Higher Classes <ขโมยหัวใจนายรุ่นพี่>

9.6

วันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.07 น.

  49 chapter
  24 วิจารณ์
  49.88K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 มีนาคม พ.ศ. 2559 00.16 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

48) mission complete *ENDING*

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เปิดเทอมวันแรกสำหรับ ชีวิตในรั้วมหาลัยชื่อดัง ของฮันบยอล คณะบริหาร ที่มาเพียงวันแรก ก็เป็นที่ฮือฮาและป๊อปในหมู่สาวๆ และเป็นที่รู้จักในเวลาสั้นๆ เพราะหน้าตา รูปร่างและฐานะ นั่นบ่งบอกได้ดีว่ามาจากตระกูลมหาเศรษฐี ผู้มีอิทธิพลของเกาหลี แต่ไม่ชอบทำให้ตัวเองเหนือกว่าผู้อื่นสักเท่าไหร่ ยิ่งทำให้คนสาวๆสวยๆอยากเข้ามาร่วมพูดคุย แต่ฮันบยอลหาได้สนใจ เค้าทำเพียงยิ้มบางๆ กับคำชม และพยักหน้าเบาๆเท่านั้นก่อน เดินหนีออกมาอย่างสุภาพ เค้าไม่ค่อยอยากรู้จักใครเท่าไหร่ แค่ไอคนที่ตามมาก็พอแล้ว.... 

 

 

 

"วันนี้ชิวมากอ่ะมึง...สาวคณะแพทย์ เด็ดๆทั้งนั้น"

 

ไอยงฮวา คณะแพทย์ ที่ไม่รู้มันนึกครึกอะไร ดันไปสอบแพทย์ แล้วดันสอบติดที่เดียวกับเค้า เลยเรียนด้วยกันซะเลย 

 

 

"อืม...มึงคงได้แค่มอง"ฮันบยอลตอบนิ่งๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานข้าวเที่ยงต่อ

 

 

ยงฮวาทำหน้าเหี้ยมใส่ ตอนฮันบยอลก้มหน้ากินข้าว 

ใช่สิ...กูมันรูปไม่หล่อ พ่อไม่รวย แต่โทรศัพท์กูถ่ายรูปได้นะเว้ย!

 

 

รู้สึกหมดอาลัยตายหยาดในชีวิต คิดถึงคนทางนั้นสุดหัวใจ ไม่รู้ป่านนี้จะโดนหนุ่มฝรั่งจีบบ้างรึ

เปล่า แต่ก็เอาเถอะ...แค่เชื่อใจกันและกันก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรอ 

 

 

"คิดถึงน้องเมเบล ล่ะสิมึง" ยงฮวาพูดอย่างรู้ทัน เมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อน

 

 

"เออ"

 

 

"ทำใจซะมึง ป่านนี้หนุ่มฝรั่งตาม จีบแฟนมึงบานแล้ว" ยงฮวาเเกล้งแซว 

 

 

 

"เดี๋ยวกูถีบ! พูดให้มันดีๆหน่อย แฟนกูนะ!"ฮันบยอลพูดออกมาด้วยน้ำเสียงติดจะหงุดหงิด 

 

 

"แหะๆ ขอโทษครับพี่ปาร์คฮัน" ยงฮวาแสร้งลุกขึ้นยืนแล้วโค้งขอโทษไม่หยุดอย่างกวนประสาท

 

 

"อย่าหยุดทำนะ.....เออช่วงบ่ายว่างนิ กูกลับบ้านดีกว่า" 

 

 

"เออว่างมาก กลับไปเถอะ ไปนอนคิดถึงเมียที่บ้านไป" ยงฮวายังไม่เลิกแซว ก่อนจะนั่งลงตามเดิม

 

 

 

ฮันบยอลลุกขึ้นยืนเต็ม ความสูง ฮันบยอลดูเท่ห์สมารท์ เหลือเกินกับเชิทขาวนักศึกษา กางเกงสแลค รองเท้าผ้าใบรุ่นแพงล่าสุด ก่อนจะเดินเพียงนิดเดียวไปฝังที่

ยงฮวากินข้าวอย่างอร่อย ฮันบยองจัดการประเคน เท้างามไปมี่ตูดยงฮวา แบบไม่แรงนัก แต่เจ้าตัวก็สะดุ้ง

 

 

"กูกลับละ..." ฮันบยอลพูดด้วยหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงออกไปอย่างเท่ห์

 

 

 

''มันจะดูดีไปไหนวะ.."ยงฮวาบ่นกับตัวเองก่นจะกินข้าวต่อ 

 

 

เล่นซะกางเกงเป็นรอยตีนเลยนะสัส!

.

.

.

.

.

.

.

.

ฮันบยอลเดินมายัง โรงจอดรถยนต์ทางด้านหลังตึก ที่มีรถยนต์ราคาแพงมากมาย หนึ่งในนั้น คือ เฟอร์รารี่สีแดงเพลิง คันแพง ที่จอดอยู่ ฮันบยอลเดินตรงไปก่อนกดรีโมทคอนโทรก่อนจะเปิดประตูเข้ารถ ก็ถูกคนฉุดแขนไว้ก่อน...

 

 

"เธอเองหรอ มีอะไร" ฮันบยลหันมาก็พบเพื่อน ผู้หญิงร่วมคณะ ที่พยายามช่วนเค้าคุยตั้งแต่แรก 

 

 

 

"จะกลับบ้านหรอ..." เธอก้มหน้าก้มตาถาม อย่างเขินอาย เธอน่ะปลื้ม ฮันบยอลมากนะ 

 

 

"อืม..มีอะไรรึเปล่า"ฮันบยอลตอบออกมาด้วยน้ำเสียงกึ่งนิ่งกึ่งเป็นมิตรพร้อมเลิกคิ้วขึ้น 

 

 

"คะ....คือไปส่งเรา.."

 

 

 

 

"ผมคงไม่สะดวก ขอตัว" ฮันบยอลพูดตัดบทอย่างไร้เยื่อใย ก่อนจะเดินขึ้นรถทันที พร้อมสตาร์ทเครื่อง

 

 

แกรก.....

 

 

ปึง......

 

 

 

 

 

เสียงเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับ เรียกให้คนขับหันไปมอง ก็พบหญฺิงสาวคนนึงกำลังหันปิดประตู 

 

ฮันบยอลที่รู้สึกหงุดหงิดเมื่อมีแขกไม่ได้รับเชิญขึ้นมาโดยไม่ขออนุญาติ

 

 

 

"ลงไป ผมไม่ชอบเลยที่คุณเสียมารยาท" ฮันบยอลพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาสุดขีด บ่งบอกถึงความหงุดหงิดที่กำลังก่อตัว

 

 

 

 

 

"ไม่ลงอ่ะ พี่กล้าไล่เค้าลงรถเลยหรอ"

.

.

.

.

.

บรรยากาศบนรถเมื่อกี้มันช่างอึมครึม เสียจนเมเบลอึดอัด พอพูดประโยคแรกหลังจากขึ้นรถ ฮันบยอลมีท่าทีอึ้งเล็กน้อย ก่อนจะปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็นปกติ แล้วขับรถกลับบ้าน โดยไม่พูดไม่ยิ้ม กับเค้าเลยสักนิด ส่วนเมเบลที่คิดว่าฮันบยอลต้องงอลหรือไม่ก็โกรธแน่ๆ จึงชวนพูดคุยตลอดทาง หรือเรียกว่าง้อ แต่ฝ่ายคนขับก็ไม่ตอบโต้สักนิด มีแต่เค้าคงพูดมากเกินไปหันมามองหน้าเค้านิ่งๆ จนเมเบลได้แต่มุ้ยหน้า 

 

พอมาถึงบ้าน เมเบลก็ยังคงเดินหน้าง้องอนพูดคุยกับฮันบยอลตลอดทาง แต่ก็ไร้เสียงตอบรับ แถมคุณแม่ก็ไม่อยู่อีก ใครจะช่วย 

 

 

 

ใครจะรู้ แค่แกล้งนิดเดียว ถึงกับเย็นชาขนาดนี้เลยหรอไงกัน..

 

 

 

"งื้อ~~ พี่บยอลลลลล''เมเบลเอ่ยเรียกคนข้างหน้าเสียงอ่อนใบหน้าน่ารักบู้ลงเมื่อง้อคนเป็นแฟนไม่สำเร็จสักที

 

 

"พี่จะเปลี่ยนเสื้อ ออกไปก่อน" ฮันบยอลเอ่ยเสียงนิ่ง 

 

 

"ไม่ออก! พี่จะเปลี่ยนก็เปลี่ยนไปสิ" เมเบลพูดอย่างรั้นๆ ริมฝีปากอิ่มเชิดชึ้นอย่างถือดี 

 

จะดีใจดีมั้ย นี่คือประโยคแรกทีทพี่บยอลพูดด้วย.....

 

 

"ไม่ออก?" 

 

 

"ใช่ !!"

 

 

 

ฮันบยอลจัดการปดกระดุมเสื้อเชิทนักศึกษาสีขาวออกซะตรงนั้น โดยไม่สนคนที่ยืนอ้าปากตาโต ตกใจอยู่ตรงนั้นแม้แต่น้อย 

 

 

"พี่บยอลจะทำไรอ่ะ! หยุดเลยนะ!" เมเบลเอ่ยเสียงสั่นหลับตาปี๋ 

 

 

"บอกแล้วหนิ ว่าจะเปลี่ยนเสื้อ" ฮันบยอลเอ่ยบอก พร้อมยกยิ้มมุมปาก

 

 

"ก็ไม่เข้าไปเปลี่ยนในห้อง แต่งตัวเล่า "

 

 

"นี้ ห้องใคร"

 

 

ฮันบยอลละมืออกจากการแกะกระดุมเสื้อ แล้วยืนกอดอก มองเด็กแสบ ที่ทำให้เค้าดีใจและโกรธในเวลาเดียวกันที่เจอหน้า จะไม่ให้โมโหได้ไง บอกเป็นจริงเป็นจังว่าแม่ส่งไปเมกา ร้องไห้อีกด้วย (ตอนที่คุยกันสองคน)เล่นซะสงสาร

เลยเถอะ แถมพอมาเจอหน้ากันบนรถ ยังมาส่งยิ้มแป้นแล้น พอเค้าทำเป็นเมินไม่พูดด้วย นี่ถึงได้มาง้อ ถามว่าหายโกรธยัง ก็หายแล้วล่ะ ความรักความคิดถึงมันมีมากกว่าที่จะทำให้มาโกรธได้ แต่ก็นะเด็กแสบเล่นแรงซะขนาดนี้ ยังไงก็ต้องโดนคืนบ้าง

 

 

 

"ก็ ห้องพี่ไง" เมเบลพูดพลางแอบมองระหว่างมือ เมื่อเห็นอีกคนมองมาด้วยสายตานิ่งเฉย คาดเดาไม่ได้ก็ลดมือ ก่อนจะต้องกรอกตาไป ทำอะไรไม่ถูก 

 

 

"ก็รู้นี่ เพราะงั้นห้องพี่จะถอดตรงไหนก็ได้" 

 

 

"........"เมเบลยืนเม้มปากแน่น สีหน้าตัวเองก็เริ่มหงุดหงิด ขึ้นมา นี่กลายเป็นคนขี้งอนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันห้ะ!

 

 

 

"......." ฮันบยอลกอดอก มองอีกคนที่ยืนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เหมือนเริ่มจะหมดความอดทนกับ

เค้าเสียเต็มประดา แต่ทำอะไรไม่ได้ ฮันบยอลก็ได้แต่ยิ้มในใจ 

 

 

 

"หึ้ย!!! นี่จะไม่พูดกันใช่มั้ย" เมเบลระเบิดเสียงออกมาอย่างเหลืออด คิ้วสวยขมวดมุ่น มองฮันบยอลด้วยสายตาน้อยใจปนโมโหหน่ยๆ ที่ง้อไม่สำเร็จ

 

 

"หึ !! " ฮันบยอลทำเพียงส่งเสียงหึ ในลำคอ ทนไม่ได้แล้วสินะ เด็กแสบ

 

 

"หึ! อะไรเล่า "เมเบลพูดออกมาด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

 

 

"......." ฮันบยอลก็ยังคงนิ่ง 

 

 

 

" ไม่ง้อแล้ว! พี่บยอลกลายเป็นคนขี้งอน แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย! "เมเบลเหวออกมาก่อนจะเดินไปที่

เตียงแล้วเฟี้ยงหมอนเข้าหน้าฮันบยอลอย่างจัง 

 

 

 

 

ฮันบยอลที่เกือบจะตั้งรับไม่ทันถึงกับหลุดยิ้มออกมาจนเต็มใบหน้า ฮันบยอลรับหมอนมาไว้ ในมือ ก่อนจะปาใส่ อีกคนที่กำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยงเดินปึงปัง กำลังออกจากห้อง 

 

 

 

 

"โอ้ย !! " เมเบลโดนหมอนใบเดิม อัดหัวจนหน้าเกือบทิ้ม หันมามองตาขวางใส่ คนที่ทำหน้าตึงมาหลายชั่วโมงยืนยิ้มพร้อมยักคิ้วกวนๆมาให้  

 

 

"เป็นไงมั้ง"

 

 

"จิ้! ก็เจ็บน่ะสิ พี่บยอลเป็นบ้าอะไรเนี่ย สนุกหรอไง"

 

 

 

"แล้วเมเบล หลอกพี่สนุกมั้ย"

 

 

 

จึก! ตรงประเด็น

 

 

 

"อ...เอ่อ พี่ก็แกล้งงอนอ่ะ" เมเบลที่รู้ว่าตัวเองถูกจับได้ ก็ยังเฉไฉ เปลี่ยนเรื่อง

 

 

 

 

"อเมริกา..." ฮันบยอลเอ่ยออกมานิ่งด้วยแววตาจริงจังไม่มีเล่นสักนิด 

 

 

 

เมเบลกัดปากล่าง กลอกตาไปมา เมื่อถูกสาสตานิ่งเฉยมองมา มันดูจริงจังเสียขนลุก คือจะแก้ตัวยังไง ก็ไปแกล้งพี่เค้าไว้นี่นา แค่แกล้งนิดๆหน่อยๆเอง วันนี้ก็ไม่ไปเรียนเพื่อมาง้อเลยนะเนี่ย 

 

 

 

"..........."เมเบลเงียบไปก่อนจะมองอีกคนด้วยสายตาง้ออย่างสุดขีดพลางกระพริบตาปริบๆ เหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ จากเมื่อกี้ที่หงุดหงิดกลับหายไปหมด

 

 

"ขอโทษ~~หายโกรธน้าาา" เมเบลพูดอย่างเสียงออดเสียงอ้อนก่อนจะสาวเท้าเค้ามาใกล้ๆ ยู่ปากอย่างน่ารัก เล่นเอาคนฟังใจสั่น 

 

 

"........."

 

 

 

"ง่าาา พี่บยอล หายโกรธเค้าสิ" เมเบลมองอีกคนด้วยสายตาเชื่อมสุดขีด ก่อนจะเอนหัวซบอกของฮันบยอลเมื่อหมดลูกอ้อนแล้ว

 

 

 

หลังจากนิ่งไปนานทำคนอ้อนและคนถูกอ้อน ก่อนที่จู่ๆ ฝ่ามือหน้าก็ยกขึ้นลูบหัวอีกคนอย่างอ่อนโยน หมดทางสู้กับลูกอ้อนและเสียงเรียกร้งจากข้างใน 

 

 

 

"อืม ไม่โกรธแล้ว" ฮันบยอลครางในลำคอ ก่อนจะตอบออกมาแผ่วเบาให้ได้ยินกันสองคน

 

 

"จริงนะ" เมเบลเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะเจอรอยยิ้มที่อบอุ่นดังเคย

 

 

 

ฮันบยอลไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ยกมือประคองสองข้างแก้มนิ่มอย่างเบามือก่อนจะประทับจูบลงบนหน้าผากเนียนอย่างนุ่มนวล ก่อนจะไล่สันปลายจมูกคมลงมาผ่านสันจมูกมนสวยและประทับจูบลงไปเช่นกัน ที่สุดท้ายริมฝีปากนุ่มนิ่มสีอ่อน ฮันบยอลจัดการทาบทับริมฝีปากตนเองลงไปอย่างแนบสนิท เมเบลหลับตาลงแพขนตาเรียงสวยนาบกับแก้มใสสวยงาม ใบหน้าคมปรับเปลี่ยนเอียง เพื่อเพิ่มองศาในการจูบให้ล้ำลึก ยิ่งขึ้นกว่าเดิม ฮันบยอลจัดการบดเบียดเค้นคึงตามแรงคิดถึง ขบเม้ม ดูดดึง สลับกันไป แต่ฮันบยอลไม่ได้รุกรานเข้าไปด้านในเพียงแค่นี้ตนก็คลั่งกับกลีบปากหวานนี้แทบจะตายอยู่แล้ว 

 

ฮันบยอลจัดการรั้งเอวบอบบางเข้ามาให้แนบสนิท กับร่างกายตัวเอง จนแทบไม่มีช่องว่างให้ลมไหลผ่าน ฮันบยอลละออกจาก ริมฝีปากนิ่มอวบ ตรงหน้า ก่อนจะวกไปสูดดมความหอมทั้งสองแก้ม แต่พอจะกลับมาจูบต่อ แต่เมเบลกลับจะเบือนหน้าหนี 

 

 

"หืม..?" ฮันบยอลถามในลำคอ

 

 

"ม....ไม่เอาแล้ว"เมเบลตอบพลางก้มหน้างุด ไม่กล้าสบตาคมที่มองตนมาราวกับจะกลืนกิน เสียจนใบหน้าขึ้นริ้วแดง เขินอาย 

 

 

ฮันบยอลเชยคางอีกคนขึ้นมาก่อนจะประกบจูบเน้นๆลงไปอีกครั้งอย่างเนิ่นนาน

 

 

"อื้อ!...พ..พอแล้ว"ฝ่ามือบางทุยหนักๆลงบนไหล่อีกคน เมื่อจะขาดอากาศหายใจ

 

 ฮันบยอลผละออกมาอย่างอ้อยอิ่งไม่ลืมที่จะคลอเคลียก่อนจะเคลื่อนใบหน้าไปกระซิบข้างใบหูนิ่มด้วยเสียงนุ่มนวลและอบอุ่น จนคนฟังใจเต้นเหลือเกิน

 

 

"โกรธไม่ลงหรอกครับ รักมากขนาดนี้"

 

แล้วลูบผมอีกคนอย่างรักใคร่

เมเบลยิ้มออกมาด้วยความดีใจและตื้นตัน ก่อนกอดอีกคนแน่น ด้วยความรักทั้งหมด ฮันบยอลก็กอดตอบเช่นกัน ก่อนทั้งสองจะผละออกมาสบตากัน 

เหมือนจะถ่ายทอดความรักทั้งหมดผ่านสายตา

 

"รักมากเหมือนกันแหละ"เมเบลว่าฉีกยิ้มกว้างน่ารัก จนคนดูอดยิ้มตามออกมาไม่ได้ 

 

.

.

.

.

.

.

บรรยากาศ ยามเย็น ลมพักกำลังดีปะทะใบหน้าพร้อมกลินไอทะเลทำให้ทั้งสี่คนรู้สึกสดชื่น

ไม่น้อย กับทริปพักผ่อน ที่มีหัวหน้าทัพเป็นคุณแม่และคุณพ่อที่พึ่งกลับมาจากแคนาดา คุณแม่ก็จัดการพามายังทะเลสีครามหาดสายสีขาว 

 

 

ทั้งสี่คนเดินย้ำทรายสีขาวกันเป็นคู่ๆ บรรยากาศช่างอบอุ่นและโรแมนติค เหมือนการมาฮันนีมูล ก็ไม่ปาน คู่โฮวอนกับอลิซเดินกอดไหล่กันไปหยอกล้อกันบ้างตามประสา ส่วนคู่เมเบลฮันบยอลก็จับมือประสานนิ้วอย่างแนบแน่น 

 

 

อลิซ เมเบล เดินลงไปเกือบปลายๆชายหาด เมื่อคลื่นซัดเข้ามา ทั้งคู่ก็วิ่งหนัเป็นเด็กๆ แล้วก็เดินลงไปใหม่ แต่คราวนี้หนีไม่ทันจึงเปียกไป

ครึ่งข้อขา ภาพทั้งหมดถูกฮันบยอลที่ห้อยกล้องโปรมา ถ่ายเก็บไว้เรียบร้อย โฮวอนก็ห้อยกล้องโปรเช่นกัน 

 

 

"น่ารักเนาะพี่..." โฮวอนเอ่ยออกมายิ้มๆ 

 

 

"ใคร?" ฮันบยอลถามพร้อมมองออกไป

 

 

"แฟนผมสิ แฟนพี่ๆก็ชมเองดิ" 

 

 

"หึ ! เมเบลน่ารักตลอดเวลาอยู่แล้ว"ฮันบยอลชมแฟนตัวเองออกมาด้วยใบหน้าขัดกันมาก

 

 

"โอ้ว! ฮยองโคตรเลี่ยนอ่ะ"โฮวอนส่าหน้าแหย๋ๆ 

 

 

"หรอ.." 

 

โฮวอนพยักหน้ารับ พร้อมกับสองสาววิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม 

 

 

"นี่นาย พระอาทิตย์จะตกแล้ว มานั่งดูพระอาทิตย์ตกกัน"อลิซพูดออกอย่างตื่นเต้น 

 

 

"พี่บยอล นั่งดูก่อนนะ''เมเบลว่าเหมือนเด็กอ้อนของ 

 

 

"เอาสิ/ อื้ม"พี่น้องตรกูลปาร์ค พยักหน้า

 

 

ทั้งหมดนั่งลงบนหาดทราย รอภาพพระอาทิตย์ที่กำลังล่วงหล่นทะเล 

 

 

"เดี๋ยวๆ ฮยอง เอากล้องมา ผมให้คนตั้งขากล้องไว้ เรามาถ่ายรูปเก็บไว้กันเถอะ" 

 

โฮวอนพูดก่อน ฮันบยอลจะหยิบกล้องส่วให้น้องชาย ไปตั้งจากทางข้างหลัง พร้อมตั้งเวลา แล้วตนรีบวิ่งกลังมานั่งข้างๆอลิซ หัวกลมๆ ของอลิซเอียงซบลงบนลาดไหล่อีกคนอย่างพอเหมาะ โฮวอนจัดการโอบแผ่นหลังบางทันที

 

ส่วนเมเบลที่นั่งเฉยๆ แต่กลับค่อยๆชำเลืองมองหน้าด้านข้างของอีกคน พร้อมกับฮันบยอลหันมาพอดี ฮันบยอลเอนหน้าผากซบลงบนหน้าผากมนอย่างอบอุ่นและลึกซึ้ง พอดีกับที่...

 

 

 

แชะ!~~~

 

 

เสียงกล้องโปรดังขึ้นพร้อมกับที่สวยงามแบคกราว์นเป็นพระอาทิตย์ที่ใกล้ตกน้ำ สองสาวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งมาดูรูปในกล้องแล้วยิ้มออกมาอย่างพอใจทั้งคู่ 

 

 

 

 

"ขโมยหัวใจนายรุ่นพี่.." เมเบลกับอลิซพูดออกมาพร้อมกันอย่างรู้งาน

 

 

 

 

 

"mission complete!!!!" ทั้งสองตะโกนออกมาพร้อมกันด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เรียกสายตางุนงงจากสอนหนุ่มที่มองมา แต่ก็ไม่ได้สนใจ 

 

ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างดีใจ ที่ทุกอย่างได้จบลงแล้วอย่างสวยงาม ทุกอย่างไม่ใช่เพราะทั้งคู่ แต่เป็นเพราะคำว่า 

'พรหมลิขิต'ต่างหากที่ทำให้เราทุกคนได้มาเจอและรักกัน 

 

 

 

 

 

♥HAPPY ENDING♥

 

 

 

 

 

 

♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥♥

 

TALK: จบแล้ววววววว!!!! 

เย้!!! จุดพลุ!!!

ถ้าตอนจบไม่โดนใจใคร ก็ต้องขอโทษด้วยนะค้า_/\_

ไรท์พยายามเค้นออกมาแล้วนะ 5555

ขอบคุณคนอ่านทุกๆคนนะคะ ที่อ่านนิยายของเรา คนที่หลงเข้ามาก็ดีเต็มใจเข้ามาก็ดี ยังไงเราก็ต้องขอบคุณจริงๆค่ะ

*กราบงามๆ

รักคนอ่านทุกคนนะคะ เม้นหรือไม่เม้น ยังไงยอดผู้อ่านที่เพิ่มขึ้น

ก็คือกำลังใจของเราค่ะ

สุดท้ายนี่ ยังมีนียายอีกเรื่องที่เราปั่นอยู่ 

JUST LOVE CHILDREN

น้องคะมารักกันเถอะ 

ไปอ่านกันเถอะค่ะ

สนุกน่ารัก5555 เรารับรองเอง 

ไรท์คนกากต้องไปแล้วค่ะ 

บ้ายบายทุกคน~~~

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา