4 Love ยัยหน้าใสป่วนหัวใจนายสามคน

-

เขียนโดย PimZPank

วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 14.18 น.

  2 chapter
  0 วิจารณ์
  4,623 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 16.45 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ข้าวต้ม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

+2+

ข้าวต้ม

 

                09:15 น.

                เช้าวันสดใส แสงแดดยามรุ่งอรุณ ช่างงดงามเหลือเกิน..ก็ว่าไปนั่น มันเป็นเช้าที่ห่วยบรมเลยต่างหาก รู้ไหมทำไม เมื่อคืนฉันแทบไม่ได้นอนเลย ทำไมน่ะเหรอ เพราะฉันคิดถึงหน้าไอบ้าพี่วินนั่นทั้งคืนเลย โอแม่เจ้า ฉันเป็นแบบนี้ทุกคืนเลยรู้เปล่า ฉันเหมือนคนเป็นบ้า ให้ตายเถอะ แล้วนี่ฉันมานั่งเวิ่นเว้ออะไรบนเตียงตั้งแต่เช้าวะเนี่ย  ขอโทษเถอะที่บ่นมากไป ฉันรู้ตัวว่าฉันสติไม่ค่อยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

                ก๊อก ก๊อก

                เฮือก!! หัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม ใครมันเคาะประตูห้องฉันในตอนเงียบๆแบบนี้ด้วยฟะ คนยิ่งขวัญอ่อนอยู่ ถ้าเปิดประตูไปไม่ใช่เรื่องสำคัญนะ แม่จะด่ายันลูกยันหลานเลย

                ปังๆๆ!

                จากเสียงเคาะก็กลายเป็นเสียงทุบแทน เออ ประตูห้องฉันพังกันพอดี ฉันลุกขึ้น เดินสะลึมสะลือไปเปิดประตู ปรากฏเป็นไอคนที่ทำให้ฉันแทบไม่ได้นอนทังคืน ให้ตายสิ นี่ฉันลืมได้ไงว่าตัวเองเอาผู้ชายมานอนในบ้านเนี่ย แล้วฉันเกือบเผลอไปด่าลูกหลานตัวเองแล้วนะเนี่ย ก็พ่อของลูกฉันอยู่ตรงนี้นี่ (ทำไมฉันรู้สึกว่าตัวเองแก่แดดวะ)

                “มีอะไร” ฉันถามพร้อมขยี้ตาเบาๆ รู้สึกง่วงตะหงิดๆแฮะ  ร่างสูงแทรกตัวเข้ามาจากช่องว่างระหว่างประตูกับฉัน ทำให้เราใกล้กัน..มากเกินไป กลิ่นของเขาลอยมาเตะจมูกของฉันทันทีที่เขาเข้าใกล้ บ้าชิบ เขาทำให้ฉันเป็นยัยผู้หญิงโรคจิตไปแล้ว

                “หิวอะ” เขาตอบสั้นๆก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงของฉัน จะอ่อยฉันรึไงวะ คนยิ่งชอบคิดไปเองอยู่

                “ไปหากินเองสิ” ฉันบอก พร้อมยืนกอดอกพิงประตูมองเขา

                “หาให้กินหน่อย เธอก็รู้ว่าฉันถูกตามล่าอยู่” เขาบอกพร้อมส่งสายตาที่ทำให้ใจฉันละลายไปกองกับพื้น จะอ้อนทำซากอะไรวะ ไม่รู้รึไงว่าคนเขาหลงตัวเองขนาดไหน

                “งั้นก็ไปด้วยกัน” ฉันขยี้หัวตัวเองให้มันยุ่งกว่าเดิม แล้วเดินไปเปิดลิ้นชักแล้วหยิบมีดพกในนั้นออกมาก่อนที่จะเสียบไว้ในกางเกงด้านหลัง

                “เฮ้ๆ เอามันไปทำไม” พี่วินท้วงขึ้น แล้วจับมือฉันที่กำลังเก็บมีดนั่นไว้ก่อน

                “เอาไว้ป้องกันตัวไง” ฉันบอกก่อนจะบิดข้อมือออกจากพันธนาการของเขา ให้ตายสิ คนอะไรมือหนักชะมัด ข้อมือฉันมันเริ่มแดงไปหมดแล้ว

                “ไม่ต้องหรอกน่า” เขาว่าพร้อมใช้แรงที่เหนือกว่าเอามีดในมือฉันไป แล้วฉันก็ดันยอมให้ง่ายๆอีกไง

                “ทำไม” ฉันถามก่อนจะเงยหน้าสบตาเขา นั่นทำให้ฉันต้องหน้าเห่อร้อนขึ้นมาทันที ก็อีตาบ้านี่เขาดันมองแบบว่าจะกินฉันยังไงยังงั้นแหละ

                “ฉันปกป้องเธอได้น่า” เขาตอบก่อนจะยื่นมือหนาๆนั่นมายีหัวฉันเล่น ตอนนี้หัวฉันเป็นรังนกไปแล้วแหละ แล้วฟังคำพูดของเขาสิ เขาบอกจะปกป้องฉันแหละ คำพูดแบบนั้นทำให้ฉันใจละลายเลยนะนั่น  ทำไมขี้โกงจังวะ ทำไมให้คนเขาชอบแล้วให้ความหวังแบบนี้มันโคตรขี้โกงเลยจริงๆ

                “งั้นก็ไปเองสิ” ฉันนั่งลงบนเตียงข้างๆเขา แล้วผลักไอผู้ชายร่างยักษ์นี่ลงจากเตียงของฉัน และแน่นอนฉันตัวเล็กกว่าแล้วแรงฉันก็น้อยกว่า มาก ทำให้ร่างนั่นไม่ขยับเลยซักนิด นี่ขนาดฉันใช้แรงทั้งหมดที่มีแล้วนะเนี่ย

                “อยากลองดีใช่ไหม” เขาหันมาถามขณะที่ปล่อยให้ฉันดันร่างเขาออกมานาน ฉันหยุดมือแล้วมองเขางงๆ พี่วินขยับเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น ซึ่งฉันไม่ปล่อยให้เขาเข้ามาถึงตัวฉันแน่ ฉันใช้มือที่มือแรงเท่าแรงมดมาดันเขาออกพลางขยับหนีเขา มือทั้งสองข้างของเขากันฉันไว้ไม่ให้หนีไปไหน หน้าขาวๆนั่นค่อยๆโน้มเข้ามาใกล้หน้าฉัน

                “จะทำบ้าอะไร” ฉันฝืนมองหน้าเขา ทำตัวเข้มแข็งทั้งที่ใจเต้นแรงเป็นจังหวะร็อกเมเทิล ไอบ้านี่มันจะทำตัวให้ฉันหลงไปถึงไหนวะ

                “แค่อยากแกล้งเด็ก” เขาพูดเพียงแค่นั้น และไม่ปล่อยให้ฉันได้พูดตอบ พี่วินก็กดริมฝีปากหนานั่นลงมาบนริมฝีฉันอย่างหนักแน่น มันเป็นจูบที่รุนแรงและร้อนแรง มันทำให้ฉันที่ไม่ประสาอะไรต้องเคลิ้ม หัวสมองขาวโพลน ความสามารถในการประมวลผลของสมองเริ่มถดถอย พี่วินผละออกอย่างอ้อยอิ่ง ฉันกลืนน้ำลายลงคออยากยากลำบาก ตอนนี้ฉันนอนขนาบกับเตียง แล้วพี่วินก็คร่อมฉันอยู่ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

                “ปากเธอมันหวานจัง” พี่วินโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูฉัน ทำให้ขนฉันลุกซู่ มือหนาลูบแขนฉันขึ้นลงไปมาเบาๆ หน้าหล่อๆนั่นกำลังซุกอยู่ที่คอฉัน ฉันรู้สึกว่ามีลมอุ่นๆรดอยู่แถวต้นคอฉันแล้วมันก็เริ่มเลื่อนไปอยู่แถวๆเนินอกของฉัน

                เดี๋ยวนะ!! เนินอกเหรอ! ฉันก้มลงมองอกของฉันปรากฏว่าไอพี่วินถอดเสื้อฉันออกตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แล้วตอนนี้เขากำลังจะจูบอกฉัน

                “เดี๋ยว!!“ ฉันผลัก..ไม่สิ ฉันถีบเขาออก ใช่ ถีบท้องน้อยของเขา แรงด้วย ทำให้เขาต้องไปนอนจุกกับพื้นห้อง ฉันคว้าผ้าห่มมาคุมตัวตัวเองไว้

                “ออกไป..” ฉันพูดเสียงสั่นเมื่อเขาลุกขึ้นมา ฉันกลัวเขา ตอนนี้พี่วินก็ไม่ได้ใส่เสื้อด้วยเหมือนกัน นี่ เขาจะทำบ้าอะไรเนี่ย ขนาดฉันไล่เขา เขายังขยับเข้ามาใกล้ฉันอีกแหน่ะ ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันทำหน้ายังไง แต่เขามองฉันด้วยสายตาที่อ่อนโยน ไม่สิ สงสารมากกว่า

                “ไม่ต้องกลัวไม่ทำแล้ว” เขาโอบกอดฉัน ส่งความอบอุ่นนั่นมาหาฉัน ฉันสั่นอยู่ในอ้อมกอดของเขา ไม่นานเขาก็ผละออกเบาๆ

                “รออยู่นี่ละกัน เดี๋ยวฉันไปหาอะไรให้กินเอง” เขาบอกแล้วลูบหัวฉันเบาๆ ก่อนที่จะเดินออกไป ฉันหยิบเสื้อที่กองอยู่กับพื้นมาใส่ ฉันคิดว่าฉันกำลังจะสูญเสียเขาไป..

 

                ปัง! ปัง!

                ขณะที่ชายร่างสูงกำลังเดินเลือกของกินให้ตัวเองกับเด็กผู้หญิงที่เขากำลังคิดว่าเด็กนั่นน่ารัก น่าฟัด เสียงลูกตะกั่วที่ส่งออกมาจากปลายกระบอกปืน ลูกตะกั่วนั่นมันเกือบเฉียดใบหน้าหล่อๆนั่นของวิน มือหนาปล่อยถุงกับข้าวลงกับพื้นก่อนจะวิ่งหนีกลุ่มคนที่เล็งปืนมาทางตัวเอง

                “บ้าเอ๊ย!!” ร่างสูงสบถออกมา ร่างสูงคิดว่าจะวิ่งกลับไปที่บ้านของเด็กนั่น แต่ไม่ เขาวิ่งไปคนละทางกับบ้านหญิงสาวเพราะเขากลัวว่าเด็กนั่นจะไม่ปลอดภัยไปด้วย แต่เขาก็สะดุดเมื่อมีมอเตอร์ไซค์คันนึงขับปาดหน้าชายร่างสูง

                “ขึ้นมาเร็ววิน!” เสียงแหบๆ เรียกให้ชายร่างสูงนั้นขึ้นรถ ก่อนจะเขาจะเร่งเครื่องไป พร้อมหยิบในแจ็กเก็ตส่งให้วิน ซึ่งวินทำหน้าที่ใช้มันอย่างดี วินใช้ปืนส่งลูกตะกั่วไปให้กลุ่มคนที่กำลังไล่ตามเขาอยู่จนพวกมันล้มลงไปกองกับพื้น แล้ววินก็ลดปืนลง หนุ่มนิรนามเร่งเครื่องให้ขึ้น จนลับสายตาจากกลุ่มคนพวกนั้น

                ในที่สุดบิ๊กไบท์รุ่น BMW 1000 RR ราคาเฉียดล้าน ได้จอดลงตรงหน้าคฤหาสน์หลังงาม ก่อนที่ร่างสูงเจ้าของคฤหาสน์นี้จะลงจากบิ๊กไบท์ แล้วกอดอกมองคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง

                “กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” วินถามบุคคลที่กำลังถอดหมวกกันน็อกออก เผยให้เห็นหนุ่มลูกครึ่งหน้าตาดีตาสีฟ้าสดใส ผมสีดำขลับ ขัดกับสีผิวขาวซีดของเขา

                “ตั้งแต่ได้ยินว่านายมีปัญหา ก็เลยมา ถึงเมื่อเช้า ตอนตีสาม” เสียงแหบเอ่ยบอกเพื่อนรักด้วยสำเนียงของชาวอังกฤษ

                “เช้ามากเลยเพื่อน แล้วรู้ได้ไงว่าฉันอยู่แถวนั้นอ่ะ เจสัน”  วินว่าก่อนเดินนำเข้าไปในคฤหาสน์ โดนมีเจสันเพื่อนของเขาที่พึ่งกลับจากอังกฤษเดินตามเขาไป โดยมีลูกน้องของวินรออยู่ด้านใน เจสันโยนหมวกกันน็อกที่ถือมาด้วยให้กับลูกน้องคนสนิทของวินก่อนที่จะเดินไปนั่งที่โซฟาในห้องรับแขกในท่าทีสบายๆ

                “แล้วเอาไงต่อล่ะ” เจสันถามพลางเอามือมาประสานกันไว้

                “ไม่ต้องทำไง อีกไม่นานก็จะเรียบร้อยแล้ว”  วินยิ้มอย่างมีเลศนัย โดยที่ลืมคนคนหนึ่งไปซะสนิท

 

                12:30 น.

                ให้ทายว่าตอนนี้ฉันกินข้าวรึยัง หลังจากที่ไอบ้าพี่วินนั่นไปหาอะไรให้ฉันกิน และคำตอบคือ ยัง!! ฉันรอเขาอยู่นะเฟ้ย ป่านนี้เป็นตายร้ายดียังไงบ้างไม่รู้ ไม่รู้โดนยิงตายไปหรือเป็นอะไร รึเปล่า ทำให้คนเขาเป็นห่วงอยู่นั่นแหละ ถ้าฉันรู้ข่าวว่าพี่หายไปไหน หรือบาดเจ็บอยู่ในโรงพยาบาลที่ไหนซักแห่งฉันจะซ้ำให้จมเตียงเลย แล้วตอนนี้ฉันหิวชะมัด โอเคไม่รอแล้ว ไปหากินเองก็ได้ ไอผู้ชายไม่มีสัจจะ

                ฉันเดินไปหยิบกุญแจแล้วรีบออกไปซื้อข้าวทันที ให้ตาย ท้องฉันมันปวดไปหมดแล้ว ตาของฉันเริ่มพร่ามัว แดดเมืองไทยช่างร้อนยิ่งนัก หน้าฉันจะกลายเป็นกระทะทอดไก่อยู่ล่ะ

                ผลัก!

                จู่ๆฉันก็เดินเหม่อไปชนคนคนนึงเข้า ฉันเงยหน้ามองเขาที่สูงโคตรๆ แม่เจ้า หล่อโฮก ผิวของเขาออกคล้ำๆเล็กน้อย แต่ไม่ได้ทำให้ความหล่อของเขาน้อยลงเลยซักนิด กลับทำให้มันมากขึ้นมากกว่า แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะชื่นชมความหล่อของเขา ฉันโคตรปวดหัวปวดท้องเลยแหละ ต้องไปหาอะไรกินแล้วกินยา

                “ขอโทษนะคะ” ฉันเอ่ยขอโทษก่อนจะเดินเซเลี่ยงเขามา แต่นั่นทำให้ฉันต้องเซล้มลงอีก และเขา ผู้ชายหล่อเข้มนั่นรับฉันไว้ทัน

                “เป็นอะไรหรือป่าวเนี่ย” เสียงเข้มกังวานอยู่ในหัวฉัน แล้วทุกอย่างก็มืดไปหมด สติของฉันจมดิ่งสู่ห้วงนิทราในอ้อมแขนของชายปริศนา

 

                17:00 น.

                “พี่วินครับ” ชายร่างสูงผิวคล้ำได้อุ้มเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในคฤหาสน์ของวิน แล้วเรียกชื่อลูกพี่ลูกน้องเบาๆ ซึ่งญาติของเขานั่นกำลังทำ ‘กิจ’ กับผู้หญิงอีกคนหนึ่งอยู่บนโซฟากลางห้องรับแขกอย่างเมามันโดยไม่สนใจ ลูกพี่ลูกน้องคนนี้เลยซักนิด แต่หางตาคมกลับสะดุดกับร่างที่ญาติผู้น้องได้อุ้มเข้ามาในบ้านอย่างตกใจจนต้องหยุด กิจ นั้นลง ร่างของวินผละออกจากร่างของหญิงสาวที่กำลังอ่อยเจ้าตัวอย่างได้อารมณ์ ถึงอย่างนั้นบุคคลที่เห็นกลับไม่มีอารมณ์กับหญิงนั่นไม่ เขากลับมีอารมณ์กับเด็กสาวที่ญาติเขากำลังอุ้มอยู่มากกว่า

                “นายไปเอายัยนั้นมาจากไหน”  วินคว้าผ้าคลุมมาสวมอย่างรวดเร็ว แล้วเข้าไปประชิดตัวน้องชายที่รักอย่างเดือดดาด

                “ผมเจอเธอระหว่างทางที่จะซื้อของฝาก มาให้พี่กับคุณป้า” คนผิวคล้ำตอบเบาๆ ก่อนจะเดินเลี่ยงขึ้นบันได

                “นั่นนายจะพาเธอไปไหน” วินดึงแขนของน้องชายไว้ พร้อมบีบมันอย่างแรง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ ‘เกรย์’ ลูกพี่ลูกน้องของเขารู้สึกอะไร

                “พาเธอขึ้นห้อง พี่ก็ทำธุระพี่ให้เสร็จเถอะ ผมไม่กวนแล้ว” เกรย์ เปลี่ยนจากที่อุ้มเด็กสาวในท่าเจ้าสาวเป็นการอุ้มพาดบ่าแทน มือที่เหลือว่างอยู่นั้นได้แกะมือของวินออกแล้วเดินหนีขึ้นไปตามที่บอก ปล่อยให้ผู้เป็นพี่ยืนกัดฟันแน่นอยู่กับผู้หญิงที่เคยไปที่ร้านของเขา

                “พี่วิน ปล่อยเขาไปเถอะ เรามาต่อกันดีกว่า” หญิงสาวม.ปลายคนนั้นเดินมากอดเขาจากข้างหลังในท่าทีที่จะจับเขาเป็นสามีให้ได้

                “ไม่ ฉันไม่มีอารมณ์แล้ว กลับไปซะ” เสียงทุ้มนุ่มกัดฟันบอกหญิงสาวนั่น เขากำลังข่มอารมณ์โกรธทั้งหมดให้ลง

                “แต่ว่าเรา..”

                “ไป!!!!!!!” ร่างสูงตวาดดังก้องคฤหาสน์ทำให้หญิงที่ยังไม่ทันได้พูดจบต้องสะดุ้งโหยง แล้วรีบวิ่งไปคว้าเสื้อผ้าและเงินออกไป

                “ชิ ผู้หญิงสำส่อน” วินสบถออกมา พลางมองไปที่ประตูห้องที่เกรย์อุ้มผู้หญิงของเขาเข้าไป

 

                ขณะเดียวกัน

                “อื้อ” ฉันครางออกมา ก่อนจะกระพริบตาถี่เพื่อปรับตาให้ชินกับแสงสว่างนี่ แล้วนี่ใครวะ หล่ออิ๊บอ๊าย มานอนคร่อมคนอื่นยังงี้หมายความว่าไง

                “ห๊ะ?” คร่อมเหรอ ฉันรีบลุกขึ้นแล้วผลักเขาออก ก่อนจะถอยกรูไปจนสุดขอบเตียงเลย

                “คุณเป็นใคร แล้วนี่ฉันอยู่ในห้องนอนใคร ตอบ!” ฉันตะคอกใส่ไอผู้ชายหน้าหล่อนั่น แต่ฉันว่าฉันรู้สึกคุ้นๆหน้าเขานะ

                “คุณเป็นลม ผมเลยพาเธอมาที่นี่ ที่นี่เป็นห้องในบ้านพี่ชายผม ที่จริงเราเป็นญาติกันแต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะ” เขาว่าร่ายยาวก่อนจะส่งชามข้าวต้มกุ้งมาให้ฉัน ฉันลุกขึ้นโดยมีเขานั่งข้างๆ

                “กินซะ เธอคงหิวบวกกับแดดแรงๆนั่นทำให้เธอเป็นลม” เขาบอกย้ำอีกครั้ง พร้อมยัดเยียดชามข้าวต้มใส่มือฉัน แต่ด้วยความร้อนโคตรๆทำให้ฉันชักมือออกพอดีที่เขาปล่อยชาม แล้วข้าวต้มร้อนๆก็สำออยหกใส่ชายรูปงามเต็มๆ

                “โอ้ย!” เขารีบลุกจากเตียง ชามที่อยู่บนตักเขาก็ตกลงแตก แต่นั่นฉันไม่สน ฉันสนคนที่เจ็บอยู่ตรงหน้ามากกว่า ฉันรีบลุกขึ้นเอาผ้าที่อยู่ใกล้ๆมือมาเช็ดข้าวต้มที่เลอะตัวเขาออก

                “ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ คุณเจ็บมากหรือป่าว” ฉันบอกพลางเช็ดข้าวต้มที่ท้องเขาไปเรื่อยๆ

                “เธอทำบ้าอะไรเนี่ย” เขาท้วงเมื่อฉันเลิกเสื้อเขาขึ้นเพื่อดูแผล

                “ดูแผลไง มีกล่องปฐมพยาบาลไหม” ฉันถามพลางมองรอบหากล่องพยาบาล

                “ไม่ใช่ ฉันหมายถึงเท้าเธอยัยบ้า” เขาบอกก่อนจะอุ้มฉันขึ้น เท้าเหรอ? ฉันชะโงกมองเท้าตัวเองแล้วก็ถึงบางอ้อ ก็ฉันดันเผลอไปเหยียบเศษชามแตกนั่นไง เขาอุ้มฉันเดินอ้อมเศษชามพวกนั้นไปที่เตียงก่อนจะวางฉันลงอย่างเบามือ

                “ซุ่มซ่าม วันนี้เธอทำฉันเจ็บแล้วยังทำตัวเองเจ็บอีก” เขาต่อว่าฉันด้วยใบหน้านิ่งๆนั่น ช่วยด่าให้มีอารมณ์หน่อยได้ไหม แบบว่ามันไม่ทำให้สำนึกอ่ะ

                “ฉันขอโทษ คุณคงเจ็บมาก” ฉันพูดขอโทษในฐานะที่ฉันทำให้เขาเจ็บ

                “ยัยเบ๊อะ เดี๋ยวฉันมา” เขาว่าพลางลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป จะไปไหนของเขานะ แล้วฉันก็เริ่มรู้สึกจี้ดๆที่ฝ่าเท้า ฉันลุกขึ้นมาเท้าของฉัน ซึ่งตอนนี้มีเลือดที่แข่งกันออกมาอย่างบ้าระห่ำเต็มฝ่าเท้า ไม่สงสารดิฉันเลยสินะเจ้าคะถึงได้ออกกันมาอย่างกับท่อแตก

                แกร็ก

                ไม่นานประตูก็เปิดออกโดยชายที่พึ่งออกไปเมื่อกี้นี่ ซึ่งเขาเข้ามาพร้อมกับกล่องยา แล้วเขาเปลี่ยนเสื้อมาแล้วด้วย เขาพาผู้หญิงวัยกลางคนมาอีกหนึ่ง เธอมาพร้อมอาวุธครบมือเฉพาะของแม่บ้านทุกคน ใช่  มีทั้ง ไม้กวาด ที่ตักขยะ ผ้าขี้ริ้ว ถังน้ำ จัดเต็มกันเลยทีเดียว

                “ป้าครับ ช่วยเก็บกวาดให้ด้วยนะครับแล้วเอาชามใหม่มาให้ผมด้วย” เขาออกคำสั่งให้แก่ป้าคนนั้นพลางเดินมานั่งตรงปลายเตียง

                “อยู่นิ่งๆนะ ถ้าเจ็บก็จับไหล่ฉันไว้นะ” เขาบอกก่อนจะราด ได้ยินไหมว่าราด! เขาราดแอลกอฮอล์มาบนแผลฉันเต็มๆ ทำให้ฉันต้องทำตามคำสั่งของเขาอย่างเสียไม่ได้ ฉันจิกเล็บเข้าไหล่เขาอย่างแรงเพื่อระบายความเจ็บ

                “อ๊า!!!!” ฉันร้องออกมา โดยหวังว่าความเจ็บแสบนี่มันจะลดลง แต่ไม่เลย มันยังคงเจ็บเหมือนเดิม ไม่ต้องสม่ำเสมอขนาดนั้นก็ได้ ดีนะตอนนี้คุณป้าแม่บ้านได้ออกไปแล้วไม่งั้นเขาคงได้เห็นภาพทุเรศๆของฉันแน่

                “เจ็บเหรอ? ฉันจะทำให้อย่างเบามือนะ” เขาพูดปลอบประโลมฉัน ก่อนจะเอาสำลีเช็ดแผลฉันเบาๆ

                “อื้อ” แต่ยังไงมันก็เจ็บอยู่ดีแหละ

 

                ปัง!

                “พอกันที นี่ พวกเธอทำอะไรกันอยู่ ห๊า?!!!!!” จู่ๆก็มีผู้ชายที่ฉันโคตรคุ้นหน้าก็โผล่มาจากอีกฝั่งของประตูห้อง ท่าทางของเขาดูโกรธจัดเลยแหละ

                “เกรย์ นายทำอะไรผู้หญิงของฉันวะ!!?” มือหนากระชากคอเสื้อของคนที่ชื่อเกรย์นั่นทำให้เจ้าของชื่อต้องลุกขึ้นไปประจันหน้ากับพี่วิน เห็นแล้วรู้สึกฟินอ่ะ แต่เดี๋ยวนะเมื่อกี้เขาว่าไงนะ ฉันฟังไม่ถนัด

                “ผมไม่ได้ทำ ยัยนั้นทำตัวเองต่างหาก” แล้วเกรย์ก็ตอบด้วยใบหน้านิ่งๆเหมือนเดิม

                “ว่าไงนะ” เขาถามแล้วหันมามองที่ฉัน

                “ฉันทำชามข้าวต้มหก ตกแตก แล้วฉันก็เดินไปเหยียบนะ” ฉันบอกย่อๆ แค่นี้ก็ขายหน้าแย่แล้ว

                “แล้วพี่มาทำอะไรที่นี่” ฉันถามกลับพร้อมมองหน้าเขาทั้งสองคนอย่างสงสัยๆ แล้วจู่ๆอีตาเกรย์ก็หน้าแดงขึ้นมาเฉยๆแล้วเขาก็หันหน้าหนีฉันอีก

                “ชินซะน้องชาย ฉันเห็นแบบนี้ประจำ แล้วนี่คือบ้านฉันโอเคไหม?” พี่วินบอกหลังจากเอื้อมมือไปตบบ่าเกรย์ก่อนจะหันมาทางฉัน  งั้นแสดงว่าเกรย์ก็เป็นญาติกับพี่วินอ่ะดิ มิน่าเขาถึงหน้าคล้ายๆกัน (ตรงไหน?)

                “พี่เจอแบบนี้ประจำเหรอ?” จู่ๆเกรย์ก็ลากพี่วินไปคุยตรงมุมห้อง เหมือนฉันจะไม่ได้ยินเลยนะ สาบานว่าไม่ได้ยินเลยถ้าฉันโกหกขอให้อู๋ อี้ฟานมาขอฉันแต่งงาน

                “ฉันชินล่ะ” นี่ก็อีกคน พวกคุณกระซิบเสียงเบามากค่า เบาขนาดเสียงตดมดยังดังกว่าเลย

                “พี่อดใจไหวได้ไง” ถึงฉันได้ยินก็ไม่รู้เรื่องที่เขาคุยกันหรอกว่ะ

                แล้วทุกอย่างก็อยู่ในความสงบพวกนี้คุยกันเบาขนาดนี้ได้ด้วยเหรอ ชิ ไม่อยากรู้แล้วขี้เกียจ ปวดหัว นอนดีกว่า แต่ เอ๊ะ? นี่ไม่ใช่บ้านฉันนี่หว่า ขอตัวกลับก่อนดีกว่า

                “นี่ ฉันขอกลับก่อนนะ” ฉันเอ่ยขอตัวกลับก่อน เพราะรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน ฉันน่าจะรู้ว่ายังไง พี่วินก็ไม่สนใจอะไรฉันอยู่แล้วล่ะ

                “ไม่!!!” ชายทั้งสองพูดพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ยังไงแน่เนี่ย เมื่อกี้ยังทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนอยู่เลย

                “เธอเจ็บเท้า อยู่พักที่นี่เถอะ” เกรย์ว่าพร้อมเดินมานั่งข้างๆฉัน ตามมาด้วยพี่วิน ตอนนี้พื้นที่ทั้งสองข้างของฉันมีผู้ชายหน้าตาดีประกบฉัน เออ เหมือนฉันจะเป็นผู้หญิงที่โชดดีนะที่มีผู้ชายหน้าตาดีถึงสองคนมาขนาบข้างฉันแบบนี้น่ะ

                จ๊อกกก

                แต่มันไม่ใช่ตอนนี้ ท้องเจ้ากรรมของฉันจู่ๆก็ร้องขึ้นมาให้ขายหน้าเจ้าของ หน้าตาไม่ดียังทำตัวไม่ดีอีกฉัน ทำไงได้ล่ะก็ฉันไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าแล้วนี่น่า

                “ข้าวต้มมาแล้วค่ะ” แล้วพระก็ส่งคนมาโปรดฉัน ป้าจ๋า หนูรักป้าจัง รู้ไหม ฉันแทบกระโจนไปหาชามข้าวต้มแล้วทำมันตกอีกรอบแต่เกรย์ห้ามฉันไว้ก่อน

                “เอ้าๆ ใจเย็น” เกรย์พูดกับฉันยิ้มๆ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่เขายิ้ม น่ารักจัง

                “ดูท่าคุณหนูจะหิวมากนะคะ ถ้าไม่อิ่มป้ามีเติมให้คุณอีกเป็นหม้อเลยนะคะ” ป้าบอกพลางวางชามนั้นลงบนโต๊ะข้างเตียงพร้อมหัวเราะเบาๆ เออ..ฉันทำอะไรที่ดูเสียมารยาทหรือน่าอายหรือป่าว ฉันว่าไม่แค่ทำตัวเป็นหมาโหยนิดเดียวเอง

                “ขอบคุณมากนะคะ หนูจะทานให้อร่อยเลยค่ะ” ฉันพูดขอบคุณพร้อมฉีกยิ้มหวานให้ป้าคนสวย ก่อนจะคว้าชามข้าวต้มมาโซ้ยชนิดที่เรียกได้ว่า ไล่ดิฉันไปแข่งกินอุบาทเถอะค่ะ

                “พี่ ให้อาหารยัยนี้มั่งป่าวเนี่ย ทำไมกินเป็นเหมือนหมาโดนเจ้าของทำโทษเงี้ย” เกรย์พูดแล้วหันมามองเหยียดๆใส่ฉัน ฉันรู้เว้ยว่าตัวเองเหมือนหมา มีคนพูดเป่าหูฉันทุกวันว่าฉันเป็นหมา ทั้งแม่ ทั้งอีตาพี่วิน แล้วอีตาเกรย์อีก ฉันไม่ใช่คนแล้ว แง่งงง

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา