[Fic FNAF] Genesis/การเริ่มต้น
เขียนโดย Raki_Blueguy
วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 11.22 น.
แก้ไขเมื่อ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 19.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) คำโกหกของคนโง่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 4 : คำโกหกของคนโง่
ชายผมบลอนด์ทองยืนมองวิวนอกหน้าต่างในห้องโถงแบบเหม่อลอย
เขาไม่ได้ไปร่วมในพิธีเพราะคิดว่าทุกอย่างคงไปได้ดี
แต่แล้วเสียงคนคนหนึ่งก็เอ่ยทักเขาเบาๆ
“เมียส เจ้าไม่คิดจะไปดูลูกบุญธรรมหน่อยเหรอ?”
โฟนกาย ทหารหลวงคนสนิทพูดพลางยืนกอดอกมองเขา
“อ้าว! กลับมาจากการราชการทหารแล้วเรอะ คดีเด็กหายเป็นอย่างไรบ้าง”
“ก็...ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คนร้ายไหวตัวทันก็เลยหลบหนีพร้อมกับเด็กอีกสองคนไปได้...”
ทหารหลวงผู้นี้ไปสืบคดีนี้รวมสิบปีแต่ก็เหมือนคว้าน้ำเหลว
“แต่ว่าเมียส...ข้ารู้สึกแปลกๆ”
ชายผมบลอนด์หันมาฟังอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ
“ท่าน(อดีต)ดยุคบอนนี่เหมือนข้าเคยเห็น”
เมียสหน้าซีดเมื่อโฟนพูดแบบนั้นออกมา
ส่วนในพิธียังคงดำเนินต่อไป ตอนนี้บอนนี่กำลังกล่าวตามที่เคยซ้อมไว้
“นับจากวันนี้ไปข้า....”
ทั้งเมียสและโฟนกายต่างยืนดูพิธีอยู่ห่างๆ
“ข้าไม่มั่นใจว่าจะใช่คนเดียวกันหรือเปล่า” ทหารหลวงพูดต่อ
“ใบหน้าช่างเหมือนเด็ก...ในใบประกาศเด็กหายเมื่อสิบปีก่อน ข้าก็เลยอยากรู้ว่า...”
ทั้งคู่จ้องตากัน เมียสกัดฟันแน่นโฟนพูดแบบไม่เกรงกลัว
“เจ้าไปรับเด็กคนนั้นจากที่ไหน”
“? ก็สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไงถามมาได้...” เมียสทำท่าทางปกติ
“โกหก”
โฟนพูดสั้นๆก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องที่ตัวเองได้สืบมาทั้งหมด
“สิบปีที่ข้าไปราชการ เวลาว่างๆข้ามักจะหาข้อมูลเด็กหายเสมอ จนวันหนึ่งข้าก็ได้เจอเจ้าแถวชานเมือง
แต่ข้าเลือกที่จะสะกดรอยตามเจ้าไป จนข้าถึงที่ซ่อนของคนร้ายและพบว่าเจ้าคือหนึ่งในคนที่ซื้อบริการเช่นกัน
คำโกหกของคนโง่ก็มีแค่คนโง่ที่เชื่อเท่านั้นแหละ”
“แล้วก็...”
แกร๊ก โฟนกายเอาปืนจ่อหัวเมียสจากด้านหลังเพื่อไม่ให้ใครเห็น
“ขอความร่วมมือด้วยละกัน”
เมียสหันมาจับไหล่อีกฝ่ายทั้งสองข้างแล้วยิ้ม
“ข้ายินดีให้ความร่วมมือ เพราะฉะนั้นตอนนี้งานก็ใกล้เสร็จแล้ว พระอาทิตย์ก็จะขึ้นซะด้วย”
“พูดเรื่องอะไร?”
“อยากสืบสวนข้าไม่ใช่รึ รีบพาไปที่ห้องของเจ้าซะสิ”
โฟนกายลังเลที่จะเชื่อคำพูดจากปากของผู้ต้องสงสัย แต่เมียสก็พูดต่อ
“อีกเดี๋ยวก็รู้สึกดีเองนะ...”
ก๊อก ก๊อก
เมดสาวยืนเคาะประตูอยู่สักพักจนเริ่มหมดความอดทน
“ท่านโฟนเจ้าค่ะ! มาทำความสะอาดห้องคะ”
แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับ
“ไม่เห็นตอบเลย...คงนอนพักล่ะมั้ง” เมดสาวที่มาด้วยกันอีกคนพูด
“แต่ว่านี่มันก็สายมากแล้วนะ ถ้าเปิดเข้าไปก็คงไม่เป็นอะไร”
เธอไม่สนใจอะไร เปิดประตูตรงหน้าออกทันที “ขออนุญาตค่ะ...”
แอ๊ดดดด
“!!”
สองเมดสะดุ้งเมื่อเห็นสภาพภายในห้อง
“นะ...นี่มัน...เรื่องบ้าอะไร...กัน...”
โฟนกายที่เปลือยท่อนบนมีรอบขีดข่วนทั่วร่างกาย
ตัวเขาหันหน้าเข้ากำแพงที่มีข้อความที่เขียนด้วยเลือดอยู่
คำโกหกของคน“โง่”
ก็มีแค่คนโง่”เ
และคนที่อยู่ตรงนั้นก็สิ้นใจตายไปแล้ว
“กรี๊ด!!” เสียงกรีดร้องของทั้งสองดังลั่น
ไม่นานข่าวก็แพร่ไปทั่วเมืองด้วยการพูดคุยแบบปากต่อปาก
“จริงเหรอ? นั่นทหารหลวงเลยนะ”
“จริงๆนะพวกสาวใช้บอก”
“หาว...”
เมียสยืนพิงระเบียงพลางอ้าปากหาว
“ก็แค่ทหารหลวงตายไปคนเดียวเองน่าา ฝังๆไปซะก็จบเรื่อง...”
“รอยเลือดบนผนังเจ้าเป็นคนเขียนใช่ไหม?” บอนนี่ในชุดกษัตริย์ยืนถาม
“ช่วยไม่ได้...เจ้านั่นดันโง่ตามข้าเองนี่นา” เมียสส่ายหัว
“ว่าแต่...กษัตริย์รูปงามตรงนั้นสนใจมาต่ออีกสักรอบมั้ย?”
“เมื่อเช้าเจ้าก็ไปทำมาแล้วไม่ใช่รึ? ไม่เหนื่อยเหรอ?”
“ใช้ปากไม่ได้ยัดเข้าสักหน่อย” ชายผมบลอนด์แลบลิ้น
เมียสถือวิสาสะเข้าไปประชิดตัวบอนนี่
“นิดเดียวเอง....”
แล้วจู่ๆ ก็มีคนโผล่พรวดเข้ามาในห้องซะงั้น
“ขะ...ขออภัยที่รบกวนเวลาส่วนตัวขอรับ! กระหม่อมเอารายงานล่าสุดเกี่ยวกับทหารหลวงโฟ...”
เด็กหนุ่มผมสีส้ม ตาสีเขียวมรกต สวมแว่นตาสีแดงสด เขาคือ ฟริทซ์
แล้วเมียสกับบอนนี่ที่หน้าห่างกันไม่เกินสามนิ้วหยุดชะงักทันที
ทุกอย่างเงียบไปครู่หนึ่ง
“เอ่อ...” ฟริทซ์พูดอะไรไม่ออก
“เจ้าออกไปก่อนเถอะข้าต้องการคุยเป็นการส่วนตัว”
บอนนี่กับเมียสถอยห่างกันในพริบตา ไม่ทันแล้วมั้ง
“ส่วนฟริทซ์รายงานมาสิว่าพบอะไร”
“ครับ...!!”
“งั้น...กระหม่อมขอตัว”เมียสปลีกตัว
“ท่านเอิร์ลขอรับ” เด็กหนุ่มพูดก่อน
“ข้าขอสาบานต่อหน้าท่าน ไม่ว่ายังไงข้าต้องจับคนร้ายและประหารมันด้วยมือของข้าให้ได้!”
ฟริทซ์สาบานด้วยน้ำเสียงที่มีความมั่นใจอยู่เต็มอก
“หือ...?”
เมียสยิ้มเล็กๆ
“แล้วข้าจะรอดูนะท่านพลทหาร...”
เมียสเดินออกจากห้องไป
“...ว่ามา” บอนนี่พูด
“ครับ หลังจากเกิดเหตุไม่นาน ทั้งตัวและคนอื่นในกรมต่างเข้ามาตรวจสอบและเก็บหลักฐาน
ในห้องไม่ค้นพบอาวุธ มีเพียงแค่แก้วชาที่แตกและสิ่งของซึ่งถูกใครบางคนรื้อ
ตอนที่ข้ากำลังหาหลักฐานอยู่นั่น ข้าก็เจอกับสิ่งๆหนึ่งและตัดสินใจที่จะเก็บหลักฐานไว้คนเดียว”
ฟริทซ์ก้มมองเอกสารในมือของตน
“หลักฐานที่ว่านั่นก็อยู่กับข้าตอนนี้ ข้ามั่นใจว่าท่านกับท่านเมียสไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแน่นอน”
“บ้าจริง...” บอนนี่สะดุ้ง
มีคนรู้เพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว
“แต่ว่าของสิ่งนี้ก็คือสิ่งที่ดยุคขาดไม่ได้ แล้วท่านก็เพิ่งพ้นจากตำแหน่งนั้น
ถ้าข้าถามอะไรไปกรุณาตอบตามความจริง”
เด็กหนุ่มยิ้มให้อีกฝ่าย
“และตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าคนคนนั้นคิดจะทำอะไร”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ