Beauty and the Beast ชั้นนี้แหละหวานใจอสูร
เขียนโดย LilyDaisy
วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 20.08 น.
แก้ไขเมื่อ 30 มีนาคม พ.ศ. 2559 14.54 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) Leroy Lionard Part2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
หลังจากที่กินข้าวกลางวันเสร็จแล้ว ชั้นก็ได้ทำการแยกย้ายไปเรียนวิชาโทต่อ ซึ่งขั้นเลือกเรียนเป็นวิชาพืชชีวะ แต่สองคนนั้นเลือกเรียนวรรณกรรม ว่าแต่ไอ้ห้องแลปพืชชีวะนี้อยู่ไหนฟร่ะ? ชั้นได้แต่ดูเลขห้องและเดินหาไปเรื่อยๆจนเจอกับห้องทะเบียน
"ขออณุ...."ชั้นต้องชะงักกับคำถามเพราะห้องวิชาการตอนนี้มีผู้ชายสองคนยื่นอยู่หน้าเคาว์เตอร์ โดยที่มีผู้ช่วยอีกคนนึงกำลังยื่นอยู่ด้วย
"เอ่ออ..ขอโทษคะหนูหาห้องเลปพืชชีวะไม่เจอนะคะเลยจะถาม" มีสายตาหนึ่งที่มองผ่านแว่นตามา เค้าคือ ลีรอย ลีโอนาร์ด ชั้นจึงหันไปยิ่มให้กับเค้าด้วยสายตาขอโทษที่มาขัดจังหวะ "เด็กใหม่หรอ?"เค้าถามน้ำเสียงเรียบที่ฟังดูน่าเกรงขาม "ใช่ค่ะ เด็กใหม่"ชั้นตอบและมองดูกระดาษห้องในมือ "BL018อยู่ห้องไหนค่ะ"ชะโงกไปถามหัวหน้าทะเบียน
"ชั้นถามว่ามาจากไหน"น้ำเสียงของเค้าดูจะเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
"ค่ะ?"
"ขั้นถามว่าเธอมาจากไหน?" เค้าในเวลานี้ที่ถอดแว่นตาออก ทำให้ชั้นต้องตกตะลึงเหมือนคนที่โดนต้องมนตร์ ดวงตาของเค้า ปากของเค้า ใบหน้าของเค้่า เค้าถอดแว่นออกทำให้ชั้นเห็นใบหน้าของเค้าได้ชัดเจน สีผิวที่ขาวราวกับหิมะไม่ได้ขาวขนาดนั้นแต่มันรับกับหน้าของเค้าดวงตาสีฟ้าอมเทานั้น ทำไมมันคุ้นๆแต่.. "เราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่าคะ?"เอ่ยถามด้วยความสงสัย ยิ่งชั้นมองก็ยิ่งสงสัย "ชั้นเคยไปเจอเธอหรอ?"เค้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เรียบ
"ก็ไม่ค่ะ..แต่"
"งั้นเราก็ไม่เคยเจอกัน"พูดตัดบทก่อนจะเดินออกไป "ไม่ค่ะเดี๋ยวๆแต่ว่าตาของคุณคุ้นๆเหมือนเราเคยเจอกัน"
"ถ้างั้นตอนไหนล่ะ?"มองด้วยสีหน้าที่กรุ่มกริ้มขึ้นเหมือนจะยิ้มๆ ชั้นทำได้เพียงแค่มองและนึกๆแต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก "เคยเจอที่ไหนนะ"ชั้นบ่นออกมาเป็นภาษา
"พูดภาษาอะไรของเธอหน่ะ"ลีรอยถามด้วยความสงสัย ซึ่งทำให้ชั้นแทบจะหลุดขำออกมาเพราะสีหน้าของเราตอนนี้หน้าผากย่นและคิ้วก็ผูกโบว์แต่นั้นไม่ทำให้เค้าดูทุเรศเลยกลับทำให้ดูดีขึ้นอีกแบบ "ภาษาไทยค่ะ ชั้นเป็นคนไทยหน่ะค่ะ"
"แต่ชั้นไม่เคยไปที่ไทย ดังนั้นเราก็คงไม่เคยได้เจอกัน"
"ลีรอยเราต้องไปแล้ว มีประชุมกับผู้นำสภา"วิลเลียมเอยขึ้นมาอย่างเรียบๆ
"ขอตัว"เหลือบมองใบในมือของชั้น "ไอยเณ จิรศุภวรรณ" เค้าผงกหัวให้ชั้นอย่างสุดภาพก่อนที่จะเดินนำไป วิลเลียมแลมองชั้นด้วยสีหน้าเรียบๆก่อนจะเดินจากไป ชั้นได้แต่คิดในใจว่าด้วยตาทั้คุ้นเคยด้วยนี้เคยเจอที่ไหน? ที่ไหนกันน่ะ?
"BL018 อยู่ที่ชั้นสามห้องซ้ายมือ"เสียงเรียกของอาจารย์ที่ทะเบียนปลุกความคิดของชั้นขึ้นมา "เ่อ่อขอบคุณค่ะ"
หลังเลิกเรียนชั้นก็มายืนรอพ่อพร้อมกับไนยแต่่ก็ยังคงคิดถึงแววตาคู่นั้นอยู่ทำไมถึงยังคิดถึงอยู่นะทั้งๆที่ไม่ควรเก็บเอามาใส่ใจ เรื่องสิงโตในป่าแอมล์ม และ ลีรอย ลิโอนาร์ด
"ความจริงเราก็ไปรอพ่อที่ศูนย์วิจัยก็ได้นะไอย"ไนยพูดพร้อมกับยืนถือหนังสือรอพ่อด้วยความเบื่อหน่าย "ก็อยากไปอยูแต่ไม่รู้ว่าตองนั้งรถบัสสายไหนนะสิ" เป็นเรื่องจริวนะเรายังมาอยู่ได้ไม่เกินอาทิตย์เลย ทำให่ยังไม่ค่อยชำนาญเส้นทางเท่าไหร่ "ก็โทรบอกพ่อสิ ว่าจะไปรอที่ศูนย์วิจัยพ่อบอกวามาเลท แต่เนี่ยจะชั่วโมงหนี่งเข้าไปแล้วนะ" พ่อบอกว่าเค้าอาจจะมารับชั้นกับไนยยาเลทนิดนึงเพราะต้องส่งรายงานวิจัยในที่ไทยและที่ศูนย์ของทรานซิลเวเนียด้วย แค่นี้มันไม่นิดแล้วมันจะปาเข้าไปชั่วโมงนีงแล้วเอาไงดีถ้ารอที่นี้ก็คงจะเบื่อหรือรากงอกพอดี "หรือเราจะกลับบ้านกันดีล่ะ"ชั้นเสนออีกความคิดนีงให้ไนย "กลับได้ไงวันนี้พ่อบอกว่ามีแขกคนพิเศษอยากเจอและจะนัดเราไปทานข้าวด้วยนะไอยอย่าลืมสิ" เอ่ออใช่ ชั้นลืมไปสนิทเลยพ่อบอกว่าอยู่ๆก็มีแขกคนสำคัญติดต่อเข้ามาบอกว่าอยากเจอและพูดคุยด้วย ชั้นจริงบอกให้ไนยโทรไปหาพ่อว่าไปเจอกันที่ศูนย์วิจัยเลยจะได้ไม่ต้องขับรถไปมา ซึ่งพ่อก็โอเคเพราะวางานวิจัยนั้นคาดว่าน่าจะยังไม่เสร็จภายในคืนนี้
"อ้าว กลับยังไงล่ะไอยเณ"เมลลิสซาที่กำลังเดินมากับเกอร์ทีและเพื่อนในกลุ่มอีกสองสามคน "ไฮ!เมล คิอชั้นกับน้องว่าจะะนั้งรถไปรอพ่อที่ศูนย์วิจัยน่ะ"
"ดีค่ะ หนูชื่อไนยนานะคะเป็นน้องของพี่ไอยนะ"ไนยนาแนะนำตัวด้วยความร่าเริงตามสไตล์ทำให้เพื่อนๆและเมลลืสซายิ้มให้อย่่างเป็นมิตร "ไปด้วยกันสิ ศูนย์วิจัยทรานบรูซเป็นทางผ่านไปบ้านชั้นพอดี"เกอร์ทีเอ่ยขึ้น
หลังจากที่่ชั้นติดรถเกอร์ทีมาลงที่ศูนย์วิจัยของพ่อแล้ว ในระหว่างรถเราก็ได้พูดคุยกันพอเป็นพิธี ซึ่งชั้นก็ข้อสรุปมาว่า แม้แต่ในพื้นที่ก็ไม่ค่อยได้ไปที่ป่าแอมล์ม พอชั้นถามว่าทำไมนั้นเกอร์ทีก็โพล่งขึ้นมาทันทีว่า 'มันเป็นความเชื่อว่าเจ้าแห่งป่าที่คุ้มครองป่าแอมล์มนั้นจะเป็นคนเลือกคนที่เข้ามาในป่าแห่งนั้นเอง' คนยุโรปก็มีความคิดแบบนี้หรอ? 'หมายความว่ายังไงหรอ?'ชั้นถามต่ออย่างสงสัย เจ้าแห่งป่า? เลือกคนที่เข้ามาที่ป่า? เกอร์ทีถอดหายใจเหมือนรู้ว่าต้องอธิบายให้ชั้นเข้าใจ
'ชาวทรานซิลเวเนีย ส่วนใหญ่เชื่อว่า ป่าแอมล์มนั้นเป็นป่าที่ศักสิทธิ์เพราะอยู่มานานพอๆกับการก่อตั้งอณาจักรโรมัน เชื่อว่าป่าแห่งนี้มีเจ้าป่าที่คอยปกปักคุ้มครองป่าแห่งนี้อยู่ ถ้าใครที่คิดไม่ดีกับป่าแห่งนี้ก็เจอดีทุกราย'
"พ่อค่ะ เคยได้ยินเกี่ยวกับ ตำนานของป่าแอมล์ม มั้ยอ่ะค่ะ?" ชั้นเอ่ยถามพ่อขึ้นในระหว่างที่เรานั้งรอ แขกคนสำคํญ ของพ่อที่ร้านอาหารอิตาลีแห่งหนึ่งในเมือง พ่อตอบขั้นแทนด้วยสีหน้าที่งุนงง
"ก็พี่ไอยอ่ะไปได้ยินเพื่อนเล่าเรื่องตำนานป่าอะไรก็ไม่รู้ นี้พี่ไอย ไนยอ่ะตอบแทนพ่อได้เลยนะว่าไม่มีจริงๆหรอกยุคสมัยไหนแล้วอีกอย่างนะมันก็คงเป็นตำนานคล้ายๆกับพวกแวมไพร์ แดร๊กคูล่าของที่นี้เนี่ยแหละคิดมาก"บ่นไปพร้อมกับดูเมนูในมือไป ชั้นได้คิดตามมันก็คงเป็นจริงอย่างที่ไนยบอกนั้นแหละ ชั้นคงคิดมากเกินไปแต่เรื่องสิงโตในป่านั้นล่ะ ชั้นจะไม่มีวันล้มเลิกความตั้งใจจนกว่าจะได้รู้คำตอบแต่ตอนนี้ไหนล่ะ แขกคนสำคัญของพ่อทำไมมาช้าจังจนชั้นตัดสินใจเอ่ยอย่างไมพอใจหนักทำไมต้องปล่อยให้ชั้น พ่อแม่และน้องนั้งรอแบบนี้ "พ่อค่ะไหนค่ะแขกของพ่อที่มาปล่อยให้นั้งรอแบบนี้ ฝรั่งเข้าถือเรื่องเวลาไม่ใช่หรอค่ะ เสียมารยาทชะมัด"ชั้นบ่นขึ้นก่อนที่จะมีอีกเสียงหนึ่งที่เอยตัดขึ้นมา "สวัสดีครับคุณ วิน"สิ้นเสียงที่ทักทายเป็นภาษาโรมันชั้นหันหลับไปมองร่างสูงที่ใส่สูทเดียวกันกับที่ชั้นเจอโรงเรียนตอนกลางวันนี้ ลีรอย ลิโอนาร์ด หรอ? นี้หรอแขกของพ่อ แม่และไนยนาถะลึงตาให้ชั้นเชิงบอกว่า ดีนะที่เค้าฟังภาษาไทยไม่ออก
"ขอโทษที่ให้รอนะครับ พอดีว่าผมมีประชุมสองทีติดกันเลย"ลีรอย shakehandsและทักทายพ่อและแม่ของชั้นอย่างสุภาพ "คุณคงเป็นคุณนิรา"แม่ชั้นยิ้มตอบรับอย่างสุภาพ ลีริยเหลือบมองชั้นด้วยสายตาเรียบที่ไร้ความรู้สึกใดใดเช่นเดิม "พอดีผมอยากมาต้อนรับครอบครัวของคุณด้วยตัวเองนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ นี้คงเป็นลูกสาวทั้งสองของคุณ" ยินดีที่ได้รู้จักงั้นหรอ? หึ! แล้วที่คุยกันที่ห้องทะเบียนล่ะคืออะไร? "เหอะ!"ไนยนากระทุ้งแขนชั้นให้กล่าวทักทายลีรอยด้วย "สวัสดีค่ะ หนูชื่อไนยนานะคะ นี้พี่สาวหนูคะไอยเณ"ไนยนาไหว้ลีรอยอย่างสุภาพ ลีรอยได้แต่มองๆและรับไหว้ตามอย่าง งง ๆ ชั้นจึงกล่าวทักทายลีรอยไปอย่างส่งๆ "สวัสดีค่ะคุณลีรอย"ลีรอยถึงกับกระตุ้กยิ้มที่มุมปาก "ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับไอยเณ"ยิ้มอย่างมีเลศนัย แค่ดูดีชะมัด
"เอ่อ ผมและครอบครัวรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากนะครับที่ทางคุณลีรอยใหเกียรติเชิญผมและครอบครัวมาทานข้าวด้วยกันเลย" พ่อพูดอย่างชื่นชมและตื่นเต้นอย่างมาก "ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเพียงแค่ทราบมาว่าคุณ วินเป็นนักพืขศาสตร์ชื่อดังแล้วพวกคุณได้เข้าไปทำการทดลองในป่าแอมล์มหรือยังล่ะครับ"พูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ในระหว่างที่พ่อพูดถึงการวิจัยพืชชั้นได้แต่นั้งมองและดูดวงตาสีฟ้าเทาคู่นั้น ที่ชวนหลงใหลและเหมือนมีมนตร์สะกดลีรอบเหมือนรู้ว่าชั้นนั้นมองจึงเหลือบตามาจนดวงตาของเราทั้งสองสบตากัน...
"เอ่อ...หนูของตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ"เฮ้ยยยยบ้าจริง!ชั้นเป็นไรเนี่ยแค่สบตาของเค้ายังไม่กล้า "อ้าววจะไปไหนล่ะยัยไอยอาหาระมาแล้วนะ"แม่เอ่ยขัดขึ้นมา "จะไปเข้าห้องน้ำหน่ะแม่"สิ้นเสียงชั้นลีรอยได้ยินก็ยิ้มขำออกมา ชั้นจึงทำได้แต่วิ่งไปแอบในห้องน้ำ
โอ๊ยยยย ไอยเณ ไอยเณ ใจเย็นๆ แค่สายตาของเค้าทำไมใจชั้นถึงสั่นและหน้าแดงด้วยย ไม่ๆ!ลบภาพของเค้าไปเดี๋ยวนี้เฮ้อออระหว่างที่ชั้นออกจากห้องน้ำนั้นก็เจอกับลีรอย นี้เค้ามายืนรอชั้นหรอ? "นี้นายมายืนหรอชั้นหรอ?"
"ก็คงงั้นมั้ง ชั้นก็แค่อยากได้คำตอบ"ยิ้มกรุ้มกริ้ม
"คำตอบอะไร?"
"เธอค่อยมองชั้นตลอดที่โต๊ะอาหารชั้นทำไม?"จากรอยยิ้มที่กรุ้มกริ้มนั้นได้เปลี่ยนเป็นยิ้มที่มีเลศนัย
"ชะชะ..ชั้นจะมองนายทำไมไม่ทราบลงตัวเองชะมัด"สิ้นเสียงของชั้นลีรอยยืนหน้ามาหาชั้นและยิ้มที่ดีกว่าเดิมจนใจของชั้นเริ่มสั่นและชั้นรู้สีกได้ว่าหน้าของตัวเองเริ่มแดง
"หึ!ชั้นคงหลงตัวเองจริงๆนะแหละดูสิทำเธอหน้าแดงเลย"ว่าแล้วเค้าก็เอามือมาอังแก้มของชั้น ทันทีที่มือของเข้าสัมผัสกับแก้มของชั้นมือที่อุ่นๆของเค้าทำให้ใจของชั้นสั่นขึ้นกว้าเดิม"ไอ้บ้า!"ชั้นผลักเค้าออกและรีบวิ่งกลับโต๊ะอาหารอย่างเร็ว "หึๆ"เค้าหัวเราะทิ้งท้าย
[Leroy's part]
ร่างเล็กผลักตัวผมเบาๆก่อนจะวิ่งนี้ไปผมได้แต่ยืนมองและหลุดขำออกมาเธอมีความน่ารักและเสน้ห์บางอย่างที่ดึงดูดผมตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ..ที่ป่าแอล์มแห่งนั้น
หลังจากที่ทานข้าวเลี้ยงต้อนรับครอบครัวของไอยเณเสร็จแล้ว ในระหว่างที่คุณวินกำลังยืนส่งผมด้วยท่าทางที่สุภาพ "ผมต้องขอบคุณคุณลีรอยอีกครั้งนะครับที่อุส่าห์นัดพวกเรามาทานข้าวถึงทีนี้ เป็นเกีบรติมากจริงๆนะครับ"คุณวินพูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นส่วนคุณนิราและไนยนาพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่คุณวินพูด
"เหอะ!"เสียงที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจดังออกมาจากร่างเล็กที่ใลหน้ากลมรูปไข่คนนั้นไม่ใช่ใครยัยตัวแสบนี้เอง
"คุณลีรอยครับเรามีประชุมด่วนครับของภาคี..."วิลเลียมพูดดึงความสนใจจากไอยเณไปหมด ทันทีที่คำว่า 'ภาคีไพรสณฑ์' ออกมาจากปากของวิลเลียมและใบหน้าที่จริงจังจากวิลเลียม "ผมขอตัวก่อนนะครับ" ผมรีบตรงไปที่ภาตีไพรสณฑ์ทันที
"มีเรื่องด่วนอะไรกันนะถึงเรียกประชุมก่อนวันนัดหมายแบบนี้" ผมเอ่ยถามวิลเลียม
วิลเลียม หรือ วิลเลียม เกรย์ เป็นเลขาและพ่วงตำแหน่งเพื่อนคนสนิทและคนรู้ใจไปด้วย ครอบครัวเกรย์รับใช้ ครอบครัวลีโอนาร์ดของผมมาหลายศตวรรษแล้ว "ไม่ทราบเหมือนกันแต่ถ้าจะพูดในฐานะเพื่อนและเลขาของนายชั้นว่าต้องมีอะไรที่พวกสภาย่อยในภาคีเห็นว่าไม่เหมาะสม"วิลเลียมทำหน้าเครียดบ่นตลกเพื่อทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย เพราะไม่บ่อยครั้งหนักที่ภาคีไพรสณฑ์จะเรียกประชุมบ่อย ร่างสูงที่มีใบหน้าเหลียมตาสีฟ้าบ่นเขียวนั้นกลับทำหน้าจริงจังอีกครั้ง "แต่ถ้าให้พูดฐานะหนึ่งในสมาชิกของภาคีละก็คงเป็นเรื่องของไอยเณ"ผมเงยหน้าสบตากับวิลเลียมทันที "ที่ไปเจอนายในป่า"
"แต่คนในภาคีจะรู้เรื่องนี้ได้ยังไง"ผมเถึยงกลับเสียงแข็ง...วิลเลียมถอนหายใจทันที
"นายอย่าลืมนะว่าไม่ได้มีแค่นายคนเดียวที่มีอีกร่างหนึ่งในตัว"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ