รักใสใส...แอบปันใจให้นายพี่ชาย

7.3

เขียนโดย Vlinderz

วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 01.04 น.

  6 chapter
  11 วิจารณ์
  9,923 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 16.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ห้องสมุดไปทางไหน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

-- วันรุ่งขึ้น --

" พี่แนนคะ...รบกวนฝากของให้พี่ทามหน่อยได้ไหมคะ "

หลังจากเข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จฉันก็ตรงไปหาพี่แนนทันที เพื่อฝากช็อกโกแลตที่ฉันกับยัย

แพรวไปเลือกซื้อกันเมื่อวานนี้ให้พี่ทาม ถามว่าทำไมฉันไม่เอาไปให้เอง... ก็ไม่กล้านะสิ^^"

" ได้จ้ะ... " พี่แนนรับกล่องช็อกโกแลตไปจากมือฉันแล้วรีบเดินไปห้องธุระการทันที ก็นะเป็น

ประธานนักเรียนนี่ลำบากน่าดู เหมือนพี่เค้าจะยุ่งอยู่ตลอดเวลาเลย ไหนจะเตรียมงานนั้นนี่ กิจกรรม

หน้าเสาธงอีก ฉันอยากขยันได้สักครึ่งนึงของพี่เค้าจัง แหะๆ^^"

 

-- ห้อง ม.6/1 --

-Time say-

" ทาม...บัดดี้แกฝากของมาให้อะ "

แนน หัวหน้าห้องของผมเดินถือกล่องช็อกโกแลตที่มีกระดาษโน๊ตแปะอยู่ยื่นให้

" เมื่อวานน้องเค้าก็มานะ เพราะว่าต้องให้บัดดี้ไปลงชื่อกับอาจารย์ประจำชั้น"

" แต้งกิ้วนะแก " แนนยิ้มให้ผมเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง ผมหยิบกล่องที่ว่า

ขึ้นมาสำรวจก่อนที่จะแกะโน๊ตที่แปะไว้ออก ในกล่องบรรจุไวท์ช็อกโกแลตรูปกุญแจซอล สำหรับ

ผมรู้สึกว่ามันจะน่ารักเกินไป ทำเอาผมแอบเขิลอยู่เหมือนกัน เหมือนโดนสารภาพรักยังไงไม่รู้

ผมละสายตาจากไวท์ช็อก แล้วหันมาสนใจกระดาษโน๊ตสีเขียวที่อยู่ในมือผม ในนั้นมีข้อความเขียนไว้ว่า

                                                                           

                                                                                          หายไวๆนะคะ บัดดี้

                          เน

 

ผมงึมงำชื่อของเธออีกครั้ง ไม่อยากจะเชื่อสายตา ในใจของผมแอบมีหวังว่าจะเป็นคนๆ เดียวกัน

รอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นที่มุมปาก ภาพเหตุการณ์วันนั้นแว็บเข้ามาในหัวของผม

 

- 1 ปีก่อน -

ตอนนั้นผมอยู่ ม.5 วันเปิดภาคเรียนวันแรก อากาศแจ่มใส ผมกำลังเดินขึ้นห้อง อยู่ๆ ก็มีผู้หญิงคน

นึงเดินผ่านผมไป เธอกำลังกดมือถือเลือกเพลงที่กำลังจะฟัง ด้วยความสูงของผม ทำให้ผมเห็นได้

อย่างชัดเจนว่าเธอเลือกเพลงอะไร เป็นวงร็อกชื่อดังของเกาหลี ผมจำได้ทันทีเพราะนั้นเป็นวงโปรด

ที่ผมชอบฟังมาก แนวเพลงของพวกเค้าเป็นเพลงที่หนักหน่วงและหนักแน่นบางเพลงใช้

อิเล็กทรอนิกส์ซาวด์ผสมผสานกับลิสกีตาร์ มันลงตัวจนผมต้องฟังแล้วฟังอีก

ขาของผมก้าวตามเธอไปเรื่อยๆ อย่างควบคุมไม่ได้ ผมอยากจะเอื้อมมือไปจับไหล่เธอให้หันมา

เผชิญหน้ากับผม อะไรกันแรงดึงดูดนี้ แค่เพราะว่าเธอฟังเพลงของวงที่ผมชอบ หรือเพราะน้อยมากที่ผู้หญิง

จะฟังเพลงแนวนี้ มือของผมมันกำลังจะทำตามความรู้สึกของตัวเองแต่แล้ว เพื่อนของเธอเดินเข้ามาพอดี

ผมยืนฟังบทสนทนาระหว่างเธอกับเพื่อนอย่างเสียมารยาท เท่าที่รู้เธอชื่อ เน

 

 

     ทำไมผมถึงไม่ตามหาเธอนะ อาจเพราะตอนนั้นผมเองก็มีไอรินอยู่  ผู้ชายจืดชืดอย่างผมไม่แปลกหรอก

ที่ไอรินจะทิ้งไป ความเป็นสุภาพบุรุษบางทีมันก็น่าเบื่อสำหรับผู้หญิงบางคน ตัวผมในตอนนี้

คงไม่ผิดใช่ไหมที่ผมจะคิดถึงเรื่องของเธอ ไม่ผิดใช่ไหมที่ผมจะออกตามหาเธอ แต่ว่าแค่ชื่อเหมือนกัน

ก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นคนๆเดียวกันนิจริงไหม?

" นักเรียนเคารพ " เสียงของแนนปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์ เพราะอาจารย์กำลังจะเริ่มทำการสอน

แต่ก็แค่นั้นเพราะตลอดคาบเช้า ผมไม่สามารถตั้งสมาธิให้อยู่กับการเรียนได้เลย คิดแต่เรื่องของ

เน ทั้งที่ตลอดหนึ่งปีผมเกือบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำ

   

      กรี้งง งงงง......

คาบสุดท้ายของช่วงเช้าสิ้นสุดลง ในขณะที่ผมกำลังจะเดินออกจากห้อง

" พี่แนนคะ... ตอนนี้พวกพี่ยุ่งกันไหมคะ " ยังไม่ทันที่แนนจะได้ตอบอะไรผมก็รีบตอบกลับไปทันที

" ไม่ยุ่งคับ นี่พี่ทามเอง ^^ " เธอหันมาสบตากับผม ดวงตากลมโตของเธอทำให้หัวใจของผมมันเต้นไม่เป็นจังหวะ

" สวัสดีค่ะพี่ทาม... เนเน่ ม.5/1 เป็นบัดดี้พี่ค่ะ " เธอยิ้มให้ผม รอยยิ้มใสๆ นั้น

ช่างดูมีความสุข เหมือนกับโลกมันสว่างไปทั้งใบ ดวงตาสีน้ำตาลรับกับแก้มเนียนใส ปากอม

ชมพูได้รูป ให้ตายสิครับ นี่ผมไปอยู่ขั้วโลกไหนมาทำไมผมไม่เคยเจอเธอเลย

" พี่ทาม...พี่ทามคะ เป็นอะไรหรือเปล่าไม่สบายยังไม่หายหรอ " เสียงสดใสของเธอทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย

" ป..เปล่าครับ หายดีแล้ว แค่พักผ่อนไม่พอ ร่ายกายปรับตัวไม่ทัน " ผมรีบตอบเธอไป

อย่างรวดเร็ว

" ออ... พี่ได้ของที่เนฝากไว้กับพี่แนนแล้วใช่ไหมคะ "

“ ได้แล้วครับ น่ารักจนพี่ไม่กล้ากินเลย ขอบคุณนะ ” ผมยิ้มแล้วตอบเธออย่างสุภาพ

“ เนจ๊ะ งั้นพี่ขอตัวไปก่อนนะ พอดีพี่ทำงานค้างไว้ ” แนนเดินออกจากห้องไป ตอนนี้

ทั้งห้องเหลือแค่ผมกันเน

“ คือว่า... เมื่อวานเพื่อนๆ ลงชื่อกันหมดแล้วค่ะ เหลือแต่เนคนเดียว แล้วเมื่อเช้าตอนชั่วโมง

โฮมรูม อาจาร์บีบอกว่าช่วงบ่าย อาจารย์จะออกไปทำธุระข้างนอก เนก็เลยมาดักรอพี่ให้ไปลงชื่อ

กันเนก่อน เนไม่ได้มารบกวนเวลาพักกลางวันของพี่ใช่ไหมคะ ” สีหน้าของเธอดูลำบากใจ

จนผมรู้สึกผิดที่เมื่อวานไม่สบายจนมาเรียนไม่ไหว

“ ไม่เป็นไร พี่กินข้าวเร็ว เราไปลงชื่อกันก่อนก็ได้ ” ผมตอบเธอไปอย่างเกรงใจ

เธอยิ้มให้ผมอีกแล้ว โอ้ยย เธอจะรู้ไหมเนี้ย ผมจะละลายเพราะรอยยิ้มของเธอนี่แหละ

ตึก ตึก ตึก ตึก

“ พี่แม็ทคะ ไปกินข้าวกะ...” อยู่ๆไอรินก็โผล่พลวดเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นผมกับเน เธอก็

ชะงักไปเล็กน้อย

“ พี่แม็ททิวละ ” ผมมองเธอก่อนจะตอบออกไปแบบยียวน

“ ไม่รู้สิครับ ผมไม่ได้ตัวติดกัน เนเราไปห้องพักครูกันดีกว่า ” ผมกันเนเดินออกมาโดยไม่สนใจ

ปฎิกิริยาตอบโต้ของไอริน

“ กรี๊ดดดดด พี่ทามกลับมาคุยให้รู้เรื่องนะ กลับมาเดี๋ยวนี้.. ! ”

---   Time say end    ---

            ฉันกับพี่ทามเดินไปที่ห้องพักครูด้วยกัน ตลอดทางเราไม่ได้พูดอะไรกันเลย พี่เค้า

ดูเงียบผิดปกติ จากที่เจอกันตอนแรก หลังจากลงชื่อเสร็จพี่เค้าก็ขอตัว บอกว่าจะเอางานไปส่ง

อาจารย์ ระหว่างที่ฉันกำลังจะเดินไปที่โรงอาหาร

“ ขอโทษนะ ห้องสมุดไปทางไหน ” เสียงของใครบางคนดังมากจากข้างหลังฉัน ไม่ใช่ใคร

หรอกพี่แม็ททิวนี่เอง  ห๊ะ!! พี่แม็ททิว !! ไปห้องสมุดไม่ถูกเนี้ยนะ ==" ฉันยืนเอ๋ออยู่ 3 วินาที

แค่ 3 วินาทีนะสาบานได้

“ ว่าไง ห้องสมุดไปทางไหน ” สายตาเฉยชาของพี่เค้าเริ่มมีแววหม่นๆเล็กน้อย

“ เอิ่ม ม ม  ทางนั้นค่ะ เดินผ่านห้องธุระการไป ตึกที่ 2 ” ฉันชี้ไปทางห้องธุระการ แต่ก็ไม่มีท่าที

ว่าพี่เค้าจะขยับไปไหน

“ มีอะไรหรือเปล่าคะ ” ฉันถามออกไปด้วยความสงสัย และรู้สึกมึนเล็กน้อยกับอาการแปลกๆของ

พี่เค้า

“ เดินไปส่งทีได้ไหม คือ...ไปไม่ถูก ” ห๊ะ เดี๋ยวนะนี่ฉันหูฟาดหรือเปล่า พี่เค้าคงไม่ได้ไปล้ม

หัวฟาดพื้นหรือว่าไปลื่นหัวฟาดอ่างในห้องน้ำมาใช่ไหม ฉันจ้องเขาแว็บนึงก่อนจะเดินนำไปที่ห้อง

สมุด ทำไมนะเมื้อกี้แววตาของเค้าดูหม่นๆไปแว็บนึง ฉันเลิกสนใจอิริยาบถของเค้าแล้วตั้งหน้าตั้ง

ตาเดิน จะได้ถึงเร็วๆ หิวจะแย่และ

-- Matthew Say --

            ผมยืนพิงกำแพงเอามือล้วงกระเป๋า เหลียวมองนาฬิกาข้อมือ อีกไม่กี่นาทีก็เที่ยงคืนแล้ว

วันเกิดที่ผมไม่ต้องการให้มันมาถึงกำลังเคลื่อนเข้ามาเรื่อยๆ เหตุการณ์เลวร้ายในวันนั้นย้อนกลับมา

วันที่ผมตัดขาดจากครอบครัว สำหรับพ่อแล้วในสายตาท่าน ผมไม่ใช่ลูกดที่ดีเท่าไหร่ ท่านต้องการ

ให้ผมไปเรียนต่อต่างประเทศ นั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมจงใจทำคะแนนให้ตำว่าเกณฑ์  พ่อโกรธมาก

ท่านเป็นนักธุระกิจใหญ่ เรื่องหน้าตาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ข่าวที่ผมสอบไม่ติดแพร่ออกไปทำให้ท่านต้อง

ขายหน้า พ่อกับแม่ทะเลาะกันหนักมาก พ่อถึงขั้นจะขอหย่ากันแม่ ผมจึงกลายเป็นตัวปัญหาสำหรับบ้านหลังนี้

ตั้งแต่นั้นมาพ่อก็ไม่เคยคุยกับผมอีกเลย ผมมีน้องสาว ชื่อ เมย์ เธอเป็นเด็กน่ารัก วันเกิดผมปีที่แล้ว

ผมขอให้แม่พาพ่อกับเมย์ มาทานข้าวที่ร้านอาหารที่ผมเตรียมไว้ ทุกอย่างเกือบจะผ่านไปด้วยดี

ถ้าพ่อไม่พูดเรื่องนั้นขึ้นมา

“ พ่อจะส่งแกไปเรียนต่อที่อังกฤษ ” ผมชะงักทันทีที่พ่อพูดขึ้น

“ พ่อครับ ผมบอกแล้วนี่ครับว่าผมอยากเรียนที่นี่ ”

“ คุณคะ วันนี้วันเกิดลูกนะคะ เอาไว้เราค่อยคุยกันเรื่องนี้กันอีกทีเถอะ ” แม่จับแขนพ่อให้เปลี่ยน

หัวข้อสนทนา

“ ไม่คุณ ผมไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว เวลาคนอื่นถามเรื่องของเจ้านี่ ผมจะไม่ให้ใครมาตรา

หน้าว่ามีลูกชายไม่เอาไหนอีกแล้ว ยังไงแกก็ต้องไปเรียนที่นั้น จบกลับมาไอ้ข่าวแย่ๆของแกมันจะ

ได้ดีขึ้น “ ผมรู้สึกโกรธจนน้ำตาคลอ มือสั่นเทาของผมกำช้อนไว้แน่น

“ พ่อไม่เคยสนใจจะรับฟังผมเลย ตลอดเวลาพ่อสนใจแต่เรื่องหน้าตาในสังคม ไม่เคยสนใจเลยว่า

ผมจะเป็นยังไง ที่ผ่านมาผมไม่เคยขัดคำสั่งพ่อเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้ผมขอได้ไหมครับ ” ผมขึ้น

เสียงใส่ท่านด้วยความเหลืออด

“ เพี้ย ย  ...แกกล้าขึ้นเสียงกับฉันใช่ไหม ไปอยู่ที่โน้นทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้ให้แกแล้ว แกจะ

อยู่อย่างสุขสบาย ทำไม.. แกมันไม่รักดี งั้นเชิญ..ต่อไปแกอยากจะทำอะไรไม่เกี่ยวกับฉันอีก

หลังจากวันนั้นที่ร้านอาหาร ผมก็ตัดสินใจเดินออกจากบ้านหลังนั้นและย้ายมาเรียนที่นี้ 

ไม่รู้น่าแค่ไหนที่ผมยืนอยู่แบบนี้ เสียงนาฬิกาดังขึ้น ถึงเวลาที่ผมต้องไปโรงเรียนแล้วสินะ

คอนโดของผมกับโรงเรียนอยู่ไม่ไกลกันมาก ใช้เวลาแค่ 15 นาทีก็ถึง ผมเดินไปโรงเรียนด้วยร่างที่ไร้วิญญาณ

“ พี่แม็ท....มาเช้าจัง ” ไอรินเดินมาเกาะแขนผม แต่ด้วยความเลื่อนลอยทำให้ผมไม่สนใจที่

จะพูดอะไรกับเธอ

“ เราเป็นบัดดี้กันนะคะ ทำไมพี่เย็นชากับรินจัง ” สายตาของผมจับจ้องไปที่ผู้หญิงคนนึง ในมือ

ของเธอถึงกล่องเล็กๆที่ดูเหมือนจะเป็นขนมหรืออะไรสักอย่าง เธอทำให้ผมฉุดคิดขึ้นมา

อย่างไอรินทำไมเธอถึงดูเหมือนสนใจผมนัก ผู้หญิงที่เข้ามาหาผมทุกคนพวกเธอเกาะติดผม

เหมือนปลาหมึก ผมรู้สึกเบื่อหน่าย บางครั้งผมต้องเดินหลบเลี่ยงก็มี แต่เธอคนนั้นแทบไม่แยแส

ผมเลยด้วยซ้ำ เพราะเหตุนี้ละมั้งถึงทำให้เธอดูน่าสนใจ ผมไล่ความคิดไร้สาระออกจากหัว

“ ขอโทษนะไอริน พอดีพี่มีธุระ ” จากนั้นผมก็แกะมือปลาหมึกของเธอออกจากแขนของผม

“ ก็ได้ค่ะ งั้นตอนเที่ยงพี่ต้องไปกินข้าวกับรินนะ ” ผมรีบสาวเท้าขึ้นห้องอย่างรวดเร็ว ตอนเที่ยงนี้

ผมจะทำยังไงให้รอดพ้นจากไอรินดี

            เสียงกริ่งหมดคาบเช้าดังขึ้น สายตาที่ว่องไวของผมเหลือบไปเห็นเธอยืนอยู่หน้าห้อง ดู

เหมือนเธอมายืนรอใคร แต่ก็ทำได้แค่สงสัยเท่านั้น เพราะต้องรีบเผ่นก่อนที่ไอรินจะมา ผมกำลังจะ

เดินห้องสมุด กะว่าจะไปหาอะไรอ่านแก้เซงสักหน่อย ก่อนที่จะได้ทำอะไรเธอคนนั้นก็เดิน

ผ่านมาพอดี ปากเจ้ากรรมดันไวกว่าความคิด

“ ขอโทษนะ ห้องสมุดไปทางไหน ” ดูเธอจะงงกับคำถามของผม ไม่แปลกหรอก โรงเรียนก็ไม่

ได้ใหญ่โตอะไรมาก ถึงจะเป็นเด็กใหม่ แต่ห้องสมุดไม่ได้หายากเลย ผมถามย้ำอีกครั้งเมื่อ

เห็นเธอยืนนิ่ง

“ เอิ่มม ม ทางนั้นคะเดินผ่านห้องธุระการไป ตึกที่ 2 ” ผมยังนิ่งกับคำตอบของเธอ ลองดูว่าเธอจะ

รับมือยังไง

“ มีอะไรหรือเปล่าคะ ” เธอถามด้วยความสงสัย

“ เดินไปส่งทีได้ไหม คือ...ไปไม่ถูก ” นี่ถ้าไม่ใช่คนนิ่งๆเธอคงคิดว่าผมคงกำลังกวนประสาท

เธออยู่ เท้าเล็กๆก้าวนำผมไป เราสองคนไม่พูดอะไรกับอีก น่าแปลกที่ผมรู้สึกว่า เธอไม่เหมือนคน

อื่น นี่ผมกำลังสนใจเธออยู่หรือเปล่า ไม่นานเราก็มาถึงห้องสมุด จากนั้นเธอก็ขอตัวไปที่โรงอาหาร

ทิ้งผมให้จมอยู่กับคำถามมากมาย เธอแค่เดินมาส่งผมเท่านั้นแต่กลับทำให้ผมรู้สึกว่าผมมีเพื่อน

แค่ช่วงเวลาไม่กี่นาทีที่เราเดินมาห้องสมุดด้วยกัน นี่ผมกำลังอยากรู้จักเธอจริงๆใช่ไหม ??

---  Matthew say end    ---

 

แม็ททิวจะได้รู้จักกันเนหรือเปล่า?

เนคือคนที่ทามตามหาหรือเปล่า?

 

------------------------โปรดติดตามตอนต่อไป------------------------------

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา