อัจฉริยะฆ่าล้างโลก (Shadow Phantom)
เขียนโดย Reone
วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 09.31 น.
แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558 09.42 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) สิ่งที่เป็นจริง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“เฮ้ย เล่าต่อสิ” เกมเซ้าซี้ “อะไรวะ กินอีกแล้ว หิวมาจากไหนกัน”เสียงเพื่อนซี้เอมโวยวายขึ้นทันทีหลังจากไม่ได้คำตอบที่ถูกใจ เพราะเอมมัวแต่ลีลาขอนู่นนี่ไม่รู้จักจบเสียที
“ได้ จะให้ฉันเล่าต่อก็เลี้ยงฉันสิ...”เอมแสยะยิ้มแล้วมองเกมด้วยหางตา ดังว่ากำลังเล่นกับความอยากของเกมที่เอามือเกาหัวยิกๆ อยู่
“อะไรวะ แทนที่คนชนะพนันจะเลี้ยงเพื่อน” เกมบ่นอุบ “เออ ก็ได้ เดี๋ยวสั่งขนมปังสังขยาให้กินอีกชุดนึงเลย กินกันให้พุงแตก”เขาทำปากขมุบขมิบ ท่าทางอยากจะด่าเอมใจจะขาด
“ดี อ่าว แล้วนาย ไม่สั่งอะไรเพิ่มหรือเชษฐ์ คนรวยเขาอุตส่าห์เลี้ยงนะ” เอมเอาแก้วโกโก้จ่อปากเพื่อจะดื่ม พลางหรี่ตามองไปที่เชษฐ์ เพื่อนของเขา
“แฮะๆ ไม่เป็นไรหรอก” เชษฐ์นั่งบีบมือตัวเองด้วยความเครียด กลืนน้ำลายข้างริมฝีปากกระตุกเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “พวก..พวกนายกินไปเถอะ”
“อะไรกัน ความจริงแล้วนายก็อยากจะกินไม่ใช่หรือไง” เอมพูดแทรกทันควัน “ยากเหมือนกันใช่ไหมล่ะเวลาจะพูดโกหกน่ะ เหมือนกับกำลังกลืนหินก้อนโตๆ เลยล่ะ”
“นายรู้!”
เอมยักไหล่ตัวเองเหมือนว่ามันคือเรื่องปกติ แล้วยื่นมือไปหยิบไม้จิ้ม จิ้มขนมปังราดนมชิ้นต่อไปมากินอย่างเอร็ดอร่อย
“เอ้า เลี้ยงแล้ว เล่าต่อสิจากนั้นน่ะ” เกมเอ่ยเสียงดังด้วยความรำคาญ จากนั้นก็ทักท้วงเรื่องที่ต้องการจะรู้ “ หลังจากที่นายไปเข้าห้องน้ำน่ะ ”
“อืม อะแฮ่ม” เอมกระแอมในลำคอเล็กน้อย “ ช่วงที่ฉันไปเข้าห้องน้ำน่ะ ฉันก็สอดส่องสายตาตัวเองรอบตัวอีกที ก็เจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง อยู่ที่ชั้นลอยด้านหลัง ตรงซ้ายมือของฉัน เธอดูลุกลี้ลุกลน พลางซ่อนอะไรไว้ที่ด้านหลังของเธอ ฉันเดาว่ามันน่าจะเป็นกล้องส่องทางไกล หรืออะไรสักอย่าง ฉันไม่รู้ แล้วฉันก็เดินไปเข้าห้องน้ำ ฉันไปทำความรู้จักกับบอดิการ์ดที่พาฉันไปส่ง แล้วก็ยื่นเงื่อนไขที่ว่า หากเข้าข้างฉัน แล้วถ้าฉันชนะ ฉันจะให้เงิน 1 ล้านบาท ถ้าทำได้ แค่นั้น แล้วจากนั้นอ่ะนะ...”
เอมรู้สึกรำคาญคอเล็กน้อย เขาเอามือขวายื่นไปไปหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อล้างเศษขนมปังที่ติดอยู่ในลำคอ
“แล้วไงต่อ” เกมทักท้วงขึ้นอีกครั้ง สายตาเขาจ้องเอมตาเขม็ง “อย่าหยุดดิ มันค้างเข้าใจไหม”
“ทุกอย่างมาเฉลยก็ตอนที่ ไอ้แก่ทอมสันมันหรี่ตามองมาที่ด้านขวามือฉันตอนที่มันนั่งนั่นแหละ” เขาเอ่ยพร้อมเลียปากที่มีแต่คราบน้ำตาล “แต่เรื่องนั้นฉันเตรียมตัวมาดีอยู่แล้ว เพราะก็รู้ว่ายังไงคนพวกนี้ต้องโกงอยู่แล้ว และสิ่งที่พวกมันยากรู้มากที่สุดก็คือไพ่ในมือของฉันถูกไหมล่ะ ฉันจึงพกสิ่งนี้ไป”
เอมควักบางสิ่งบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อ นั่นคือ เศษไพ่บริเวณหัวมุมที่ถูกตัด และกาวหลอดเล็กๆ เขาโยนพวกมันออกไปกลางโต๊ะ
“โห ที่แท้ แกก็เตรียมแผนโกงไว้อยู่แล้วนี่หว่า” เกมตกตะลึงเมื่อเห็นอุปกรณ์การโกงของเอมเขารีบหยิบมันมาส่องกับหลอดไฟนีออกเผื่อว่าจะเห็นอะไรเพื้มเติมมากกว่านั้น
“ของพวกนี้ไม่ได้มีไว้โกง” เอมพูดดักคอ “มันมีไว้หลอกต่างหาก”
“หลอก!!” เกมและเชษฐ์หันควับมาทางเอมแล้วพูดโดยพร้อมเพรียงกัน
“พวกนายจะเสียงดังทำไมเล่า!” เอมพูดเสียงดุ “เบาๆหน่อย! เดี๋ยวก็ไม่เล่าให้ฟังเลยนี่”
เสียงดุของเอมทำเอาเพื่อนของเขาหุบปากเงียบเพื่อที่จะฟังเรื่องราวต่อไป
“เศษไพ่นี่ฉันกะแต้มที่เลข 5 กับ 4 เพราะว่ามันเป็นแต้มที่กลางๆ ไม่สูง ไม่ต่ำจนดูน่าสงสัย เมื่อถึงช่วงเวลาที่ไพ่ถูกวางต่อหน้าฉันน่ะนะ ฉันก็ยกมันขึ้นมาดู แล้วก็กรีดไพ่ที่เป็นเศษไพ่ที่ติดอยู่ที่นิ้วกลางกับนิ้วนางออกมาโชว์หล่อนซะ แค่นี้ คุณเธอก็คงจะส่งรหัสไปบอกไอ้แก่ทอมสันได้แล้ว ฉันจะโชว์เธอแค่เพียงไพ่ใบแรกเท่านั้นแหละ ส่วนที่เหลือเป็นเศษไพ่หลอกทั้งหมด จากนั้นฉันก็กดไพ่ต่ำลง เอามาอังที่ปาก เพื่อที่จะมองแต้มของไพ่จริงๆนั่นเอง”
“ถึงว่า”เกมเลิกคิ้วทันทีเมื่อรู้กลการเล่นของเอม “ทำไม มิสเตอร์ทอมสันถึงอึกอักเมื่อตอนที่เขาจะด่าแกน่ะ ด่าไม่ถูกเลยละมั้งนั่น”
“ฮึ”เอมหลุดขำเล็กน้อย เขาเหลียวหน้าไปมองทางอื่น “ก็คงงั้น” พลางหยิบนมร้อนรสโกโก้ ขึ้นมาดื่ม
“แล้วทำไมนายถึงจับได้ว่าฉันโกงล่ะ แล้วอีกอย่างนะ สเตทฟรัช นายทำได้ไง” เชษฐ์ถามเสียงเอื่อยๆ
“ง่ายนิดเดียว” เอมวางแก้วน้ำพลางหันมาสบตาเชษฐ์ “นายน่ะ เจาะจงตำแหน่งไพ่ให้ตรงกับตำแหน่งของนายแกอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ วิธีที่นายใช้คือ ช่วงเวลาที่นายกำลังจะกวาดไพ่เพื่อกลับมาสับไพ่ใหม่อีกครั้ง นายกะตำแหน่งสูงของไพ่ แล้วก็ทำการตัดไพ่หนึ่งครั้งเพื่อไม่ให้เป็นจุดสังเกต จากนั้นนายก็ทำการสับไพ่ทีละใบอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้คนอื่นจับได้ แต้มที่นายแกจะได้ส่วนใหญ่ก็คือ ไพ่สีเดียวกันหรือไพ่คู่ใช่ไหมล่ะ เพราะมันถูกล็อคไว้แล้ว ส่วนไพ่อื่นที่นอกจากไพ่ที่ถูกล็อคไว้สองใบ ก็จะถูกสุ่มตามดวงของผู้เล่น เพราะถึงยังไงโอกาสที่จะชนะก็ 50 % เข้าไปแล้ว ”
“แล้วสเตทฟรัชนายล่ะ?” เชษฐ์ขมวดคิ้วถามเขาอีกครั้งด้วยความสงสัยที่ยังคงค้างคาอยู่ในใจ
“ดวง” เอมสั้นๆ ริมฝีปากยกขึ้นเล็กน้อย
“เฮ้อ” เกมถอนหายใจสะบัดหัวไปมา “นายนี่มันเก่งจริงๆ เลยว่ะยอมรับ นายได้เงินมาแล้วจะเอาไปทำอะไรวะ”
“ยังไม่รู้ขอวางแผนก่อน” เอมนิ่งเงียบแล้วเอามือลดลงมาลูบท้องเล็กน้อย ท่าทีแสดงออกถึงความอิ่มเต็มทีแล้ว เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีเขานั่งกินอยู่คนเดียว ส่วนคนอื่นก็มัวแต่เฝ้ารอให้เขาเล่าแผนการพิศดารเหล่านั้นให้จบ “ก็ว่าจะหามือถือใหม่ แล้วก็...”
“ก็อะไรของนาย” เชษฐ์สงสัยเหงื่อของเขาผุดออกมาจามผิวหนังจากอาการกังวลเล็กน้อย
“ตามหาโทรศัพท์เก่าล่ะมั้ง” เอมยกไหล่เล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าก้มตาเขย่าก้นแก้วนมสดที่มีเศษซากโกโก้ติดอยู่ก้นแก้ว
“โทรศัพท์ นายพูดถึงโทรศัพท์ลืมเลยนะเนี่ย” เกมคำรามเสียงดังเมื่อนึกถึงบางอย่างได้ “บอล แม่งลืมไปได้ไงเนี่ย”
เกมลุกพรวดออกจากเก้าอี้ แล้วทำหน้าตาตื่นเดินไปหาพี่ผู้ชายที่เป็นเจ้าของร้านนมสด เกมไปขอร้องให้เขาเปิดโทรทัศน์ให้เพื่อที่จะตรวจดูผลการแข่งขันฟุตบอลที่ผ่านมาจากเมื่อตอนหัวค่ำ เจ้าของร้านปฏิบัติตามโดยดีอย่างไม่มีข้อแม้ เขาเดินไปหยิบรีโมทที่เคาเตอร์ แล้วก็เปิดทีวีขึ้นมาทันที
ข่าวด่วนค่ะ เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่ตึกร้าง ย่านxxx ทางตำรวจสืบทราบว่า ที่นี่เป็นบ่อนกาสิโนเถื่อน มีนักพนันถูกย่างสดราว 45 ชีวิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีผู้พบเห็นนายเอมโอช คมสันครั้งสุดท้ายได้ถือถังน้ำมันสีขาวเดินเข้าไปในตึก ก่อนจะพบเป็นศพดังกล่าว...
“ฮึ ฮึ” เอมแอบหัวเราะโดยทำท่าทางกำลังดื่มน้ำเพื่อไม่ให้เพื่อนๆ เขาสังเกตเห็นว่าเขากำลังหัวเราะอยู่
“เฮ้ย ตายล่ะ นั่นที่ทำงานฉันนี่หว่า” เชษฐ์เอามือขึ้นมากุมศีรษะตัวเอง ทำหน้าตาแตกตื่นอย่างอดไม่ได้
“เฮ้ย จริงด้วย ” เกมเอ่ยด้วยน้ำเสียงตกใจด้วยอีกคน “ดีนะเนี่ยนายเลิกงานก่อน ไม่งั้น แกกลายเป็นไก่ย่างแน่เลยว่ะเชษฐ์”
“โอย เพื่อนฉันที่อยู่ในนั้นล่ะ” เชษฐ์โอดครวญ
“นี่เชษฐ์” เอมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “นายอาจจะเสียใจที่เพื่อนนายตาย แต่ว่านายเองก็ควรมีชีวิตต่อไปเพื่อพวกเขานะ เกม ฉันอิ่มแล้ว เก็บตังด้วยนะ ไปล่ะ”
หลังจากที่เอมพูดเสร็จ เขาก็ลุกขึ้นเอามือล้วงกระเป๋า แล้วเดินออกไปนอกร้านทันที ทิ้งไว้เพียงเชษฐ์ที่นั่งน้ำตาซึมอยู่ที่โต๊ะ
“เฮ้ย ๆ เดี๋ยว ๆๆ แม่งมันจะรีบไปไหนวะ เอ้า น้า นี่ๆ ตังๆๆ ไม่ต้องทอน เฮ้ยเอม รอเดี๋ยวสิเว้ย” เกมกุลีกุจรวิ่งตามเอมไป พลางดึงเชษฐ์ให้ลุกขึ้นเดินไปกับเขาด้วย
ดวงหรือ? ใช่ดวงซะที่ไหนกันเล่า เชษฐ์น่ะมันไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าถูกควบคุมจิตใจให้เพิ่มตำแหน่งของไพ่ต่างหาก โดยเพิ่มในตำแหน่งของเขาเข้าไปด้วย แล้วใส่จำนวนของการเรียงไพ่โพแดงล็อคไว้ที่ตัวเขาให้ได้มากที่สุด เขาเชื่อมั่นว่าเชษฐ์จะทำการโกงไพ่ให้เขาก่อนที่ตัวเขาจะเดินไปถึงเก้าอี้เพื่อนั่งลงเสียอีก โดยเหลือไพ่เอาไว้เสี่ยงดวงแค่ใบเดียวพอ ซึ่งมันก็ทำเอาเขาลุ้นจนหืดขึ้นคออยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่นึกว่าจะได้เลขดีจริงๆ ฮึ ส่วนเรื่องไฟไหม้ ก็เป็นฝีมือของเขาอีกเช่นกัน สถานที่มั่วสุม ทำให้โลกนี้เป็นมลทิน จะต้องถูกกำจัดไปให้สิ้นซาก รวมถึงบอดิการ์ดหน้าโง่ที่เอาเงินเขาไปด้วย
เขาคือผู้ควบคุมจิตใจให้มิสเตอร์ทอมสันนั่นไปลอบวางเพลิงสถานที่นั้นเองกับมือ หากทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคิดล่ะก็เหตุการณ์ต่อจากนี้ไป น่าจะเป็นว่า เขาเสียใจกับการเสียเงินก้อนโตในบ่อนพนันถึงขนาดคิดสั้นเผาบ่อนคาสิโนทิ้งก็เป็นได้ หรือจะเป็นอย่างอื่น นั้นก็แล้วแต่ไม่มีใครคาดเดาได้ เพราะในบ่อนคาสิโนนั้นผู้รู้จักชื่อเขามีเพียง เชษฐ์ เกม มิสเตอร์ทอมสันที่ไหม้กลายเป็นตอตะโก แล้วก็ตัวเขาเท่านั้น หากคนพวกนี้ปากโป้งล่ะก็พวกเขาก็คงจะต้องไปนอนกินข้าวแดงในคุกเป็นแน่แท้ แต่พวกเพื่อนๆเขาจะทำยังงั้นได้อย่างไรในเมื่อหลักฐานสักชิ้นก็ไม่มี แล้วพวกเพื่อนเขาก็เห็นว่าเอมอยู่กับพวกเขาตลอดเวลา
ก่อนหน้านั้น เอมเอามีดกรีดเป็นแผลเล็กๆ ที่นิ้วก้อยข้างซ้าย เพื่อไม่ให้ใครสังเกตเห็น ก่อนจะเข้าไปเล่นพนันในบ่อนกาสิโน จากนั้นเมื่อถึงเวลาอันควร เขาก็ทำการรีดเลือดที่นิ้วเพื่อเอามาใส่ปากกา แล้วเขียนมันลงไปที่บริเวณท้องแขน ทุกอย่างต้องถูกวางแผนอย่างรัดกุมที่สุด เขาไม่ได้เอาเข็มฉีดยาเข้าไปเพราะเนื่องจากว่าบริเวณเข็มมันคือเหล็ก เขาจึงไม่เสี่ยงในเรื่องนี้ ข้อสันนิษฐานว่าเชษฐ์จะซุกไพ่ที่แขนเสื้อก็จบลง หลังจากที่เขาพยายามจับผิดเชษฐ์มาตลอด 3 เทิร์น ที่ผ่านมา
ส่วนเรื่องนักพนันทั้ง 7 คนก่อนหน้า เอมใช้วิธีจิตวิทยาเล็กน้อย โดยการหลอกคู่ต่อสู้คล้ายๆ กับการเล่นกับมิสเตอร์ทอมสัน โดยในรอบแรกเขาแสดงท่าทางว่าเป็นผู้อ่อนต่อโลก ง่ายๆคือยอมเป็นหมูสนามให้พวกเขาก่อน ตอนหลังเมื่อได้ไพ่สูงอยู่ในมือ ก็ทำเป็นอิดออดว่าได้ไพ่ไม่สูงมาก เพื่อให้ศัตรูอวดอ้างเรื่องราวต่างๆ โกหกให้เขาจับผิด จากนั้นเขาก็ชักชวนให้ลงชิพในมือให้หมด จนกระทั่งเขาชนะมาในที่สุด ในบรรดา นักพนันทั้ง 7 คน เขาใช้วิธีหลอกล่อที่แตกต่างกันออกไป เพื่อไม่ให้พวกเขารู้ว่าเอมกำลังคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่
นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ หรือจะว่าง่ายๆ ก็คือ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแผนการอันยิ่งใหญ่ของเขาเท่านั้น จากนี้ไปต่างหาก คือเรื่องจริง ในเมื่อเขาสามารถควบคุมจิตใจคนได้ หากเขาหาวิธีดีๆ โค่นประธานาธิบดีลง และสามารถครองบังเหียนประเทศนี้ได้ล่ะก็ อำนาจ ทุกสิ่งที่เขาต้องการก็จะอยู่ในมือเขาทันที แต่หากจะทำแบบนั้นได้ เขาจะต้องมีลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ เสียก่อน รวมไปถึง กำลังเงินที่ควรจะมีมากกว่านี้ เท่านี้ก็พอ เส้นทางข้างหน้าในตอนนี้ช่างโปร่งโล่งยิ่งนัก เหมาะแก่การกบฏเป็นที่สุด
..........................................................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ