รักใสใส...แอบปันใจให้นายพี่ชาย
เขียนโดย Vlinderz
วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 01.04 น.
แก้ไขเมื่อ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 16.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ห้องสมุดไปทางไหน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ-- วันรุ่งขึ้น --
" พี่แนนคะ...รบกวนฝากของให้พี่ทามหน่อยได้ไหมคะ "
หลังจากเข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จฉันก็ตรงไปหาพี่แนนทันที เพื่อฝากช็อกโกแลตที่ฉันกับยัย
แพรวไปเลือกซื้อกันเมื่อวานนี้ให้พี่ทาม ถามว่าทำไมฉันไม่เอาไปให้เอง... ก็ไม่กล้านะสิ^^"
" ได้จ้ะ... " พี่แนนรับกล่องช็อกโกแลตไปจากมือฉันแล้วรีบเดินไปห้องธุระการทันที ก็นะเป็น
ประธานนักเรียนนี่ลำบากน่าดู เหมือนพี่เค้าจะยุ่งอยู่ตลอดเวลาเลย ไหนจะเตรียมงานนั้นนี่ กิจกรรม
หน้าเสาธงอีก ฉันอยากขยันได้สักครึ่งนึงของพี่เค้าจัง แหะๆ^^"
-- ห้อง ม.6/1 --
-Time say-
" ทาม...บัดดี้แกฝากของมาให้อะ "
แนน หัวหน้าห้องของผมเดินถือกล่องช็อกโกแลตที่มีกระดาษโน๊ตแปะอยู่ยื่นให้
" เมื่อวานน้องเค้าก็มานะ เพราะว่าต้องให้บัดดี้ไปลงชื่อกับอาจารย์ประจำชั้น"
" แต้งกิ้วนะแก " แนนยิ้มให้ผมเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง ผมหยิบกล่องที่ว่า
ขึ้นมาสำรวจก่อนที่จะแกะโน๊ตที่แปะไว้ออก ในกล่องบรรจุไวท์ช็อกโกแลตรูปกุญแจซอล สำหรับ
ผมรู้สึกว่ามันจะน่ารักเกินไป ทำเอาผมแอบเขิลอยู่เหมือนกัน เหมือนโดนสารภาพรักยังไงไม่รู้
ผมละสายตาจากไวท์ช็อก แล้วหันมาสนใจกระดาษโน๊ตสีเขียวที่อยู่ในมือผม ในนั้นมีข้อความเขียนไว้ว่า
หายไวๆนะคะ บัดดี้
เน
ผมงึมงำชื่อของเธออีกครั้ง ไม่อยากจะเชื่อสายตา ในใจของผมแอบมีหวังว่าจะเป็นคนๆ เดียวกัน
รอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นที่มุมปาก ภาพเหตุการณ์วันนั้นแว็บเข้ามาในหัวของผม
- 1 ปีก่อน -
ตอนนั้นผมอยู่ ม.5 วันเปิดภาคเรียนวันแรก อากาศแจ่มใส ผมกำลังเดินขึ้นห้อง อยู่ๆ ก็มีผู้หญิงคน
นึงเดินผ่านผมไป เธอกำลังกดมือถือเลือกเพลงที่กำลังจะฟัง ด้วยความสูงของผม ทำให้ผมเห็นได้
อย่างชัดเจนว่าเธอเลือกเพลงอะไร เป็นวงร็อกชื่อดังของเกาหลี ผมจำได้ทันทีเพราะนั้นเป็นวงโปรด
ที่ผมชอบฟังมาก แนวเพลงของพวกเค้าเป็นเพลงที่หนักหน่วงและหนักแน่นบางเพลงใช้
อิเล็กทรอนิกส์ซาวด์ผสมผสานกับลิสกีตาร์ มันลงตัวจนผมต้องฟังแล้วฟังอีก
ขาของผมก้าวตามเธอไปเรื่อยๆ อย่างควบคุมไม่ได้ ผมอยากจะเอื้อมมือไปจับไหล่เธอให้หันมา
เผชิญหน้ากับผม อะไรกันแรงดึงดูดนี้ แค่เพราะว่าเธอฟังเพลงของวงที่ผมชอบ หรือเพราะน้อยมากที่ผู้หญิง
จะฟังเพลงแนวนี้ มือของผมมันกำลังจะทำตามความรู้สึกของตัวเองแต่แล้ว เพื่อนของเธอเดินเข้ามาพอดี
ผมยืนฟังบทสนทนาระหว่างเธอกับเพื่อนอย่างเสียมารยาท เท่าที่รู้เธอชื่อ เน
ทำไมผมถึงไม่ตามหาเธอนะ อาจเพราะตอนนั้นผมเองก็มีไอรินอยู่ ผู้ชายจืดชืดอย่างผมไม่แปลกหรอก
ที่ไอรินจะทิ้งไป ความเป็นสุภาพบุรุษบางทีมันก็น่าเบื่อสำหรับผู้หญิงบางคน ตัวผมในตอนนี้
คงไม่ผิดใช่ไหมที่ผมจะคิดถึงเรื่องของเธอ ไม่ผิดใช่ไหมที่ผมจะออกตามหาเธอ แต่ว่าแค่ชื่อเหมือนกัน
ก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นคนๆเดียวกันนิจริงไหม?
" นักเรียนเคารพ " เสียงของแนนปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์ เพราะอาจารย์กำลังจะเริ่มทำการสอน
แต่ก็แค่นั้นเพราะตลอดคาบเช้า ผมไม่สามารถตั้งสมาธิให้อยู่กับการเรียนได้เลย คิดแต่เรื่องของ
เน ทั้งที่ตลอดหนึ่งปีผมเกือบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำ
กรี้งง งงงง......
คาบสุดท้ายของช่วงเช้าสิ้นสุดลง ในขณะที่ผมกำลังจะเดินออกจากห้อง
" พี่แนนคะ... ตอนนี้พวกพี่ยุ่งกันไหมคะ " ยังไม่ทันที่แนนจะได้ตอบอะไรผมก็รีบตอบกลับไปทันที
" ไม่ยุ่งคับ นี่พี่ทามเอง ^^ " เธอหันมาสบตากับผม ดวงตากลมโตของเธอทำให้หัวใจของผมมันเต้นไม่เป็นจังหวะ
" สวัสดีค่ะพี่ทาม... เนเน่ ม.5/1 เป็นบัดดี้พี่ค่ะ " เธอยิ้มให้ผม รอยยิ้มใสๆ นั้น
ช่างดูมีความสุข เหมือนกับโลกมันสว่างไปทั้งใบ ดวงตาสีน้ำตาลรับกับแก้มเนียนใส ปากอม
ชมพูได้รูป ให้ตายสิครับ นี่ผมไปอยู่ขั้วโลกไหนมาทำไมผมไม่เคยเจอเธอเลย
" พี่ทาม...พี่ทามคะ เป็นอะไรหรือเปล่าไม่สบายยังไม่หายหรอ " เสียงสดใสของเธอทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย
" ป..เปล่าครับ หายดีแล้ว แค่พักผ่อนไม่พอ ร่ายกายปรับตัวไม่ทัน " ผมรีบตอบเธอไป
อย่างรวดเร็ว
" ออ... พี่ได้ของที่เนฝากไว้กับพี่แนนแล้วใช่ไหมคะ "
“ ได้แล้วครับ น่ารักจนพี่ไม่กล้ากินเลย ขอบคุณนะ ” ผมยิ้มแล้วตอบเธออย่างสุภาพ
“ เนจ๊ะ งั้นพี่ขอตัวไปก่อนนะ พอดีพี่ทำงานค้างไว้ ” แนนเดินออกจากห้องไป ตอนนี้
ทั้งห้องเหลือแค่ผมกันเน
“ คือว่า... เมื่อวานเพื่อนๆ ลงชื่อกันหมดแล้วค่ะ เหลือแต่เนคนเดียว แล้วเมื่อเช้าตอนชั่วโมง
โฮมรูม อาจาร์บีบอกว่าช่วงบ่าย อาจารย์จะออกไปทำธุระข้างนอก เนก็เลยมาดักรอพี่ให้ไปลงชื่อ
กันเนก่อน เนไม่ได้มารบกวนเวลาพักกลางวันของพี่ใช่ไหมคะ ” สีหน้าของเธอดูลำบากใจ
จนผมรู้สึกผิดที่เมื่อวานไม่สบายจนมาเรียนไม่ไหว
“ ไม่เป็นไร พี่กินข้าวเร็ว เราไปลงชื่อกันก่อนก็ได้ ” ผมตอบเธอไปอย่างเกรงใจ
เธอยิ้มให้ผมอีกแล้ว โอ้ยย เธอจะรู้ไหมเนี้ย ผมจะละลายเพราะรอยยิ้มของเธอนี่แหละ
ตึก ตึก ตึก ตึก
“ พี่แม็ทคะ ไปกินข้าวกะ...” อยู่ๆไอรินก็โผล่พลวดเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นผมกับเน เธอก็
ชะงักไปเล็กน้อย
“ พี่แม็ททิวละ ” ผมมองเธอก่อนจะตอบออกไปแบบยียวน
“ ไม่รู้สิครับ ผมไม่ได้ตัวติดกัน เนเราไปห้องพักครูกันดีกว่า ” ผมกันเนเดินออกมาโดยไม่สนใจ
ปฎิกิริยาตอบโต้ของไอริน
“ กรี๊ดดดดด พี่ทามกลับมาคุยให้รู้เรื่องนะ กลับมาเดี๋ยวนี้.. ! ”
--- Time say end ---
ฉันกับพี่ทามเดินไปที่ห้องพักครูด้วยกัน ตลอดทางเราไม่ได้พูดอะไรกันเลย พี่เค้า
ดูเงียบผิดปกติ จากที่เจอกันตอนแรก หลังจากลงชื่อเสร็จพี่เค้าก็ขอตัว บอกว่าจะเอางานไปส่ง
อาจารย์ ระหว่างที่ฉันกำลังจะเดินไปที่โรงอาหาร
“ ขอโทษนะ ห้องสมุดไปทางไหน ” เสียงของใครบางคนดังมากจากข้างหลังฉัน ไม่ใช่ใคร
หรอกพี่แม็ททิวนี่เอง ห๊ะ!! พี่แม็ททิว !! ไปห้องสมุดไม่ถูกเนี้ยนะ ==" ฉันยืนเอ๋ออยู่ 3 วินาที
แค่ 3 วินาทีนะสาบานได้
“ ว่าไง ห้องสมุดไปทางไหน ” สายตาเฉยชาของพี่เค้าเริ่มมีแววหม่นๆเล็กน้อย
“ เอิ่ม ม ม ทางนั้นค่ะ เดินผ่านห้องธุระการไป ตึกที่ 2 ” ฉันชี้ไปทางห้องธุระการ แต่ก็ไม่มีท่าที
ว่าพี่เค้าจะขยับไปไหน
“ มีอะไรหรือเปล่าคะ ” ฉันถามออกไปด้วยความสงสัย และรู้สึกมึนเล็กน้อยกับอาการแปลกๆของ
พี่เค้า
“ เดินไปส่งทีได้ไหม คือ...ไปไม่ถูก ” ห๊ะ เดี๋ยวนะนี่ฉันหูฟาดหรือเปล่า พี่เค้าคงไม่ได้ไปล้ม
หัวฟาดพื้นหรือว่าไปลื่นหัวฟาดอ่างในห้องน้ำมาใช่ไหม ฉันจ้องเขาแว็บนึงก่อนจะเดินนำไปที่ห้อง
สมุด ทำไมนะเมื้อกี้แววตาของเค้าดูหม่นๆไปแว็บนึง ฉันเลิกสนใจอิริยาบถของเค้าแล้วตั้งหน้าตั้ง
ตาเดิน จะได้ถึงเร็วๆ หิวจะแย่และ
-- Matthew Say --
ผมยืนพิงกำแพงเอามือล้วงกระเป๋า เหลียวมองนาฬิกาข้อมือ อีกไม่กี่นาทีก็เที่ยงคืนแล้ว
วันเกิดที่ผมไม่ต้องการให้มันมาถึงกำลังเคลื่อนเข้ามาเรื่อยๆ เหตุการณ์เลวร้ายในวันนั้นย้อนกลับมา
วันที่ผมตัดขาดจากครอบครัว สำหรับพ่อแล้วในสายตาท่าน ผมไม่ใช่ลูกดที่ดีเท่าไหร่ ท่านต้องการ
ให้ผมไปเรียนต่อต่างประเทศ นั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมจงใจทำคะแนนให้ตำว่าเกณฑ์ พ่อโกรธมาก
ท่านเป็นนักธุระกิจใหญ่ เรื่องหน้าตาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ข่าวที่ผมสอบไม่ติดแพร่ออกไปทำให้ท่านต้อง
ขายหน้า พ่อกับแม่ทะเลาะกันหนักมาก พ่อถึงขั้นจะขอหย่ากันแม่ ผมจึงกลายเป็นตัวปัญหาสำหรับบ้านหลังนี้
ตั้งแต่นั้นมาพ่อก็ไม่เคยคุยกับผมอีกเลย ผมมีน้องสาว ชื่อ เมย์ เธอเป็นเด็กน่ารัก วันเกิดผมปีที่แล้ว
ผมขอให้แม่พาพ่อกับเมย์ มาทานข้าวที่ร้านอาหารที่ผมเตรียมไว้ ทุกอย่างเกือบจะผ่านไปด้วยดี
ถ้าพ่อไม่พูดเรื่องนั้นขึ้นมา
“ พ่อจะส่งแกไปเรียนต่อที่อังกฤษ ” ผมชะงักทันทีที่พ่อพูดขึ้น
“ พ่อครับ ผมบอกแล้วนี่ครับว่าผมอยากเรียนที่นี่ ”
“ คุณคะ วันนี้วันเกิดลูกนะคะ เอาไว้เราค่อยคุยกันเรื่องนี้กันอีกทีเถอะ ” แม่จับแขนพ่อให้เปลี่ยน
หัวข้อสนทนา
“ ไม่คุณ ผมไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว เวลาคนอื่นถามเรื่องของเจ้านี่ ผมจะไม่ให้ใครมาตรา
หน้าว่ามีลูกชายไม่เอาไหนอีกแล้ว ยังไงแกก็ต้องไปเรียนที่นั้น จบกลับมาไอ้ข่าวแย่ๆของแกมันจะ
ได้ดีขึ้น “ ผมรู้สึกโกรธจนน้ำตาคลอ มือสั่นเทาของผมกำช้อนไว้แน่น
“ พ่อไม่เคยสนใจจะรับฟังผมเลย ตลอดเวลาพ่อสนใจแต่เรื่องหน้าตาในสังคม ไม่เคยสนใจเลยว่า
ผมจะเป็นยังไง ที่ผ่านมาผมไม่เคยขัดคำสั่งพ่อเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้ผมขอได้ไหมครับ ” ผมขึ้น
เสียงใส่ท่านด้วยความเหลืออด
“ เพี้ย ย ...แกกล้าขึ้นเสียงกับฉันใช่ไหม ไปอยู่ที่โน้นทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้ให้แกแล้ว แกจะ
อยู่อย่างสุขสบาย ทำไม.. แกมันไม่รักดี งั้นเชิญ..ต่อไปแกอยากจะทำอะไรไม่เกี่ยวกับฉันอีก
หลังจากวันนั้นที่ร้านอาหาร ผมก็ตัดสินใจเดินออกจากบ้านหลังนั้นและย้ายมาเรียนที่นี้
ไม่รู้น่าแค่ไหนที่ผมยืนอยู่แบบนี้ เสียงนาฬิกาดังขึ้น ถึงเวลาที่ผมต้องไปโรงเรียนแล้วสินะ
คอนโดของผมกับโรงเรียนอยู่ไม่ไกลกันมาก ใช้เวลาแค่ 15 นาทีก็ถึง ผมเดินไปโรงเรียนด้วยร่างที่ไร้วิญญาณ
“ พี่แม็ท....มาเช้าจัง ” ไอรินเดินมาเกาะแขนผม แต่ด้วยความเลื่อนลอยทำให้ผมไม่สนใจที่
จะพูดอะไรกับเธอ
“ เราเป็นบัดดี้กันนะคะ ทำไมพี่เย็นชากับรินจัง ” สายตาของผมจับจ้องไปที่ผู้หญิงคนนึง ในมือ
ของเธอถึงกล่องเล็กๆที่ดูเหมือนจะเป็นขนมหรืออะไรสักอย่าง เธอทำให้ผมฉุดคิดขึ้นมา
อย่างไอรินทำไมเธอถึงดูเหมือนสนใจผมนัก ผู้หญิงที่เข้ามาหาผมทุกคนพวกเธอเกาะติดผม
เหมือนปลาหมึก ผมรู้สึกเบื่อหน่าย บางครั้งผมต้องเดินหลบเลี่ยงก็มี แต่เธอคนนั้นแทบไม่แยแส
ผมเลยด้วยซ้ำ เพราะเหตุนี้ละมั้งถึงทำให้เธอดูน่าสนใจ ผมไล่ความคิดไร้สาระออกจากหัว
“ ขอโทษนะไอริน พอดีพี่มีธุระ ” จากนั้นผมก็แกะมือปลาหมึกของเธอออกจากแขนของผม
“ ก็ได้ค่ะ งั้นตอนเที่ยงพี่ต้องไปกินข้าวกับรินนะ ” ผมรีบสาวเท้าขึ้นห้องอย่างรวดเร็ว ตอนเที่ยงนี้
ผมจะทำยังไงให้รอดพ้นจากไอรินดี
เสียงกริ่งหมดคาบเช้าดังขึ้น สายตาที่ว่องไวของผมเหลือบไปเห็นเธอยืนอยู่หน้าห้อง ดู
เหมือนเธอมายืนรอใคร แต่ก็ทำได้แค่สงสัยเท่านั้น เพราะต้องรีบเผ่นก่อนที่ไอรินจะมา ผมกำลังจะ
เดินห้องสมุด กะว่าจะไปหาอะไรอ่านแก้เซงสักหน่อย ก่อนที่จะได้ทำอะไรเธอคนนั้นก็เดิน
ผ่านมาพอดี ปากเจ้ากรรมดันไวกว่าความคิด
“ ขอโทษนะ ห้องสมุดไปทางไหน ” ดูเธอจะงงกับคำถามของผม ไม่แปลกหรอก โรงเรียนก็ไม่
ได้ใหญ่โตอะไรมาก ถึงจะเป็นเด็กใหม่ แต่ห้องสมุดไม่ได้หายากเลย ผมถามย้ำอีกครั้งเมื่อ
เห็นเธอยืนนิ่ง
“ เอิ่มม ม ทางนั้นคะเดินผ่านห้องธุระการไป ตึกที่ 2 ” ผมยังนิ่งกับคำตอบของเธอ ลองดูว่าเธอจะ
รับมือยังไง
“ มีอะไรหรือเปล่าคะ ” เธอถามด้วยความสงสัย
“ เดินไปส่งทีได้ไหม คือ...ไปไม่ถูก ” นี่ถ้าไม่ใช่คนนิ่งๆเธอคงคิดว่าผมคงกำลังกวนประสาท
เธออยู่ เท้าเล็กๆก้าวนำผมไป เราสองคนไม่พูดอะไรกับอีก น่าแปลกที่ผมรู้สึกว่า เธอไม่เหมือนคน
อื่น นี่ผมกำลังสนใจเธออยู่หรือเปล่า ไม่นานเราก็มาถึงห้องสมุด จากนั้นเธอก็ขอตัวไปที่โรงอาหาร
ทิ้งผมให้จมอยู่กับคำถามมากมาย เธอแค่เดินมาส่งผมเท่านั้นแต่กลับทำให้ผมรู้สึกว่าผมมีเพื่อน
แค่ช่วงเวลาไม่กี่นาทีที่เราเดินมาห้องสมุดด้วยกัน นี่ผมกำลังอยากรู้จักเธอจริงๆใช่ไหม ??
--- Matthew say end ---
แม็ททิวจะได้รู้จักกันเนหรือเปล่า?
เนคือคนที่ทามตามหาหรือเปล่า?
------------------------โปรดติดตามตอนต่อไป------------------------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ