงสนุกมากสินะ เออมันขำแต่ฉันไม่ขำ! อายและเขินมากกกกกก //_//
"มันใช่เวลามาเล่นมั้ย!"
"โอเค เลิกแกล้งแล้ว เขินจนหน้าแดงแบบนี้คงหายเครียดแล้วใช้มั้ย" ฉันจะเครียดอีกเพราะแกนี่ล่ะ "เจ้าฟ้า ความคิดคนเรา จะไปบังคับให้คิดอย่างที่เราต้องการไม่ได้หรอก แม้แต่ตัวเราเองยังบังคับตัวเองไม่ได้เลย. เรื่องบางเรื่องต้องปล่อยมันไปบ้าง แต่ก็ไม่ใ่ช่ให้เราไม่ใส่ใจเลย เลือกใส่ใจสิ่งที่เราไม่ดีแล้วปรับปรุงดีกว่า รับไว้ทุกอย่างก็ไม่ไหวนะ แกเป็นคนนะไม่ใช่หุ่นยนต์" แม้แต่จะควบคุมจังหวะหัวใจเวลาอยู่ใกล้แกฉันยังทำไม่ได้เลย แล้วจะไปหวังให้คนอื่นคิดกับฉันในทางที่ดีได้ยังไงจริงไหม ฉันถอนหายใจอย่างปลงตกในชีวิต
"ขอบคุณนะ"
"ช่วยทำตัวให้เป็นเจ้าฟ้าคนเดิมแทนคำขอบคุณ ดีกว่า"
ฉันคนเดิมน่ะหรอ นั่นสิทำไมช่วงนี้ถึงคิดมากและห่วงใย สนใจความรู้สึกคนรอบข้างมากมายขนาดนี้นะ จากเดิมฉันไม่ค่อยแคร์สายตาชาวบ้านเท่าไหร่ ตั้งแต่ที่ฉันเริ่มรู้สึกแปลกๆ ใจเต้้นตึกตักๆ ขินเมื่ออยู่ใกล้มะขามก็เริ่มอ่อนไหวกับคำพูดคนมากขึ้น นี่วิญญาณหญิงไทยใจหวั่นไหว อ่อนแอ บอบบางคงไม่เข้าสิงฉันแล้วนะ! เจ้าฟ้าคนเดิมจงกลับมานะบัดนี้ เพี้ยง!!!
"เจ้าฟ้าคนเดิมจะกลับมา! เย้!!!" ฉันกำมือสองข้างไว้แน่นก่อนชูขึ้นฟ้าพร้อมกันย่างกับชุปเปอร์แมนออกบินเพื่อเรียกสติสตังกลับคืน
"แต่ความรู้สึกที่มีให้ฉัน ไม่ต้องเหมือนเดิมก็ได้^^". ฉันตวัดสายตามองมะขามอย่างคาดโทษ เหอะ! มันนี่ล่่ะตัวดีทำฉันอ่อนไหว
"หุบปากแกไป!"
"..."
"..."
มันเงียบปากไปจริงๆ ทำให้เราสองคนตกอยู่ในความเงียบท่ามกลางกลิ่นหอมมะลิที่โชยมาตามลม. ฉันสูดกลิ่นหอมเข้าปอด หลับตาพริ้ม มโนว่าเป็นนางเอกเอ็มวี
"..."
"..."
เสียงลมพัดผ่านหน้า วูบหนึ่งปลุกฉันตื่นจากฝัน มะขามจ้องมองมาที่ฉันอย่างไม่ละสายตา. ใบหน้าหล่อคมเข้มปรากฏรอยยิ้มชวนให้หวั่นไหวก่อนเสมองไปอีกทางพลางยกมือเกาท้อยทอย
"..."
"..."
อ่า~
"ถามไรหน่อยสิ"
"ว่ามาเลย"
"แกกับ...ไอ้ดล..."
"ณดล...ทำไม?"
"แก...รู้สึกอะไรกับมันหรือเปล่า"
"จะบ้าหรอ!"
"ตอบคำถามมา ไม่ใช่ให้ด่า". มันบอกเสียงเข้มพร้อมทั้งมองกดดันทางสายตา "ตอบ!"
"ทำไมต้องขึ้นเสียงด้วย! ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับณดล เขาเป็นเพื่อน แกพอใจยัง!"
"เออ! แน่ใจนะว่าไม่รู้สึก"
"เออ!" ตะคอกกลับอย่างหงุดหงิด
"แกก็ไม้ต้องคิดมากหรอก หากไอ้ดลมันจะจีบแก" ว่าแล้วก็ส่งยิ้มละมุนอย่างผู้ชายอบอุ่น
"เขาชอบฉันจริงหรอ? " ด้วยความไม่แน่ใจและอาจคิดไปเอง เลยตัดสินใจถามมะขามเพื่อความแน่ใจ
"แกนี่โง่เหมือนเดิม. ไม่เคยพัฒนาสมอง" เสียงที่แฝงความเบื่อหน่ายพร้อมทั้งส่ายหน้าไปมาอย่างระอาให้ความโง่เขลาของฉัน ก่อนจะตวัดเสียงบอกความจริง" มันชอบแกดูไม่ออกรึไง! มันชอบหาเรื่องทำงาน่ใกล้ๆ แก ทั้งทีไม่ใช่หน้าที่ของมันด้วยซ้ำ่ หัดสังเกตบ้าง!"
"จะด่าทำไมเนี่ย! ฉันไมได้โง่ขนาดดูไม่ออกหรอกน่า ที่ถามก็เพราะอยากแน่ใจ"
"แถ!!! อย่างแกน่ะ ถ้าดูออกคงรู้ตั้งนานแล้วว่าฉันชอบ". //_// "ทำหน้างงแบบนี้ ใช่ แบบนี้แหละ" หา? อยู่มันก็ชี้หน้า ในช่วงที่ฉันงงและเอ๋อ "จะทันคน"
"-_-"
"เอาเถอะ ถ้าไม่จำเป็นก็อยู่ห่างๆ มันไว้ เดี่ยวเป็นข่าวอีก"
"อะ...อื้ม"
ไอ้บ้ามะขาม! อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ. อย่างกับวัยทอง ฉันได้แต่สถบด่ามันในใจก่อนเดินเข้าห้อง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ