เคลเบรอสเป็นชิคิกามิมันผิดด้วยเหรอ?

7.0

เขียนโดย HaRUnA

วันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.20 น.

  8 chapter
  0 วิจารณ์
  10.17K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 00.58 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) คาบวิชา ฝึกการต่อสู้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

  เช้าในวันต่อมา แสงแดดของยามเช้าได้เล็ดลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาภายในห้องนอนของฮารุมิที่ยังคงมืดสลัว ฮารุมิซึ่งมีเส้นผมสีดำสนิทที่ยังคงหลับแบบไม่ค่อยสบายตัวมากนักอยู่บนเตียงนอนของตัวเอง แต่ก็ต้องถูกขัดจังหวะความสบายที่พึ่งได้รับมา เมื่อแสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้อง ได้ฉายลงที่ใบหน้าของฮารุมิอย่างพอดิบพอดี ฮารุมิค่อยๆลืมตาขึ้นพร้อมกับเอามือมาบังแสงที่ส่องเข้ามาในตาสีน้ำเงินเข้มเอาไว้ พร้อมกับพึมพำออกมาว่า

        "เช้าแล้วเหรอเนี้ย?"

  ดูจากสภาพแล้ว ฮารุมิยังคงสะลึมสะลืออยู่เหมือนคนนอนไม่พอ ส่วนสาเหตุที่ทำให้นอนหลับไม่สนิทก็ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลมากนัก

  ____พวกเธอเนี่ยน้า........ ไม่สนใจความสบายของชั้นบ้างเลยรึไงกัน!?

  ทางด้านขวามีฮินะที่กำลังนอนหลับอย่างสบายอยู่ข้างๆ เธอนอนแนบชิดติดกับฮารุมิและใช้มือจับที่เสื้อของเขา เหมือนกับว่าไม่อยากให้หายไปไหนยังไงยังงั้นและเนื่องด้วยฮินะอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่า จึงทำให้ฮารุมิเห็นใบหน้ายามหลับของเธอได้อย่างชัดเจน ถ้าทางจะสบายหน้าดูเพราะมันแสดงออกมาทางสีหน้า

  เมื่อเห็นเช่นนั้นฮารุมิจึงใช้มือลูบไปที่ศีรษะของฮินะเบาๆอย่างช้าๆด้วยความอ่อนโยน และดูเหมือนมันจะตอบสนองเป็นย่างดีเพราะหางสุนัขของฮินะที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มกำลังขยับไปมาอย่างอารมณ์ดี และใบหน้ายามหลับของเธอก็ดูมีความสุขมากขึ้น

  ส่วนทางด้านซ้ายมีนานะกับเรกินอนกอดกันอยู่ ฮารุมิจึงใช้มือข้างซ้ายลูบหัวทั้งสองคนเบาๆเหมือนกับที่ทำกับฮินะ จากนั้นเขาก็ค่อยๆลุกออกจากเตียงโดยพยายามไม่ให้ทั้งสามคนตื่นและเปลี่ยนชุดเป็นชุดนักเรียนแล้วเดินออกจากห้องไป

 

  เมื่อเดินลงมาที่ชั้นล่าง ฮารุมิก็เดินเข้าไปในห้องครัวทันที จากนั้นเขาก็ค่อยๆหยิบวัตถุดิบจำนวนหนึ่งออกมาจากตู้เย็นเพื่อนเตรียมทำอาหารเช้า วัตถุดิบประกอบไปด้วย ไข่ไก่ ไส้กรอก มะเขือเทศ แตงกวาและขนมปัง

 

  ขั้นแรก ตอกไข่ไก่ลงไปทอดในกระทะโดยใช้เนยแทนน้ำมันเพื่อที่จะทำเป็นไข่ดาวและเมื่อมันสุกได้ที่แล้ว ก็นำมันขึ้นจากกระทะแล้วเอามาวางไว้บนจาน ต่อมาก็นำไส้กรอกลงไปทอดในกระทะต่อจากไข่จนสุกได้ที่ จากนั้นก็นำผักและขนมปังที่ปิ้งเสร็จแล้วมาจัดบนจานจนครบสี่ที่

 

        "อาหารเช้าเสร็จแล้วเหรอคะ มาสเตอร์?"

  ระหว่างที่ฮารุมิกำลังนำอาหารมาจัดวางที่โต๊ะ ฮินะ นานะ และเรกิก็เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นพอดี ทั้งสามคนใส่เสื้อนักเรียนเรียบร้อยแล้วยกเว้นหางกับหูที่ยังคงปล่อยเอาไว้อยู่ เมื่อได้ยินเสียงทักจากนานะ ฮารุมิจึงตอบกลับไป

        "เสร็จแล้วล่ะ วันนี้เป็นอาหารเช้าของฝั่งยุโรปนะ"

        "ไม่ว่ามาสเตอร์จะทำอาหารของประเทศไหนก็อร่อยทั้งนั้นแหละ!"

        "อย่าเวอร์ไปหน่อยเลย มันไม่ถึงขนาดนั้นหรอกนะ"

        "ก็มันจริงนี่นา........"

        "อาหารเช้าแบบนี้ใครๆก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ รสชาติก็เหมือนๆกันนั่นแหละ!"

        "ไม่รู้ไม่ชี้ อาหารของมาสเตอร์ยังไงก็อร่อยสำหรับนานะอยู่แล้ว!"

        "เฮ้อ.... เธอเนี้ยน้า.... อะ อะ อะ จะยังก็แล้วแต่รีบๆมานั่งกินข้าวได้แล้ว เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายกันพอดี"

        "ค่าาาาาาาาา"

  เมื่อจบการถกเถียงสุดแสนจะไร้สาระของฮารุมิกับนานะ ทั้งสองคนก็มานั่งที่โต๊ะกินข้าวพร้อมกับฮินะและเรกิ จากนั้นทั้งสี่คนก็เริ่มทานอาหารเช้าอย่างอเล็ดอร่อย

 

********

 

  หลังจากที่กินข้าวเสร็จและเก็บจานทำความสะอาดเสร็จแล้วนั้น ทั้งสี่คนก็เดินออกจากบ้านและเดิินตรงไปยังโรงเรียนพร้อมๆกัน และในระหว่างทางฮินะก็นึกอะไรขึ้นมาได้จึงหันไปถามฮารุมิ....

        "จริงสิมาสเตอร์ วันนี้ห้องของมาสเตอร์จะมีคาบเรียนฝึกสอนการต่อสู้ใช่ไหมคะ?"

        "ก็ตามตารางเรียนอะนะ"

  เมื่อนานะได้ยินสิ่งที่ฮินะกับฮารุมิคุยกัน เธอจึงรีบหันไปหาทั้งสองคนทันทีด้วยความกระวนกระวาย

        "เอ๋! จริงเหรอมาสเตอร์ แบบนี้ก็แย่สิ!"

        "ใช่ค่ะมาสเตอร์แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ วันนี้มาสเตอร์ควรหยุดเรียนจะดีกว่านะคะ?!"

        "พอเลยๆ ทำไมชั้นต้องกลับด้วยล่ะ!"

        "ก็มานาของมาสเตอร์มัน...."

        "ไม่ต้องห่วง ชั้นไม่เป็นอะไรหรอกน่า!"

        "แต่ว่ามาสเตอร์...."

        "เฮ้อ........ บางทีพวกเธอก็เป็นห่วงชั้นเกินไปหน่อยนะ"

        "........"

        "ฟังนะทั้งสองคน ยังไงวิชานี้ก็ต้องมีสอบอยู่แล้ว จะให้ชั้นโดดทุกคาบมันก็ไม่ดีหรอกนะ เพราะมันจะส่งผลไปถึงคะแนนเก็บด้วย!"

        "อย่างน้อยก็ให้พวกหนู........!"

        "ก็บอกว่าไม่เป็นอะไรไง เรื่องแค่นี้ต้องผ่านไปได้อยู่แล้ว ไม่เชื่อมั่นในตัวมาสเตอร์ของพวกเธอเลยรึไงกัน ฮึ?"

        "ค่าาาาาาาา/ค่าาาาาาาา"

        "ดีมาก ต้องอย่างนี้สิ"

  เมื่อสิ้นเสียง ฮารุมิก็ยิ้มส่งกลับไปให้พร้อมกับลูบหัวทั้งสองคนเป็นรางวัลที่ยอมเข้าใจ และเชื่อมันในตัวของเขาแต่ทว่า........

  [มอง................]

  ____ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆแฮะ?

  [มอง................]

  ____เหมือนมีใครกำลังส่งสายตา มาทางนี้ยังไงก็ไม่รู้สิ!

  [มอง................]

        "อะ....!"

  และทันใดนั้นเองฮารุมิก็รู้ในทันทีเลยว่า ความรู้สึกเมื่อกี้นี้มาจากไหน....

  [มอง................]

        "เฮ้อ.... ชั้นไม่ลืมเธอหลอกน่าเรกิ"

  ฮารุมิลืมไปเลยว่าเรกิก็อยู่ด้วยเช่นกัน เขาจึงลูบหัวให้กับเรกิเป็นการไถ่โทษที่เผลอลืมเธอไป

        "ยกโทษให้ก็ได้"

  จากนั้นทั้งสี่คนก็เดินตรงไปโรงเรียนเนบิวด้าตามปกติ

 

********

 

  เมื่อใกล้จะถึงเขตของโรงเรียนเนบิวด้า ทั้งสี่คนก็มาหยุดที่สนามเด็กเล่นซึ่งอยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนมากนัก

        "งั้นมาสเตอร์ พวกหนูขอตัวไปก่อนนะคะ"

        "แล้วเจอกันนะมาสเตอร์"

        "ไปก่อนนะคะ"

        "ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ!"

        "ค่า/ค่า/ค่า"

  ทั้งสามคนขอตัวมุ่งหน้าไปโรงเรียนก่อนและจะทำแบบนี้ทุกๆวัน เพราะถ้าเผลอเดินไปถึงโรงเรียนทั้งสี่ทั้งๆแบบนี้อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นได้ จึงต้องทำแบบนี้เพื่อความปลอดภัย นี่คือข้อตกลงของทั้งสี่คนก่อนที่ฮารุมิจะไปปฐมนิเทศวันแรก แม้ในตอนแรกนานะจะปฏิเสธก็ตามที แต่พออธิบายอย่างละเอียดถึงเหตุและผล สุดท้ายเธอก็ยอมเข้าใจและตอบตกลงตามนั้น

 

  ในระหว่างที่รอเว้นระยะห่างกับช่วงเวลา ยังพอเหลือเวลาอีกมากก่อนที่จะถึงเวลาเข้าเรียน ฮารุมิจึงไปนั่งเล่นที่เก้าอี้ชิงช้าเพื่อเป็นการฆ่าเวลา และทันใดนั้นเอง

        "มานั่งทำอะไรอยู่แถวนี้เหรอฮารุมิคุง?"

  เมื่อได้ยินเสียงทักมาจากทางด้านหลัง ฮารุมิจึงหันกลับไปมองว่าเป็นใคร

        "อ่ะ! อาสึนะ?"

  ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็น ยูกิ อาสึนะ เพื่อนผู้หญิงคนแรกที่ฮารุมิได้เจอตอนวันปฐมนิเทศ

        "อรุณสวัสดิ์"

        "อ..อรุณสวัสดิ์"

        "มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้เหรอฮารุมิคุง?"

        "อ๋อแค่มานั่งพักเล่นๆเฉยๆน่ะ"

        "เหรอ...."

        "........"

        "งั้นเราเดินไปเรียนพร้อมกันดีไหม?"

        "เอาสิ ไม่มีอะไรต้องปฏิเสธซักหน่อย"

  พอพูดจบฮารุมิก็ลุกออกจากเก้าอี้ชิงช้า และเดินออกจากสนามเด็กเล่นแล้วเดินไปโรงเรียนพร้อมกับอาสึนะโดยที่ระหว่างทางก็พูดคุยไปด้วย

        "ว่าแต่เธอเป็นยังไงบ้างล่ะ ห้องบีน่ะ?"

        "ชั้นเหรอ!?ก็ดีนะได้เพื่อนใหม่ๆเพียบเลยล่ะ แล้วทางนายล่ะห้องนั้นเป็นยังไงบ้าง?"

        "โดยรวมก็ถือว่าโอเคนะ ไม่ได้ดูเลวร้ายเหมือนกับชื่อห้องเลย"

        "แต่ชั้นแปลกใจมากเลยนะ ที่นายต้องไปอยู่ห้องเอฟน่ะ"

        "ก็มันช่วยไม่ได้หนิ มานาของชั้นอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ที่ชั้นยังเรียนอยู่ได้แค่นั้นก็เพียงพอแล้วล่ะ"

        "ถ้าฮารุมิคุงพูดแบบนั้นล่ะก็.... แต่ว่าตอนที่ชั้นอยู่ในห้องบีนะ มีแต่คนไม่ชอบห้องเอฟกันทั้งนั้นเลยล่ะ!"

        "ก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหล่นะ ระดับเอฟอยู่ต่ำสุดอยู่แล้ว ไม่แปลกที่ระดับที่สูงกว่าจะไม่ชอบอ่ะนะ"

        "แต่ชั้นไม่ชอบเลยที่เป็นอย่างนั้นน่ะ แค่ระดับสูงกว่าแท้ๆ แต่กลับไปดูถูกระดับที่ต่ำกว่า แบบนี้มันไม่แฟร์เลย!"

        "ยังไงก็ต้องทำใจยอมรับล่ะนะ ปล่อยๆมันไปเถอะ"

        "ก็ชั้นไม่ชอบนี่นา...."

  หลังจากนั้นไม่นานทั้งคู่ก็เดินมาถึงโรงเรียนเนบิวด้าเป็นที่เรียบร้อย.........

 

********

 

  หลังจากที่แยกกับอาสึนะที่ห้องบีแล้วนั้นฮารุมิก็เดินต่อไปที่ห้องเอฟตามปกติ แต่พอไปถึงที่หน้าประตูห้อง........

  [ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมม!]

  ประตูห้องก็กระเด็นออกมาจากผนังพร้อมกับใครบางคนที่ฮารุมิคุ้นหน้าตาดี

        "ไปทำอะไรไม่เข้าท่ามาน่ะ ริสึ?"

  ฮารุมิกำลังก้มมองไปและถามริสึที่เป็นเพื่อนร่วมชั้น ด้วยสีหน้าเอือมละอา และไม่มีทีท่าว่าจะเข้าไปช่วยเลยซักนิดเดียว

        "แค็ก! แค็ก! ก็ยัยอากาเนะน่ะสิ เล่นเตะชั้นลอยมาชนประตูพังอย่างที่นายเห็นนั่นแหละ"

        "แล้วนายไปทำอีท่าไหนมาล่ะ ถึงโดนแบบนี้?"

        "เอ่อ.... เรื่องมันมีอยู่ว่า........"

        "ก็เจ้าบ้าริสึน่ะสิอยากจะสู้กับชั้นใจจะขาด เลยจัดให้ยกนึงยังไงล่ะ!"

  ทันใดนั้นอากาเนะก็เดินออกมาจากในห้อง ซึ่งเธอไม่มีรอยขีดข่วนเลยซักนิดเดียว

        "อย่างงี้นี่เอง"

        "ชิ! ยัยอากาเนะ ชั้นกะจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฮารุมิฟังซักหน่อยโดนขัดซะได้!"

        "ก็ถ้าขืนปล่อยให้นายเล่าล่ะก็ มีหวังยาวแน่ๆ ชั้นอุตส่าห์สรุปย่อให้ นายควรที่จะขอบคุณชั้นนะ คุณนับเบอร์ซิ๊ก!"

        "หน่อยแน่ฝากไว้ก่อนเถอะ คราวหน้าชั้นชนะเธอแน่!"

        "แล้วจะรอให้ถึงวันนั้นล่ะกันนะ"

  เมื่อจบการสนทนาของทั้งสองคน สัญญาณบอกเวลาเริ่มเรียนก็ดังขึ้น อาจารย์ที่พึ่งเดินมาถึงก็บอกให้นักเรียนเข้าไปนั่งประจำที่ในห้อง โดยไม่มีท่าทีสนใจประตูที่พังเลยซักนิดเดียว

 

  หลังจากเรียนได้สองถึงสามคาบในที่สุดก็มาถึงคาบเรียนที่ริสึรอคอย คาบเรียนวิชาฝึกสอนต่อสู้นั่นเอง

  อาจารย์พานักเรียนไปที่สนามฝึกซึ่งอยู่ไม่ห่างจากอาคารเรียนมากนัก จากนั้นก็ปล่อยให้นักเรียนชายและหญิงไปเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อยและเมื่อเสร็จแล้ว ก็ให้มารวมตัวกันที่กลางสนามฝึกตามที่อาจารย์บอก

        "เอาล่ะนักเรียนวันนี้ครูจะมาสอนการต่อสู้ขั้นพื้นฐานให้กับพวกเธอนะ แต่ก่อนที่จะเริ่มเรียน ครูจะให้นักเรียนทุกคนวิ่งรอบสนามนี้ยี่สิบรอบเพื่อเป็นการวอร์มร่างกายนะ"

        "เอ๋!!!!!!!!!!!!!!!!"

        "ไม่ต้องมาเอ๋เลย ถ้าวิ่งแค่นี้ยังทำไม่ได้ อย่าหวังว่าจะรอดในการฝึกซ้อมต่อสู้จริงเลย เอ้า!เริ่มวิ่งได้แล้ว!"

  วิ่งยี่สิบรอบสนามฝึกซึ่งมีขนาดเกือบเท่าสนามบอล เป็นอะไรที่เหนื่อยเอามากๆ แต่ทว่ากลับไม่มีใครหยุดวิ่งเลยซักคนแม้ว่าจะวิ่งมาเกือบแปดรอบแล้วก็ตาม ซึ่งหน้าจะเป็นผลมาจากมานาที่เพิ่มประสิทธิภาพให้กับร่างกายจึงทำให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น แต่ถึงแม้ว่ามันจะเพิ่มแรงกายให้มากขึ้นแล้วซักเพียงใด ขีดจำกัดของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน พอวิ่งผ่านไปได้สิบห้ารอบก็เริ่มมีคนเดินบางส่วนสองถึงสามคน ยิ่งเวลาผ่านไปก็มีคนเดินเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ทนวิ่งจนครบยี่สิบรอบ ซึ่งคนที่วิ่งครบนั้นมี ฮารุมิ ริสึ อากาเนะ และคนอื่นๆอีกเล็กน้อย

        "โครตเหนื่อยเลย! แน่ใจนะว่านี่แค่วอมร่างกายน่ะ?"

  หลังจากที่วิ่งเสร็จแล้วนั้นอาจารย์ก็ปล่อยพักครึ่งชั่วโมง พวกฮารุมิจึงไปนั่งนอนอยู่ขอบสนาม

        "อย่าบ่นน่าริสึ แค่นี้เองไม่ถึงกับตายหรอก"

        "ยุ่งน่าอากาเนะ ชั้นยังไหวอยู่แล้ว"

        "ก็ขอให้เหลือแรงสู้กับชั้นต่อนะ"

        "แน่นอนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ขอนอนพักก่อนละกันนะ"

        "ตามสบายนายเลยย่ะ อะ! ว่าแต่ฮารุมิคุงก็อึดพอตัวเลยนะ ทนวิ่งจนครบยี่สิบรอบเลย ไม่เหนื่อยเหรอ?"

        "ก็เหนื่อยอยู่นะ แต่ปกติชอบวิ่งในวันหยุดอยู่แล้วน่ะ เลยยังพอไหวอยู่"

        "เหรอ เก่งจังเลยนะ"

        "ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก อากาเนะก็เหมือนกัน เป็นผู้หญิงแท้ๆแต่แข็งแรงพอๆกับผู้ชายเลย"

        "ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกนะ พอดีบ้านชั้นเปิดสอนการยิงธนูน่ะ เลยต้องฝึกร่างกายให้มีความอดทนบ้าง"

        "อย่างนี้นี่เอง"

 

  หลังจากนั้นเสียงนกหวีดก็ดังขึ้น เป็นสัญญาณหมดเวลาพัก ทั้งสามคนจึงวิ่งไปรวมกับคนอื่นๆที่กลางสนามเหมือนตอนแรก

        "ต่อจากนี้จะเป็นการจับคู่ฝึกซ้อม แต่เนื่องจากจำนวนนักเรียนไม่สมดุล คนที่ไม่มีคู่ก็ให้ไปจับกลุ่มกับเพื่อนซักหนึ่งกลุ่ม เข้าใจนะ!?"

        "ค่า/ครับ!"

  ดูเหมือนคนอื่นๆจะได้คู่ซ้อมกันหมดแล้ว เหลือแต่ฮารุมิเพียงคนเดียวที่ไม่มีคู่ให้ฝึกซ้อม ริสึและอากาเนะที่จับคู่กันจึงเดินเข้ามาชวน....

        "ฮารุมิคุงมาอยู่กลุ่มพวกเราสิ"

        "ใช่ๆ งานนี้สนุกแน่นอน!"

        "เอาตามนั้นก็แล้วกันนะ"

  ทั้งสามคนหาพื้นที่ที่ยังว่างอยู่และเตรียมที่จะเริ่มฝึก แน่นอนคู่แรกคือ ริสึกับอากาเนะ ทั้งสองคนกะจะซัดกันอยู่แล้วฮารุมิจึงเป็นฝ่ายที่นั่งดูอยู่ข้างๆสนาม

        "พร้อมรึยังอากาเนะ ชั้นจะต้องจัดการเธอให้ได้!"

  ดูเหมือนริสึจะมีไฟขึ้นมาแล้วสิ

        "ถ้าแน่จริงก็เข้ามาเลย คุณนับเบอร์ซิ๊ก"

  ทางอากาเนะก็ไม่แพ้กัน

        "งั้นเอาล่ะนะ สาม.... สอง.... หนึ่ง.... เริ่มได้!"

  เมื่อฮารุมิบอกเริ่ม ทั้งสองคนก็ปล่อยมานาออกมาที่บริเวณมือทำให้เกิดเป็นวงแหวนเวทย์รูปทรงเรขาคณิต สิ่งที่ออกมาจากวงแหวนเวทย์ของริสึคือเบลสรูปร่างเป็นปืนพก ส่วนอากาเนะเป็นคันธนูไม้ที่มีความยาวเท่ากับลำตัวของเธอ จากนั้นทั้งสองก็ตั้งท่าพร้อมสู้

        "เอาล่ะนะอากาเนะ!"

        "เข้ามาเลยริสึ!"

  เมื่อสิ้นเสียงของทั้งสองฝ่าย ริสึก็เริ่มเปิดฉากเป็นคนแรก เขาเหนี่ยวไกปืนออกไปทำให้เกิดเป็นวงแหวนเวทย์ขนาดเล็กที่ปากกระบอกปืนและยิงลำแสงออกไป มันพุ่งเข้าใส่อากาเนะอย่างแม่นยำ แต่เธอก็สามารถหลับมันได้อย่างง่ายดายโดยการเขยิบไปทางขวาเล็กน้อยเพื่อเบี่ยงวิถีกระสุน

        "ชิ! พลาดซะได้!"

        "หึ! ตาชั้นบ้างล่ะนะ!"

  อากาเนะยกคันธนูขึ้นมาและง้างสายธนูจนสุด ทันใดนั้นก็มีลูกธนูเวทย์ปรากฏออกจากความว่างปล่าว มันถูกเล็งไปที่ริสึอย่างแม่นยำและยิงมันออกมาไป แต่ริสึไม่มีท่าทีว่าจะหลบเลยซักนิด แต่เขากลับเล็งปืนใส่ลูกศรที่กำลังพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว และยิงสวนกลับไปจนทำให้เกิดการระเบิดขึ้นระหว่างทั้งสองจนมีควันบดบังทั้งสองเอาไว้ทำให้ฮารุมิมองไม่เห็น

  จากนั้นไม่กี่ชั่วอึดใจทั้งสองก็วิ่งออกมาด้านข้างของกลุ่มควันและยังคงโจมตีใส่กันอยู่สลับไปมา แต่กลับไม่มีฝ่ายไหนโจมตีสำเร็จซักคนเดียว ริสึก็สกัดการโจมตีของอากาเนะได้ ส่วนอากาเนะก็หลบวิถีการยิงของริสึได้ ทั้งสองสู้กันไปเรื่อยๆจนเวลาที่กำหนดเอาไว้เหลืออีกไม่กี่วินาที ทั้งสองจึงคิดจะตัดสินกันในการโจมตีครั้งสุดท้ายนี้

        "เอานี่ไปกินซะอากาเนะ!"

  ริสึเหนี่ยวไกปืนเป็นครั้งสุดท้ายแต่คราวนี้เขากดค้างเอาไว้ ทำให้กระสุนเวทย์ยังไม่ถูกยิงออกไปแต่กลับสะสมอนุมานาที่ส่งมาจากผู้ใช้และค่อยๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว และเมื่อมันได้ปริมาณที่ริสึต้องการแล้วนั้น เขาก็ตะโกนออกมา....

        "จงทะลวงเข้าไป แม๊กซิมั่มแคนน่อน!"

  ทันทีหลังจากนั้นเขาก็ปล่อยไกปืน ถึงมันจะดูเหมือนกดค้างไว้นานแต่จริงๆแล้วเวลาพึ่งผ่านไปแค่ไม่กี่วิเอง เมื่อริสึปล่อยไกปืนจึงทำให้อนุมานาที่สะสมเอาไว้พุ่งออกไปเป็นลำแสงขนาดใหญ่และดูทรงพลังตรงเข้าหาอากาเนะ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นท่าไม้ตายของริสึ

  แต่อากาเนะกลับไม่เกรงกลัวต่อการโจมตีของริสึเลยซักนิดเดียว ทันทีที่ลำแสงเวทย์ขนาดใหญ่ตรงเข้ามาหา เธอก็เตรียมตั้งรับโดยใช้ธนูสร้างโล่เวทย์รูปทรงเรขาคณิตออกด้านหน้า และในไม่ชั่วกี่อึดใจลำแสงขนาดใหญ่ของริสึก็ปะทะเข้ากับโล่เวทย์ของอากาเนะ ทันทีที่มันกระทบกันก็เกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วและเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง

        "เป็นไงล่ะอากาเนะ นี่แหละท่าไม้ตายที่เตรียมเอาไว้ใช้กับเธอโดยเฉพาะ!"

  ดูเผินๆแล้วริสึอาจจะเป็นฝ่ายชนะแล้วก็เป็นได้ แต่ทว่า....

        "มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ!"

  มันกลับไม่ใช่แบบนั้น ท้ามกลางกลุ่มควันขนาดใหญ่อากาเนะยังคงยืนอยู่ตรงนั้นแถมโล่ก็ยังไม่พังอีกด้วย

        "ด...ได้ยังไงกัน!?"

  ริสึถึงกับอึ้งกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า

        "ดูถูกชั้นมากเกินไปแล้วนะ แบบนี้ต้องสั้งสอนซักหน่อยแล้วสิ!"

  อากาเนะสร้างวงแหวนเวทย์รูปทรงเรขาคณิตอีกจำนวนมากให้ปรากฎออกมารอบๆโล่เวทย์ และเริ่มสะสมอนุมานาให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงโล่เวทย์ก็สะสมอนุมานาเช่นกันแต่ขนาดของมันใหญ่กว่าอันอื่นมาก

        "แบบนี้มันอย่าบอกนะว่า!?"

        "รู้ไหมริสึนี่น่ะมันไม่ใช่โล่เวทย์หรอกนะ แต่มันเป็นวงแหวนเวทย์ที่จะค่อยๆสะสมอนูมานาเป็นจำนวนมากเพื่อเตรียมที่จะยิงออกไป และสามารถดูดซับอนูมานาจากรอบได้อีกด้วย แต่มันก็ต้องใช้เวลามากพอสมควรอะนะ!"

        "งั้นที่ชั้นโจมตีไปเมื่อกี้ก็...."

        "ใช่! ต้องขอบคุณนายมากเลยนะที่ช่วยเร่งให้มันเร็วขึ้นถึงขนาดนี้น่ะ!"

        "อะไรกัน!"

  ริสึถึงกลับคุกเข่า เพราะตอนนี้เขาไม่เหลือมานาที่จะสู้ต่อแล้ว

        "งั้นก็ขอคืนให้ละกันนะ! จงทำลายให้สิ้น ศรแห่งความพินาศ แอโรบัสเตอร์!"

  ทันทีที่สิ้นเสียงและอากาเนะปล่อยมืออกจากสายคันธนู ลำแสงเวทย์จำนวนสี่เส้นกับลำแสงอนุมานาขนาดใหญ่อีกหนึ่ง ทั้งหมดตรงเข้าหาริสึที่ไร้การป้องกัน

  [ตู้มมมมมมมมมมมมมมมม!]

  ผลที่ได้คือ ริสึหมดสภาพไม่สามารถสู้ต่อได้แถมเวลาก็หมดแล้วด้วย คนที่ชนะคืออากาเนะ!

 

  แต่ก็อย่างที่รู้กันมันแค่การฝึกซ้อม ริสึจึงไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนักอย่างมากก็แค่แผลถลอกเท่านั้น จึงทำให้ฉากต่อสู้เมื่อกี้เหมือนเป็นแค่ภาพลวงตากันเลยทีเดียว ถึงมันจะทิ้งร่องลอยเอาไว้จำนวนมากจนแทบเดาไม่ออกเลยว่าของจริงหรือของปลอมก็ตามที

แต่เนื่องด้วยหมดเวลาเรียนแล้วฮารุมิจึงรอดตัวไปไม่ต้องฝึก จากนั้นอาจารย์ก็เรียกรวมอีกครั้งพร้อมฟังคำชี้แจงถึงครั้งต่อไปว่าต้องทำอะไรบ้าง และปล่อยนักเรียนกลับบ้าน

 

********

 

        "งั้นชั้นไปก่อนนะฮารุมิคุง"

        "เจอกันพรุ่งนี้นะเพื่อน!"

  หลังจากที่ฮารุมิแยกกับริสึและอาคาเนะที่หน้าโรงเรียนแล้วนั้น เขาก็เดินตรงกลับบ้านตามปกติ แต่พอเดินผ่านไปได้ซักระยะ....

        "ฮารุมิคุงงงงง!"

        "!?"

  ก็มีเสียงหญิงสาวตะโกนเรียกฮารุมิจากทางด้านหลัง เขาจึงหันกลับไปและเจอกับคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี หญิงสาวผู้มีเส้นผมสีเหลืองทองที่ปล่อยยาวเป็นธรรมชาติจนถึงกลางหลังกับดวงตาสีฟ้าใส

        "อาสึนะ!?"

        "สวัสดีตอนบ่ายจ้า!"

        "ฮะ!?"

  ____นั่นคือการทักทายแบบใหม่ใช่ไหม?

        "ดูเหมือนทางกลับบ้านจะเป็นทางเดียวกันนะ ฮารุมิคุง"

  ____หล่อนไม่คิดจะอธิบายเรื่องเมื่อกี้หน่อยเหรอ?

        "ฮารุมิคุง?"

        "อะ! คงงั้นมั้ง?"

        "หือ........"

        "วะ.... ว่าแต่บ้านอาสึนะอยู่แถวไหนเหรอ?"

        "ก็ไม่ไกลมากหรอกนะ"

        "เหรอ"

        "เป็นไงมั้ง? วันนี้ที่ห้องของนายมีเรียนวิชาฝึกการต่อสู้ด้วยหนิ"

        "อ๋อ ชั้นไม่ได้ทำอะไรมากหรอกนะ แค่เป็นคนดูน่ะ"

        "ไม่มีคู่ซ้อมเหรอ?"

        "จำนวนนักเรียนมันไม่สมดุลน่ะ ชั้นเลยเป็นเศษที่เหลือ"

        "แล้ววันนี้นายทำอะไรบ้างล่ะ?"

        "เป็นกรรมการให้กับเพื่อนน่ะ"

        "งั้นหรอกเหรอ.... อะ!"

        "มีอะไรเหรออาสึนะ?"

        "ชั้นต้องไปทางนี้น่ะ"

  ทั้งสองคนเดินมาถึงทางแยกสองทาง ดูเหมือนว่าบ้านของอาสึนะจะต้องเลี้ยวขวาตรงนี้ ส่วนของฮารุมิจะต้องไปทางซ้าย

        "งั้นก็แยกกันตรงนี้เลยนะ"

        "อื้อ งั้นไว้เจอกันพรุ่งนี้นะฮารุมิคุง"

        "อื้อ แล้วเจอกัน"

 

  เมื่อลากันเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น อาสึนะก็เดินเลี้ยวขวาและเดินตรงไปจนลับสายตาของฮารุมิ ส่วนเจ้าตัวก็เลี้ยวซ้ายและเดินตรงกลับบ้านเช่นกัน เขาเดินตรงไปอีกซักพักก็จะเจอกับร้านสะดวกซื้อ เลยไปอีกนิดหน่อยผ่านซอยแยกอีกสองถึงสามซอยก็จะถึงบ้านของฮารุมิ รวมเวลาที่ใช้ทั้งหมดตั้งแต่หน้าโรงเรียนถึงบ้านก็ประมาณสิบห้าถึงยี่สิบนาที ฮารุมิเดินเข้าไปในบ้านจากนั้นก็เปิดประตู....

        "กลับมาแล้ว"

        "อะ! ยินดีต้อนรับกลับค่ะมาสเตอร์"

  คนที่เดินออกมารับนั้นคือนานะซึ่งเธอกำลังใส่ผ้ากันเปื้อนทับชุดนักเรียนเอาไว้อยู่ สงสัยกำลังทำอาหารเย็นอยู่แน่นอน

        "วันนี้เวรทำอาหารของนานะสินะ แล้วอีกสองคนล่ะ?"

        "ฮินะนั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่นน่ะค่ะ ส่วนเรกิคงกำลังอ่านหนังสืออยู่ที่ห้อง"

        "งั้นเหรอ แล้ววันนี้มีอะไรกินล่ะ"

        "วันนี้มีปลาซาบะย่างซีอิ้วกับน้ำซุปมิโซะค่ะ"

        "โอเค งั้นเข้าไปข้างในกันเถอะ"

  ฮารุมิเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นและวางกระเป๋าลงที่ข้างๆเก้าอี้และนั่งลงบนโซฟานุ่มๆ ส่วนนานะก็เดินเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหารต่อ โดยระหว่างทึ่รออาหารเย็นฮารุมิก็นั่งดูทีวีไปพรางกับฮินะ แต่พอดูไปได้ซักพัก........

        "เอ่อ.... ฮินะ ไม่ทราบว่ากำลังดูอะไรอยู่น่ะ?"

        "การ์ตูนค่ะ!"

        "ก็รู้อยู่หรอกนะว่านี่คือการ์ตูน แต่ทำไมถึงดูไอเนี่ยล่ะ?"

        "ก็หนูอยากดู การผจญภัยของราชาแอปเปิลกับผองเพื่อนนี่คะ!"

        "แต่ว่า........"

        "งื้ออออ!!!!"

        "!!!!"

  ฮินะหันมาจ่องด้วยสายตาอ้อนวอนอย่างงอแง ว่าไม่อยากให้เปลี่ยนช่อง ฮารุมิปฏิเสธเธอไม่ได้เลยจริงๆเวลาที่เจอเรื่องแบบนี้ ถ้าทำผิดใจเธอขึ้นมาก็จะทำหน้าแบบนั้นตลอดจนเขาต้องยอมจำนนให้กับ การผจญภัยของราชาแอปเปิลกับผองเพื่อน กันเลยทีเดียว

  ใช่แล้ว ฮินะ นักเรียนปีที่สองและเป็นหนึ่งในสิบอันดับแรงค์เอส เป็นหนึ่งในดาวของโรงเรียนที่ใครๆก็ชื่นชอบ และเป็นเคลเบรอสหัวที่หนึ่ง เธอเป็นคนที่ชอบการ์ตูนเด็กมากจนถึงมากที่สุด! และสาเหตุที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล ตัวฮารุมินั่นเองที่ทำให้เธอติดการ์ตูน

  ____รู้อย่างนี้ ไม่หน้าให้ดูเลยจริงๆ อยากย้อนเวลากลับไปเมื่อก่อนจังแฮะ

        "จ้าๆ ตามสบายเลยฮินะ"

        "ฮึ!"

  เมื่อพูดจบเธอก็หันหน้าไปดูทีวีต่อที่ซึ่งตอนนี้กำลังฉายเรื่อง การผจญภัยของราชาแอปเปิลกับผองเพื่อนตอนใหม่อยู่พอดี ฮารุมิไม่มีทางเลือกจึงต้องนั่งดูกับฮินะจนจบตอน และก็ถึงเวลาอาหารเย็นพอดิบพอดี

        "มาสเตอร์ ช่วยไปตามเรกิให้หน่อยสิคะ ว่าตอนนี้ถึงเวลากินข้าวแล้ว"

        "โอเค! ได้เลย!"

  เมื่อสิ้นเสียงฮารุมิก็เดินขึ้นไปที่ชั้นสอง และเดินไปที่หน้าห้องของเรกิที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องนอนของตัวเอง ที่ด้านหน้าประตูเขียนเอาไว้ว่า 'ห้องของเรกิ' จากนั้นเขาก็ค่อยๆเคาะประตูสองครั้ง

  [ก๊อก ก๊อก]

        "เรกิ อาหารเย็นเสร็จแล้วนะ ออกมากินข้าวได้แล้ว!"

        "........"

        "นี่ตื่นอยู่รึปล่าวเรกิ?"

        "........"

  ไม่มีการตอบรับจากอีกฝ่าย ฮารุมิจึงค่อยๆเปิดประตูเข้าไป

        "ขออนุญาตนะ"

  ห้องของเรกิก็เหมือนห้องของเด็กผู้หญิงทั่วๆไปแต่อาจจะดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากอยู่ซักหน่อย โดยเด่นๆก็คงเป็นตุ๊กตาหมาป่าตัวใหญ่ที่วางอยู่บนเตียงของเธอโดยที่ยังไม่ได้นับรวมตุ๊กตาตัวเล็กๆอีกจำนวนหนึ่งที่วางอยู่รอบๆตุ๊กตาหมาป่าตัวใหญ่ และพอฮารุมิหันสายตาไปที่โต๊ะเรียนก็ทำให้รู้เลยว่า ทำไมเรียกเท่าไหล่ก็ไม่มีการตอบกลับ

        "เรกิ เธอเนี่ยน้า...."

  เรกิที่กำลังหลับอย่างสบายตรงโต๊ะเรียนโดยที่เธอสวมหูฟังครอบหัวเอาไว้และเปิดเพลงทิ้งเอาไว้นั้น จึงทำให้เธอไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูและเสียงเรียกจากด้านนอก บนโต๊ะของเธอมีหนังสือเรียนที่เปิดทิ้งเอาไว้อยู่ เนื้อหาเกี่ยวกับการควบคุมปริมาณมานาให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม

        "เรียนหนักมากๆก็ไม่ดีนะเรกิ...."

  ฮารุมิปิดเพลงและค่อยๆถอดหูฟังออกจากหัวของเรกิจากนั้นก็ปลุกเธอให้ตื่น

        "เรกิตื่นได้แล้ว อาหารเย็นเสร็จแล้วนะ"

        "อือ........"

  พอได้ยินเสียงฮารุมิพูด เรกิก็ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ แต่ดูแล้วเธอยังไม่ค่อยตื่นเต็มที่มากนัก จึงยังคงสะลึมสะลืออยู่เล็กน้อย

        "ม....มาสเตอร์เหรอคะ? ก....กลับมาตั้งแต่เมื่อไหล่?"

        "ก็นานพอจนดูการผจญภัยของราชาแอปเปิลกับผองเพื่อนจบไปตอนนึงกับฮินะอ่ะนะ"

        "เหรอคะ.... จำไม่ได้เลยว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหล่...."

        "ตั้งใจเรียนก็ดีอยู่หรอก แต่อย่าฝืนให้มันมากนักล่ะเข้าใจไหม?"

        "เข้าใจแล้วค่ะมาสเตอร์...."

        "งั้นลงไปข้างล่างกันเถอะ นานะทำอาหารเย็นเสร็จแล้วล่ะ"

        "ค่ะมาสเตอร์"

  เมื่อพูดเสร็จฮารุมิกับเรกิก็เดินออกจากห้องและลงไปที่ชั้นล่างเพื่อไปทานอาหารเย็นกับนานะและฮินะ ที่กำลังนั่งรอทั้งสองกันอยู่ที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว

 

********

 

  ในระหว่างที่กำลังกินข้าวกันอยู่ ฮินะก็หันไปหาฮารุมิที่นั่งอยู่ข้างๆและพูดขึ้นมาว่า....

        "ว่าแต่มาสเตอร์ วิชาฝึกสอนการต่อสู้วันนี้เป็นยังไงบ้างคะ?"

        "อ๋อ! วันนี้ชั้นไม่ได้ทำอะไรหรอกนะ เป็นแค่คนดูเท่านั้นแหละ"

        "ทำไมล่ะคะ?"

        "คู่ซ้อมไม่พอน่ะสิ เลยไม่มีคู่ให้ฝึก"

        "แล้วจะทำยังไงเหรอมาสเตอร์? พรุ่งนี้ก็มีเรียนคาบบ่ายเหมือนกันหนิคะ?"

        "ก็คงไปคู่กับเพื่อนร่วมห้องที่สนิทกันน่ะ วันนี้เธอก็ประมือกับเพื่อนอีกคนไปแล้ว พรุ่งนี้คงเป็นตาชั้นแล้วล่ะ"

        "งั้นเหรอ.... อย่างนี้นี่เอง....ว่าแต่มาสเตอร์"

        "หือ!?"

        "เพื่อนคนที่ว่าน่ะ.... ชายหรือหญิงกันคะ?"

        "ฮะ!?"

  จู่ๆบรรยากาศก็เปลี่ยนไป สายตาของทั้งสามคนหันมามองที่ฮารุมิพร้อมกับแผ่รังสีด้านลบออกมาจนสามารถมองเห็นด้วยตาปล่าว

        "เพื่อนชั้นจะเป็นชายหรือหญิงก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเธอหนิ ถามกันทำไมเนี้ย?"

        "ก็เมื่อกี้มาสเตอร์พูดว่า 'เธอ' นี่คะ?"

        "อะ!...."

  ____งานเข้าแล้วสิ! มันก็จริงที่อากาเนะเป็นผู้หญิง แต่ริสึเป็นผู้ชายนะเห้ย!

  ____แต่พอขึ้นชื่อว่า'ผู้หญิง'ล่ะก็.... ศพไม่สวยแน่ๆ!"

  ____เมื่อมันมาถึงขั้นนี้แล้วล่ะก็........

        "ก็เพื่อนของชั้นมีทั้งชายและหญิง มันก็ไม่แปลกหนิที่จะเพื่อนหญิงซักคนสองคน...."

        "เห๋........ มีหญิงอื่นนอกจากพวกหนูสามคนอีกเหรอคะ.... มาสเตอร์!........"

  ____ขุดหลุดฝังศพตัวเองชัดๆ!

  สายตาของทั้งสามคนยิ่งแผ่รังสีด้านลบออกมามากขึ้นเป็นทวีคูณ จนฮารุมิแทบจะสัมผัสได้ด้วยกายเนื้อ

        "เอ่อ.... ฮินะ.... นานะ.... เรกิครับ........"

  [พรึบ!]

  ทันใดนั้น ทั้งสามคนก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมๆกัน ทำให้ฮารุมิต้องหนีไปตั้งหลักที่มุมของห้อง แต่ทว่านั้นเป็นการเร่งให้ตัวเองลงหลุมศพเร็วขึ้นมากกว่าเดิม จากนั้นสามสาวก็เดินมาล้อมฮารุมิเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน

        "อย่างนี้ต้องลงโทษซักหน่อยแล้วสิ!"

        "อย่างนี้ต้องลงโทษซักหน่อยแล้วสิ!"

        "อย่างนี้ต้องลงโทษซักหน่อยแล้วสิ!"

        "พวกเธอคิดจะทำอะไร!........ม....ม้ายยยย!"

  และทันใดนั้นเองที่ทำให้ฮารุมิรู้ว่า ปีศาจมันหน้ากลัวกว่าที่เขาคิดมากยิ่งนัก!

 

********

 

        "อะแฮ่มๆ! ว่าแต่ทำไมถึงถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะฮินะ?"

  หลังจากกลับสู่สภาวะปกติ ฮารุมิจึงถามเหตุผลกับฮินะว่า ทำไมถึงถามเกี่ยวกับคาบวิชาฝึกสอนการต่อสู้ด้วย

        "พอดีว่า.... พวกหนูจะมอบสิ่งนี้ให้มาสเตอร์พกติดตัวไปด้วยน่ะค่ะ"

        "หือ?"

  ฮินะลุกจากเก้าอี้และเดินไปที่มุมของห้องและเดินกลับมาหาฮารุมิพร้อมหยิบของชิ้นหนึ่งออกมา

        "นี่มัน!?"

  สิ่งที่ฮินะหยิบออกมาคือ เบลสที่มีรูปร่างเป็นดาบคาตานะสีเงิน ฮารุมิมองมันเพียงแค่แวปเดียวเท่านั้นก็รู้ได้ทันทีเลยว่า สิ่งที่ฮินะเอามาให้นั้นคืออะไร ก่อนที่จะพูดออกไปว่า....

        " 'ซิลเวอร์เบลส' สินะ!?"

        "ค่ะ!"

        "แต่ชัั้นจำได้ว่า ชั้นไม่ได้ขอให้เธอไปนำมันมาให้หนิฮินะ?"

        "เผื่อไว้ก่อนน่ะค่ะ เลยเตรียมเอาไว้นานแล้ว"

        "ตั้งแต่เมื่อไหล่?"

        "เมื่อ.... สองสัปดาห์ก่อน ก่อนที่มาสเตอร์จะเข้าปฐมนิเทศน่ะค่ะ"

        "เฮ้อ.... ให้ตายสิ! ชอบทำอะไรตามใจอยู่เรื่อยเลยนะ!"

        "........"

  หูและหางสุนัขของฮินะตกลงเล็กน้อยดูไม่มีชีวิตชีวา ดูเหมือนฮารุมิจะพูดแรงเกินไปหน่อย เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาจึงรีบพูดแก้ตัวว่า

        "แต่ไหนๆก็เอามาแล้ว จะรับเอาไว้ก็แล้วกัน ขอบใจนะฮินะ!"

        "ค.... ค่ะ! ถ้าเพื่อมาสเตอร์แล้วล่ะก็...."

  หูสุนัขของฮินะกลับมาตั้งอีกครั้งพร้อมกับหางที่ขยับไปมาด้วยความดีใจ

  ฮารุมิรับเบลสสีเงินจากฮินะ จากนั้นเขาก็ชักดาบออกมาจากฝัก โดยที่ตัวดาบและส่วนอื่นๆนั้นแทบจะเป็นสีเงินทั้งหมด ยกเว้นเพียงแค่ด้ามจับเท่านั้นที่เป็นสีดำ และที่บริเวณตัวดาบนั้นก็มีออร่าของมานาแผ่ออกมาเล็กน้อย

  เมื่อดูเสร็จ ฮารุมิก็เก็บมันเข้าฝักให้เรียบร้อยเหมือนเดิม จากนั้นเขาก็เริ่มร่ายเวทย์ใส่ที่ตัวของดาบทำให้มีวงแหวนรูปทรงเรขาคณิตหลายวงปรากฏออกมา ต่อมาตัวดาบก็ค่อยๆกลายเป็นอนุมานาอย่างช้าๆและค่อยๆจางหายไปจนหมดสิ้น

 

  จากนั้นฮารุมิก็หันไปพูดกับคนที่เหลือ........

        "เอาล่ะรีบเก็บจานทำความสะอาดและไปดูทีวีกันดีกว่านะ!"

        "นั่นสิคะ!"

        "งั้นก็รีบทำกันเถอะ!"

        "แต่ก่อนหน้านั้นนะคะ มาสเตอร์"

        "หือ?"

        "คิดจะอยู่ในสภาพนั้นอีกนานไหมคะ?"

        "เอ่อ........"

  ตอนนี้ฮารุมิกำลังใส่ชุดเมดหน้ารักๆสีน้ำเงิน พร้อมหูแมวและหางแมวสีดำที่ทำให้ดูหน้ารักยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม ง่ายๆคือ 'คุณเมดแมวเหมียว' นั่นเอง

        "แล้วมันเพราะใครกันเล่าที่ทำให้ต้องมาอยู่ในสภาพเนี้ย!?"

        "ก็มาสเตอร์ทำตัวเองนะ พวกหนูไม่เกี่ยว"

  สิ่งที่ฮารุมิโดนทำโทษก็คือ โดนทั้งสามคนจัดแต่งคอวเพลย์อย่างกับหุ่นรองเสื้อ จนสุดท้ายก็ต้องมาอยู่ในสภาพ 'คุณเมดแมวเหมียว' อย่างที่เห็น

 

  หลังจากที่ทำความสะอาดเสร็จแล้ว ฮารุมิเดินขึ้นไปชั้นสองเพื่อที่จะกลับห้องของตัวเองและเปลี่ยนชุดให้กลับมาเป็นปกติ แต่ในระหว่างที่กำลังเปลี่ยนเสื้ออยู่ สายตาของฮารุมิก็เหลือบไปเห็นกล่องใบหนึ่งที่วางหลบอยู่ข้างๆตู้เสื้อผ้าของเขา

  กล่องใบนั้นมีลวดลายที่สวยงาม ดูมีราคามากจนไม่เหมาะที่จะนำไปวางหลบในที่แคบๆแบบนั้น

  ฮารุมิค่อยหยิบมันออกมาตรงนั้น กล่องที่หยิบออกมามีขนาดใหญ่พอสมควรโดยเฉพาะความยาวของมัน จึงไม่แปลกที่มันจะสามารถเอาไปวางหลบข้างตู้เสื้อผ้าที่มีพื้นที่แคบได้

  ฮารุมิค่อยๆเปิดกล่องออกมาอย่างช้า แต่บนตัวกล่องมีฝุ่นเยอะอยู่พอสมควรจึงต้องเปิดอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ฝุ่นมันกระจาย และเมื่อเปิดออกมาแล้วสิ่งที่อยู่ภายในกล่องนี้คือ....เบลสรูปทรงดาบคาตานะอีกหนึ่งเล่มแต่ทว่าเบลสอันนี้นั้นถูกผนึกเอาไว้อยู่ จึงมีผ้าสีขาวพันเอาไว้ทั้งเล่มจนมองไม่เห็นภายใน และโดยไม่รีรอฮารุมิปิดกล่องและวางมันกลับไปที่เดิมอย่างรวดเร็ว และไม่หันไปมองมันอีก

  ____ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มัน........

  ฮารุมิรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เร็วขึ้น พอเสร็จเขาก็เปิดประตูออกจากห้องไปลงไปที่ชั้นล่างอย่างรวดเร็ว และทำเหมือนว่าเมื่อกี้นี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยที่เหล่าสามสาวที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่นั้น ก็ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นกัน

 

 

 

********

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา