Ombre Pure มาเฟียบุปผาสีชาด

-

เขียนโดย snowred

วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 18.47 น.

  1 บท
  0 วิจารณ์
  3,411 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2558 19.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

บทนำ

บุณฑริก เด็กหญิงอายุ ๑๓ ปีต้องรับตำแหน่ง "บอสมาเฟีย" และเผชิญหน้ากับมาเฟียที่คิดว่าเป็นคนฆ่าครอบครัว แต่นับวันยิ่งเข้าใกล้ความลับของโลกาวินาศพยากรณ์ ...จุดเริ่มต้นของมาเฟียที่ช่วยเหลือผู้อื่นจากเงามืด

 

 


 

 

 

 

บทนำ

[บรรยายโดยผู้ประพันธ์]

               นับตั้งแต่ที่เกิดการทำพิธีแปลกประหลาดของหญิงสาวคนหนึ่งที่ใช้ไสยศาสตร์มายิกดำ โลกก็เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาด ผู้คนล้มตายอย่างไม่ทราบสาเหตุ รวมทั้งน้ำทะเลที่ไหลเข้าท่วมจนสถานที่บางแห่งกลายเป็นเมืองที่เกือบเลือนหายไปในความทรงจำ ทรัพยากรถูกทำลายตามไป ด้วยเหตุนี้ทำให้เหลือประชากรน้อยกว่าที่ควรจะเป็น รวมทั้งพื้นที่ที่น้อยชนิดเทียบประเทศหนึ่งเท่ากับภูมิภาคหนึ่งแห่ง เรื่องนี้ทำให้ผู้เหลือชีวิตรอดบางกลุ่มเชื่อว่าเป็นผลจากคำทำนายวันสิ้นโลก หรือโลกาวินาศพยากรณ์ที่กลายเป็นชื่อเรียกเฉพาะต่อมา หลายคนต่างก็แก่งแย่งสิ่งที่จะทำให้มีชีวิตรอดต่อไป ซึ่งก็เป็นเช่นนี้ไม่ว่ากับบุคคลชนชั้นใด และด้วยความที่ขาดทรัพยากรในการหล่อเลี้ยงชีวิตก็จบลงอีก โรคภัยไข้เจ็บและโรคระบาดก็เริ่มแพร่ระบาดตาม ๆ กันไป

               วันเวลาผ่านไปโลกก็ยิ่งเน่าเฟะ เหล่าอันธพาลและบุคคลบางส่วนก็เริ่มจะไม่ทำอะไรให้ดีขึ้น แม้กระทั่งเบื้องบนเช่นรัฐบาล หรือกลุ่มที่มีหน้าที่ดูแล-บริหารแต่ละประเทศก็เริ่มเห็นแก่ตัว คำร้องขอของประชากรก็เริ่มถูกเพิกเฉยตามไปด้วย

               เมื่อไม่สามารถพึ่งใครได้อีกก็ต้องพึ่งตนเอง

               ในช่วงนั้นมีคนกลุ่มน้อยที่จะเริ่มปฏิวัติบ้าง …ทว่าพวกเขาไม่ใช่ตำรวจ ทหาร ฯลฯ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็นสิ่งที่คนทั่วไปคิดว่าเป็นคนดี …มาเฟีย นั่นคือนามขององค์กรที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อการนี้ กลุ่มบุคคลที่หลายคนต่างจำฝังใจว่าเป็นคนไม่ดี

แต่ความเชื่อนั้นก็ถูกกลบฝังไป เมื่อพวกเขาเหล่านี้ปฏิวัติทำให้โลกอันน่าสิ้นหวังกลับมาเกือบเหมือนเป็นดังก่อนอีกครั้ง…

                ราวกับความสมดุลของโลกที่มีมีแสงสว่างก็ย่อมต้องมีเงามืด เมื่อมีกลุ่มบุคคลที่เห็นแก่ตัวอยู่ฝ่ายเดียวโดยไม่คิดจะช่วยเหลือผู้อื่นก่อตั้งองค์กรมาเฟียขึ้นเช่นกัน แต่พวกเขาเหล่านี้ทำผลประโยชน์ให้ตนเอง แผ่ขยายอำนาจกดขี่ข่มเหงผู้ที่ไม่สามารถต่อต้านได้ มาเฟียที่ปฏิวัติให้โลกไปในทางที่ดีไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้ จนเป็นปัญหาความขัดแย้งกระทั่งกลายสงครามที่เริ่มเกิดขึ้นจนขยายต่อไป เป็นเรื่องราวอันแสนโหดร้ายที่ไม่อาจคาดได้ว่าจะจบลงเมื่อใด ผู้คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวก็เป็นแพะรับบาปอันเกิดจากการกระทำที่ไม่ห่วงสิ่งรอบด้างของมาเฟียฝ่ายไม่ดีนี้

                หากสงครามนี้จะหยุดลง ก็คงเป็นจุดจบเดียวของมวลมนุษยชาติและโลกใบนี้

                สงครามครั้งหนึ่ง คงไม่มีใครคิดหรอกใช่ไหมว่าจะไม่มีการสละชีวิตไม่เกินร้อยกว่าคน…

 

                แปะ ๆ

               เลือดหยดลงบนพื้นก่อนที่ร่างของชายคนหนึ่งในชุดสูทสีดำจะล้มลงไป พร้อม ๆ กับศีรษะที่ถูกตัดขาด เด็กหญิงผมยาวสีนวล เกล้าเป็นมวยใหญ่ปล่อยผมส่วนหนึ่งลงมาแล้วมัดด้วยหนังยางสีเงิน ประดับด้วยปิ่นปักผมแบบไทย มีผมส่วนหนึ่งตั้งชี้โด่เด่จากมวยผม และมีผมปอยหน้าข้างขวายาวตั้งสูง ดวงตาสีหงชาดข้างขวาที่ใช้ได้เพียงข้างเดียวมองร่างไร้วิญญาณเบื้องหน้าที่ตนเองเพิ่งปลิดชีพไปเมื่อครู่ ชุดนักเรียนปกกะลาสีเรือทับด้วยเสื้อกั๊กสีแดง ทับอีกชั้นด้วยเสื้อนอกสีดำแขนกุดมีลายไทยสีทองบลอนด์ตรงมุม และเส้นพู่ที่เรียงรายตามขอบนั้นเปื้อนเลือด

               …ทว่ามันไม่ได้เป็นสีแดงสดอย่างที่ควรจะเป็น เลือดของผู้ที่เธอสังหารล้วนเป็นสีหงชาดอย่างน่าประหลาดใจ

               ‘นี่น่ะเหรอ บอสมาเฟียที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์’

               เสียงเย้ายวนดังขึ้นมาหลังจากความเงียบเข้าคลอบคลุมพักใหญ่ ก่อนที่ร่างของหญิงสาวผมยาวสีดำ รวมทุกเส้นเป็นมวยไว้ด้านข้างต่ำ ๆ ประดับด้วยปิ่นปักผมจีนสมัยก่อน เธอชุดกี่เพ้าสีดำเปิดร่องอก ริมฝีปากสีแดงสดดุจโลหิตนั้นคลี่ยิ้มยั่วยวน แต่แฝงด้วยความอันตรายทำให้เหมือนกุหลาบที่ยังไม่เด็ดหนามออก มือข้างซ้ายที่สวมถุงมือยาวลูกไม้สีดำเช่นเดียวกับข้างขวานั้นคลี่พัดลายดอกโบตั๋นมาพัดอย่างสบายใจ ราวกับซากศพชายในชุดสูทสีดำ ผู้ซึ่งเป็นลูกน้องของเธอเป็นเพียงตุ๊กตาที่เล่นแรงแล้วพัง

               เท้าในรองเท้าส้นสูงสีดำก้าวเข้ามาอย่างช้า ๆ ผิดกับอีกฝ่ายที่ใจเต้นรัวเร็วเพราะความโกรธที่กำลังปะทุ มือสองข้างที่สวมถุงมือสีดำเปิดนิ้วถืออาวุธข้างละอย่าง ซ้ายถือปืนไรเฟิลสีดำประกายสีเลือดหมู มีส่วนประกอบบางส่วนที่เป็นสีแดง และขวาที่ถือดาบไทยลงยันต์นั้นสั่นเล็กน้อย หากเธอไม่เคยฝึกการควบคุมจิตใจและร่างกายคงสั่นเทิ้มแน่ อยากเหนี่ยวไกปืนให้ร่างหญิงสาวผู้เป็นบอสมาเฟียจากฮ่องกงเป็นพรุน แต่เธอก็พยายามทำใจให้สงบเพราะทราบว่ารีบมากไปก็คงไม่ส่งผลต่ออีกฝ่าย

               ‘…คุณ’

               เด็กหญิงพึมพำเบา ๆ ดวงตาสีชาดที่นิ่งนั้นดูเยือกเย็น ลึกลงไปมีประกายความแค้นสั่นระริก

ความรู้สึกนั้นเกิดขึ้นมาเพราะหญิงสาวตรงหน้าที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า อีกฝ่ายสังหารผู้เป็นที่รักของเธอ

               ‘…บุณฑริก มาเฟียสีชาด …สมกับสมญานามเลย เลือดของลูกน้องฉันแทนที่จะเป็นสีสด แต่กลับกลายเป็นสีหงชาดเสียอย่างนั้น แต่ก็ไม่เลวนะ ดูงดงามจนฉันอยากนำไปทำเป็นลิปสติกแต้มริมฝีปาก แต่ก็สู้ดวงตาที่เหลือเพียงข้างเดียวของเธอไม่ได้หรอก ...สีหงชาดในยามแค้นมองลึกลงไปช่างเหมือนกับเลือดจริง ๆ ---’

               ปัง!

               ‘…’ หลังจากที่เด็กหญิงเจ้าของนาม บุณฑริก ลั่นไกปืนโดยที่ลูกประสุนเฉี่ยวใบหน้าเรียวของอีกฝ่าย ความเงียบก็เข้าปกคลุม กระนั้นแทนที่จะสร้างความหวาดหวั่นให้กับอีกฝ่าย แต่กลับกลายเป็นว่าไปกระตุกต่อมความตลกเสียงอย่างนั้น หญิงสาวหัวเราะในลำคอก่อนจะเอ่ยอย่างขบขัน

               ‘เธอก็ยังเด็กเกินไป… แม้กระทั่งจะมาเป็นมาเฟียก็ไม่ได้ แต่นี่กลับได้มาถึงเป็นบอส พ่อกับแม่เธอคิดอะไรอยู่นะบุณฑริก ให้มือขวาของเธอเป็นยังจะดีเสียกว่า’

               ‘อึก’

               ไม่รู้ทำไม พอเป็นมาเฟียคนนี้บุณฑริกควบคุมตนเองได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทั้ง ๆ ที่คิดว่าตนเองฝึกฝนพอที่จะมาเป็นมาเฟียได้แล้ว แต่หญิงสาวตรงหน้ากลับบอกว่าแม้จะเป็นก็ไม่เหมาะสม

เหตุผลเพราะเธอเด็กเกินไปหรือ

               ‘เฮอะ… เด็กเหรอ… หนูไม่สนเรื่องอายุหรอก ประสบการณ์ต่างหากที่จะทำให้คนเราเติบโต’ ตอนนี้บุณฑริกใจเย็นขึ้นมาหน่อย เธอคลี่ยิ้มบาง ๆ ออกมา …เป็นรอยยิ้มที่ไม่มีความรู้สึก

               ‘นั่นล่ะที่ฉันกำลังจะพูด …ก็ไม่อยากเถียงหรอกว่าเธอมีประสบการณ์ด้านการต่อสู้ และการวางแผนที่เธอฝึกฝนมามาด้วยตนเองบ่อยครั้ง ด้านการเรียนก็ติดอันดับของระดับชั้น เผลอ ๆ สมองจะเกินเด็ก ม. ๓ ด้วยซ้ำไป …แต่ด้านการตัดสินใจและองค์ประกอบเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ดูไม่เหมือนสำคัญเธอกลับไม่มี’

               ‘!’

                องค์ประกอบเล็ก ๆ น้อย ๆ  และการตัดสินใจ? หมายความว่าอย่างไรกัน?

                ‘มันเล็กน้อย แต่เด็กอย่างเธอยังมีประสบการณ์ไม่พอที่จะเข้าใจ ชีวิตของเธอเพิ่งผ่านไปไม่นานนัก เลยยังไม่เจอจุดพลิกผันของชีวิต นั่นแหละคือสิ่งที่จะเป็นตัวตัดสินถึงตัวตนและอนาคตของคน ๆ นั้น รวมทั้งตัวเธอด้วย… บุณฑริก’

                ไม่เข้าใจ เธอต้องการจะปั่นหัวเราอย่างนั้นเหรอ?

                สับสนไปหมด ไม่เข้าใจแม้แต่นิดเดียว หรือเธอจะยังมีประสบการณ์ไม่พอ รวมทั้งองค์ประกอบและการตัดสินใจอย่างที่อีกฝ่ายบอก

                ‘อ๊ะ ๆ สีหน้าสับสนกับแววตาจ้องจับผิดอย่างนั้น อย่าบอกนะว่าเธอคิดว่าฉันกำลังพูดปั่นหัวเธออยู่ ...แล้วแต่จะคิดนะบุณฑริก ในฐานะที่ฉันใช้ชีวิตในฐานะมาเฟียมาพอสมควร ก็อยากแบ่งปันประสบการณ์ให้กับเด็กอย่างเธอ แต่อย่างว่าแหละ เราเป็นศัตรูกันจะมาเชื่อใจได้ง่าย ๆ ได้อย่างไรกัน’

                ตอนนี้คำพูดของอีกฝ่ายทำลายระบบความคิดของเธอจนแทบไม่เหลือ

                …หรือว่าเธอ… จะยังมีประสบการณ์ไม่พอจริง ๆ

               

                ‘สิ่งที่หนูทำถึงจะเหมือนอวดเก่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะหลงระเริงตนเองจนขนาดที่ว่า มีประสบการณ์มากพอที่จะเป็นบอสมาเฟียเต็มตัว ที่หนูเป็นอยู่ตอนนี้ก็เป็นเพียงกำลังส่วนสำคัญแนวหน้า และศูนย์รวมจิตใจของลูกน้องในพรรคเท่านั้น’

                ‘คำพูดสวยหรูดีนี่ …แต่ก็เป็นเพียงได้แค่คำพูดบังหน้าให้ดูดีเท่านั้นแหละ’

                ‘อยากจะคิดยังไงก็เชิญ แต่หนูจะเชื่อจนถึงที่สุดว่ามาเฟียและผู้คนในโลกนี้ไม่ได้เลวร้ายเสียทุกคน’

                หญิงสาวเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจกับความเชื่อมั่นของเด็กหญิงที่เป็นเหมือนฝันลม ๆ แล้ง ๆ เธอหุบพัดก่อนจะคลี่ออกอย่างรวดเร็วเล่น ๆ แล้วเอ่ยต่อด้วยท่าทีสบาย ๆ เสมือนกำลังคุยเรื่องบันเทิงอยู่

                ‘แล้วฉันจะรอดู’

 

 

 

 

 

 

 

 

 


 

 

 

สนทนากับผู้แต่ง

 

               สวัสดีค่ะ หนูชื่อ กนกไทย หรือสีไทยที่เป็นนามปากกานี้ (จริง ๆ แล้วไม่ใช่ชื่อจริงของหนูหรอกนะคะ แหะ ๆ) ในที่สุดก็เปิดเรื่องใหม่จนได้ สำหรับท่านที่เคยอ่านผลงานก่อนหน้าอย่างเรื่อง ราชันบุปผาไหว้ศพ น่าจะทราบว่าเนื้อเรื่องเป็นอย่างไร …ซึ่งหนูก็คิดว่าคงมีน้อยเพราะเนื้อเรื่องมันค่อนข้างพิสดารน่ะค่ะ (ฮา)

 

               ตอนแรกว่าจะแต่งเรื่องนี้โดยไม่ให้เกี่ยวข้องกับเรื่อง ราชันบุปผาไหว้ศพ แต่ไป ๆ มา ๆ โครงเรื่องมันสอดคล้องกันได้ดี บวกกับก่อนหน้านี้คิดโครงเรื่องไม่ออกก็เลยต้องจำใจให้เกี่ยวข้องกันค่ะ ซึ่งตอนตั้งชื่อเรื่องก็คิดอยู่เสียนานว่าจะเอาชื่ออะไร ทีแรกก็ตั้งชื่อว่า ราชันบุปผาสีชาด แต่คิดว่ามันดูธรรมดาไป เลยเอาองค์กรในเรื่องมาตั้ง ซึ่งก็คือ มาเฟีย นั่นเองค่ะ

 

               ในเรื่องนี้จะมีตัวเอกค่อนข้างมาก โดยทีแรกจะแต่งเป็นคนละเรื่องไปเลย แต่พอคิด ๆ ดูอีกทีเนื้อเรื่องของแต่ละคนก็ไม่มีอะไรมาก เลยเอาเป็นตัวเอก (ที่ประกอบ) ในเรื่องน่ะค่ะ

 

               ในบทนำ บทที่ ๑ และเนื้อหาช่วงแรก ๆ อาจจะงงเสียหน่อยเพราะหนูเป็นประเภทที่ชอบเปิดปมและคลายช้ามาก แต่จะพยายามไม่ทำให้สับสนค่ะ ในส่วนนี้ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ อย่างไรก็ต้องขอความกรุณาให้คำแนะนำสำหรับมือใหม่ด้วยนะคะ

 

 

 

               ปัจฉิมลิขิต

 

               จะพยายามไม่ค้างนะคะ ถึงแม้เดี๋ยวนี้จะไม่ค่อยขอคำแสดงความคิดเห็น (จริง ๆ แล้วก็ปรารถนามาก) ทว่าหากแสดงความคิดเห็นแม้จะสั้นและไม่มาก แต่ก็ทำให้หนูมีไฟแรงและกำลังใจท่วมท้นเลย ก็ต้องขอความกรุณาด้วยนะคะ

 

               ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา