Bird & Butterfly
เขียนโดย Mind_Mind_Mind
วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.21 น.
แก้ไขเมื่อ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558 19.09 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) พบกัน / The Beginning
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ.
“พี่ซอกจิน พี่อยู่ไหนนะ ฉันคิดถึงพี่จัง...”
หญิงสาวกล่าว ในขณะที่กุมสร้อยรูปนกไว้แน่น ท่ามกลางทุ่งดอกไม้อันสวยงามและรายล้อมไปด้วยผีเสื้อหลากสีสัน แต่จิตใจเธอกลับว่างเปล่า
.
.
===========================
- ฤดูใบไม้ผลิ ปี 2007, เมืองจอนจู ประเทศเกาหลีใต้-
.
..
ตี๊ด ติ๊ด ตี๊ด ติ๊ด ตี๊ด ติ๊ด……
.
“อา... เช้าแล้วเหรอเนี่ย”
ซอลฮยอนตื่นขึ้นหลังได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก เธอค่อยๆลุกขึ้นนั่งแล้วขยับตัวไปนั่งข้างเตียงอย่างระมัดระวัง เนื่องจากขาทั้งสองข้างของเธออ่อนกำลังมาก เธอขยับตัวไปนั่งบนรถเข็น แล้วจึงเคลื่อนรถเข็นไปที่ตู้เสื้อผ้า ซอลฮยอนเปิดตู้และหยิบชุดนักเรียนออกมา
.
“ไม่รู้ว่าวันนี้จะต้องเจอกับอะไรบ้าง หวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดีนะ”
สาวน้อยยิ้มให้กำลังใจตัวเอง วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกที่โรงเรียนแห่งใหม่ เธอจึงรู้สึกประหม่าไม่น้อย
ซอลฮยอนอาบน้ำแต่งตัว แล้วจึงออกมาจากห้องนอน
.
“พร้อมมั้ยจ๊ะซอลฮยอน นี่อาหารกลางวันนะจ๊ะ”
โชอาเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมยื่นกล่องข้าวให้ซอลฮยอน เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ดูแลซอลฮยอนมาตั้งแต่ซอลฮยอนยังเด็ก และซอลฮยอนก็นับถือเธอเป็นเหมือนพี่สาวแท้ๆ
“ขอบคุณค่ะพี่โชอา”
“วันนี้เปิดเรียนวันแรก ให้พี่ไปส่งที่โรงเรียนดีมั้ย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เรื่องแค่นี้สบายมาก...” ซอลฮยอนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “...พี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ไหนพี่ยังจะต้องเตรียมเปิดร้านอีก”
“อืม งั้นก็ได้จ้ะ”
“งั้นหนูไปก่อนนะคะ” สาวน้อยโบกมือลาพี่สาว แล้วจึงเคลื่อนรถเข็นไปที่ประตูบ้าน
“เดินทางดีๆล่ะ”
โชอาช่วยน้องสาวเปิดประตู จากนั้นซอลฮยอนจึงเดินทางไปโรงเรียนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก
------------------------
“ซอกจิน ฝากแวะส่งบะหมี่ก่อนไปโรงเรียนด้วยนะ”
“ครับคุณปู่”
คิมซอกจินขานรับปู่ของเขา เขาอาศัยอยู่ที่นี่กับคุณปู่มาตั้งแต่ยังเล็ก เขาไม่มีพ่อแม่หรือญาติพี่น้องคนอื่นเลย บ้านของเขาเป็นร้านบะหมี่เล็กๆที่เปิดกิจการมานาน
ซอกจินหยิบตะกร้าบะหมี่แล้วเดินไปที่ประตูบ้าน
“ผมไปแล้วนะครับ”
“เดินทางดีๆนะหลาน”
“ครับผม”
ซอกจินโบกมือลาคุณปู่แล้วออกจากบ้าน เขาไปส่งบะหมี่ตามบ้านต่างๆ ก่อนจะรีบไปโรงเรียน
------------------------
ซอลฮยอนเดินทางมาถึงโรงเรียน เธอเคลื่อนรถเข็นไปรอบๆเพื่อสำรวจสถานที่ จนเมื่อใกล้เวลาเข้าเรียน เธอจึงไปยังตึกเรียนของเธอ
.
“โอ๊ะ!...”
สาวน้อยอุทานขึ้นเมื่อกลุ่มเด็กผู้ชายวิ่งมาชนที่ด้านหลังของเธอ ทำให้ของในกระเป๋ากระจัดกระจายเต็มพื้น พวกเขาวิ่งผ่านไปโดยไม่มีใครสนใจ
“เห้อ... ของหล่นหมดเลย”
ซอลฮยอนถอนหายใจยาว เธอก้มลงเก็บของที่พื้น ซึ่งมันไม่ง่ายเลยสำหรับเธอ
------------------------
“โอย... จะสายมั้ยเนี่ย”
ซอกจินพึมพำขณะรีบวิ่งไปที่ห้องเรียนตนเอง
“เอ๊ะ?...”
เขาสังเกตเห็นเด็กผู้หญิงบนรถเข็นคนหนึ่ง เธอกำลังเก็บของที่หล่นกระจัดกระจายจากกระเป๋าด้วยความยากลำบาก
ซอกจินหยุดและดูนาฬิกา เขาลังเลที่จะเข้าไปช่วยเธอเนื่องจากเขากำลังจะเข้าเรียนสาย
.
“เอาล่ะ... ก็ได้” ซอกจินตัดสินใจย้อนกลับไปช่วยเด็กผู้หญิงคนนั้น
“เฮ้ ซอกจิน นายกำลังจะไปไหนน่ะ ห้องเรียนไปทางนี้” กงชานเรียกซอกจิน พร้อมเข้ามากอดคอกะทันหัน
“ป...เปล่าน่ะ ไม่มีอะไร”
“งั้นรีบไปกันเถอะเพื่อน เดี๋ยวโดนทำโทษกันพอดี”
“อืมๆ”
เขาวิ่งไปกับเพื่อน แต่ก็ยังคงเหลียวหลังกลับมามองสาวน้อยด้วยความรู้สึกผิด
------------------------
“เอาล่ะจ้ะทุกคน วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรก ครูมีเพื่อนใหม่อยากจะแนะนำให้พวกเธอรู้จัก เพื่อนคนนี้อาจจะพิเศษหน่อย ยังไงมีอะไรก็ช่วยๆกันแนะนำเพื่อนนะจ๊ะ”
อาจารย์กล่าวหน้าชั้น ก่อนจะเดินออกไปนอกห้องและพาซอลฮยอนเข้ามา
ซอลฮยอนค่อยๆเคลื่อนรถเข็นเข้ามา และทันทีที่เธอเข้ามาในห้อง เสียงพูดคุยก็เริ่มดังขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“เด็กใหม่คนนั้น”
“ทำไมเธอนั่งรถเข็นน่ะ”
“เธอพิการเหรอ”
“ขาเธอเป็นอะไรน่ะ”
ซอลฮยอนผิดหวังกับปฏิกิริยาของเพื่อนๆ แต่เธอก็ยังยิ้มสู้ต่อไป เพราะนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอต้องพบกับสิ่งเหล่านี้
.
“สวัสดีจ้ะทุกคน ฉันชื่อคิมซอลฮยอน ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะ” เธอกล่าวทักทาย
“เอ้านี่ พวกเธอ... มีมารยาทกันหน่อย เพื่อนแนะนำตัวยังคุยกันเสียงดังอีก” อาจารย์กล่าวพร้อมใช้ไม้บรรทัดเคาะที่โต๊ะ ทุกคนจึงเงียบลง
“ไปนั่งที่โต๊ะได้แล้วจ้ะ ตรงนั้นว่างพอดีเลย”
“ค่ะ”
สายตาทุกคู่ยังคงมองตามเธอไป เธอพยายามไม่สบตาใคร และไม่ใส่ใจกับสิ่งเหล่านี้
.
ไม่เป็นไรนะซอลฮยอน ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวทุกอย่างจะผ่านไปเอง
------------------------
ในขณะเดียวกัน ซอกจินก็กำลังนั่งเรียนอยู่ในห้อง แต่ภาพของสาวน้อยบนรถเข็นคนนั้นก็แวบเข้ามาในความคิดเขาโดยไม่รู้ตัว
.
..ใครกันนะ?
เด็กใหม่เหรอ?...
.
“เห้ย.. ซอกจิน...” กงชานเรียก พร้อมเอามือโบกด้านหน้า “...เฮ้! นายเหม่ออะไรของนายน่ะ”
“ป..เปล่าน่ะ” ซอกจินได้สติจึงรีบเปิดหนังสือตามเพื่อนอย่างลนลาน
“เฮอะๆ แปลกคนชะมัด” กงชานหัวเราะพร้อมสายหน้า
------------------------
แล้วเสียงกริ่งพักกลางวันก็ดังขึ้น ซอลฮยอนรับประทานอาหาร แล้วออกมาสำรวจในโรงเรียนต่อ เธอเคลื่อนรถเข็นไปรอบๆและกำลังมองหาอะไรบางอย่าง
.
“อา... เจอแล้ว”
ซอลฮยอนหยุดลงที่ใต้ต้นไม้ในสวนหย่อม
“ตรงนี้เงียบสงบดีจัง”
สาวน้อยหันไปมองรอบๆเพื่อชื่นชมความงามของพรรณไม้และนกที่บินไปมา เธอหยิบสมุดคู่ใจพร้อมดินสอขึ้นมาแล้วบรรจงวาดรูปลงไป
......
ในขณะเดียวกัน ซอกจินก็มาเดินเล่นที่สวนหย่อม เขาเดินไปยังใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งเป็นที่ประจำที่เขาชอบไป
.
“เอะ”
เขาก็หยุดเดินต่อเมื่อเห็นว่าใต้ต้นไม้นั้นมีคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว เธอคือสาวน้อยบนรถเข็นคนนั้น เธอกำลังนั่งสเก็ตช์รูปนกตัวหนึ่งลงบนสมุดของเธอ
ซอกจินหยุดและมองดูห่างๆ เขาอมยิ้มด้วยความเอ็นดูโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่ซอลฮยอนกำลังอยู่ในโลกส่วนตัวของเธออย่างมีความสุข
....
กริ๊งงงงงง
ไม่นานเสียงกริ่งเตือนก่อนเข้าเรียนช่วงบ่ายก็ดังขึ้น ซอลฮยอนได้ยินจึงรีบเก็บของและเคลื่อนรถเข็นโดยเร็วเพื่อเตรียมเข้าเรียน ซอกจินเหลียวมองตามเธอสักพัก ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องเรียนของตน
.
“ฮึๆ...”
ชายหนุ่มเดินไปยิ้มไป พลางนึกถึงรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาของเด็กสาวคนนั้น เธอดูมีความสุขแม้ว่าเธอจะไม่เหมือนคนอื่นก็ตาม
.
…เดี๋ยวนะ... นายยิ้มอะไรของนายน่ะซอกจิน…
ซอกจินฉุกคิดขึ้นมาได้จึงหุบยิ้มทันที เขามองนาฬิกาแล้วจึงรีบวิ่งกลับไปห้องเรียน
------------------------
“เอาล่ะนักเรียน ลองทำโจทย์ข้อนี้ซิ”
อาจารย์คณิตศาสตร์เขียนสมการหนึ่งบนกระดาน นักเรียนในชั้นต่างฮือฮาเนื่องจากเป็นโจทย์ที่ยาก
“มีใครจะอาสาแก้โจทย์ข้อนี้มั้ย”
ทุกคนต่างเงียบ ซอลฮยอนเตรียมจะยกมือเพราะเธอสามารถทำโจทย์ข้อนี้ แต่เธอก็เปลี่ยนใจ เพราเธอไม่ต้องการเป็นจุดเด่นในห้อง
.
อาจารย์ทยอยเรียกชื่อนักเรียนในชั้นออกมาทำโจทย์หน้ากระดาน แต่ไม่มีใครสามารถทำโจทย์ข้อนี้ได้เลยสักคน
...
“เอาล่ะ ครูก็เรียกมาหลายคนแล้วนะ ไหนลองให้นักเรียนใหม่มาแก้สมการดูซิ...” อาจารย์กล่าว “...เชิญจ้ะ คิมซอลฮยอน”
ซอลฮยอนได้ยินชื่อตนเองจึงรู้สึกประหม่า เธอก็ค่อยๆเคลื่อนรถไปหน้ากระดาน แล้วจึงหยิบชอล์คขึ้นมาเขียน
สาวน้อยเอื้อมแขนจนสุด แต่โจทย์ที่อาจารย์เขียนอยู่สูงกว่าตัวเธอมาก ทำให้เธอต้องเขียนด้านล่างๆของกระดาน
“ฮาๆๆ ”
“ดูเธอสิ”
“ฮาๆๆ”
เพื่อนๆหัวเราะซอลฮยอน ทำให้เธอต้องชะงักลงเพราะรู้สึกสูญเสียความมั่นใจ
“ชู่ววว... เงียบๆสิเด็กๆ...” อาจารย์กล่าวพร้อมให้สัญญาณให้ทุกคนหยุดหัวเราะ “...ต่อเลยจ้ะ ซอลฮยอน”
ซอลฮยอนหันกลับไปแก้โจทย์ต่อโดยไม่รอช้า และไม่นานก็เสร็จ ทุกคนในห้องต่างทึ่ง เพราะนั่นเป็นคำตอบที่ถูกต้อง
“ว้าว เก่งมากจ้ะซอลฮยอน ...เอ้า ทุกคนปรบมือให้เพื่อนเร็ว”
ทุกคนต่างปรบมือให้เธอ ซอลฮยอนรู้สึกประหม่าอีกครั้งแต่ก็ยิ้มพลางโค้งศีรษะเล็กน้อยให้กับเสียงปรบมือ แล้วจึงกลับไปที่โต๊ะตนเอง
.
ในขณะเดียวกัน อิมแจบอม ซึ่งนั่งอยู่ข้างหลังห้องและเห็นเหตุการณ์ตลอดก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เขาหันไปมองพรรคพวกของเขา และดูเหมือนเขาจะมีแผนอะไรบางอย่าง
------------------------
กริ๊งงงงงงงงงง
เสียงกริ่งสุดท้ายของวันดังขึ้น ถึงเวลาเลิกเรียน ทุกคนต่างรีบเก็บของแล้วออกจากห้องเรียน ซอลฮยอนเองก็เช่นกัน
.
...วันนี้เหนื่อยจัง...
สาวน้อยนึกในใจขณะเคลื่อนรถเข็นไปเรื่อยๆ แต่พอเธอใกล้จะถึงประตูโรงเรียนก็มีผู้ชายกลุ่มหนึ่งยืนขวางเธอไว้
“ขอโทษนะคะ”
ซอลฮยอนขอทางพร้อมเคลื่อนรถเข็นหลบไปอีกทาง แต่ชายกลุ่มนี้ก็เดินไปขวางเธอต่อ ไม่ให้เธอไป
“เอ่อ... มีอะไรให้ช่วยรึเปล่าคะ”
“หวัดดีจ้ะ คิมซอลฮยอนใช่มั้ย…” ชายหนุ่มกล่าว “…พวกเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นเธอไง จำได้รึเปล่า”
ซอลฮยอนนึกออกแล้วว่าพวกเขาคือ นักเรียนชายกลุ่มหนึ่งที่นั่งข้างหลังห้อง เธอจึงพยักหน้าตอบรับ
“ฉันอิมแจบอมนะ และนี่ก็เพื่อนๆของฉัน”
“อ้อ”
“เอาล่ะ งั้นเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ”
แจบอมและเพื่อนๆหยิบสมุดการบ้านออกมาจากกระเป๋านำมากองรวมกัน แล้วส่งให้ซอลฮยอน
“นี่มันอะไรน่ะ” ซอลฮยอนถามอย่างงุนงง
“ก็การบ้านวันนี้ไง”
“ฮึ?”
“คืองี้นะ พวกเราเห็นแล้วว่าเธอนี่ก็เก่งไม่เบา พวกเราก็เลย... อยากให้เธอช่วยทำการบ้านพวกนี้ให้หน่อยน่ะ”
“พวกนายเข้าใจผิดแล้วล่ะ ฉันแค่ทำโจทย์เลขได้แค่ข้อเดียว ที่จริงฉันไม่ได้เก่งสักหน่อย” เธอกล่าว
“ฉ..ฉันขอตัวนะ”
“เดี๋ยวสิ จะรีบไปไหนล่ะ” แจบอมกล่าว แล้วเพื่อนของเขาจับด้านหลังของรถเข็นไว้ทันที ทำให้ซอลฮยอนไปไหนไม่ได้
ซอลฮยอนหันไปมองข้างหลังและยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้น แต่ก็ยังพยายามเก็บอาการไว้
“การบ้านวันนี้เยอะ ฉันทำให้พวกนายไม่ไหวหรอก”
“อะไรกันสาวน้อย พวกเรามีธุระ เธอจะแล้งน้ำใจกับเพื่อนแบบนี้เลยเหรอ”
“แล้ว... แล้วนายจะมั่นใจได้ไงว่าฉันจะทำถูก ถ้าฉันทำผิดล่ะ”
“ที่จริงแล้ว... ฉันก็ไม่อยากคิดหรอกนะ... ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
แจบอมกล่าวพร้อมขยับตัวเข้าไปใกล้ซอลฮยอน เขาปลดล็อกเบรกที่ล้อและดึงรถเข้ามาหาตัวเขา ซอลฮยอนพยายามจับล้อไว้สุดแรงเพื่อไม่ให้รถเคลื่อนไป
“ห... หยุดนะ”
แจบอมหยุดและยื่นกองสมุดการบ้านให้ซอลฮยอนอีกครั้ง เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับมันมา
“ว่าง่ายๆแบบดีค่อยดีหน่อย...” แจบอมกล่าว “...ไปกันเถอะพวกเรา”
หลังจากนั้นแจบอมและเพื่อนๆก็เดินจากไป ซอลฮยอนยังหยุดนิ่งที่เดิมอยู่พักหนึ่ง สาวน้อยถอนหายใจด้วยความผิดหวัง เธอเก็บสมุดทั้งหมดลงกระเป๋าแล้วจึงเคลื่อนรถเข็นออกจากโรงเรียนไป
.......
ในขณะเดียวกัน ซอกจินที่กำลังเดินกลับบ้าน ก็เห็นซอลฮยอนกำลังอยู่กับกลุ่มของแจบอม เขาเห็นเธอรับกองสมุดบางอย่างก่อนที่พวกเขาจะเดินจากไป
ซอกจินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้บ้าง แต่เขาก็พอเดาได้ว่าคงเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยดีแน่ เขายืนมองซอลฮยอนอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่สาวน้อยจะเคลื่อนรถเข็นออกไป
.....
ซอกจินเดินกลับบ้าน ระหว่างทางเขาได้แต่ครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และลึกๆก็เสียดายที่ไม่ได้ช่วยอะไรเด็กสาวคนนั้นเลย
.
...เด็กพวกนั้นมันอันธพาลนี่นะ
พวกนั้นทำอะไรเธอนะ
เกิดอะไรขึ้น
ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่
พวกนั้นต้องการอะไรจากเธอ
เธอต้องถูกข่มขู่แน่ๆ
แล้วพวกนั้นจะรังแกเธอไปทำไมนะ
โธ่... ฉันน่าจะไปถึงเร็วกว่านี้นะ...
.
.
“ซอกจิน!.... หลานจะไปไหน หยุดก่อนๆ”
...เอ๊ะ... เสียงคุณปู่หนิ คุณปู่มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง?...
ซอกจินได้ยินเสียงเรียกของคุณปู่จากทางด้านหลัง เขาหยุดเดินแล้วหันกลับมาอย่างงุนงง
“ครับ?”
“นั่นหลานจะไปไหนน่ะ?”
ซอกจินหันไปมองรอบตัวแล้วพบว่า เขามัวแต่คิดเรื่องซอลฮยอนจนเดินเลยบ้านตนเองไป
“เอ่อ... ป..เปล่าครับ...” ซอกจินตอบและยิ้มแก้เขิน
เขาเดินกลับไปที่ประตูบ้าน พลางสะบัดศีรษะไปมาและตีที่หน้าผากตนเองซ้ำๆ ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป
.
...ซอกจินเอ๊ย... นายเพี้ยนไปแล้ว มัวแต่คิดอะไรของนายอยู่เนี่ย...
.
------------------------
ในตอนกลางคืน ซอลฮยอนนั่งทำการบ้านจนดึก แม้ว่าเธอไม่อยากทำตามคำขู่ของแจบอมเลย แต่เธอเองก็กลัวเขา
“ยังทำการบ้านไม่เสร็จอีกเหรอจ๊ะ…” โชอาเดินเข้ามาในห้องพร้อมนมอุ่นๆสำหรับซอลฮยอน “...เปิดเรียนก็การบ้านเยอะแล้วเหรอ”
“ค่ะ” สาวน้อยตอบพร้อมพยักหน้า
“แล้วเพื่อนๆที่โรงเรียนใหม่เป็นยังไงบ้างจ๊ะ น่ารักหรือเปล่า?”
“น่ารักค่ะ...” ซอลฮยอนกล่าวและยิ้มให้โชอา “...พี่โชอาไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”
“จ้า ได้ยินอย่างนี้พี่ค่อยสบายใจหน่อย...” พี่สาวกล่าว “...รีบๆทำแล้วก็รีบๆเข้านอนล่ะ พรุ่งนี้ยังต้องตื่นแต่เช้าอีก”
“ค่ะพี่โชอา”
โชอาเดินออกจากห้องซอลฮยอนไป สาวน้อยเหลียวมองที่ประตูครู่หนึ่งก่อนถอนหายใจ เธอไม่ได้ตั้งใจโกหกพี่สาว แต่เธอไม่อยากทำให้โชอาต้องเป็นห่องเธอมากไปกว่านี้
.
------------------------
เช้าวันต่อมา ในห้องเรียน ก่อนที่จะถึงเวลาเข้าเรียน แจบอมและพรรคพวกเดินมาที่โต๊ะของซอลฮยอนเพื่อทวงสมุดการบ้าน ซอลฮยอนถอนหายใจแล้วจึงหยิบสมุดเหล่านั้นขึ้นมาและส่งให้แจบอม เขาเปิดดูคร่าวๆและพอใจกับมัน
“ใช้ได้นะเนี่ย ลายมือสวยซะด้วย... ไว้ฉันจะใช้บริการบ่อยๆนะจ๊ะสาวน้อย”
แจบอมกล่าวและยื่นมือขึ้นมาจะหยิกแก้มซอลฮยอน เธอจึงรีบเบือนหน้าหนีทันที
“เฮอะๆๆๆ”
แจบอมและพวกหัวเราะด้วยความขบขัน ก่อนจะกลับไปที่ของตนเอง
.
------------------------
“เอาล่ะจ้ะนักเรียน วันนี้เรามาเริ่มเรียนวิชาวรรณกรรมกันต่อเลยนะ…” อาจารย์กล่าว “...แต่ก่อนอื่นเลย ครูได้ตรวจการบ้านของทุกคนแล้ว”
อาจารย์กล่าวพลางแยกสมุดจำนวนหนึ่งออกมากจากกอง
“มีนักเรียนที่ทำการบ้านได้ดีมาก เดี๋ยวครูจะเรียกชื่อ ให้ออกมาที่หน้าชั้นเรียนเลยนะจ้ะ...” อาจารย์กล่าว “...อิมแจบอม คังแบคโฮ คิมซองจู ฮันซังฮยอก มาเลยจ้ะ”
แจบอมและพรรคพวกของเขาถูกเรียกชื่อ พวกเขายิ้มแก้มปริ เพราะทั้งๆที่พวกเขาไม่ได้ทำการบ้านเอง แต่กลับได้รับคำชมเชย เขายิ้มเยาะเย้ยซอลฮยอนขณะที่เดินผ่านเธอ แต่ซอลฮยอนก็ไม่ได้ติดใจอะไร
“พวกเธอทำได้ดีมาก เขียนบรรยายได้ชัดเจนและตรงประเด็น แต่...” อาจารย์กล่าวพร้อมเดินไปหาพวกเขา “...แต่ทั้งสำนวนการเขียน ทั้งลายมือของการบ้านพวกเธอ มันคล้ายกันมาก พวกเธอทำเองจริงรึเปล่า?”
“พวกเราทำการบ้านด้วยกัน มันจะแปลกตรงไหนล่ะครับ ที่สำนวนจะออกมาคล้ายกันบ้าง” แจบอมตกใจเล็กน้อย แต่เขายังคงเก็บอาการได้ดี
“ที่พวกเธอพูดมันก็เป็นไปได้ แต่สำนวนการเขียนและลายมือแบบนี้ไม่ได้มีแค่พวกเธอ แต่ยังมีอีกคน... คิมซอลฮยอน...” อาจารย์เรียกชื่อ และหันไปมองที่สาวน้อย “...ซอลฮยอน เธอมีคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้รึเปล่าจ้ะ?”
ซอลฮยอนตกใจและไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี ขณะนี้สายตาทุกคู่หันมามองเธอ เธอหันไปมองอาจารย์ ในขณะเดียวกันเธอก็เห็นแจบอมจ้องมองและขมวดคิ้วใส่เธอ เขาส่ายหน้าเพื่อบอกเป็นนัยว่าไม่ให้เธอบอกความจริง
“ว่าไงจ้ะซอลฮยอน อะไรคือความจริง?” อาจารย์ถามย้ำอีกครั้ง
ซอลฮยอนฮยอนหันไปมองแจบอมเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะตัดสินใจได้
“ความจริงก็คือ... อิมแจบอมกับเพื่อนของเขา บังคับให้หนูทำการบ้านให้ค่ะ”
“โกหก!!!...” แจบอมพูดแทรกขึ้นมาทันที “...ไม่จริงนะครับ เธอใส่ร้ายพวกเรา เธอชอบผม แต่ผมไม่เล่นด้วย เธอเลยใส่ร้ายผม”
“การบ้านพวกนั้นเป็นลายมือหนูจริงๆ หนูสามารถบอกได้ว่าเนื้อหาที่เขียนในนั้นมีอะไรบ้าง...” สาวน้อยกล่าว “...และหนูคิดว่าพวกเขาคงไม่รู้ด้วยซ้ำ เพราะพวกเขาไม่ได้ทำเองเลย”
แจบอมอึ้งและจำต้องจำนนด้วยหลักฐาน เขาไม่สามารถแก้ตัวได้อีกเนื่องจากเขาก็ไม่รู้เนื้อหาที่เขียนในสมุดจริง
“เอาล่ะ พวกเธอมีความผิดฐานลอกการบ้าน ...ไม่ใช่สิ ...เธอยังบังคับขู่เข็ญเพื่อนที่อ่อนแอกว่าเธอ ครูคงต้องให้พวกเธอไปที่ห้องปกครอง...” อาจารย์กล่าว “...พวกเธอออกไปยืนนอกห้องก่อนไป”
แจบอมเดินออกจากห้องไป ในขณะที่เดินผ่านโต๊ะซอลฮยอน เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่โกรธแค้น ซอลฮยอนพยายามไม่สบตาเขา เพราะเธอเองก็กลัวเขาไม่น้อย
แจบอมและเพื่อนยืนข้างนอกห้อง เขายังคงมองเข้ามาในห้องตลอดเวลา เขารู้สึกแค้นซอลฮยอนมากที่ทำให้เขาเสียหน้าและถูกทำโทษ
.
“มันจะไม่จบแค่นี้แน่ คิมซอลฮยอน... เธอประเมินฉันต่ำไปแล้ว”
.
------------------------
ถึงเวลาพักกลางวัน ซอลฮยอนไปที่โรงอาหาร เธอหยิบกล่องข้าวขึ้นมาและเริ่มรับประทาน แต่ทันใดนั้น เธอเห็นนักเรียนชายคนหนึ่งมายืนตรงหน้าเธอ เธอจึงเงยหน้าขึ้นมอง
“แจบอม...”
“หึ!...” แจบอมมองด้วยสายตาอาฆาต แล้วปัดกล่องข้าวของซอลฮยอนออกไปอย่างรุนแรง คนรอบข้างต่างตกใจและหลีกหนี ซอลฮยอนเองก็รีบเคลื่อนรถเข็นหนีเช่นกัน แต่เธอก็ไปได้ไม่ไกลเนื่องจากพวกของแจบอมล้อมเธอไว้
“เธอคิดจะลองดีใช่มั้ย ถึงทำแบบนั้น”
“ฉันไม่ได้จะลองดี ฉันแค่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง”
“สิ่งที่ถูกต้องเหรอ!...” เขาตะคอกและผลักศีรษะซอลฮยอน “...สิ่งที่ถูกต้องงั้นเหรอ! จะต้องให้ฉันสอนเธอมั้ย ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง เธอจะได้รู้ซะบ้าง!”
……
ในขณะเดียวกัน ซอกจินก็กำลังเดินเข้ามาในโรงอาหารกับกงชาน เขาได้ยินเสียงผู้ชายกำลังตะคอกและนักเรียนต่างกำลังแตกตื่น เขาจึงรีบเข้าไปดู
ซอกจินเห็นแจบอมกำลังตะคอกใส่ซอลฮยอนและผลักศีรษะเธอตลอด โดยที่ซอลฮยอนไม่ได้ตอบโต้อะไรเลย
“ไปกันเถอะซอกจิน ฉันว่าอย่าไปยุ่งกับพวกเขาเลย” กงชานกล่าวและดึงแขนซอกจิน
ซอกจินไม่ได้สนใจคำพูดของกงชาน เขารีบวิ่งเข้าไปโดยเร็วและจับแขนแจบอมให้ออกมาจากศีรษะซอลฮยอน
“ทำร้ายคนที่ไม่มีทางสู้แบบนี้ นายคิดว่ามันเท่นักหรือไง”
“แล้วแกเป็นใครล่ะ มายุ่งอะไรด้วย เฮอะ แกอยากจะช่วยยัยง่อยนี่เหรอ” แจบอมกล่าว
ซอกจินไม่ตอบอะไร แต่กลับช่วยซอลฮยอนเข็นรถเพื่อที่จะออกไปจากโรงอาหาร
“นี่แกจะพาเธอไปไหน!” แจบอมเข้ามาหยุดรถเข็นทันที ซอกจินจึงผลักแจบอมให้ออกห่างไป
“นี่แกจะลองดีใช่มั้ย!!” แจบอมเข้ามาคว้าคอเสื้อของซอกจินทันที แต่ซอกจินไม่ได้กลัวเขาแต่อย่างใด
“นายเป็นนักเรียนชั้นม.4 ฉันเป็นรุ่นพี่นาย นายควรจะให้ความเคารพฉันนะ” ซอกจินกล่าว
“เคารพงั้นเหรอ... ได้...”
แจบอมปล่อยหมัดเข้าที่ใบหน้าซอกจิน ซอกจินจึงสวนหมัดกลับทันที ทั้งคู่ต่างก็ต่อสู้กัน ทว่าซอกจินก็เสียเปรียบกว่ามาก เนื่องจากแจบอมมีพวกหลายคน
“หยุด... หยุดเถอะ!... อย่าสู้กันแบบนี้เลย หยุดเถอะ!”
ซอลฮยอนตกใจมากและได้แต่บอกให้ทุกคนหยุด เธออยากช่วยซอกจินมาก แต่เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย
“หยุดเถอะนะ ฉันขอร้อง! ถ้าอยากทำก็มาทำฉันสิ!”
แจบอมได้ยินซอลฮยอนพูดดังนั้นจึงพุ่งตรงไปหาซอลฮยอนทันที ซอกจินรีบเข้ามาคว้าตัวแจบอมไว้และจับเขาทุ่มลงพื้น
“ไอ้หมอนี่!”
แจบอมชกหน้าซอกจินอีกครั้งด้วยความโกรธ ทั้งคู่ต่างแลกหมัดกันโดยไม่มีใครยอมใคร
...
“แจบอม! แจบอม!...ไปกันก่อนเร็ว!...” เพื่อนของแจบอมคนหนึ่งรีบเข้ามาดึงแจบอมไว้ “...อาจารย์ปกครองกำลังมาทางนี้!”
“ฮะ?!”
แจบอมหยุดทันที และปล่อยมือออกจากซอกจิน เขาและเพื่อนรีบเดินออกไป แต่ยังคงเหลียวหลังมามองซอลฮยอนด้วยสายตาที่ยังคงโกรธแค้นอยู่
ซอกจินหายใจเร็วด้วยความเหนื่อย เขาหันไปมองซอลฮยอน เห็นสาวน้อยมีสีหน้าที่ดูตกใจและหวาดกลัวมาก เขาจึงรีบเข้าไปหาเธอ
“ไม่เป็นไรแล้วนะ พวกเขาไปแล้ว”
ซอกจินรู้ว่าซอลฮยอนยังตกใจอยู่มาก จึงพาเธอออกไปจากโรงอาหารโดยเร็ว
..........
“รุ่นพี่ไม่น่าช่วยฉันเลย”
ซอลฮยอนกล่าวพลางใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเลือดที่มุมปากซอกจิน ขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ในสวนหย่อม
“ทำไมล่ะ ไม่ดีเหรอ?” ชายหนุ่มถาม
“รุ่นพี่ไม่ควรมาเจ็บตัวเพราะฉันเลย ให้ฉันเจ็บเองซะดีกว่า”
“ฉันไม่ชอบเห็นใครถูกรังแกน่ะ และเธอก็ไม่ควรเจ็บตัวด้วยเหมือนกัน” ซอกจินกล่าว
“อืม... ที่จริง... ไม่ต้องเรียกฉันว่ารุ่นพี่ก็ได้นะ เรียกฉันว่าพี่ก็ได้...” เขากล่าว “...ฉันคิมซอกจินนะ แล้วเธอล่ะ”
“ฉันคิมซอลฮยอนค่ะ”
“คิมซอลฮยอนเหรอ อืม...” ชายหนุ่มกล่าว เขาพยายามคิดว่าจะพูดอะไรกับเธอต่อดี แต่ก็คิดไม่ออก
“ง...งั้นฉันไปก่อนนะ” ซอกจินลุกขึ้นยืนและเดินออกไป
“เอ่อ พี่ซอกจินคะ...” สาวน้อยเรียกชายหนุ่ม “...ขอบคุณพี่มากนะคะ ขอบคุณจริงๆค่ะ”
ซอลฮยอนกล่าวขอบคุณและยิ้มให้ซอกจิน ชายหนุ่มพยักหน้ารับแล้วเดินต่อไป เมื่อพ้นจากสายตาสาวน้อยไปแล้ว เขาก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้ เขานำผ้าเช็ดหน้าของซอลฮยอนขึ้นมาดูอีกครั้ง และยิ้มน้อยยิ้มใหญ่โดยไม่รู้ตัว
.
.
...คิมซอลฮยอน...
.
.
To be continued...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ