มลทินปรารถนา

-

เขียนโดย ศิริพารา

วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.58 น.

  8 ตอน
  1 วิจารณ์
  10.99K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 21.07 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) มลทินปรารถนา ตอนที่ 3 100%

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ราวสามสิบนาทีต่อมา... นีราภาก้าวเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ที่เปิดไฟสว่างไสวจนรู้สึกแสบตา หากแต่ความงามแบบโมเดิร์นคลาสสิก ที่ใช้กระจบตกแต่งตัดกับสีขาว สีดำ และสีเทาก็ทำให้หญิงสาวพอจะเดาบุคลิกของเจ้าของบ้านได้ว่าคงเป็นผู้ชายสุขุมและมีอายุพอสมควร นั่นเป็นการคาดเดาจากชื่อและการเรียกขานจากคนรอบข้าง

                “คุณเทมส์อยู่ไหน?” สาธิตถามแม่บ้านซึ่งเดินออกมาพอดี

                “ขึ้นไปข้างบนได้เกือบสามสิบนาทีแล้วนะคะ คงจะอาบน้ำรออยู่ข้างบนเหมือนปกติ” แม่บ้านตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

                “งั้นช่วยพาน้องคนนี้ขึ้นไปพบท่านที ฉันไม่อยากไปเสนอหน้าตอนที่ท่านอารมณ์ไม่ดีสักเท่าไหร่” สาธิตบอกพลางผายมือเชิญให้หญิงสาวเดินตามแม่บ้านขึ้นไปชั้นบน ก่อนที่ตัวเองจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อสามารถทำภาระกิจเสร็จสิ้นไปได้อีกหนึ่งวัน

 

                ก็อก... ก็อก...

                เสียงอู้อี้ที่ดังลอดออกมาข้างนอก ทำให้แม่บ้านเปิดประตูออกกว้าง พูดราวกับกระซิบให้หญิงสาวเดินเข้าไปด้านในแล้วจึงปิดประตูลงอย่างเบามือ

                “มานวดเลยพี่นี ผมปวดขาจะแย่”

                นีราภากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงขนาดกว้างที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในชีวิต ดูท่าว่าคงจะติดใจฝีมือการนวดของคนเดิมมาก ถึงได้พูดจากันอย่างสนิทสนมอย่างนี้ ตายล่ะองุ่น! ถ้านวดไม่ถูกใจท่านขึ้นมาจะทำยังไง เมื่อกี้นี้ก็ได้ยินว่าท่านอารมณ์ไม่ดีอยู่ด้วย หากแต่ไม่มีเวลาคิดนานกว่านี้แล้วเพราะถ้าให้คนอารมณ์ไม่ได้ต้องรอคอยอะไรนานๆ คนที่ตกที่นั่งลำบากก็เห็นจะไม่พ้นตัวเอง!

                เมื่อคิดได้ดังนั้นนีราภาจึงเดินเข้าไปนั่งในบนเตียง ระหว่างปลายเท้าสะอาด แข็งแรง พนมมืออธิฐานตามที่ครูบาอาจารย์ได้สั่งสอน เริ่มใช้มือกดฝ่าเท้าไปเรื่อยๆ อันที่จริงแล้วการนวดแผนไทยต้องเริ่มนวดในท่านอนหงายเสียก่อน แต่ใครจะกล้าเอ่ยปากบอกคนที่กำลังครึ่งหลับครึ่งตื่นทั้งอยู่ในช่วงอารมณ์ไม่ปกติเช่นนี้เล่า

                “อืม... ทำไมวันนี้พี่นีมือนุ่มกว่าเดิม” ทัตเทพบอกเมื่อมือนุ่มๆคู่หนึ่งสัมผัสบริเวณน่องของตนกด หน่วง คลึงอย่างเป็นจังหวะจะโคน

                นีราภานวดตั้งแต่ขาแข็งแกร่งทั้งสองข้างพลางนึกในใจว่าตนนั้นคาดเดาอายุของคุณทัตเทพผู้นี้ไปผิดถนัด เพราะดูจากรูปร่างที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้เขายังหนุ่มแน่น ไม่ใช่ผู้ชายวัยกลางคนอย่างที่คิดเอาไว้ ชั่วครู่เสียงห้าวก็ดังขึ้นอีกครั้ง

                “พี่นี... ขึ้นมานั่งทั้งตัวก็ได้รู้สึกว่าแรงน้อยกว่าเดิมเยอะ ไปลดน้ำหนักมาหรือไง” ทัตเทพบอกพลางนึกสงสัยว่าทำไมน้ำหนักมือของหมอนวดประจำถึงได้ผิดแปลกไปมาก ทั้งฝ่ามือทั้งสองก็ยังนุ่มนิ่มเหมาะที่จะนวดน้ำมันอโรม่ามากกว่าที่จะนวดแผนไทย

                “อะ...เอ่อ ดิฉันมาแทนพี่นีค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้เรียนให้ท่านทราบแต่แรก” นีราภาพูดพลางเคลื่อนหัวเข่าทั้งสองข้างไปกดอยู่บริเวณต้นขาด้านหลังของชายหนุ่ม ทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงไปบนร่างสูงใหญ่ด้วยไม่แน่ใจว่า ชายหนุ่มจะชอบใจฝีมือของตนหรือไม่?

                เพียงแค่ได้ยินเสียงหวานที่ดังขึ้นอย่างเกรงใจ ทัตเทพก็ผงกศีรษะขึ้นแล้วเอี้ยวใบหน้าหันไปเหลือบสายตามองคนที่อยู่ข้างหลังตน โอ! ให้ตายสิ นี่เขาไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม

                แม่นางฟ้าแสนสวย... คนที่ทำให้จิตใจเขาไม่มีสมาธิทำงานทำการทั้งวันกำลังนั่งคร่อมอยู่ข้างหลัง!!

                “ว้าย...” นีราภาร้องเสียงหลง เมื่อคนใต้ร่างที่กำลังนอนคว่ำพลิกตัวหันกลับมาอย่างกะทันหัน แรงเหวี่ยงทำให้เธอกลิ้งลงจากตัวเขาไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงนุ่มอย่างรวดเร็ว!

                “เฮ!... เธอหล่นลงมาบนเตียงของฉันได้ไงเนี่ย” ทัตเทพถามอย่างไม่ต้องการคำตอบเพราะมันเป็นเหมือนคำอุทานที่เกิดจากความอัศจรรย์ใจมากกว่า กระนั้นหญิงสาวที่รีบชันตัวลุกขึ้นลงไปยืนตัวตรงอยู่ข้างเตียงก็ยังสามารถหาคำตอบมาได้

                “พอดีว่าพี่นีที่ท่านเคยเรียกใช้เป็นประจำยังติดลูกค้าอยู่ที่ร้านค่ะ ดิฉันก็เลยมาแทน แต่ว่าถ้าท่านไม่พอใจ ดิฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ” นีราภารีบพูดอย่างรวดเร็ว ตกตะลึงในใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่มไม่น้อยเพราะเขาต่างจากจินตนาการอยู่มากโข

                “ฉะ...ฉันก็ยังไม่ได้ว่าอะไรนี่ เอ่อ... ก็แค่แปลกใจ นิดหน่อยเท่านั้น” เป็นครั้งแรกที่คนมีความมั่นใจในตัวเองสูงอย่างเขาพูดตะกุกตะกัก หาเสียงตัวเองแทบเจอ “งั้น... ก็มานวดต่อสิ”

                นีราภาฝืนยิ้มอย่างไม่มั่นใจนัก พลางมองร่างสูงใหญ่ที่เอนตัวนอนหงายในขณะที่สายตาคมกริบจ้องมองตนไม่วางตาเช่นกัน จากนั้นจึงค่อยๆคลานขึ้นไปบนเตียงอีกครั้งพลางเอ่ยถามประโยคที่ควรจะถามเสียตั้งแต่ตอนแรก “ท่านปวดเมื่อยตรงไหนรึเปล่าคะ”

                ปวดร้าวตัวตนน่ะสิแม่คุณเอ๊ย! ถามมาได้แต่ปากกลับตอบออกไปอีกอย่าง “แขน ปวดแขน”

                “ค่ะ” นีราภารีบรับคำแล้วจับแขนแข็งแรงกางราบไปกับที่นอน กดมือเข้าที่หัวไหล่ เริ่มท่านวดบริเวณแขนอย่างที่ได้ร่ำเรียนมา

                โอ... ทัตเทพอยากจะบ้าตายกับความปรารถนาที่เกิดขึ้นในร่างกาย แค่เพียงเธอได้สัมผัสเนื้อตัวเพียงเล็กน้อยมันก็ทำให้หัวสมองของเขาจิตนาการไปไกลจนกู่ไม่กลับ! ในขณะที่อีกฝ่ายกลับเข้าใจไปว่าเขาคงปวดขนมากเสียจนต้องหลับตานิ่ง ทุกครั้งที่ตนออกแรงกด หน่วง คลึงเขาก็จะบดกรามจนเป็นสันนูน

                “หนักไปไหมคะหรือแรงขนาดนี้พอดีแล้ว?” มันเป็นคำถามที่แสนธรรมดาและเคยใช้อยู่เป็นประจำในยามที่ฝึกฝนแต่กลับเป็นคำถามที่กระตุ้นเร้าอารมณ์อีกฝ่ายให้เดือดพล่านอย่างคาดไม่ถึง

                “อา... ฉันชอบแรงๆ หนักๆ” ทัตเทพตอบออกไปราวละเมอและไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องใช้คำถามที่มันล่อแหลมกับความต้องการของเขาถึงเพียงนี้ “อย่างนั้นแหละ กดลงมาทั้งตัวเลยแม่คุณ”

                นีราภากดน้ำหนักลงไปทั้งตัวอย่างที่เขาร้องขอ หากแต่แรงมหาศาลเข้าจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวก็ทำให้ต้องเซถลาลงไปเกยอยู่บนร่างสูงใหญ่ทั้งตัว เมื่อทัตเทพไม่สามารถอดทนกับความต้องการที่อัดแน่นอยู่เต็มร่างกายได้อีกต่อไปแล้ว

                ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ห่างจากใบหน้างดงาม ผ่องใสเพียงแค่คืบ ฝ่ามือใหญ่กดแผ่นหลังบางดันให้อกอวบอิ่มแนบสนิทกับแผงอกกว้าง อีกมือยังกดเอาต้นขาเรียวงามให้เกยไว้กับความขึงขังที่ปวดร้าว มันดิ้นขยับอย่างออกนอกหน้าราวกับอดใจไม่ไหวเมื่อได้แนบชิดกับสาวในฝัน!

                “ไม่ต้องเสียเวลาโหมโรงหรอกเซ็กซี่... แค่นี้เธอก็ทำเอาฉันร้อนฉ่าจนจะมอดไหม้แล้ว”

                “อะไร!... พูดอะไรของคุณ ปล่อยฉันนะ!” นีราภาตกใจสุดชีวิตเมื่อได้ยินคำพูดโจ่งแจ้งเช่นนี้ อีกทั้งต้นขาด้านในยังสัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อที่ดิ้นขยับราวกับมีชีวิต! “ปล่อยนะ”

                “หมายถึงให้ปล่อย แล้วเธอจะเริ่มถอดเสื้อผ้าออกใช่ไหม” ทัตเทพถามพลางใช้ท่อนแขนรัดเอวบาง พลิกร่างของตัวเองให้คร่อมทับร่างระหงไว้อย่างง่ายดาย สายตาจับจ้องที่ใบหน้างดงามซึ่งมีอาการตกใจจนตัวแข็งทื่อ

                “อย่าทำอะไรบ้าๆนะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่านะ! แล้วก็ปล่อยก่อนที่ฉันจะแจ้งความเรียกตำรวจมาลากคอแกเข้าคุก!”

                ทัตเทพยักคิ้วล้อเลียนอย่างสนุก มองคนที่กำลังเกร็งคอจากที่นอนนุ่มขึ้นมาขู่ฟ่อแล้วทิ้งศีรษะลงไปอย่างแรงจนผมเผ้ากระจาย เธอสวย ใส มีเสน่ห์ตรึงสายตาทุกท่าทาง “ทำไมต้องเล่นตัว อยากได้เท่าไหร่ก็พูดมาตรงๆสิ ฉันจ่ายไม่อั้น รวยมากกว่าไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่เธอควงหลายขุมนัก”

                นีราภาไม่รู้ว่าไอ้เด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนั่นคือใคร และนี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาไถ่ถามเรื่องไร้สาระพวกนี้ ที่สำคัญที่สุดคือเอาตัวรอดให้ปลอดภัยจากเหตุการณ์บ้าๆนี้เสียก่อน “พูดบ้าอะไรของแก บอกว่าให้ปล่อย ฉันแค่นวดจับเส้นอย่างเดียว ไม่ได้แอบแฝงอย่างอื่นที่แกเข้าใจ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!”

                “ก็นี่ไง ให้จับทุกเส้นในร่างกายเลยล่ะ เธออยากจับเส้นไหนฉันไม่เกี่ยงสักเส้น” ทัตเทพมองใบหน้าผ่องใสที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อด้วยความอายอย่างชอบใจ “รับรองว่าไม่เกี่ยงราคาด้วยเหมือนกัน จ่ายให้เธอมากกว่าไอ้เด็กนั่นสิบเท่า เอาม่ะ?”

                “กรี๊ด... ไอ้บ้า ไอ้แก่ตัณหากลับ ก็ฉันบอกว่าไม่ได้ขายตัว ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง บอกให้ปล่อยนะ ฉันจะแจ้งความ จะให้คุณพิศมัยมาจัดการแก ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!” นีราภาตวาดขู่อย่างไม่เกรงกลัว ดิ้นหนีสุดแรงเกิด หากมันคงสำเร็จถ้าคนที่นอนทับลงมาทั้งตัวไม่ใช่ผู้ชายที่ตัวโตเท่าตึกเช่นนี้

                ทัตเทพส่ายหน้าไม่เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้ผู้หญิงสาวๆมีวิธีการกระตุ้นเร้าอารมณ์ลูกค้าด้วยการใช้คำพูดแรงๆ ดิ้นรนสุดชีวิตเช่นนี้หรืออย่างไร “เอาล่ะอีหนู... ตอนนี้ฉันไม่ได้ตั้งกล้องถ่ายหนังเอวี เธอก็ไม่ต้องลงทุนแสดงให้มันสมบทบาทนักก็ได้ เก็บแรงเอาไว้โชว์ลีลาทำให้ฉันสลบคาอกดีกว่า ถึงตอนนั้นอาจจะไปแจ้งความกับตำรวจได้ข้อหาที่ทำให้ฉันหัวใจวายตายแล้วยังไม่ได้ค่าตัว”

                คนถูกเรียกเป็นอีหนู! ถึงกับดิ้นพล่าน “ปากสกปรก จิตใจยังเลวทรามไม่ต่างกัน แกมัน... อุ๊บ!”

                ทัตเทพไม่รอให้เธอได้กระตุ้นอารมณ์ด้วยวาจาผรุสวาทเพราะเพียงเท่านี้เขาก็ปวดร้าวชนิดที่ไม่มีอะไรในโลกมาขัดขวางไว้ได้อีกแล้ว จูบเร่าร้อนที่บดให้ถ้อยคำต่อว่าเสียๆหายๆนั้นกลืนหายลงไปในลำคอ อยากรู้นักว่ารสชาติของเธอจะจัดจ้านเช่นคำพูดหรือไม่ แต่เมื่อได้สัมผัสเรียวปากอวบอิ่มชุ่มชื้นแล้วก็ต้องเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจเพราะเธอไม่ยอมง่ายๆ ฟันซี่เล็กเรียงเป็นระเบียบไล่กัดลิ้นของเขาเป็นพัลวัน แต่การขัดขืนเล็กน้อยนั่นไม่ได้เป็นอุปสรรคของผู้ชายที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชน!

                “ไอ้แก่บ้า ไอ้โจรบ้ากาม ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” นีราภาหอบหายใจต่อว่าไม่หยุด พยายามเบี่ยงหน้าหลบจากปากและจมูกร้อนๆที่กำลังซุกไซร้ไปทั่วใบหน้า ซอกคอ เอาสิ! วันนี้ขอสู้แค่ตายเพื่อรักษาตัวเองให้รอดพ้นจากไอ้บ้ากามคนนี้ ไวเท่าความคิดนีราภาก็ผงกศีรษะขึ้นไปกัดใบหูสะอาดซึ่งเจ้าของกำลังระดุมจูบตนจนไม่ทันระวังตัว

                “อ๊าก... ยัยตัวแสบ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ โอ๊ย!...” ทัตเทพร้องออกมาอย่างเจ็บปวดหากแต่เธอยังฤทธิ์แรง ไม่ยอมทำตามที่เขาบอก ดีล่ะ!... ในเมื่อเธอเลือกที่จะไม่เชื่อฟังคำสั่ง ก็เตรียมตัวรับบทลงโทษที่บังอาจทำให้คนอย่างทัตเทพเจ็บจนหูชาก็แล้วกัน

                ...ฝ่ามือหยาบใหญ่ทั้งสองข้างเลื่อนไปทำงานพร้อมๆกันอย่างทันท่วงที มือหนึ่งเคล้นคลึงทรวงอกอวบอิ่ม อีกมือเลื่อนลงไปบดคลึงจุดศูนย์รวมความรู้สึกอย่างรู้ลึกถึงสรีระของสตรี เพียงชั่วอึดใจร่างระหงก็กรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ!

                “กรี๊ด... เอามือออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้นะ ไอ้แก่ลามก”

                ทัตเทพชันตัวลุกขึ้นมองใบหน้างดงามที่ดวงตาคลอไปด้วยน้ำตา มันทำให้หัวใจแกร่งกระตุกวาบ ความโกรธความโมโหที่เธอก่อขึ้นมันลดน้อยลงจนไม่หลงเหลือ

                “ขอร้องล่ะนะ... ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัวอย่างที่คุณเข้าใจ ฉันเป็นแค่พนักงานใหม่ในร้านสปาของคุณพิศมัย” นีราภาเปลี่ยนมาใช้ไม้นวมดูบ้างเพราะตอนนี้เหนื่อยจนแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงขัดขืนแล้ว

                “งั้นก็มาเปลี่ยนมานวดให้ฉันคนเดียว รับรองว่าเธอจะอยู่อย่างสุขสบาย มีเงินใช้ไม่ขาดมือ แค่เอาใจฉันตามใจฉันทุกอย่างก็พอ”

                เพียะ!...

                นีราภาสะบัดฝ่ามือเข้าที่ใบหน้าคมสันนั้นเต็มแรง เกลียดนักผู้ชายที่เห็นผู้หญิงสามารถซื้อหาได้ด้วยเงิน แต่นั่นมันกลับเป็นการฆ่าตัวเองทางอ้อมเพราะเธอต้องเรียนรู้ที่จะรับบทลงโทษเมื่อบังอาจไปทำร้ายร่างกายผู้ชายที่ถูกผู้หญิงตบหน้าเป็นครั้งแรกในชีวิต!

                “ตกลงว่าชอบแบบซาดิสต์ใช่ไหม เธอกล้ามากนะที่ตบหน้าคนอย่างฉัน” ทัตเทพบอกอย่างเหลืออดแล้วก้มลงไปปล้ำจูบหญิงสาวอีกครั้ง หากคราวนี้เขาทิ้งน้ำหนักตัวทับร่างระหงมากกว่าครึ่งเพื่อทำให้เธอไม่อาจดิ้นขยับได้ และถอนริมฝีปากออกมาอย่างรวดเร็ว ยิ้มใส่ดวงตาสีน้ำตาลสุกใสอย่างยั่วเย้าเมื่อเธอยังไม่สิ้นฤทธิ์ใช้แผนเดิมไล่กัดลิ้นเขา “มุกเก่าๆแบบนี้ใช้ได้ครั้งเดียวเท่านั้นแหละอีหนู”

                “อื้อ...” เสียงขัดขืนของนีราภาหายเข้าไปในลำคอ คราวนี้เขาใช้มือกดตรงกรามล่าง อีกมือสอดเข้าไปตรึงท้ายทอยให้แหงนรับจุมพิตเร่าร้อนอยู่เนิ่นนาน

                ทัตเทพยิ้มในใจเมื่อสาวใต้ร่างสิ้นฤทธิ์ จึงไม่รีรองัดเอาประสบการณ์ที่สั่งสมมานานออกมาหว่านล้อมเธอให้หัวหมุน หลงวนกับลีลาอย่างที่ต้องลืมผู้ชายของเธอ เพียงแค่ตวัดลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวานฉ่ำ ดูดดึงเอาลิ้นนุ่มนิ่มของเธอเข้ามาไว้ในปาก คนมากประสบการณ์ถึงกับงุนงงว่าเพราะเหตุใดเธอถึงได้ทำเงอะงะราวกับคนจูบไม่เป็น!

                นีราภาทำตัวไม่ถูกเมื่อเจอจุมพิตที่บดเคล้าลงมาราวกับพายุ เขาไม่เปิดโอกาสให้ได้หายใจหายคอ จูบเอาๆจนไม่รู้ว่าจะรับมือกับความรู้สึกซาบซ่านที่เกิดขึ้นอย่างไร มันชวนให้หลงใหล ชวนให้ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามแรงชักจูงที่เขากำลังชี้นำ แต่ความเย็นที่กระทบผิวหนังก็เรียกสติให้กลับเข้ามาสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง ความร้อนชื้นที่ครอบครองยอดทรวงทำให้ได้สติว่าบัดนี้เสื้อผ้าของตนนั้นอันตรธานหายไปแล้ว! “โอ... ไม่นะ อย่าทำอย่างนี้กับฉัน ถ้าแกข่มขืนฉันก็จะเจอข้อหาหนักพรากผู้เยาว์”

                ทัตเทพไม่ได้สนใจกับเสียงหวานที่ขู่ฟ่ออยู่บนหัว เพราะไม่สามารถดึงรั้งตัวเองไว้ได้อีกแล้วมีเพียงความตายเท่านั้นที่จะขัดขวางการเชยชมเรือนร่างงดงาม น่าปรารถนานี้ “ฉันจะยอมเดินเข้าคุก แต่มันต้องหลังจากที่ได้ทำตามความต้องการของตัวเองเสียก่อน เพราะฉะนั้นหยุดพูดแล้วหันมาให้ความร่วมมือกับฉันดีกว่า”

                “ไอ้บ้า! ไอ้เฒ่าลามก ไอ้แก่ตัณหากลับ อ๊ะ... ฉันขอให้แกตกนรกหมกไหม้ ที่ข่มขืนฉันแบบนี้” นีราภาต่อว่ากลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ในขณะเดียวกันก็ต้องต่อสู้กับความปรารถนาในร่างกายที่เริ่มทรยศกับความคิด เมื่อเขาออกแรงเคล้นคลึงฝ่ามือ ยอดทรวงของเธอก็ชูชันสั่นระริกราวกับยินดีรับสัมผัสจากเขา อีกข้างยังถูกดูดดึงจนต้องแอ่นตัวตามอย่างน่าอายในบางจังหวะที่เขาออกแรงมากขึ้น

                “คำก็แก่ สองคำก็เฒ่า เดี๋ยวฉันจะพาเธอดิ่งลงนรกแล้วฉุดขึ้นสวรรค์ซ้ำแล้วซ้ำอีก เอาให้มันลืมหนุ่มๆที่เธอเคยลอง แล้วมาเทียบกันดูหน่อยเป็นไรว่าแก่กับหนุ่มคนไหนมันจะทำให้เธอกรีดร้องได้ดังกว่ากัน” จบคำพูดมือหนาก็เลื่อนไปกระชากแพนตี้ลูกไม้ตัวบางออกอย่างแรง จากที่มันยังช่วยปกปิดความลี้ลับได้บ้างกลับกลายเป็นยั่วใจหนุ่มที่ถูกตราหน้าว่าแก่มากขึ้น เพราะแพนตี้ลูกไม้ยังคงรัดรึงรอบสะโพกผายไว้แน่น มันขาดวิ่นบริเวณความงดงามของอิสตรีอย่างเหมาะเจาะ

                นีราภากัดฟันแน่นเพราะเมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้น ความเสียวซ่านก็โจมตีเรี่ยวแรงต่อสู้ให้ลดน้อยลงอย่างน่าตกใจ ร่างกายตอบรับสัมผัสเขาอย่างตื่นตัว สมองขาวโพลนเมื่อรู้สึกได้ว่านิ้วแข็งแรงกำลังจู่โจมกึ่งกลางกายอย่างเร่งเร้า มันพอกพูน เรียกร้องให้เธอต้องการในสิ่งที่มากกว่านี้อย่างคนที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ “อะ... โอ มะ...ไม่นะ อย่า...”

                ทัตเทพเงยหน้าขึ้นจากความงดงามเย้ายวนใจเพราะนิ้วมือที่กำลังเร่งเร้าเธออยู่นี้ เปียกชื้นไปด้วยความหอมหวานที่รินรดออกมาเนื่องจากอารมณ์รัญจวนใจ แรงกระชับที่โอบล้อมนิ้วของเขามันมากมายจนรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางแสนหวาน “อย่างนั้นแหละ อย่างนั้น... เธอก็รู้ว่าข้างบนนั่นมันวิเศษแค่ไหน”

                เสียงหวานแหลมที่กรีดร้องอย่างสุขสมสามารถเรียกรอยยิ้มอย่างเอ็นดูจากทัตเทพได้ เธอน่ารัก มีชีวิตชีวาเหลือเกิน ทั้งเนื้อทั้งตัวสามารถกระตุ้นเร้าอารมณ์ดิบเถื่อนที่มีอยู่ในตัวเขาให้คุโชนขึ้นมาได้เพียงแค่เธอนอนนิ่งๆ นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกกันว่าหุ่นนาฬิกาทราย ทรวงอกอวบใหญ่เกินตัว เอวคอดกิ่วจนนึกอย่างใช้สองมือกำรอบดูสักครั้ง สะโพกผายรับกับเรียวขาเพรียวอย่างสมส่วน นั่นยังไม่รวมถึงผิวพรรณนุ่มเนียน ผ่องใส ใบหน้างดงามอ้าปากหอบหายใจเพราะหลังจากที่เพิ่งไปเยือนสวรรค์ด้วยความสามารถของมือเขาล้วนๆ

                เสียงกรอบแกรบที่ดังขึ้นทำให้นีราภากระพริบตาถี่ๆมองไปยังต้นเสียงนั้นในเวลาต่อมา... “มะ...ไม่นะ อย่าทำบ้าๆกับฉันอย่างนี้นะ ฮือ...”

                ทัตเทพแหงนหน้ากลอกตาอย่างระอาใจ ทำไมผู้หญิงถึงได้ชอบบีบน้ำตาเรียกร้องความเห็นใจนักนะ ที่ผ่านมามันใช้ไม่ได้ผลกับเขาแต่ตอนนี้หัวใจกำลังสั่นคลอนอยากบ้าตายเพราะความสงสาร!

                นีราภาดันตัวหนีเมื่อเห็นว่าเขาสวมเครื่องป้องกันลงบนตัวตนที่ทำให้เธอหวาดผวา แต่ก็ไม่สามารถหนีไปได้ไกลเพราะเขาจับต้นขาทั้งสองข้างไว้อย่างหนาแน่น ทาบทับลงมาทั้งตัวอย่างรวดเร็ว ความแข็งขึงที่ลากเลื้อยขึ้นลงอย่างยั่วเย้าทำให้หญิงสาวสะดุ้งอย่างเสียวซ่าน ความคับแคบทั้งที่เปียกชื้นของเธอทำให้ทัตเทพถึงกับกังวลใจ กลัวว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บแต่เมื่อเงยหน้าจากเวิ้งสวาทสีชมพูจัดแล้วเห็นว่าเธอกำลังใช้มือปิดหน้าปิดตาร้องไห้ก็นึกสงสัยขึ้นมาทันที

                “นี่เธอยังไม่เคยใช่ไหม” ทัตเทพถามทั้งที่พยายามคลึงตัวตนกับจุดศูนย์รวมความรู้สึกของหญิงสาว เร่งเร้าให้เธอชุ่มฉ่ำมากขึ้น

                “ฮือ... ไอ้บ้ากาม ก็ฉันบอกแล้วว่าไม่ใช่อีหนู ฉันไม่ได้ขายตัวได้ยินไหม อ๊ะ! เจ็บนะ”

                ทัตเทพอยากจะโขกหัวตัวเองแรงๆสักครั้งให้ความหน้ามืดตามัวเพราะกระสันอยากได้เธอมันลดลงสักนิด เกือบพลั้งตัวคร่าพรหมจรรย์สาวน้อยแสนสวยคนนี้อย่างเลือดเย็น “จ้ะๆ โทษทีคนสวย ฉันคงชอบเธอมากไปหน่อย เลยพลั้งปากว่าเธอเสียๆหายๆ”

                “แปลว่าจะปล่อยฉัน ไม่ทำอะไรฉันแล้วใช่ไหม” นีราภาลดมือที่ปิดหน้าลงถาม อีกทั้งยังรู้สึกได้ว่าตัวตนอันเครียดขึงของเขาถอยห่างออกไป และต้องรีบหลับตาปี๋เมื่อเห็นว่าเขากำลังลอกเครื่องป้องกันออกจากตัวตนอันแข็งขึง มันทำให้รู้สึกหวาดหวั่นทุกครั้งที่ได้เห็น!

                ทัตเทพถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ส่ายหน้าพร้อมกวาดสายตามองใบหน้างดงามด้วยแววตามุ่งมั่น “ปล่อยให้เธอได้พบกับความสุขสุดยอดคนสวย ฉันจะเป็นคนพาเธอไปรู้จักมันด้วยตัวเอง”

                นีราภาเบิกตากว้าง หวีดร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อจู่ๆเขาก็ดันขาเธอเปิดกว้าง กดมือเข้าที่ต้นขาด้านในจนหัวเขาแทบจะชิดกับทรวงอก เปิดเปลือยความงดงามที่ลี้ลับของร่างกายให้เขาได้เห็นทุกอณู หญิงสาวถึงกับหวีดร้อง... เมื่อเห็นว่าเขาก้มลงจูบส่วนที่หวงแหนที่สุดในชีวิต ลิ้นร้ายกาจตวัดขึ้นลงด้วยความว่องไวจนต้องกัดฟันแน่นเพราะกลัวว่าจะหลุดเสียงครางออกมา แต่เมื่อเขาวกกลับขึ้นมาดูดดึงเขาจุดศูนย์รวมความรู้สึกมันก็ทำให้เธอดิ้นพล่านด้วยเสน่หา ความเสียวซ่านเพิ่มพูนมากกว่าไม่กี่นาทีที่ผ่านมาจนต้องทิ้งศีรษะลงไปกับหมอนอย่างไร้ทางต่อสู้

                เป็นครั้งแรกที่คนอย่างทัตเทพเต็มใจที่จะก้มหัวซุกตรงหว่างขาผู้หญิง สมองสั่งงานให้ปรนเปรอเธอด้วยปากและลิ้นอย่างถวายหัว และได้พบว่า... ความหอมหวานชุ่มฉ่ำที่รินรดออกมาจากแอ่งน้ำร้อนสีชมพูเข้มนี้มันกระตุ้นเร้าอารมณ์ให้เดือดพล่านราวกับอัพยาปลุกเซ็กซ์มาทั้งขวด หากแต่ยังยินดีที่จะทำให้เธอได้รู้จักความสุขสมที่เกิดจากความสัมพันธ์ของชายหญิง เขาจะมอมเมา ปรนเปรอให้เธอไร้ซึ่งอาการขัดขืน ทำให้เธอติดใจจนไม่อาจขาดเสน่หาจากคนที่เธอชอบตราหน้าว่าไอ้แก่!

                นีราภาเนื้อตัวร้อนฉ่ากับความเสียวซ่านที่แล่นมาจากกลางกาย แผ่ไปตามเส้นเลือดอย่างรวดเร็วมันกระตุ้นเร้าให้ให้เดินทางสูงขึ้นๆ แต่เพียงชั่วอึดใจก็ต้องกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดราวกับถูกแยกร่าง “กรี๊ด... จะ...เจ็บๆ”

                “โอว... อย่าเกร็งสิสาวน้อย หายใจลึกๆ” ทัตเทพอาศัยจังหวะที่เธอกำลังดื่มด่ำกับความเสียวซ่านจนลืมตัว สอดแทรกความอลังการอันฮึกเหิมเข้าไปในแอ่งเนื้อสีชมพูจัดจังหวะเดียว เธอเล็กแคบ บีบรัดจนรู้สึกได้ถึงแรงมหาศาลที่โอบล้อมรอบตัว เยื่อบางๆที่เพิ่มทะลุผ่านเข้ามากำลังหลอมละลายเป็นความชื้นหนืดเหนียว เพิ่มแรงบีบอัดตัวตนเขาให้มอดไหม้มากกว่าเดิม “อย่าร้องไห้ ลืมตาขึ้นมามองฉัน”

                นีราภาอยากกลั้นใจตายตอนนี้ เมื่อรู้ว่าสิ่งที่หวงแหนที่สุดในชีวิตถูกผู้ชายแปลกหน้า ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อทำลายอย่างไร้ความปรานี แต่ทุกครั้งที่เขาส่ายวนสะโพกความเจ็บปวดก็เริ่มทุเลาเบาบาง ทุกครั้งที่เขาใช้ดูดดึงยอดทรวงความเสียวซ่านอันหวานแหลมก็เกิดขึ้นอีกครั้ง “อ๊ะ!... ฉัน”

                “ไม่เจ็บแล้วใช่ไหม ฮึ?...” ทัตเทพถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย ยิ้มอ่อนโยนให้คนใต้ร่างที่กำลังสะอื้นด้วยความเสียใจหรือความเสน่หาที่ไม่เคยพานพบก็ไม่สามารถรู้ได้ แต่ก็มั่นใจยิ่งนักว่าจะพาเธอไปพบกับความสุขสุดยอดในเส้นทางนี้ได้อย่างแน่นอน “ชื่ออะไรสาวน้อย บอกฉันซิ?”

                “อื้อ...” นีราภาไม่สามารถพูดอะไรได้เพราะจังหวะยั่วเย้า หมุนคลึงมันทำให้โลกของเธอพลิกกลับ อยากเพียงแค่ส่งเสียงครวญคราง

                “กัดปากตัวเองอย่างนั้นก็ช้ำกันพอดี อยากร้องก็ร้องออกมาดังๆสิ ฉันชอบ...” ทัตเทพยังหยอกล้ออย่างเอาใจ ไม่เพียงแค่คำพูดแต่การกระทำอันเชื่องช้า จังหวะรักที่ดันเข้าลึก... ถอยกลับออกมาจนสุด ก็ทำด้วยความนุ่นนวลเอาใจคนไม่ประสาเช่นกัน

                “ทะ...ทำไม ต้องทำ อย่าง ที่แกสั่งด้วย ฉันเกลียดแก!”

                ทันที่จะจบคำพูดกระท่อนกระแท่น ทัตเทพก็เร่งจังหวะให้เร็วขึ้น เพิ่มแรงเสียดสีให้มากขึ้นแล้วหยุดนิ่งเอาเสียดื้อๆ จนสะโพกผายใต้ร่างแอ่นตามอย่างไม่รู้ตัว

                “มะ...ไม่นะ” นีราภาอยากร้องไห้กับคำพูดอันลืมตัวของตนเอง นี่เธอโหยหาเขาอย่างนั้นรึ?!

                ใบหน้าตกตะลึงและเสียงร้องห้ามทำให้ใบหน้าหล่อเหลายิ้มร้ายกาจออกมาอย่างผู้ชนะ “งั้นก็บอกมาสิว่าชื่ออะไร เร็วเข้า หรืออยากมีผัวคนแรกโดยที่ไม่คิดจะแนะนำตัวเอง”

                “นีราภา โอ... คนบ้า!” ตอบออกไปทั้งที่เกลียดเสียงหัวเราะร่วนอย่างสำราญใจนี้นัก เมื่อเขาทำให้เธอร้อนฉ่ามากขึ้นโดยการยกเรียวขาทั้งสองข้างพาดไว้ที่ไหล่หนาข้างเดียว

                “อา... อย่ารัดแน่นนักสินีราภาของฉัน ฉันก็เจ็บเป็นเหมือนกันนะ เธอเจ็บคนเดียวเมื่อไหร่” รู้ล่ะว่าเธอไม่ได้ทำอะไร แต่เพราะความสดใสของสาวบริสุทธิ์มันทำให้เขาแทบจะพุ่งทะยานสู่ไคลแม็กซ์อันดุเดือดตั้งแต่แทรกตัวเข้ามาในร่างสวยๆแล้ว “เอาที่เรียกง่ายๆสิ ชื่อเต็มยศอย่างนั้นมันเหมาะสำหรับคนอื่น ไม่ใช่คนที่สนิทชิดเชื้อกันอย่างเรา”

                นีราภาอยากจะทำร้ายร่างกายผู้ชายคนนี้นัก ไม่เพียงแค่คำพูดที่ทำให้โมโหหากแต่การกระทำที่เขาเร่งจังหวะเร็วรี่ แล้วเปลี่ยนเป็นเชื่องช้าลึกล้ำนั้น มันทำให้เธอต้องแอ่นตัวตามเรียกร้องให้เขามอบในสิ่งที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรมากขึ้นๆ “องุ่น...”

                ทัตเทพยิ้มเมื่อได้สมใจทุกอย่าง สองมือจับเรียวขาเพรียวให้เกี่ยวกระหวัดรอบเอวตนอย่างง่ายดาย แล้วตนเองก็นั่งเหยียดขาแนบไปกับที่นอนนุ่มโดยไม่ลืมที่จะเกี่ยวเอาร่างเปลือยระหงขึ้นมานั่งซ้อนบนตัก หันหน้าเผชิญกับเธออย่างไม่ต้องปิดบัง มือหนายังออกแรงดันสะโพกผายให้เคลื่อนตัวมาข้างหน้า แล้วใช้อีกมือดันหน้าท้องเรียบเนียนให้ถอยกลับซ้ำไปซ้ำมา...

                จังหวะรักที่ได้เรียนรู้มันทำให้นีราภาต้องเคลื่อนไหวตัวตามอย่างศิโรราบ ฝ่ามือใหญ่ที่กางทาบอยู่บนหน้าท้องนั้นยังกำหนดจังหวะได้อย่างดีเยี่ยม เขาเพิ่มดีกรีความร้อนแรงด้วยการใช้นิ้วโป้งหมุนวนจุดเชื่อมประสานจนเรียกเสียงครวญครางจากสองร่างที่กำลังซัดคลื่นเสน่หาเข้าใส่กันอย่างเร่าร้อน

                ทัตเทพบดกรามจนเป็นสันนูน ดวงตาจดจ้องภาพเชื่อมประสานที่เร้าอารมณ์เหนือคำบรรยาย ดึงเอาแขนเรียวมาคล้องลำคอของตัวเองไว้เพื่อเป็นหลักให้เธอ แล้วดึงอีกมือของเธอไปทำหน้าที่หมุนคลึงจุดเชื่อมประสานนั้นเสียเอง ซึ่งทำได้ดีจนสามารถเรียกรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จากเขาได้ สองมือหนาจึงหันไปทำหน้าที่ผลักดันจังหวะรักให้เร็วรี่... เดือดพล่านเพราะมองเห็นสรวงสวรรค์ที่อยู่ไม่ไกล

                “กรี๊ด.../โอว... ดีเหลือเกิน” เสียงหวีดหวานแหลมและเสียงห้าวแหบพร่า กรีดร้องออกมาอย่างพร้อมเพียงเมื่อทั้งคู่เดินทางไปถึงจุดสูงสุดในความสัมพันธ์ของชายหญิง ร่างเปลือยทั้งสองโผเข้าสู่อ้อมกอดของกันและกัน ปลายเท้าจิกเกร็ง เนื้อตัวซาบซ่านไปด้วยแรงพิศวาส แลกจูบดูดดื่มอย่างลืมตัว!

                หลายนาทีหลังจากที่ทั้งคู่ถอนริมฝีปากออกจากกัน นีราภาก็ซบศีรษะกับบ่ากว้าง น้ำตาร้อนๆค่อยๆไหลออกมาจากสองตา เมื่อบทพิศวาสผ่านพ้นไปความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเข้ามาโจมตี ฝ่ามือหนายังคงลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าขึ้นลงอย่างปลอบใจ ลอบถอนหายใจออกมาเมื่อหยดน้ำที่เปียกชื้นอยู่บนหัวไหล่มันทำให้ตนรู้สึกไม่ต่างจากผู้ชายเห็นคนแก่ตัว เลวทรามอย่างที่เธอประณาม!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา