[ จตุรบุรุษ ] SELFISH...แค่ผู้ชายที่เห็นแก่ตัว

-

เขียนโดย SS_1305

วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.07 น.

  4 chapter
  0 วิจารณ์
  7,241 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2558 14.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) คำหลอกลวงตอบแทนการเชื่อใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

เว็บขีดเขียน

 

 

 

Hurt me with the truth but never comfort me with a lie.

จงทำร้ายกันด้วยความจริง แต่อย่าได้ปลอบโยนกันด้วยคำหลอกลวง

 

 

 

[Part 3]

 

                   ฉันโวยวายมาตลอดทางแต่เหมันต์ไม่มีทีท่าว่าจะสะทนสะท้านหรือรำคาญการกระทำของฉันแม้แต่นิด จนตอนนี้ รถของเขาก็ได้เข้าจอดในบริเวณลานรถของคอนโดแล้ว ฉันจะทำอย่างไงดีๆๆๆ T-T

            "ลงมาสิ" ฉันมัวแต่คิดหาทางเอาตัวรอดแบบสติหลุดเลยไม่รู้ตัวว่าเขาลงมาจากรถแล้วเดินมาเปิดประตูฝังที่ฉันนั่งเมื่อไหร่ "ฉันบอกให้เธอลงมาไง อย่าดื้อสิ J "

            "พาฉันไปส่งที่คอนโดเดี๋ยวนี้!!" ฉันตะโกนใส่หน้าเขาเสียงดังแต่เขาก็ทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร

            "ก็นี่ไง คอนโด "

            "ฉันหมายถึงคอนโดของฉัน!"

            "เดี๋ยวอีกไม่นานที่นี่ ก็จะกลายเป็นของเธอ "

            "ฉันไม่ตลกกับนายนะ! พาฉันกลับเดี๋ยวนี้!!"

            "ใครว่าฉันตลกล่ะ จะลงมาดีๆ หรือจะให้ฉันอุ้ม? " พูดจบเขาก็เตรียมจะเขามาซ้อนตัวฉันทันที ฉันจึงรวบรวมแรงที่มีผลักเขาออกอย่างแรง ทำให้ตัวเขาเซออกห่างไปเล็กน้อย

            "นี่! อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!!"

            "รังเกียจหรอ?" เขาเลิกคิ้วขึ้นนิดๆก่อนจะกระตุกรอยยิ้มชั่วร้ายนั่นออกมา "อย่าได้รังเกียจ 'ว่าที่สามี' ในอนาคตเลย " เขาเท้าแขนทั้งสองข้างไว้กับรถแล้วก้มหน้าลงมาหาฉัน จนใบหน้าของเราสองคนห่างกันไม่ถึงคืบ

            "สามี!? นายบ้าไปแล้วหรือเปล่า! ฉันไม่มีวันยอมเป็นอะไรกับนายเด็ดขาด!! ให้ฉันไปนอนกับขอทานข้างถนนซะยังดีกว่ามานอนกับผู้ชายที่ไม่เคยให้เกียรติเพศแม่ของตะ..อื้อ!"

                  พูดยังไม่ทันจบเขาก็ประกบริมฝีปากลงมาทาบทับริมฝีปากของฉันทันที ริมฝีปากร้อนๆของเขาบดขยี้ริมฝีปากของฉันอย่างเอาแต่ใจ ฉันตัดสินใจกัดปากเขาอย่างแรงจนรู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ่งอยู่ในปาก เขาผละตัวออกทันทีก่อนจะใช้หลังมือปาดเลือดที่ริมฝีปากของตัวเอง แล้วมองมาทางฉันด้วยสายตานิ่งๆเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลยกับเหตุการณ์เมื่อกี้

            "หึ..ใช่เล่นนะ ก็ดี..ฉันชอบ!" เขาแสยะยิ้มก่อนจะพุ่งตัวมากระชากข้อมือฉันให้ลุกออกจากรถอย่างแรง ก่อนจะใช้มืออีกข้างปิดประตูรถดังปัง!และพาฉันเดินเข้าไปในคอนโด

            "นี่! ปล่อยฉันนะ!" ฉันพยายามดิ้นแต่ไม่มีผลประโยชน์ มือของเขายังคงจับข้อมือของฉันแน่ขึ้น ฉันโวยวายเสียงดังจนทำให้พนักงานตรงบริเวณเคาน์เตอร์หันมามอง แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเข้ามาช่วยฉัน

            นี่ไม่คิดจะมาช่วยฉันสักหน่อยเลยหรอ!!!?? ฉันกำลังโดนฉุดมาทำมิดีมิร้ายอยู่นะ!!!

             เหมันต์พาฉันเดินตรงไปที่ลิฟท์แล้วดันให้ฉันเดินเข้าไปก่อนที่เข้าจะเดินตาเขามาแล้วกดปิดลิฟท์ ตอนนี้แหล่ะที่ฉันได้เป็นอิสระจากข้อมือของเขา แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าฉันจะรอดอยู่ดี

            คุณพ่อขา ช่วยวาด้วยย TT

            เขาหันมามองฉันพลางขยับเดินมาใกล้ๆ จนฉันถอยหลังกรูดไปติดกับผนังลิฟท์ เขาก็เดินตามมาติดๆแล้วยกมือขึ้นเท่าแขนกั้นตัวฉันไว้

            "ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าเธอเป็นเด็กดี ฉันจะถนุถนอมเธอให้มากที่สุด J "

            "อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!" ฉันจ้องเขาด้วยแววตาโกรธจัด พยายามซ่อนความกลัวที่มีไว้ข้างใน ไม่ได้ ถ้าเขารู้ว่าฉันกลัว เขาต้องยิ่งได้ใจ ฉันจะให้เขาเห็นมันไม่ได้!

            "ไม่แตะก็ได้ แต่จะ 'ลูบ' แทน J " เขายกยิ้มก่อนจะผละตัวออกไป แล้วลิฟท์ก็เปิดออกในชั้น 37 เขาจับข้อมือของฉันแล้วออกแรงดึงเบาๆให้ตามไป

            นี่ฉันหมดทางรอดแล้วหรอ..

                        เขาพาฉันเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องริมสุดทางขวาของชั้นนี้ ก่อนจะใช้คีย์การ์ดสแกนที่เซ็นเซอร์แล้วเปิดประตูเข้าไป เขากระตุกมือฉันเบาๆเป็นสัญาณให้ฉันเดินเข้าไปข้างใน

นี่ฉันต้องตกเป็นของเขาจริงๆใช่มั้ย..

              เขาพาฉันเข้ามายั่งส่วนที่เป็นห้องนอน ก่อนจะเหวี่ยงฉันลงบนเตียงอย่างแรง

            ตุ้บ!

           ฉันดันตัวเองลุกขึ้นแล้วหันไปประจันหน้ากับเขาที่ยืนปลดกระดุมเสื้อของตัวเองแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับการกระทำของตัวเอง

            "เหมันต์.. นายนี่มันเลวจริงๆ"

            "จุ๊ๆๆ อย่าว่าสามีแบบนี้สิคะ ไม่น่ารักเอาซะเลย" เขาโน้มตัวเท้าแขนลงมาคร่อมตัวฉัน หลังจากปลดกระดุมเสื้อเสร็จแล้วถอดมันออกแล้วเหวี่ยงมันไปไกล

            "ฉันไม่มีวันยอมเป็นเมียนายเด็ดขนาด!"

            "เดี๋ยวก็รู้ ว่าเธอจะยอมฉันมั้ย" พูดจบ เขาก็โถมตัวลงมาทาบทับฉันทันที พร้อมกับปลายจมูกและริมฝีปากที่ซุกไซ้ซอกคอของฉันไม่หยุด ฉันพยายามยกมือขึ้นทุบตีเขาแต่เขาก็รวบข้อมือฉันขึ้นไปกดไว้เหนือหัวด้วยมือเพียงข้างเดียวส่วนด้านล่างก็ใช้หัวเข่าก็กดขาทั้งสองข้างของฉันไว้อย่างแน่นหนาจนฉันรู้สึกเจ็บไปทั้งตัว

            "หะ..เหมันต์!! ปล่อยฉัน..เฮือก!!" ฉันพยายามบิดตัวหนีการกระทำอันป่าเถื่อนของเขา มือข้างที่ว่างอยู่ของเขาลูบไล้ตามเอวคอด ก่อนจะสอดมือเข้าไปรูดซิบชุดที่อยู่ข้างหลังของฉันออก ฉันพยายามรวบรวมสติที่มีอยู่ตอนนี้หาทางเอาตัวรอดครั้งสุดท้าย แต่มันก็เปล่าประโยชน์เมื่อชุดเดรสของฉันถูกถอดออกไปแล้ว เหลือแต่ชุดชั้นในสีดำเท่านั้นที่ปกปิดร่างกายของฉันอยู่..

            นี่ฉันคงหมดหวังแล้วสินะ...

             ฉันหลับตาลงแบบยอมจำนน หมดแรงที่จะสู้ต่อ..หมดหนทางรอด.. หมดกับทุกสิ่ง..

            และดูเหมือนเหมันต์จะรับรู้ถึงการจำยอมของฉัน เขาจึงปล่อยข้อมือของฉันออกแล้วเลื่อนลงมือบีบคลั้นเอวของฉันไว้

            "แบบนี้สิ ค่อยน่ารักหน่อย J " เขายกยิ้มก่อนจะบรรจงทำรอยคิสมาร์กไว้บริเวณลำคอของฉัน

            "...ฉันถือว่าทำบุญทำทาน ให้หมามันกิน!" เขาชะงักกับคำพูดของฉันทันที แล้วเงยหน้าขึ้นมามองฉันด้วยแววตานิ่งเฉย

            "หึ..งั้นฉันขอรับส่วนบุญนี้ตัวเดียวเลยล่ะกัน!" เขาสอดมือปลดตะขอบราไร้สายของฉันออกแล้วเหวี่ยงไปไกล ก่อนจะก้มลงมาซุกไซ้ที่เนินอกของฉัน มือทั้งสองข้างบีบขย้ำทรวงอกของฉันอย่างรุนแรงจนรู้เจ็บไปหมด ฉันได้แต่หลับตาลง น้ำตาแห่งความละอายในไหลพรากออกมาอย่างไม่ขาดสาย

            ฉันควรจะยอมรับในสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นหลังจากนี้สินะ..

            ฟึ่บ!

            ฉันรู้สึกถึงความอุ่นของผ้าห่มผืนใหญ่ถูกดึงขึ้นมาห่มร่างกายของฉัน ฉันค่อยๆลืมตาแล้วดันตัวเองลุกขึ้นนั่งแล้วพบว่าเหมันต์กำลังเดินตรงไปที่กำแพงห้องก่อนจะต่อยผนังห้องอย่างแรง

            ตึง!!!

            "ทำไมวะ! ทำไม!!!" เขาสบถออกมาอย่างโกธรจัดก่อนจะหันมาแล้วเดินมาตรงหน้าฉัน เขาก้มหน้าลงสบตาฉันก่อนที่จะทรุดตัวคุกเข่าลงตรงหน้าฉัน "ฉะ..ฉันขอโทษ..."

            "....."

            "ฉะ..ฉันผิดไปแล้ว ยกโทษให้ฉันได้มั้ย"

            "....." ฉันเอาแต่นิ่งเงียบ เพราะความโกธร ความสับสนที่มีอยู่ในใจ

            โกธร.. ที่เขาไม่ให้เกียรติฉับแบบนี้ทั้งๆที่เราพึ่งพบกัน

            สับสน.. สับสนในการกระทำของเขาตอนนี้ ว่าเขาสำนึกผิดจริงๆหรือแค่ต้องการให้ฉันตายใจแล้วกลับมาย้ำยีฉันซ้ำสอง

            "ในสายตาเธอตอนนี้ ฉันคงเลวมาสินะ.." เขาเงยหน้าขึ้นสบตาฉัน ดวงตาแดงกล่ำเพราะกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา "ฉันขอร้องหล่ะ อย่าเกลียดฉันเลย"

            ใช่...เขาร้องไห้...

            "นายยังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า.." ฉันพูดขึ้นบ้าง หลังจากที่เงียบมานาน "ทำไมนายถึงทำกับฉันแบบนี้.. ฉันไม่ใช่ดอกไม้ริมทางที่นายจะเด็ดมาดม พอหมดกลิ่นก็ทิ้งไปนะ.. ให้เกียรติฉันบ้างสิเหมันต์!" ฉันพูดออกมาทั้งน้ำตา

            "ฉันขอโทษ ให้โอกาสฉันได้แก้ตัวอีกสักครั้งนะ..จะให้ฉันทำอย่างไง ฉันก็ยอม"

            "ฉันไม่ต้องการเจอนายอีก..." ฉันปาดน้ำตาแล้วพูดตอบเขาด้วยน้ำเสียงและสายตาเย็นชา เขาเองชะงักกับคำพูดของฉันจนเห็นได้ชัด

            "ถ้างั้น... คืนนี้ฉันขอนอนกอดเธอได้มั้ย? ตอนนี้มันก็ดึกแล้ว นอนกับฉันได้มั้ย ฉันสันยา ว่าจะไม่ทำอะไรเกินเลยเด็ดขาด" เขามองฉันด้วยสายตาสำนึกผิด

            นี่ฉันควรให้อภัยเขามั้ย..?

            "…."

            "ได้มั้ย..? อย่างไงเราก็จะไม่ได้เจอกันแล้ว.."

            "...ตกลง" ฉันยอมรับ ว่าการกระทำของเขาครั้งนี้ มันเกินกว่าจะให้อภัย แต่เขาคงเป็นอย่างที่ยัยสไปร์สบอก อยากได้อะไรก็ต้องได้ไม่ว่าระได้มาโดยวิธีไหน เขาคงจะหน้ามืดตามัวจนลืมว่าอะไรถูกผิดแต่ในเมื่อเขาสำนึกแล้ว

            ฉันก็ควรจะให้อภัยไม่ใช่หรอ...?

             หลังจากที่ฉันยอมนอนที่นี่ เขาก็ขอตัวไปอาบน้ำ ส่วนฉันก็รีบเก็บเสื้อผ้าของตัวเองมาใส่ ขืนอยู่แบบนั้น มีหวังคราวนี้ ฉันคงไม่รอด

 

            .:: 30 นาทีผ่านไป ::.

            .:: Heman Talk ::.

            ผมเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าวาลาหลับไปแล้ว เธอนอนหลับอยู่บนเตียงของผมเธอไม่ได้หนีไปไหน ผมจึงเดินไปแต่งตัวพลางคิดกับการกระทำของตัวเองเมื่อกี้ ว่าทำไมเมื่อผมเห็นเธอร้องไห้ ผมถึงไม่กล้าทำอะไรเธอเลย คงอาจจะเป็นเพราะไม่เคยมีใครขัดขืนผมด้วยล่ะมั้ง ก็อาจจะเป็นไปได้...

            เมื่อผมแต่งตัวเสร็จ ผมก็เดินไปหยิบโทรศัพท์ในกางเกงตัวเก่าที่ถอดในห้องน้ำและกดโทรออก

             [ ฮัลโหล ] เสียงทุ่มใหญ่ดังขึ้นหลังจากที่ผมรอสายอยู่สักพัก

            "ฮัลโหลครับท่าน.."

            [ ส่งลูกสาวผมถึงคอนโดแล้วใช่มั้ย ] ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก หุ้นส่วนรายย่อยของผมเอง แต่ในอนาคตอาจจะไม่แน่…

            "ครับ...เธอนอนหลับอยู่ที่คอนโด...ของผม"

            [ อะ..อะไรนะ? ? ]

            "ใช่ครับ เธอนอนที่นี่ เธออยู่กับผม"

            [ ฮ่ะๆ ตลกหรือป่าวเหมันต์..คุณไม่ทำอะไรลูกสาวผมหรอกน่าา ]

            "ท่านไม่รู้นิสัยผมหรอครับ?"

            [ เหมันต์! ]

            "ผมต้องการรับผิดชอบด้วยการ 'หมั้น' กับเธอ" ใช่...ผมไม่ได้สำนึกอะไรหรอก ก็แค่บีบน้ำตาเล่นละครแสร้งทำเป็นรู้สึกผิดต่อหน้าลาวาก็เท่านั้นเพราะถ้าขืนผมวู้วามต่อไปก็มีแต่จะเสียของเปล่าๆเล่นแบบนี้เลยดีกว่า ง่ายกว่ากันเยอะเลย...ว่ามั้ย?

            [ อะไรนะ! ]

            "ท่านบอกค่าสินสอดมาได้เลยครับ"

            [ ยัยวาไม่มีทางยอมเรื่องนี้แน่! ]

            "เดี๋ยวท่านก็รู้"

            ติ๊ด!

ผมกดตัดสายทิ้งทันที เฮ้ออ อะไรๆมันจะง่ายดายขนาดนี้นะ ผมยอมรับนะ...ว่าผมรู้สึกถูกใจเธอตั้งแต่เจอครั้งแรกที่หน้าผับนั่น อย่างที่ผมเคยบอก...เหมือนเธอมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ผมไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันคืออะไร เวลาเธอขัดขืน เธอปฏิเสธผม มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกสนุกกับตัวของเธอมากขึ้น ยิ่งตอนที่ผมได้รู้ว่าเธอคือลูกสาวคนเดียวของท่านดิเรกผมยิ่งคิดว่ามันสนุกเข้าไปใหญ่ จนตอนนี้...ผมหันไปมองร่างบางที่นอนหลับอยู่บนเตียงก่อนจะขึ้นไปนอนบนเตียงข้างๆเธอพร้อมกับดึงร่างบางๆของเธอเข้ามากอดไว้ในอก

ผมรู้สึกแปลกๆกับเธอคนนี้ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ที่แน่ๆและที่ผมมั่นใจว่าผมต้องทำแล้วมันต้องสำเร็จ นั่นก็คือ...ผมจะไม่มีวันเสียเธอไปอย่างแน่นอน ไม่ว่าผมจะต้องแลกด้วยอะไรมากมายก็ตาม..

 

.::Lava Talk ::.

.:: เช้ารุ่งขึ้น ::.

.:: 08:30 A.M ::.

            ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาพบกับแสงแดดยามเช้าพร้อมกับอ้อมก่อนของใครบางคนข้างตัวฉัน เหมันต์ยังคงหลับสนิทและไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ตอนนี้แหล่ะ ที่ฉันควรหาทางหนี

            ฉันค่อยๆขยับตัวออกจากวงแขนของเขาเบาๆ แต่...

            ฟึ่บ! 

            "ตื่นแล้วหรอ หื้อ?" เขาพูดขึ้นทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ นี่แสดงว่าเขาตื่นก่อนฉันหรอ

            "อะ..อื้อ"

            "หิวมั้ย"

"เอ่อ..ยะ ยังไม่หิว"

"ตั้งแต่เมื่อคืน ฉันยังไม่เห็นเธอกินอะไรเลยนะ" เขาลืมตาขึ้นมามองฉันที่ได้แต่ก้มหน้าหงุดๆอยู่ในอกเขา บ้าชะมัด..ทำไมเราต้องมาอยู่ในท่านี้ตอนนี้ด้วยเนี้ย! เหตุการณ์เมื่อคืนฉันยังไม่ลืมนะ!!!!

            "นายแอบมองฉันนานขนาดนั้นเลยหรือไง"

"ใช่ ฉันมองเธอตั้งแต่เข้ามาในผับแล้ว "

            "โรคจิต!"

            "แต่เธอก็ยอมให้คนโรคจิตกอดอ่ะหรอ J "

            "งั้นก็ปล่อยฉันเส่!"

            "ไม่" ไม่พูดเปล่า เขายิ่งกอดฉันแน่นขึ้นอีก อะไรกัน! อีตาบ้านี่นิ!

ครืดดด~ ครืดดด~

           อ๊ะ! นั่นเสียงอะไรสั่นอ่ะ

"นี่นาย เสียงอะไรสั่น นายได้ยินมั้ย?"

            "อืม สงสัยจะเป็นโทรศัพท์ฉันหรือเปล่า เมื่อคืนปิดเสียงไว้" พูดจบ เขาก็หันไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองบนหัวเตียงฝั่งตัวเอง ทำให้ฉันได้เป็นอิสระจากอ้อมกอดเขาสักที "ใช่จริงๆด้วย พ่อเธอโทรมาน่ะ จะคุยหน่อยมั้ย? " เขาชูโทรศัพท์ไอโฟนหกสีทองขึ้นมาแล้วยื่นมาให้ฉัน

            "จะบ้าเรอะ!! ถ้าพ่อรู้ว่าฉันอยู่กับนายทั้งคืน พ่อฉันได้บีบคอฉันตายน่ะสิ!"

            "น่านะ รับให้หน่อยนะ เธอก็อ้างๆไปสิว่าฉันไปรับออกมาทานข้าวบอกว่าฉันไปเข้าห้องน้ำแล้วลืมโทรศัพท์ไว้เห็นเป็นเบอร์พ่อ เธอเลยรับพ่อเธอจะไปว่าอะไร" เออ...จริง นี่ฉันเซ่อหรือคิดไม่เป็นนะ ว่าแล้วฉันก็กดรับสายพ่อทันที

            "ฮัลโหลล~" ฉันพยายามปรับเสียงให้เนียนที่สุดแล้วนะ!

            [ ยัยวา! กลับบ้านมาหาพ่อเดี๋ยวนี้! ]

            "เอ๊ะ! คุณพ่อมีธุระอะไรกับวาหรือเปล่าคะ?"

            [ มีแน่! กลับบ้านเดี๋ยวนี้ อ้อ! แล้วให้เหมันต์มาพร้อมกันด้วยนะ ]

            "ห้ะ? ให้เขาไปทำไมหรอคะ?"

            [ แล้วโทรศัพท์ที่ลูกถืออยู่มันเป็นของใครล่ะ! เรามีเรื่องต้องคุยกันอีกยาว! ]

            "เอ่อ..คุณพ่อคะ! มันไม่ใช่.."

            [ กลับมาเดี๋ยวนี้!! พ่อให้เวลาหนึ่งชั่วโมง ถ้าวายังไม่ถึงบ้าน เราได้เห็นดีกันแน่! ]

            ตู๊ดๆๆๆๆ~

            ตะลึ่ง ตะลึ่ง ตะลึ่ง

            อย่าบอกนะ ว่า...

            "มีเรื่องอะไรหรอ?" อีตาเหมันต์ที่นอนฟังอยู่นานหันมาถามด้วยหน้าตามึนๆ

            เอ๊ะ! หรือว่าอีตานี่จะไม่รู้เรื่อง…

            "เฮ้! เธอหลับในเรอะ! "

            "คุณพ่อให้ฉันเข้าบ้านไปหา"

            "ก็แค่เรียกไปหา"

            "และนายก็ต้องไปกับฉัน!!!"

            "ห้ะ? ฉันเกี่ยวอะไร? -_- "

            "ฉันจะไปตรัสรู้มั้ยล่ะ เสียงคุณพ่อดูโกธรมากด้วย ไหนนายบอกว่ามันจะเรียบร้อยไงล่ะ! ทำไมถึงเป็นแบบนี้!"

            "เอ้า ฉันจะไปรู้หรือไง เธอก็ลุกไปอาบน้ำไปจะได้ไปหาพ่อเธอเดี๋ยวฉันจะไปหาชุดมาให้"

            " อื้มๆๆ"

 

            .:: 1 ชั่วโมงต่อมา ::.

            เมื่ออาบน้ำเสร็จ เหมันต์ก็พาฉันมาที่บ้านทันที คุณพ่อเดินออกมารับด้วยตัวเอง นี่ต้องเป็นใหญ่มากๆแน่เลย จะรอดมั้ยนะลาวา

"ตามพ่อมา" คุณพ่อเดินนำเข้าไปในห้องโถงใหญ่ของบ้าน ท่านนั่งลงที่โซฟาตัวใหญ่สุด ฉันจึงตามไปนั่งข้างๆ ส่วนเหมันต์ก็นั่งที่อาร์มแชร์ตัวถัดมา "เมื่อคืนลูกอยู่ที่ไหน"

            นั่นไง!! เอาไงดี ฉันยิ่งโกหกไม่เก่งด้วย ตายๆๆๆๆ

            "เอ่อ.."

            "อย่าโกหกพ่อ"

            "วาอยู่ที่..." ฉันพยายามมองไปทางเหมันต์เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เขาก็ได้แต่นั่งมองสบตาฉันนิ่งๆ

            นี่ไม่คิดจะช่วยฉันเลยหรือไงหา! นายเป็นคนผิดนะ!!!

            "เอาล่ะ พ่อจะไม่พูดอะไรมาก ถ้าลูกไม่พูด พ่อก็จะสรุปเลยแล้วกัน" คุณพ่อหันไปมองทางเหมันต์ก่อนจะพูดคำพูดที่ทำให้ฉันแทบอยากหยุดหายใจ

            "เหมันต์ คุณต้องรับผิดชอบลาวา"

            ห้ะ!!!!?

            "อะไรนะคะคุณพ่อ!! คุณพ่อหมายความว่าไงคะ!?"

            "ลาวา ลูกต้องหมั้นกับเหมันต์"

            "ไม่นะคะคุณพ่อ! คุณพ่อทำไมด่วนสรุปแบบนี้ล่ะคะ เมื่อคืนวาอยู่ที่คอนโดเขาก็จริง แต่เราไม่ได้ทำอะไรกันนะคะ! จริงมั้ย!" ฉันหันมาหาเหมันต์ เพื่อให้เขาช่วยอธิบายว่าเขายังไม่ได้ทำอะไรฉัน

            แต่สิ่งที่ได้มากลับเป็น...

            "ครับ ผมจะรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำ" ฉันไม่น่าไว้ใจคนอย่างเขาเลยจริงๆ...

            "ผมหวังว่าคุณจะไม่ทำให้ลูกสาวผมเสียใจนะเหมันต์" คุณพ่อพูดเสริม

            "ผมจะรักและดูแลเธอให้ดีที่สุด...เท่าชีวิตของผม.. J "

            ฉันไม่ควรเชื่อใจเขาเลย...

 

 

-------------------------------

มาต่อให้แล้วน้าาาา

อยากอัพใจจะขาดแต่เว็บเป็นอะไรไม่รู้ T-T

ความจริงอยากอัพตั้งนานแล้ว แต่เว็บดันล่ม.. TT

ปล. 1 วิจารณ์ 1 กำลังใจน้าาาาาา

-------------------------------

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา