only you! ยั่วนักรักซะเลย
เขียนโดย เรียวตะนะให้เรียกแบบนี้
วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.17 น.
แก้ไขเมื่อ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 20.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) You!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
"ผมตัดสินใจแล้วครับว่าจะลาออก" ร่างบางของ 'เซยู' เอ่ยออกมาพร้อมยื่นใบลาออกส่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการ โดยมีอาจารย์ประจำชั้นวิ่งตามมาเพื่อห้ามทัพ
"ลองคิดดูดีๆนะเซยู นายเป็นนักเรียนเรียนดี มีเหตุผลอะไรถึงต้องลาออก เรื่องเงินหรอ? เธอจะกังวลอะไรในเมื่อทางโรงเรียนก็คัดเลือกให้นายเป็นนักเรียนทุน ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้" อาจารย์ 'นิบิรุ' ที่เป็นอาจารย์ประจำชั้น พยายามเกลี้ยกล่อม หากแต่ไม่เป็นผล
"แม่ผม.. ผมทิ้งแม่ให้นอนป่วยอยู่แบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ผมต้องรีบไปหาเงินเพื่อให้แม่หายทรมานซักที" ใบหน้าของคนพูดดูซึมลงไปทันทีที่พูดถึงมารดาผู้ให้กำเนิด
แม่ของเค้าป่วยเป็นเจ้าหญิงนิทราร่วมครึ่งปี เขายังคงจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดี วันที่พ่อทิ้งพวกเขาไป..
ใบหน้าของบิดายังคงติดตรึงอยู่ในใจไม่อาจลบออกไปได้ ใบหน้าของผู้ที่ทำให้แม่ต้องจากพวกเราไป จากไปทุกสิ่งทุกอย่าง เหลือไว้เพียงร่างกายและลมหายใจที่รวยริน
เหตุการณ์ในวันนั้น..
ในคืนวันฝนพรำ หลังจากเจอจดหมายและใบหย่าที่วางไว้บนโต๊ะอาหาร แม่เอาแต่ร้องไห้และตามหาพ่อไม่ยอมหยุด แม่บอกให้เขาดูแลน้องอยู่ที่บ้าน รอพ่อกลับมา แต่หารู้ไม่ว่าผู้เป็นพ่อได้จากพวกเขาไปแล้วและไม่คิดที่จะกลับมาอีก
รุ่งเช้าผู้เป็นพี่ชายที่มีอายุมากที่สุดในบ้าน เริ่มกระวนกระวาย ในใจเต้นระทึกราวกับเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น..
มันเป็นลางสังหรณ์ที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด และมักจะแม่นยำจนน่าตกใจ
ผู้เป็นพี่ตัดสินใจทิ้งน้องชายฝาแฝดวัยสิบสามปีไว้ที่บ้าน วิ่งออกตามหาผู้เป็นแม่ด้วยหัวใจที่ว้าวุ่น แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่พบมารดา
จนสะดุดตาเข้ากับฝูงชนที่กำลังมุงดูอะไรบางอย่างอยู่
เขาเดินตรงเข้าไปอย่างไม่รอช้า
ความคิดในหัวตีกันยุ่งไปหมด
หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ
ก้าวแต่ละก้าวช่างยากลำบาก
พอฝ่าฝูงชนเข้ามาได้ถึงกับเข่าทรุด เมื่อพบว่าร่างที่นอนหมดสติอยู่บนพื้นคือมารดาของตัวเอง
"แม่!!!!!!" เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ด รีบโผเข้ากอดร่างมารดาตัวเองแน่น ยกนิ้วชี้ขึ้นมาอังที่บริเวณจมูก รู้สึกโล่งอกที่มารดายังคงหายใจอยู่ แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่ต้องเผชิญต่อจากนี้ เลวร้ายกว่าที่คิด..
ตอนนี้เขากับน้องชายกำลังนั่งลุ้นว่ามารดาจะเป็นอะไรมากหรือเปล่า เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง เขานั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ จนเข็มยาวของนาฬิกาวนมาที่ตัวเลขเดิมอีกครั้ง บ่งบอกว่าเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว
คุณหมอหนุ่มเดินออกมาจากห้องไอซียูด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เล่นเอาคนที่กำลังรอฟัง หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาเต้นข้างนอก
"เซยู.. อยากฟังข่าวดีหรือข่าวร้ายก่อน" หลังจากที่ได้ยินประโยคนั้น ความคิดในหัวของเขาก็ตีกันยุ่งไปหมด แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะฟังเรื่องราวดีๆก่อน
"ข่าวดีครับพี่หมอ"
"แม่ของพวกเธอยังมีชีวิตอยู่" ได้ยินแค่นี้ก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมามาก คนฟังถึงกับยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว โดยที่ลืมไปว่ายังมีข่าวร้ายรออยู่
"แต่.." คุณหมอเว้นช่วงไว้แค่นั้น ทำท่าทางอึกอักเหมือนไม่อยากบอก
"แต่อะไรครับพี่หมอ!!" 'เกจิ' น้องชายของเซยู รีบเร่งพี่หมอให้รีบบอก ทั้งที่ปกติถ้าเจอหน้าก็จะกัดกันตลอด
"คงจะไม่ฟื้น.." พี่หมอก้มหน้าลงพลันน้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม เพราะแม่ของเซยูก็เป็นผู้มีพระคุณของเขาเช่นกัน
"หมายความว่าแม่.. จะเป็นเจ้าหญิงนิทราหรอพี่หมอ!!" 'ไอ' น้องชายฝาแฝดของเกจิโพล่งขึ้นมา พลันน้ำตาไหลอาบแก้มเช่นเดียวกับเซยูและเกจิ
สามพี่น้องกอดกันกลม สะอึกสะอื้นโดยไม่สนใจสายตาใคร
ช่วงเวลาหกเดือนที่มีแม่แต่เหมือนไม่มีมันช่างทรมานเสียจนไม่เป็นอันทำอะไร.. แม้แต่ควบคุมสมาธิให้จดจ่อกับการเรียนยังเป็นไปได้ยาก เขาเลยตัดสินใจลาออกให้มันรู้แล้วรู้รอด ยกยอดทุนของตัวเองให้เป็นทุนการศึกษาของน้องทั้งสองคน ฝากฝังน้องชายไว้กับพี่หมอ ส่วนเขาเดินทางไปสมัครงาน
งานที่ปลืองร่างกาย แต่ได้เงินดี.. 'นายเอก gay av'
(g)av entertainment
ตอนนี้เขาเดินทางมาถึงบริษัทที่คิดว่าได้เงินดีที่สุด หลังจากหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เปิดประตูเข้าไปด้วยใจที่มุ่งมั่น..
"มาทำอะไรคะ" ฝ่ายประชาสัมพันธ์สาวที่หน้าตาสะสวยยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
"ตะ ติดต่อทำงานครับ"
"หือ? อ่อค่ะ รอสักครู่นะคะ" เธอหันไปสนใจคอมพิวเตอร์ราคาแพงสักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามอง
"ขึ้นไปชั้นสี่สิบนะคะ บอสรออยู่ที่นั่น ชั้นนั้นมีอยู่ห้องเดียวค่ะ ไม่ต้องเกร็งนะคะ บอสใจดี" เธอยิ้มให้อีกครั้ง เซยูพยักหน้ารับน้อยๆก่อนจะตรงไปยังลิฟต์ จิ้มที่เลขสี่สิบ เพียงอึดใจเดียวลิฟต์ก็เปิดออก
เซยูก้าวเดินออกมาจากลิฟต์ ทอดสายตามองไปยังทางเดินที่ปูด้วยพรมแดง กวาดสายตามองจนทั่ว ทั้งชั้นมีอยู่เพียงห้องเดียว อย่างที่พนักงานสาวคนนั้นบอก
เขาเดินตรงมายังประตูสีทองที่ดูโอ่อ่าอลังการ ถึงสีทองที่เห็นจะเป็นเพียงสีที่เคลือบไว้ แต่สีที่ว่าคงจะมีทองคำบริสุทธิ์ผสมอยู่ไม่น้อยกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซนต์ เพราะเมื่อมองใกล้ๆช่างดูงดงามวิจิตรบรรจง
แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลามาชื่นชมความงามของประตู
เซยูเอื้อมมืออันสั่นเทาขึ้นมาจับลูกบิดประตู ภายนอกห้องว่าดูหรูหราแล้วแต่ถายในห้องหรูกว่าหลายร้อยเท่า เฟอร์นิเจอร์ถูกจัดวางอย่างเหมาะสม ไม่มีอะไรที่ดูน่าขัดใจ แถมเฟอร์นิเจอร์ยังเป็นสีทองทุกชิ้นอีก สุดยอดเกินไปแล้ว..
ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เซยูมัวแต่ยืนชื่นชมกับห้องนี้ จู่ๆก็มีมือของใครบางคนจับให้เขาหันไปประจันหน้าแล้วประกบจูบลงมาโดยที่ไม่ให้ได้ตั้งตัว เซยูตาโตด้วยความตกใจก่อนจะรีบผลักคนที่ขโมยจูบออกทันทีที่ตั้งสติได้
ผู้ชายตรงหน้าดูหล่อราวกับรูปปั้น ใบหน้าที่ดูหล่อไปทางคนตะวันตกแบบไม่มีเชื้อญี่ปุ่นผสมดูดีเหมือนหลุดออกมาจากในฝัน ดวงตาสีเขียวมรกตที่ดูนุ่มลึก ริมฝีปากสีชมพูที่ดูน่าหลงไหล แต่สีหน้าที่ดูเรียบเฉยนั่นช่างขัดใจคนมองเหลือเกิน
"นายหรอที่มาติดต่อทำงาน?" เขาดันเซยูจนติดกับผนัง แถมยังยกวงแขนขึ้นมากันไม่ให้มีทางหนี แล้วใบหน้าที่ขยับเข้ามาใกล้จนใจสั่นไปหมดนั่นอีก
"คะ ครับ"
"ฉันชื่อ ดีทัช เป็นบอสของที่นี่ หน้าตาก็ไม่เลวนี่ น่ารักดี สนใจมาลองกับฉันก่อนไหมหละ?" เขายกยิ้มมุมปากแล้วดึงแขนเซยูให้ลงไปนอนอยู่บนโซฟา โดยที่ไม่เปิดโอกาสให้อีกคนได้ทักท้วงหรือปฏิเสธ
"ยั่วให้เก่งๆนะ เผื่อฉันติดใจ" เขายิ้ม..
ฝากเม้นฝากโหวตด้วยน้าา ถือว่าเป็นกำลังใจเอาไว้แต่งต่อนะคะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ