กาลกิริยา ผู้เสพดวงวิญาณ
บทนำ
‘ความมืด’ คือสิ่งเดียวที่สามารถกลืนกินได้ทุกอย่าง ไม่ว่าสิ่งนั้นจะมีรูปร่างอย่างไร ‘ความมืด’ ก็ปกคลุมสิ่งนั้นได้เสมอ แต่ว่า.....ทำไมกันนะ ทำไมผมถึงได้รู้สึกชอบความมืดที่ผมกำลังเห็นและสัมผัสอยู่ตอนนี้ ใช่! ความมืดที่มาพร้อมกับความหนาวเย็น.....
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
เสียงหัวใจของผมเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่มันเงียบหายไปนาน จนผมคิดไปแล้วว่าหัวใจของผมมันยังอยู่ในตัวของผมหรือเปล่า เพราะมันเงียบ เงียบจนผมคิดว่าผมอาจจะไม่มีโอกาสได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นระรัวอย่างนี้อีกต่อไปแล้ว
“กาลกิริยา” เสียงหนึ่งดังขึ้นในความมืด ไม่สิ! มันดังขึ้นในหัวของผมต่างหาก ดังก้องอยู่ในหัว ได้ยินชัดเจน และสัมผัสไม่ได้ว่าเสียงมันมาจากทางไหนกันแน่ เพราะมันดังรอบทิศทาง รอบๆตัวของผม
“ใครน่ะ” ผมอยากจะตะโกนถามออกไปให้สุดเสียง แต่ผมกลับทำได้เพียงคิดอยู่ภายในหัว ปากของผมขยับไม่ได้ มือของผมเองก็ขยับไม่ได้ ร่างกายของผมทั้งตัวขยับไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
“กาลกิริยา หมายถึงความตาย ความตายที่ทุกคนไม่อาจหลีกหนีได้” เสียงนั้นยังคงบรรยายต่อไป “และนายก็คือคนที่จะทำหน้าที่ในการเก็บดวงวิญญาณเหล่านั้น” เสียงนั้นกล่าว
“ทำไมจะต้องเป็นฉัน” ผมถามกลับ
“เพราะนายคือคนได้สัมผัสกับความตาย และชอบความมืดได้โดยไม่กลัวมัน” เสียงนั้นตอบกลับมา
“ไม่มีใครไม่กลัวความมืดหรอก เพราะมันไร้ขอบเขต ไร้ความรู้สึก” ผมตอบกลับไปอย่างนั้น ภายในใจมืดดำไปหมดเหมือนกับบรรยากาศรอบข้าง ทั้งมืด ทั้งเหน็ดหนาว
“นี่ไม่ใช่สิ่งที่นายต้องเลือก แต่มันคือสิ่งที่นายต้องทำ ต่อให้นายไม่อยากที่จะรับมันแค่ไหน แต่เมื่อมีคนกำหนดให้นายทำ นายก็ต้องทำ”
“แล้วใครคือคนกำหนดให้ฉันต้องทำ หน้าที่เก็บดวงวิญญาณมันเป็นหน้าที่ของยมทูต ฉันไม่อยากแทรกแซงงานของใคร” ผมยังคงดื้อดึงที่จะไม่ทำหน้าที่นี่ การเก็บดวงวิญญาณคนตาย มันเป็นหน้าที่ของยมทูต การที่ผมเข้าไปแทรกแซงระหว่างงาน มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ และอีกอย่าง ผมเองก็ไม่ได้อยากจะทำด้วย
“ยมทูต ทำหน้าที่นำทางวิญญาณ ไม่ใช่เก็บดวงวิญญาณ”
“แล้วมันต่างกันตรงไหน ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่รับหน้าที่นี่แน่ๆ”
“ต่อให้นายไม่ยอมรับมัน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้ ในเมื่อเขากำหนดมาให้แล้ว ไม่ว่านายจะยอมรับหรือไม่ สุดท้ายนายก็ต้องทำหน้าที่นี่อยู่ดี”
.......................
เสียงนั้นเริ่มเลื่อนลางหายไป พร้อมกับแสงสว่างเจิดจ้าที่ส่องแสงแยงเข้ามาในดวงตาของผม ดวงตาเริ่มเปิดกว้าง ทำให้ผมเข้าใจได้โดยทันทีว่า เรื่องที่ผมเจอมาเมื่อครู่นั้น มันคือความฝัน ‘ความฝันที่ซ้ำซาก’ ผมฝันแบบนี้มาโดยตลอด ฝันวนไปเวียนมา ไม่มีค่ำคืนไหนที่ผมจะไม่ฝันถึงมันเลย ตั้งแต่ที่ผมประสบอุบัติเหตุเมื่อหลายเดือนก่อน อุบัติเหตุที่ทำให้ของผม ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป บางคนอาจจะคิดว่า มันก็แค่ความฝัน จะคิดอะไรกับมันมากมาย แต่สำหรับผมแล้ว มันไม่ใช่ความฝันธรรมดาๆเหมือนคนทั่วไป แต่มันเป็นฝันที่แฝงไปด้วยโชคชะตา ‘กาลกิริยา’ ชื่อที่เสียงในความมืดเรียกผมบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า ผมคือคนที่ต้องเก็บดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณของคนที่สิ้นอายุไข ดวงวิญญาณที่สามารถปลดปล่อยห่วงทุกสิ่งทุกอย่างในตอนที่เคยมีชีวิตได้ ผมก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าวิญญาณที่ผมเก็บไปนั้นจะไปอยู่ที่ไหน ผมรู้แค่เพียงว่า ผมมีหน้าที่พียงเก็บมันเท่านั้นเอง
ถึงแม้ว่าผม จะเป็นกาลกิริยา ผู้เสพดวงวิญญาณของคนตาย (เรียกแบบนี้คงได้) แต่ผมก็ยังมีชีวิต ชีวิตปกติธรรมดา เป็นชายหนุ่มธรรมดาที่ยังคงต้องตื่นแต่เช้า ไปเรียนหนังสือ และพบปะผู้คน ชื่อของผมก็คือ....ไนท์ ชายหนุ่มวัยสิบแปดปีที่ยังต้องใช้ชีวิตไปด้วยและเก็บดวงวิญญาณไปด้วย อ้อ! หลายคนอาจสงสัยว่าผมเพียงคนเดียวจะสามารถเก็บดวงวิญญาณที่สินอายุไขตั้งหลายล้านดวงได้ยังไง ไม่ต้องสงสัยหรอกครับ เพราะกาลกิริยานั้น ไม่ได้มีเพียงผมคนเดียว ยังมีอีกหลายคน เนื่องจากหลายๆคนก็เคยผ่านความตายและได้รับชีวิตใหม่อีกครั้งพร้อมกับหน้าที่เก็บดวงวิญญาณอยู่ แต่มันก็ไม่ได้มีมากมายอะไรขนาดนั้น เพราะแบบนี้ไงเขาถึงได้เรียกมันว่า ‘ปาฏิหาริย์’
ก๊อกๆๆๆ!!!
“ไนท์! เมื่อไหร่นายจะออกมาห่ะ! มันสายแล้วนะเว้ย!” เสียงของ ‘ลาส’ รูมแมทของผม และเป็นเพื่อนสนิทผมด้วย ลาสมักจะกระตือรือร้นกับทุกเรื่องซึ่งมันต่างกับผม ที่ออกจะเฉยชาไปซะทุกเรื่อง
“อ่าๆ เข้าใจแล้วน้า” ผมเดินดุ่มๆออกมาจากห้องน้ำอย่างเอือมระอา ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าผมกับลาสมาเป็นเพื่อนสนิทกันได้ยังไง เพราะนิสัยของพวกเรามันไม่ได้ใกล้เคียงกันเลยสักนิด
“เนี่ยนะเข้า นายกำลังจะทำให้ฉันสายนะรู้ไหม” ลาสตะโกนใส่หูอย่างหัวเสีย ก็จะลากคอผมออกจากห้อง
“นายจะบ้าหรือไง ปล่อยฉันนะเว้ย” ผมดึงตัวเองออกจากการเกาะกุมของลาส ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเอื่อมๆ “ฉันอยากจะบ้า ทำไมฉันจะต้องไปออกเดทคู่กับพวกนายด้วยเล่า ถ้าอยากจะไปก็ไปคนเดียวสิ ฉันจะนอน” ผมบ่นก่อนจะตั้งท่าเดินเข้าไปในห้อง
“ได้ไงเล่า ถ้านายไม่ไป มันก็ไม่ใช่เดทคู่นะสิ” พูดเสร็จลาสก็ลากผมออกมาจากหอพักทันที
ไม่นาน ผมกับลาสก็มาถึงยังสถานที่นัดเดท เอาความจริงผมไม่ได้อยากมาเลยสักนิด แค่งานเก็บดวงวิญญาณของผม ผมก็เหนื่อยจนอยากจะหลับมันไปซะตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ก็นะ ลาสมันไม่เคยยอมอะไรสักอย่าง ลองคิดจะทำอะไรแล้ว ต่อให้เอาช้างหรือดับเบิลช้างฉุดก็ไม่อยู่ ลองคิดแต่ตอนที่มันลากผมออกมาสิ มันไม่ได้ดูและไม่สนด้วยซ้ำว่าผมจะอยู่ในสภาพไหน นี้ดีแค่ไหนที่คิดรอบคอบอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อน ไม่งั้นคงได้ออกมาทั้งสภาพชุดนอนแหงๆ-_-
“นั้นไงๆ พวกเธอมาแล้ว” ลาสสะกิดผมเล็กน้อยที่ต้นแขน เมื่อแฟนสาวของมันมาถึง
“ว่าไง รอนานไหม?” เธอกล่าวถามด้วยรอยยิ้มหวาน “สวัสดีไนท์ ในที่สุดก็ยอมออกจากการจำศีลแล้วสินะ” เธอกล่าวขำๆ เธอชื่อ พิมพ์ เป็นสาวของลาสที่พึ่งคบกันได้ประมาณ เดือนครึ่งมั้งนะ ถ้าผมจำไม่ผิด
“มันยอมออกมาที่ไหน ฉันลากมันออกมาต่างหากละ ไม่งั้นก็คงนอนจำศีลอยู่ไหนห้องนั้นแหล่ะ” ลาสพูดก่อนจะขำกับแฟนสาวอย่างสนุกสนาน แกจะไปรู้อะไร ฉันน่ะแทบไม่นอนเลยนะเว้ย-*-
“อ้อ เกือบลืมแหนะ นี่เพื่อนฉันชื่ออีพี” พิมพ์แนะนำเพื่อนสาวของเธอให้กับผมและลาสได้รู้จัก
“สวัสดี” เธอกล่าวด้วยท่าทางเรียบเฉยและก้มหน้าก้มตามองพื้นอย่างใจจดใจจ่อ ผมมองตามสายตาของเธอเผื่อว่าเธออาจจะเห็นอะไรที่น่าสนใจมากกว่าเพื่อนใหม่อย่างพวกผม แต่สิ่งที่ผมเห็นกลับเป็นเพียงแค่พื้นดินว่างเปล่า...
“สวัสดี เราชื่อลาส” ลาสแนะนำตัวเองก่อนจะหันมาทางผมเพื่อสงสายตาให้ผมแนะนำตัวเองบ้าง
“ไง ฉันไนท์” ผมแนะนำตัวเอง
“ไนท์” เธอพึมพำเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ
“เอาละๆ งั้นเราก็มาเริ่มการเดทคู่กันเถอะ ไปกันเถอะนะลาส” พิมพ์กล่าวชวนลาส ก่อนจะเดินจับมือกันไปนำหน้าผมกับอีพีไป ผมหันมาสนใจอีพีด้วยความสงสัย เพราะนอกจากเธอจะไม่พูดอะไรแล้ว เธอยังก้มหน้าไม่ยอมพูดอะไรอีกต่างหาก ผมจึงยื่นมือออกไปแตะที่ไหล่ของเธอเบาๆ เพื่อเป็นการถามว่าเธอเป็นอะไรหรือเปล่า
“นี่” เธอสะดุ้งเล็กน้อย แต่มันก็ชัดเจนพอที่จะทำให้ผมรู้ว่า เธอเกร็งกับการอยู่กับผม “ถ้าเธอไม่สบายใจ จะกลับไหมละ เดี๋ยวฉันไปส่ง” ผมกล่าว
“เปล่า ฉันไม่เปล่าไม่สบายใจ” เธอกล่าวเสียงเบาวิว ก่อนจะเดินผ่านหน้าผมไป ตอนนั้นเองที่ผมสัมผัสอะไรบางอย่างได้ บางอย่างที่ไม่ควรจะอยู่ที่นี่ อยู่ในตัวของเธอ มีอะไรบางอย่าง บางอย่างที่มันดูไม่เป็นมิตรกับผม ความรู้สึกไม่ดีเวลาที่อยู่ใกล้ ผมคิดครู่หนึ่งก่อนจะเดินตามเธอไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ