ZERO เจ้าชายต้องสาป ภาค องค์หญิงโลกสวรรค์

-

เขียนโดย Sora_Akira

วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.48 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  5,585 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 19.56 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทที่ 1 ไม่มีทางเลือก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 1

ไม่มีทางเลือก

 

“ พี่ริโกะ งั้นหรอ? ”

“ ไว้เดียวพี่จะเล่าให้ฟัง แต่ว่าอีกตัวหนึ่งหายไปไหนกันแน่นะ ”  เธอหันไปมองซ้ายขวาในห้องครัวที่พวกนั้นพุ่งออกมาโจมตีผม

“ พี่ริโกะข้างหลัง! ” ผมบอกให้พี่ริโกะก่อนที่เธอจะหันหลังมาพร้อมกับพลังที่ชาร์ตในคทาของเธอรอแล้วเธอตั้งท่าเตรียมยิงแต่ไม่ทันไร ตัวสุดท้ายก็ลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้นเพราะแรงเหวี่ยงของพี่ริโกะไปแล้ว

“ เอ๊ะ! ”

พี่ริโกะทำท่าทางตกใจเล็กน้อยที่เห็นอีกตัวมันลงไปนอนกับพื้นบ้านแล้ว ผมนี้ตกใจมากเลยไม่คิดว่าแรงพี่ริโกะจะมากมายขนาดนี้

“ เอาล่ะรู้สึกว่าคงไม่มีพวกกูลแถวนี้แล้วละนะ จะได้คุยกันสบายๆสักที ”

ทันทีที่เธอพูดอกมา พวกมันตัวหนึ่งที่แค่ถูกซัดให้ล้มลงไปมันก็พยายามลุกขึ้นมาอีกครั้งแล้วพุ่งเข้าใส่พี่ริโกะ

...โฮลี่เบรก...

แสงสีเหลืองทองพุ่งออกมาจากที่ไหนสักแห่ง มันพุ่งใส่ร่างของเจ้าตัวนั้นจะเผาเป็นเถ้าถ่าน พี่ริโกะเองหลังมันโดนเผาแล้วก็คืนร่างเป็นร่างที่ผมรู้จักดีที่สุดเพราะอยู่มาตลอดด้วยกันสามปี

“ พี่ริโกะ เมื่อกี้มัน... ”

“ ขอโทษนะที่พี่ไม่เคยบอกอะไรเลย จำที่พี่บอกตอนเช้าได้ไหมว่าพี่มีเรื่องจะบอกเธอ ” พี่ริโกะพูดออกมาพร้อมกับกวาดคทาไปด้านข้าง ทันใดนั้นห้องที่เต็มไปด้วยเลือดและกลิ่นคาวก็หายไปทันที ตอนนี้พวกเรามาอยู่ท่ามกลางดอกไม้ มีโต๊ะกลมกับเก้าอี้สีขาวสามตัวตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเราสองคน

“ พี่ริโกะที่นี้มัน... ”

“ ที่นี้คือใจกลางสวนอีเดน สวนแห่งความสงบและความสวยงาม ปกติพี่จะชอบมานั่งที่นี้มากแต่ ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้นพี่ก็ไม่ได้มานี้อีกเลย... ”  พี่ริโกะเดินมานั่งลงบนเก้าอี้สีขาว ก่อนจะหยิบกระดิ่งสีเงินออกมาจากไหนไม่รู้ เธอสั่นกระดิ่งนั้นสองสามครั้งแล้ววางลงบนโต๊ะ

“ มานั่งก่อนสิ เดียวเราคุยกันไปดื่มชากันไปดีกว่านะ บอกก่อนเลยว่าชาที่นี้อร่อยมาก ของโลกมนุษย์เทียบไม่ติดเลยละ ” พี่ริโกะเชิญชวนผมให้ไปนั่งด้วยระหว่างที่กำลังตัดสินใจจะนั่งนั้นเอง

“ สวัสดีค่ะ ท่านเฟียร์ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ ”เสียงหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นด้านหลังผม ผมหันไปมองเจ้าของเสียงนั้นเป็นสาวผมยาวสีเหลืองทอง ดวงตาสีเทา ใส่ชุดเมดสีดำลายสีขาว

“ สวัสดีจ๊ะ ช่วยเอาชานมมาสองแก้วนะ ขนมปังหวานราดน้ำผึ้งสองที่ แล้วก็...อย่าบอกท่านพ่อนะว่าฉันมาที่นี้ ”

“ เข้าใจแล้วคะ เดียวจัดการให้ตามที่ต้องการคะ ” เธอเดินออกไปก่อนที่ผมจะเดินมานั่งที่เก้าอี้ขาวที่ว่างอยู่

“ เอาล่ะเข้าเรื่องดีกว่า ซีโร่พี่มีเรื่องอยากจะขอร้องหน่อย ”

“ พิ่โกะ...สีหน้าพี่พูดจริงจังแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะเลยนะ ”

“ หนวกหูย่ะ ” เธอตบหน้าผมไปทีหน้าพร้อมกับก้มหน้าก้มตาปิดความเขินอายของเธอไว้

“ แล้วมีเรื่องอะไรละ?  พี่ริโกะ ถึงต้องมาขอร้องผมช่วยแบบนี้ ”

“ พี่อยากให้... ”

“ ชานม ขนมปังหวานราดน้ำผึ้งได้แล้วคะ ” เมดสาวเอาถ้วยใส่ชานมร้อนๆวางให้ตรงหน้าพี่ริโกะและผม แล้วก็วางขนมปังหวานราดน้ำผึ้งใส่จานสวยงามไว้กลางโต๊ะกลมพร้อมกับไอศรีมรสสตอเบอรี่ไว้ข้างๆ

“ ขอบใจนะ ริเนีย แต่เธอคงไม่ได้แอบบอกท่านพ่อใช่ไหม ”

“ ไม่แน่นอนค่ะ ก็ฉันเป็นเมดประจำตัวท่านเฟียร์ ถ้าท่านเฟียร์สั่งอะไรฉันก็ต้องทำตามทุกอย่างคะ ” เธอพูดแบบนั้นแล้วก็เดินไปยืนอยู่ข้างหลังพี่ริโกะ

“ เอาละต่อจากเมื่อกี้เลยนะ ซีโร่พี่อยากจะให้เธอ มาเรียนที่โรงเรียนเวทมนต์ วาราเทียร์ ที่พี่กำลังจะเข้าเรียนในปีนี้ ” เธอพูดออกมา ผมรีบส่ายหน้าทันที พี่ริโกะคิดอะไรขอพี่อยู่เนี่ย ผมจะออกตามหาความทรงจำที่หายไป แต่พี่จะให้ผมไปตายในโรงเรียนนั้นงั้นหรอ ผมขอออกเดินทางไปรอบโลกดีกว่าอีก

อย่างที่เคยบอกโรงเรียนนั้นสำหรับมนุษย์แล้วมันไม่ค่อยจะเหมาะเท่าไร ยิ่งมนุษย์ที่พลังเวทย์มนต์น้อยเกินไปแทบจะอาศัยอยู่ที่นั้นไม่ได้เลย บางคนเรียนได้ปีเดียวก็ลาออกมา พูดแบบนี้คงเข้าใจแล้วสินะครับ ว่าทำไมทุกคนในห้องจึงถามพี่ริโกะว่าทำไมเธอถึงต้องไปเรียนที่นั้น

“ โธ่ เป็นน้องชายที่ไม่ยอมช่วยพี่สาวเลยนา ใจร้ายจังเหมือนเรนเกียร์เลยอ่ะ ”

“ ท่านเฟียร์พูดแบบนี้ ระวังท่านเรนเกียร์จะน้อยใจเอานะคะ ” เมดบอกกับเธอแบบนั้น ทำให้ผมสงสัย เรนเกียร์? คือใครกันและเกี่ยวข้องกับพี่ริโกะยังไง?

“ ก็จริงนี่นา ก่อนเกิดเรื่องนั้น เรนเกียร์เองก็ไม่ยอมช่วยเราตอนที่เราขอให้ช่วยด้วยนะ ถ้าเรนเกียร์น้อยใจก็ปล่อยให้น้อยใจไปสิ ”

“ แต่ท่านเรนเกียร์เขาร้องไห้หนักมากเลยนะคะ วันนั้น...ที่เกิดเรื่องนั้นขึ้น เขาออกจากบ้านไปคนเดียวและตามหาท่านเฟียร์มาโดยตลอดนะคะ ถึงตอนนี้เองก็ยังไม่กลับมาเลยค่ะ ”

“ งะ..งั้นหรอ ก็ถือเป็นบทลงโทษที่สมควรกับการไม่ยอมช่วยฉันแล้วล่ะ ” พี่ริโกะพูดไปน้ำตาเริ่มไหลออกมานิดๆ แต่เธอก็พยายามที่จะกลั้นไว้ไม่ให้ออกมา ท่าทางคนที่ชื่อเรนเกียร์คงจะเหมือนกับเราและเป็นคนที่สำคัญสำหรับพี่ริโกะแน่นอน

“ เข้าใจแล้ว ผมจะเข้าไปก็ได้ แต่แค่ปีเดียวเท่านั้นนะ ” ผมตอบไปพร้อมกับไม่มองหน้าเธอ เพราะถ้าผมมองไปแล้วเธอต่อรองมาตอนนี้ ผมคงไม่อาจปฏิเสธเธอได้แน่นอน

“ สามปีสิ อยู่ปีเดียวจะได้อะไรมั่งเนี่ย? ”

“ ปีเดียวก็น่าจะพอแล้วนี่นา... ”

“ สามปี ห้ามต่อรองพี่สาวคนนี้นะ ” เธอยิ้มด้วยความสนุกแต่ผมกับเหนื่อยใจแทนที่เห็นเธอยิ้มแบบนั้น  ผมตอนแรกก็คิดจะเถียงกับเธอต่อแต่คงเถียงไม่ขึ้นแน่นอน ผมจึงหยุดที่จะเถียงกับเธอแล้วหยิบชานมอุ่นๆขึ้นมาดื่ม

“ อร่อย... ”

“ ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ ”

ผมเผลอพูดออกมาไม่รู้ตัว ส่วนเมดของพี่ริโกะเองก็ก้มหัวลงเล็กน้อยเพื่อขอบคุณผมที่กล่าวชม เอาจริงๆคือผมแค่เผลอเลยเผลอพูดออกมาแบบไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง แต่ว่ามันก็อร่อยจริงๆอย่างที่พี่ริโกะพูดว่าของโลกมนุษย์เทียบไม่ติดเลย

“ งั้นพี่ทานบ้างดีกว่า...” พี่ริโกะกำลังหยิบส้อมสีเงินเพื่อกินขนมปังหวานราดน้ำผึ้งแต่ไม่ทันไรคุณเมดก็หยิบคทาของพี่ริโกะแล้วยื่นให้เธอ

“ ท่านเฟียร์ รีบหนีไปเร็วค่ะ มีคนบุกรุกเข้ามาในเขตสวนอีเดนแห่งนี้ ”

“ เอ๋...พวกนั้นมาเร็วขนาดนี้เลยหรอเนี่ย สมแล้วที่เป็นหมาของอูริเอล ซีโร่รีบจับมือพี่ไว้เร็วเข้า ”  พี่ริโกะยื่นมาทางผมก่อนผมจะเอามือขวาไปจับมือเธอไว้ ตอนนั้นก็เกิดแสงสว่างรอบตัวผมก่อนจะรู้ตัวอีกที ผมก็มาอยู่ในห้องนอนของคนๆ ที่จัดอย่างเรียบร้อย รูปถ่ายที่อยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือนับสิบรูป ต่างก็เป็นรูปผมกับพี่ริโกะถ่ายคู่กัน

“ พะ...พี่ริโกะครับ นั้นรูปผมกับพี่นี่นา ทำไมมันมีเยอะจัง ”

“ เอ๊ะ! นั้นมัน... ”

...ท่านเฟียร์...

“ เสียงนั้น ริเนียนี่นา เกิดอะไรขึ้น...? ” พี่ริโกะดูร้อนรนขึ้นมาทันที เหมือนเธอจะได้ยินเสียงโทรจิตจากใครสักคน

“ ...ท่านเฟียร์...รีบหนีไปค่ะ...ที่สวรรค์มีคนทรยศอยู่...มันต้องการให้ท่านเฟียร์ตาย...เพื่อบางอย่าง...ตอนนี้ไม่ว่าโลกมนุษย์..หรือสวรรค์ก็ไม่ปลอดภัยอีกแล้ว...ท่านรีบหนีไปที่โรงเรียนเวทมนต์ วาราเทียร์ของท่านราฟาเอลเร็วค่ะ... ”

“ ริเนีย เกิดอะไรขึ้นอยู่รอตรงนั้นนะ ฉันจะไปช่วยเธอเอง ” พี่ริโกะ เรียกคทาออกมาพร้อมกับแปลงร่างเป็นร่างที่เธอเคยช่วยผมไว้ตอนนั้น

“ อย่าค่ะ...อย่ามาคะ ถ้าท่านมาจะเข้าตามแผนของมัน...แล้วอีกอย่างฉันเองก็คงไม่รอดแล้ว...ยังไงก็..ขอให้ท่านเฟียร์ ปลอดภัยนะคะ... ”

“  ริเนีย!...ตอบฉันสิ ริเนีย! ” พี่ริโกะตะโกนออกมาดังลั่นก่อนจะวิ่งไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ของเธอออกมา ก่อนจะเดินไปยังห้องผมแล้วหยิบกระเป๋าจากห้องผมมา

“ พี่ริโกะ... ”

“ ซีโร่จับแขนพี่ไว้แล้วอีกมือช่วยจับกระเป๋าทั้งสองใบทีนะ ”พี่ริโกะไม่ได้มองมายังทางผม เธอก้อมหน้าลงเพื่อไม่ให้ใครเห็นหน้าเธอที่ตอนนี้กำลังร้องไห้อย่างหนัก ถามว่าทำไมผมถึงรู้ก็แค่ฟังเสียงของเธอผมก็รู้แล้วว่าเธอรู้สึกยังไง ตอนนี้ ริเนียเมดของเธอคงจะตายไปแล้วถึงเธอจะใช้งานคนนั้นยังไงแต่เธอคนนั้นคงเป็นคนสำคัญของพี่ริโกะแน่นอนเหมือนกับเรนเกียร์ที่เธอพูดโดยให้ความสำคัญก่อนหน้านี้

เธอเหวี่ยงคทาไปทางซ้ายก่อนที่จะมีแสงสว่างแบบเดียวกับตอนไปสวนอีเดน ปรากฏขึ้นแต่พวกเรามาอยู่ที่สนามหญ้าขนาดใหญ่ ไม่ว่ามองไปทางไหนก็มีสนามหญ้ากว้างไปสักสองสามกิโลเมตร แต่ตัวเราท่านั้นที่ยืนใต้ต้นไม้ต้นใหญ่เพียงต้นเดียว ที่ต้นไม่ใหญ่มีสัญลักษณ์รูปดวงจันทร์เสี้ยวมีปีกนกแปดปีกติดอยู่

“ เหนื่อยจังเลย ซีโร่เดียวนอนทีนี้สักชั่วโมงแล้วค่อยไปที่วาราเทียร์กันนะ ” พี่ริโกะบอกกับผมก่อนที่ตัวเองจะลงไปนอนกับพื้นหญ้านุ่มๆ สายลมอ่อนๆค่อยๆพัดมาพอดี เหล่านกน้อยใหญ่มากมายต่างบินมาเกาะที่ต้นไม้ต้นนี้กันหมดแล้วขับขานเสียงอันไพเราะออกมา

“ พี่ริโกะนี่มัน... ”

“ อ่อ ความสามารถในการเคลื่อนย้ายของเฮคาทีน สามารถเคลื่อนย้ายไปที่ไหนก็ได้ที่มีสัญลักษณ์อยู่โดยไม่ต้องร่ายเวทมนต์ แต่ว่าการเคลื่อนย้ายแต่ละครั้งก็ต้องใช้พลังเวทมากพอสมควรเลยล่ะนะ ”พี่ริโกะพูดออกไปพร้อมกับกางปีกทั้งแปดออกมาแผ่สยายบนพื้นหญ้า

“ เรื่องนั้นก็เข้าใจอยู่ แต่อยากรู้ว่าที่นี้คือที่ไหนกันแน่มากกว่านะครับ พี่ริโกะ ” ผมค่อยๆล้มตัวลงนอนข้างๆพี่ริโกะ ตอนแรกก็อยากดูใบหน้าตอนนอนของพี่ริโกะอยู่ แต่ว่าถ้าผมเผลอไปดู พี่ริโกะอาจจะฆ่าเอาก็ได้นะสิ

“ ที่นี้คือ ทุ่งหญ้าซาวาน่าแห่งสุดท้ายในสวรรค์ ที่ถูกซ่อนอยู่ พอดีฉันไปเจอเข้าเลยทำสัญลักษณ์ไว้ที่นี้เพื่อวันไหนอยากแอบหนีท่านพ่อออกไปเที่ยวจะได้ออกไปทางนี้ได้ ”

“ แล้วคนอื่นไม่รู้หรอพี่ริโกะว่ามีที่นี้อยู่ ”

“ รู้สิ แต่รู้แค่เรนเกียร์นะเพราะฉันพาเขามาเอง ส่วนคนอื่นๆคงไม่มีทางรู้หรอก ก็ที่นี้ถูกฉันสร้างเวทมนต์พรางตาที่ทางเข้าออกไว้ นอกจากนี้ยังเอาหินไปปิดทางเข้าออกด้วย เวลาใครจะเข้าออกต้องเข้ามาทางลับที่ฉันทำเท่านั้น ” พี่ริโกะพูดถึงเรนเกียร์อีกแล้ว สงสัยเป็นคนรักของพี่ริโกะแน่เลย อยากเห็นหน้าจริงๆว่าเรนเกียร์เนี่ยมันเป็นใครกันแน่

“ เอาล่ะ เดียวเราจะย้ายไปยังเมืองวาราเทียร์เลยนะ เพราะจากที่นี้สามารถย้ายไปได้เลยพี่ทำสัญลักษณ์ไว้ที่นั้นเรียบร้อยแล้ว ” เธอยกคทาจันทร์เสี้ยวขึ้นมาเพื่อเตรียมตัววาร์ปไปยังที่วาราเทียร์

“ ครับพี่ริโกะ ไม่สิพี่เฟียร์... ”

“ เรียกพี่ริโกะดีแล้วจ๊ะ พี่เองก็ชินกับชื่อนี้แล้วสิ ” เธอพูดจบแสงสีเหลืองก็พาเรามายังวาราเทียร์ทันที ตอนนี้พวกเราสองคนยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนวาราเทียร์ มันเป็นประตูขนาดใหญ่สูงประมาณสามเมตรมีสีขาวและลวดลายสวยงาม

โรงเรียนวาราเทียร์ไม่ได้ตั้งอยู่ในโลกเดียวกับ สวรรค์ โลกปีศาจ โลกของเอลฟ์ หรือโลกมนุษย์ ที่นี้ตั้งอยู่บนดินแดงช่องว่างที่เป็นทางเชื่อมต่อระหว่างสี่โลกเป็นดินแดนที่เคยรกร้างและเป็นสนามรบมากก่อน แต่พอสิ้นสุดการต่อสู้ก็ได้พัฒนาดินแดนนี้ขึ้นมาและสร้างโรงเรียนขึ้นที่นี้เหมือนเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติของสี่โลก

 “ นี่แค่ประตูยังสูงใหญ่ขนาดนี้ แล้วโรงเรียนจะขนาดไหมเนี่ย?... ”

“ ไม่ขนาดนั้นหรอกซีโร่ ประตูนี้ทำเพื่อทำให้ที่นี้เป็นปราการรับมือพวกที่คิดกบฏจะบุกไปโลกทั้งสี่ ไม่ว่าจะไปโลกไหนก็ต้องผ่านที่นี้ก่อน ดังนั้นจึงสร้างรอบนอกให้ดูใหญ่ไว้ก่อน เพราะข้างในไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นไงล่ะ ”

ประตูค่อยๆเปิดออก พร้อมกับภาพของปราสาทสีขาวที่ตั้งอยู่ใจกลางดินแดนนี้ รอบๆ มีสวนสีเขียวอยู่รอบๆ ข้างๆปราสาทนั้นก็เป็นสนามฝึกซ้อม ตรงด้านหลังปราสาทเป็นหอพักมามายตั้งอยู่เรียงรายกัน

“ ไปกันเถอะ ซีโร่ เราต้องเดินอีกไกลเลยนะ ” พี่ริโกะจับผมเดินไปยังปราสาทนั้น ตอนแรกที่ผมเห็นปราสาทผมคิดว่ามันต้องเล็กมากๆ แต่พอดูใกล้ๆแล้วมันใหญ่กว่าที่คิดอีก เทียบกับตึกแล้วก็ตึกประมาณสิบชั้นได้

“ อย่าพึ่งตกใจนะ ยังมีให้ตกใจกว่านี้อีกนะซีโร่ ” เธอเดินจูงมือผมไปยังข้างใน พอเข้าไปก็เป็นทางเข้าเหมือนปราสาททั่วไปเพียงแต่มีประตูมากมายอยู่หลายบาน แต่ละบานจะมีป้อยบอกว่าห้องอะไรอยู่ด้านบน แต่เรื่องพวกนี้อาจจะไม่น่าตกใจเท่าไร ที่น่าตกใจจริงๆคือประตูแต่ละอันห่างกันไม่เกินหนึ่งเมตร หมายความว่าแต่ละห้องต้องแคบมากๆทั้งนั้นเลย แล้วยิ่งมีนับร้อยๆบานอยากรู้จริงๆว่าข้างในจะเป็นยังไง

“ พี่ริโกะคือว่า... ”

“ มีอะไรงั้นหรอ? ”

“ ผมสงสัยว่า...ไอ้ประตูพวกนี้ที่มีมากมายขนาดนี้ อยากรู้ว่ามันจะมีห้องอยู่แบบไหน? ” ผมชีไปทางประตูมากมายก่ายกองที่เรียงกันอยู่ พี่ริโกะหัวเราะออกมาก่อนจะจูงมือผมเดินต่อไปเรื่อยๆ

“ เอาล่ะถึงแล้วซีโร่... ”

“ ห้องนี้คือ... ”

“ ห้องครูใหญ่ยังไงล่ะ เอาล่ะเราเข้าไปแนะนำตัวก่อนดีกว่านะ ” พี่ริโกะพาผมมายังห้องครูใหญ่ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปที่นั้น

“ สวัสดีเฟียร์จัง มาให้อากอดหน่อยเร็ว.. ”

“ โฮลี่เบรท ” พี่ริโกะปล่อยแสงสีเหลืองพุ่งตรงไปหาครูใหญ่ก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้น  ควันลอยเต็มไปทั่วห้อง ก่อนจะค่อยๆจางลง

“ โฮ โฮลี่เบรท เวทมนต์ธาตุแสงที่แม่ของเธอชอบใช้นั้นนะหรอ ได้เชื้อแม่มาเต็มๆเลยนะ ”

“ ว่าแต่ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี้ได้ล่ะ ที่นี้คุณโฮเรนน่าจะเป็นครูใหญ่ไม่ใช่รึไงกัน? ” พี่ริโกะถามไปยังเจ้าของเสียงนั้น พอควันหายไปจนหมดก็เปิดเผยให้เห็นชายหนุ่มอายุสิบสิบนิดๆนั่งอยู่ที่โต๊ะที่มีเขียนว่า ครูใหญ่ ผมยาวสีเงิน ดวงตาสีเทา รูปร่างผอมสูง ใส่ชุดทักสิโด้สีขาว

“ โทษทีนะเธอไปตั้งสามปีแล้วคงจะไม่รู้ใช่ไหม ว่าฉันเข้ามารับตำแหน่งที่นี้เมือสองปีก่นแล้วล่ะ ” เขายิ้มให้กับพี่ริโกะก่อนที่เธอจะทำหน้าถอนหายใจ

“ คุณแม่นะคุณแม่ คิดอะไของเขาเนี่ย ? ”

“ เอาน่าๆเฟียร์จัง แต่ก่อนอื่นเรามาคัดสรร พวกเธอสองคนเข้าโรงเรียนก่อนดีกว่าไหม ตอนนี้มันก็เย็นมาแล้วด้วยสิ ” เขาลุกขึ้นก่อนที่จะเดินออกจากประตูข้างซ้ายมือเขา ผมกับพี่ริโกะก็ลองตามไปดูจนถึงห้องกว้างห้องหนึ่ง ตรงกลางมีลูกแก้วหนึ่งลูกและกล่องมากมายล้อมรอบอยู่

“ ยินดีตอนรับสู่ห้องไม่มีทางเลือก เพื่อคัดสรรคนเข้าหอพักของโรงเรียนวาราเทียร์นะ ทั้งสองคน ” เขายิ้มแบบมีบางอย่างแฝงอยู่ให้พวกเรา ตอนนั้นพวกเรารู้ได้เลยว่า การทดสอบเข้าโรงเรียนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา