PRES : เพรส นานาชาติพิศวง ตอน ความลับในห้องวิทย์
เขียนโดย อาบตะวัน
วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 23.31 น.
แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558 22.58 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) เรื่องลี้ลับในโรงเรียน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“กื๊ด...กื๊ด”
เสียงประหลาดดังมาจากด้านบนต้นไม้ใหญ่ เด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่งพากันเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย กิ่งไม้ฉำฉายามหน้าฝน อิ่มสะพรั่งเต็มท้องฟ้า แม้ใบไม้จะดกหนาเต็มต้น แต่ก็ยังพอให้มองเห็นแดดยามเที่ยงส่องลอดมารำไร
ทางเดินเท้าพื้นปูนเบื้องหน้าขาวสะอาด ลาดยาวคดเคี้ยวตามไม้ฉำฉาที่เรียงระดับ สลับสีเขียวสีน้ำตาลอาบดำของลำต้นหนาใหญ่ เปียกชุ่มน้ำด้วยอำนาจแห่งฤดูกาลแห่งความฉ่ำเย็น ถัดจากทางเดิน อาคารเรียนสีเขียวสลับสีส้มอิฐตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ใต้อาคารปรากฏนักเรียนจำนวนหนึ่งเดินพูดคุยกันเป็นกลุ่ม ๆ เด็กมัธยมสวมเสื้อสีขาว เด็กผู้หญิงสวมกระโปรงจีบสั้นสีเขียวอมดำ เด็กผู้ชายสวมกางเกงขายาวสีเดียวกัน ตราสัญลักษณ์ประจำโรงเรียนรูปนกฮูกสีเหลืองน้ำตาลประทับเด่นอยู่บนกระเป๋าเสื้อบนอกซ้าย เปิดดวงตาสีเหลืองวาวบนฉากรูปโล่ห์สีน้ำเงินเขียวกระจ่างเป็นพื้นหลัง ‘โรงเรียนนานาเพรส’ ‘PRES’ โรงเรียนนานาชาติแห่งเดียวบนเขตเขา แนวเชื่อมต่อเขตแดนระหว่างจังหวัดแถบภาคเหนือ
“เธอรู้เรื่องที่เขาเล่ากันที่ตึกมัธยมไหม”
นักเรียนหญิงคนหนึ่งถามขึ้นแลบลิ้นไอศกรีมรสสตรอเบอรี่ที่แอบถือออกมาจากโรงอาหารไปพลาง เด็กหญิงผมสีแดงที่เดินข้าง ๆ ส่ายหน้า ก่อนจะละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ
“รุ่นพี่เกรด 10 เจอดีเมื่อวันก่อน ในห้องเรียนชั้นสาม หูย... เล่าแล้วก็ขนลุก”
เด็กผมแดงกรอกตามองบน
“เธอยังไม่ทันจะเล่าอะไรเลย”
“เออ..นั่นแหละ วันที่พายุฝนแรง ๆ ไง จำได้ไหม”
เพื่อนพยักหน้า เด็กหญิงตวัดลิ้นตักไอศกรีมเก็บไว้ในปากคำใหญ่ เล่าเสียงงึมงำ
“ไฟดับทั้งโรงเรียน ทำไมจะจำไม่ได้”
เด็กผมหยิกรับฝรั่งชิ้นบางมาจากเพื่อน ลังเลที่จะกินจึงถือค้างไว้ในมือ หูฟังเรื่องเล่าขณะเดินตามองทางเดินลาดขาวคดเคี้ยว
“ใช่เลย ...วันนั้นแหละ พี่เกรด10 คนนึงยังทำงานอยู่ในห้อง พอไฟดับเขาก็จะออกมาจากห้อง แล้วเธอรู้ไหมว่า เกิดอะไรขึ้น”
น้ำเสียงผู้เล่าแสดงถึงความตื่นเต้น คนฟังเลิกคิ้วมอง
“เกิดอะไรขึ้นล่ะ”
“กื๊ด....”
เสียงประหลาดดังขึ้นอีกครั้ง เด็กผู้หญิงทั้งสามคนชะงัก แหงนมองครู่หนึ่ง ฝูงนกเอี้ยงทะเลาะกันจอแจตามกิ่งไม้ใกล้ ๆ เมื่อไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ พวกเขาก็ยักไหล่แล้วชวนกันเดินต่อ ไม่ใส่ใจกับเสียงประหลาดนั่นอีก
“เออ...เล่าต่อ ปรากฏว่า ห้องล็อกล่ะ!”
เด็กหญิงผมแดงทำตาโต มองเพื่อนสาวชาวเกาหลีเหวี่ยงไอศกรีมโคนครึ่งอันที่เหลือใส่ปากแล้วเคี้ยวตุ้ย
“ฮ้า! เป็นไปได้ไง ล็อกจากด้านนอกเหรอ”
“ใช่ แต่ที่น่ากลัวกว่านั้น...คือมีลูกกะตาข้างนึง มองส่องลอดเข้ามาทางช่องกระจกหน้าประตูด้วย”
เด็กหญิงทำท่าขนลุก สองเพื่อนสาวขนาบข้างก็ห่อไหล่
“แถมยังทำเสียงเรียกชื่อเขาด้วยนะ โจแอล... โจแอล...ช่วยฉันด้วย...”
หล่อนเล่าเสียงเย็น ยื่นมือสั่น ๆ เป็นท่าประกอบ ทว่าเสียงจากด้านบนท้องฟ้าก็ดังรบกวนขึ้นอีกครั้ง
“แครก!”
“ฟึบ!”
อะไรบางอย่างร่วงลงมาจากกิ่งไม้ด้านบน ก่อนจะหล่น ‘ตุ้บ!’ ลงตรงหน้ากลุ่มเด็กผู้หญิงทั้งสาม เฉี่ยวปลายจมูกไปเพียงชั่วปัดไรขนอ่อน เด็กหญิงคนกลางหยุดเล่าเรื่องชั่วขณะ ยืนมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สายตาจะจับได้ว่าวัตถุที่ฟาดลงมากระแทกพื้นด้วยน้ำหนักไม่น้อยกว่าสิบกิโลกรัมนั้นมันคือ ‘งูหลาม’ ตัวเลื่อมลายขนาดใหญ่ กำลังขยับตัวไปมา ส่ายหัวรี ๆ ของมันช้า ๆ ราวกับว่ามันกำลังมึนงง สงสัยอยู่เช่นกันว่ามันตกลงมาได้อย่างไร
“กรี๊ด!!!!!!”
เด็ก ๆ ทั้งกลุ่มแตกกระเจิงกันไปคนละทิศละทาง หวีดร้องกันเสียงหลง ดีดรองเท้า ทิ้งข้าวของ ตกกระเด็นกระจายเกลื่อน แต่ละคนวิ่งก้าวขาโหย่งโหยกข้ามกอหญ้า พุ่มไม้ หินแต่งสวน ก่อนจะหายตัวไปตามซอกตึกใหญ่ทั้งใกล้ทั้งไกลจากบริเวณนั้น
..................................................................................................................
ตอนที่ 1 เรื่องลี้ลับในโรงเรียน
“นี่เป็นครั้งที่สามแล้วนะ”
ศาสตราจารย์สตีเฟ่น อาจารย์ใหญ่ คำรามท่ามกลางการประชุมร่วมกับคณะกรรมการโรงเรียนและกรรมการนักเรียน ทุกคนมีสีหน้าเคร่งเครียด ครั้งที่สามแล้ว... ที่เกิดเรื่องช็อกแบบนี้ขึ้นในโรงเรียน ครั้งก่อนก็เกิดไฟไหม้ขึ้นที่ทางเดินระหว่างตึกอย่างไม่รู้สาเหตุ และก่อนหน้านั้น จู่ ๆ หินประดับก้อนใหญ่กลางสวนก็หล่นกลิ้งลงทับนักเรียนมัธยมคนหนึ่งเข้า...ขาหัก โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรร้ายแรงกว่านั้น
“มาตรการรักษาความปลอดภัยที่ทำมาตลอดหนึ่งปี ก็ดูเหมือนไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย”
อาจารย์ใหญ่บ่น ก็แน่ล่ะสิ เล่นเกิดเหตุไม่เป็นที่เป็นทาง เกิดแบบแปลก ๆ เกิดแบบไม่ให้รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อน แล้วใครมันจะไปคาดเดาทางช่วยเหลือป้องกันได้
“พวกเด็กนักเรียนกลัวกันไปหมดแล้ว ยอดนักเรียนเข้าใหม่หดหายไปจากปีที่แล้วกว่าครึ่ง นี่ก็เริ่มมีเด็กนักเรียนบางคนทยอยทำเรื่องลาออกบ้างแล้วนะ”
เสียงถอนหายใจจากครูบางคนในที่ประชุม ชื่อเสียงโรงเรียนนานาชาติเพรส เริ่มเสื่อมลงตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว หลังจากข่าวการตายของครูวิทยาศาสตร์คนหนึ่งดังแพร่สะพัดไปทั่วเมือง ไม่มีใครรู้สาเหตุการตาย ไม่มีใครจับผู้ลงมือได้ ที่สำคัญ ผู้ช่วยคนสำคัญของเขา ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนเพรส ดร.ฮาเบิร์ท ชาร์ล ถูกนำตัวไปสอบปากคำซ้ำแล้วซ้ำอีกก่อนที่จะถูกปล่อยตัวออกมาเพราะหาข้อพิรุธใด ๆ ไม่เจอ ประกอบกับในกล้องวงจรปิดก็ไม่พบเหตุการณ์ใดที่ผิดปกติ ภาพจากกล้องวงจรปิดฉายให้เห็นตรงบริเวณหน้าห้องวิทยาศาสตร์ที่มีศาสตราจารย์โรนัล ยานส์ กับผู้ช่วยคนสนิทของเขา แมรี่ ดอว์สัน ทำงานอยู่ในห้องแล็ปจนมืด ก่อนที่ยามในโรงเรียนจะพบว่า ในเช้าวันรุ่งขึ้น ศาสตราจารย์โรนัลก็กลายเป็น ‘ศพ’ ไปเสียแล้ว ไร้ร่องรอยของผู้ช่วยคนสวย หล่อนหายตัวไปนับตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ เกือบสองปีมาแล้ว
“พวกผู้ปกครองไม่มั่นใจในระบบความปลอดภัยของโรงเรียน ต่อให้เราเพิ่มจำนวนรปภ.อีกเป็นสิบ ติดกล้องวงจรปิดเพิ่มมากกว่าเดิมนับร้อยจุด แต่เรื่องบ้า ๆ พวกนี้ก็เกิดขึ้นได้โดยไม่มีที่มา หาสาเหตุไม่ได้”
ศาสตราจารย์สตีเฟนเดินไปรอบ ๆ ห้องประชุม คิ้วสีเทาเข้มขมวดติดกันแน่น สองปีมานี้ อาจารย์ใหญ่มีเรื่องต้องขบคิดมากมายเหลือเกิน และก็เป็นเรื่องที่ดูเหมือนจะเกินความสามารถมนุษย์เดินดินธรรมดาอย่างเขาจะแก้ไขได้ เพราะมันดูลึกลับผิดปกติธรรมดา
“ข่าวลือเรื่องผีศาสตราจารย์โรนัลก็หนาหูมากในกลุ่มเด็กนักเรียนมัธยม พาให้พวกพ่อแม่ไม่สบายใจ”
ศาสตราจารย์เครกลูบคาง กลอกตามองเพดานห้อง ฟังเสียงถอนใจดังเฮือกใหญ่จากที่นั่งหัวโต๊ะ
“ไร้สาระสิ้นดี”
อาจารย์ใหญ่ทุบโต๊ะ
“เรื่องงมงายแบบนั้นก็ยังคิดกันไปได้”
“แต่ที่นี่เมืองไทยนะคะ คนที่นี่ก็คิดกันเรื่องผี แต่ให้ตายเถอะอาจารย์ใหญ่ ต่อให้เป็นจีน เกาหลี อเมริกา ที่ไหน ๆ ก็มีผีได้ทั้งนั้นแหละค่ะ”
อาจารย์นาเรล อาจารย์สาวลูกครึ่งไทย - ออสเตรเลีย ทำท่าขนลุก ศาสตราจารย์สตีเฟ่นส่ายหน้า หันกลับมาทางประธานนักเรียน
“ในส่วนของพวกนักเรียน ผมอยากให้คุณจัดกิจกรรมสันทนาการอะไรก็ได้ขึ้นในโรงเรียน ช่วยสร้างขวัญกำลังใจให้พวกเด็กนักเรียน ปรับเปลี่ยนบรรยากาศในโรงเรียนให้มันมีความสุข ไม่ให้ใครคิดกังวลเรื่องผีสาง หรือฆาตกรในโรงเรียนของเราอีก”
‘อัย’ ประธานนักเรียนสาวคนล่าสุด ก้มลงพรมนิ้วมือ รัวคำสั่งลงในแท็ปเล็ต ในหัวคิดข้อเสนอขึ้นมาเล่น ๆ ว่า ถ้าศาสตราจารย์จะให้ความบันเทิงเกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วนแบบนั้นละก็... แค่ประกาศยกเลิกการสอบปลายภาคทั้งหมดก็พอ....หล่อนเครียดจะตายอยู่แล้ว...
อัย อริสา เบลล์ สาวไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่แขวนป้ายฝรั่งไว้ท้ายชื่อก็ด้วยมีพ่อบุญธรรมเป็นชาวอังกฤษ อัยเพิ่งได้รับตำแหน่งเป็นประธานนักเรียนในปีการศึกษานี้ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นประธานนักเรียนคนแรกของ ‘เพรส’ ที่เป็นผู้หญิง และเป็นประธานนักเรียนคนแรก ที่ได้เข้าร่วมประชุมแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมในโรงเรียนร่วมกับคณาจารย์ฝ่ายความมั่นคง เหตุเพราะสถานการณ์ใน ‘เพรส’ ช่วงสองปีมานี้ไม่ดีนัก
“แต่ถึงยังไงเราก็จะมีงานพรอมอยู่แล้วนี่นา”
‘อันนา’ เท้าคางถามระหว่างมื้อเที่ยง จ้องเพื่อนสนิทหน้าสวยอย่างรอคำตอบ อัยเป็นผู้หญิงหน้าสวยเข้ม ดวงหน้าเรียวรูปไข่ คางเล็กเรียวมนชวนมอง อันนาชอบมองดวงตาโตสีดำขลับของเพื่อน มันแวววาวลึกลับน่าหลงใหลอย่างบอกไม่ถูก ผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้ง ผมสีดำสนิทยาวสยายเกือบถึงเอว ช่างดูแข็งแรงรับกันดีกับรูปร่างผอมสูงโปร่งของหล่อน อัยส่ายหน้าคิ้วขมวด
“ไม่เกี่ยวเลย งานพรอมเป็นของรุ่นพี่เกรด 12 น้อง ๆ ที่ไม่มีพี่ที่เรียนจบปีนี้ก็อดไป แต่ศาสตราจารย์สตีเฟ่นหมายถึง เด็กนักเรียนทุกคนในโรงเรียน ต้องได้ร่วมสนุกกับบรรยากาศบันเทิงอันนี้ด้วย”
อัยทำไหล่ยึกยักล้อเลียนท่าทางของอาจารย์ใหญ่ แม้ว่าหน้าตาหล่อนจะไม่ได้ดูรื่นเริงด้วยเลยสักนิด แต่ในสายตาของเพื่อนสนิทก็ดูน่าขัน อันนาหัวเราะเบา ๆ
“สำหรับแก เรื่องบันเทิงในโลกนี้ก็มีอยู่อย่างเดียว คือยกเลิกการสอบใช่ไหม”
อัยยิ้ม ชอบใจที่เพื่อนรู้ใจหล่อน อีกทั้งรู้ดีว่า เหตุการณ์แสนวิเศษแบบนั้นไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ เลย ถ้าไม่เกิดหม้อแปลงระเบิดเหมือนเมื่อสอบปลายภาคปีก่อน เพราะไฟดับทั้งโรงเรียน ไม่ว่าจะวิชาไหน ๆ ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้อีก และเพราะการแก้ไขเป็นไปอย่างยุ่งยากและซับซ้อน ศาสตราจารย์สตีเฟนจำต้องประกาศยกเลิกการสอบ อัยจำได้ว่าเสียงเฮของตึกมัธยมดังลั่นแค่ไหน หล่อนมีความสุขจนสุดจะบรรยายเลยทีเดียว
“คะแนนปีนี้ของแกก็ไม่ธรรมดานะอัย ถึงจะสอบปลายภาคอีก ก็ไม่ทำให้อันดับเกรดแกตกไปหรอก”
อันนาออกความเห็น ตาสีฟ้าปรายเยื้องไปทางโต๊ะข้าง ๆ หนุ่มนักร้องนำวง H.P. วงดังประจำโรงเรียน อีตา ‘แม็กซ์’ ขี้ก้างเพิ่งเดินผ่านไป เจ้าหล่อนก็ผิวปาก ‘วิ้ดวิ้ว’ ทำเอาเขาเดินเซ เด็กสาวหลิ่วตาให้เขาน้อย ๆ ก่อนจะหันกลับมามีความสุขกับเค้กโรลตรงหน้าต่อ อัยส่ายหัวอย่างระอา อันนาเป็นสาวทรงเสน่ห์ ลำพังฮอทด้วยตัวเองหล่อนก็ป๊อบจะแย่อยู่แล้ว ยังจะมาเที่ยวเฟลิร์ทหนุ่ม ๆ แบบไม่เลือก ‘เกรด’ ด้วยอีก
“เลือกอ่อยหน่อยดีไหมแก..หุ่นแห้งเป็นไม้เสียบผีแบบนั้นอย่าไปเปลืองลมปากเป่าแซวเลย”
ประธานนักเรียนสาวกลอกตา เพื่อนสาวผมบรอนซ์หัวเราะร่วนโบกมือปัด ๆ อย่างไม่ใส่ใจ
“แค่เล่น ๆ เองน่ะแก อย่าคิดมาก”
“เมื่อต้นปีที่แล้ว แกก็เล่นแบบนี้กับอีตายูกิ ฉันเห็นมันติดซะจนแกเสียจริตไปเป็นเทอม ... ยังไม่เข็ดอีก”
อัยลุกขึ้นเก็บจานอาหาร อันนาเก็บตลับแป้งใส่กระเป๋า หลังมื้อกลางวันผ่านพ้น เจ้าหล่อนก็มีสีหน้าจัดแจ่มสวยพริ้งชวนมองกว่าเคย อัยกลอกตาอย่างเหนื่อยหน่าย
“อันนา นี่ฉันยังจนปัญญากับเรื่องงานบันเทิงของโรงเรียนอยู่เลยนะ ไม่รู้จะจัดงานอีท่าไหนให้มันตรงใจศาสตราจารย์สตีเฟ่น แถมดูท่าพวกนักเรียนโรงเรียนเราก็ไม่มีใครอยากจะเล่น จะปาร์ตี้อะไรสักนิด เฮ้อ”
“แกยังมีเวลาน่ะอัย อย่าเพิ่งซีเรียสไปเลย เสาร์นี้ไปติวหนังสือที่บ้านฉันไหม”
วันสอบปลายภาคก็คืบคลานเข้ามาเต็มทีแล้ว หลังสอบก็จะต้องมีงานเลี้ยงปลอบขวัญนักเรียน งานเลี้ยง...ที่ประธานนักเรียนก็ยังคิดธีมไม่ออก...ไหนจะปัญหาส่วนตัวของหล่อนอีก
“ไม่ล่ะ ฉันต้องไปทำงานพิเศษ อาทิตย์ที่แล้วก็ขาดงาน เสียดายเงิน”
“เฮ้อ...อัย”
อันนาถอนใจมองหล่อนอย่างเห็นใจ
“ยืมเงินพ่อฉันไหม ทำงานเมื่อไหร่ค่อยคืน”
เพื่อนสาวเสนอ อัยรู้ว่าหล่อนซีเรียส แต่นี่เป็นข้อเสนอที่หล่อนไม่สามารถยอมรับได้จริง ๆ แม้ว่าพ่อของอันนาจะเป็นเจ้าของรีสอร์ทหรูห้าดาวของเมือง เป็นเจ้าพ่อเล่นหุ้นมือทอง แถมยังมีลูกสาวแค่คนเดียว แต่อัยก็ไม่อาจจะหาสิทธิ์อะไรไปหยิบยืมเงินทองของพวกเขามาใช้สอยได้
“ขอบใจมากนะอันนา เธอใจดีกับฉันตลอดเลย แต่เธอก็รู้นี่ ว่าฉันไม่ได้ต้องการเงินก้อนโตอะไร เงินค่าเทอมฉันกับโนอาร์เรามีเตรียมเอาไว้แล้ว... แค่ค่ากินค่าอยู่ ฉันหาเองได้”
อันนาตบไหล่เพื่อนเบา ๆ
“สู้ ๆ นะอัย ถ้าแกขอทุนต่อมหาวิทยาลัยได้ แกก็จะไม่ลำบากละ ฉันเอาใจช่วย”
อัยยิ้มให้หล่อน กำลังใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หล่อนได้ทุกวันเป็นเรื่องดีของชีวิต ถ้าพ่อเลี้ยงไม่ด่วนชิงจากครอบครัวไปเสียก่อน ถ้าแม่ไม่ฟูมฟายทอดอาลัยตายอยากในชีวิตแบบทุกวันนี้ อัยก็อาจจะได้ใช้ชีวิตของวัยรุ่นได้เหมือนคนอื่น ๆ บ้าง แต่ว่าเงินค่าเทอมปีละเป็นล้านกับเวลาเรียนของหล่อนอีกสองปีที่นี่ และไหนจะน้องชายต่างพ่อ ที่เพิ่งจะเข้าชั้นมัธยมในปีนี้อีก เงินที่ดูเหมือนจะเป็นเงินก้อนโตก็หดเล็กลงไป เมื่อคำนวนค่าใช้จ่ายสำหรับการเรียนและการอยู่กินตลอดจนจบการศึกษา ความหวังเดียวที่หล่อนมีก็คือ การสมัครรับทุนแบบ Full scholarship ตามมหาวิทยาลัยดังต่าง ๆ ที่จะช่วยต่ออนาคตและลดค่าใช้จ่ายในครอบครัวไปได้ ทุกวันนี้ นอกจากงานตามร้านอาหารญี่ปุ่นในตัวเมืองแล้ว อัยก็อาศัยรับจ๊อบเดินแบบถ่ายแบบตามที่ต่าง ๆ ตามแต่โมเดลลิ่งต้นสังกัดจะจัดมาให้ด้วย ขอบคุณขายาว ๆ ผิวสีน้ำผึ้ง กับผมเส้นเล็กสีดำสนิทยาวสยาย ที่แม่กับพ่อบังเกิดเกล้าให้มา ช่วยให้หล่อนเป็นจุดสนใจได้ไม่ยากและมีงานติดต่อมาให้ทำเป็นระยะ
“มหา’ลัยที่แกจะสมัครเขาจะเอาโปรไฟล์เริ่ดแค่ไหน”
มหาวิทยาลัย ‘โงมูระ’ ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเป้าหมายแรกที่อัยวาดหวัง มหาวิทยาลัยแถวหน้าที่พ่อคาดหวังจะให้หล่อนได้เรียนที่นี่ เป็นมหาวิทยาลัยเดียวในเอเชีย ที่อ้าแขนรับ ‘เกรด’จากโรงเรียนนานาชาติระบบเดียวกับที่เพรส นอกเหนือจากโซนยุโรป
“ระดับผลการเรียนสูง มีเกียรติบัตรรับรองเรื่องกีฬา ศิลปะ การมีส่วนร่วมในสังคม ชุมชนและความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งที่ต้องเอาไปเสนอเอง”
อัยไล่นิ้วมือ ก่อนจะลงท้ายด้วยการยักไหล่ หล่อนยังคิดไม่ออกเลยเรื่องความสามารถพิเศษที่ว่านั่น
“แบบรุ่นพี่ปีที่แล้วน่ะเหรอ ชื่ออะไรนะ…แนท??”
อันนาถามเสียงสูง สำเนียงที่เปล่งเรียกชื่อไทยแบบนั้นทำให้อัยนิ่วหน้า
“ไม่ ๆ เขาชื่อ ณัฐ”
“อ้อ... ณัฐ เอ่อ ... หล่อนทำอะไรได้นะ เห็นว่าได้ไปแล้วนี่ ทุนตัวนี้น่ะ”
อัยนึกถึงรุ่นพี่ตาหวานคนหนึ่งที่ได้ทุนของมหาวิทยาลัยไปเป็นรุ่นแรก หล่อนเก่งรอบด้านแบบที่ ‘โงมูระ’ ต้องการ นอกเหนือจากเกรดหรูหราระดับไอคิว180แล้ว หล่อนยังเล่นเปียโน สีไวโอลิน ร้องเพลงเพราะ จิตรกรรมฝาผนังใต้อาคารเรียนนี้ก็ฝีมือหล่อน เป็นนักกอล์ฟเหรียญทอง แถมยังมีความสามารถพิเศษอีก ก็คือ การพูดภาษามือได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย
“ถ้าอย่างนั้น…ฉันก็อาจจะต้องไปเรียนกายกรรมเปียงยางมาแล้วล่ะ จะได้มีทักษะพิเศษอันน่าประทับใจ ลองไปฝึกกับหมีแพนด้าดู อาจจะพอเข้าตากรรมการบ้างก็ได้”
อันนาหัวเราะดังลั่นกับการเสียดสีของหล่อน ก่อนจะลากเพื่อนสาวเข้าห้องเรียน
ห้องเรียนเคมีที่เคยเป็นวิชาโปรดของอัย มาวันนี้… ก็ไม่น่าสนุกเท่าที่เคย ตั้งแต่ศาสตราโรนัลจากไป อัยก็กลายเป็นนักเรียนหัวกะทิของห้อง หล่อนเชี่ยวชาญวิชาเคมี มากเสียยิ่งกว่าอาจารย์ใหม่คนนี้เสียอีก นี่เป็นอีกเรื่องที่หล่อนกังวลใจ ไม่รู้ว่าในการสอบปลายปี หล่อนกับพวกเพื่อน ๆ จะมีความรู้ความสามารถพอเอาตัวเองรอด จากข้อสอบส่วนกลางของปีหน้าได้หรือเปล่า
หล่อนคิดถึงศาสตราจารย์โรนัลเสียจริง ๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ