Dear my love

9.5

วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.24 น.

  31 ตอน
  13 วิจารณ์
  37.96K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2558 17.29 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) เพื่อนรักหรือรักเพื่อน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

--------------[5 เดือนที่แล้วก่อนเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดและไม่น่าเกิดขึ้น]--------------

 

“นี่ ปลายปิดเทอมสั้นนี้จะไปเที่ยวที่ไหนรึปล่าวอะ หรือมีธุระรึปล่าว?”

 

          นี่เพื่อนของฉันเอง ชื่อแอม เราเรียนมาด้วยกันตั้งแต่ ป.5 ในช่วงแรกๆเราไม่มีใครคบเป็นเพื่อนเลยอาจจะเป็นเพราะ ฉันไม่ค่อยชอบไปเล่นกับใคร ฉันไม่ถูกกับการเล่นวิ่งเล่นหรือการกระโดดเชือกแบบเด็กๆนั้นเท่าไหร่ เพราะฉันหลงใหลในตัวหนังสือ

 

“ปลาย....”

 

          เอ๊ะ! เดี๋ยวๆ คุณคงจะคิดว่าฉันเป็นเด็กเรียนละสิ? ฉันไม่ได้หลงใหลตัวหนังสือในตำราเรียน ฉันหลงใหลในจิตนาการฉันหลงใหลเรื่องราวที่ผู้เขียน ได้ถ่ายทอดออกมาให้สัมผัสผ่านตัวหนังสือ ใช่แล้วฉันหลงรักตัวหนังสือที่ผู้เขียนได้เขียนลงในนิยายคุณอาจจะงง ว่าทำไมเด็กขนาดนั้นถึงชอบอ่านหนังสือ เพราะก่อนที่ฉันจะเข้ามาในเมืองเพื่อที่จะย้ายตามที่ทำงานของพ่อกับแม่

 

“ปลาย ฟังอยู่หรือปล่าว”

 

          ฉันอาศัยอยู่ในแถบชนบทแต่ไม่ได้นับว่ากันดารนัก เวลาที่แม่ฉันได้เลี้ยงดูฉันมา ท่านชอบอ่านเรื่องราวของจินตนาการความตื่นเต้นที่สื่อผ่านทางตัวหนังสือได้โดยที่ไม่ต้องเห็นภาพ ในตอนนั้นฉันอ่านหนังสือได้ไม่เก่งนักคุณแม่เลยถือโอกาศสอนการอ่านไปด้วยจึงทำให้ฉันถนัดในการอ่านมาตั้งแต่ยังเด็ก

 

 

“ปลาย ได้ยินที่เราาพูดปะเนี่ย” แอมเรียกฉันพลางสะกิดที่ไหล่ฉันเลยหันไปมอง

“โทษที เมื่อกี๊นึกอะไรเพลินไปหน่อย แล้วเมื่อกี๊แอนพูดว่าอะไรนะ ทวนให้ฟังหน่อยจิ”

 

          โอ้ ฉันลืมแนะนำตัวเลย ฉันชื่อปลายฝน อายุ 18 ปี อยู่โรงเรียนขยันการศึกษาวิทยา ห้อง 6/3 กับแอม ตอนแรกที่มาดูว่าอยู่ห้องไหน ฉันลุ้นแทบตายกลัวว่าจะได้แยกกันซะแล้ว โชคดีหน่อยที่ได้อยู่ห้องเดียวกัน

 

“โถ่ เราก็ว่าจะชวนปลายไปเที่ยวทะเลไม่ก็ไปน้ำตกซักหน่อย”

“อ๋อ แล้วจะไปตอนปิดเทอมสั้นนี่ปะ”

“ก็ใช่สิจ๊ะแม่สาวน้อย จะให้ไปตอนไหนละค่ะ”

“จ้าาา แล้วจะไปกันกี่วันดีอะ?”

“อืม.... เอาซัก5วันเป็นไง อยู่ด้วยกันเอาให้เบื่อไปเลยย ว่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

“หูยไปหลายวันแบบนี้มีเงินไปด้วยเหรอ”

“มีสิ”

“ไหนอะ” พอฉันถามเสร็จ แอมก็ชี้นิ้วไปที่ป้ายหน้าร้านขายเค้กฝั่งตรงข้ามโรงเรียนที่มีข้อความว่า “รับสมัครพนักงานพาร์ททามหลายอัตรา”

“อ๋ออ แบบนี้นี่เอง”

“เราไปลองสอบถามพี่ที่เป็นพนักงานขายในนั้นแล้วละ ฉันว่าเราน่าจะพอทำได้อยู่”

“ถ้าแอมคิดว่าไหว เราก็ไหวนะ ^^”

“จ้า งั้นหลังเลิกเรียนกลับไปบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วค่อยมาสมัครพร้อมกันเนอะ”

“ได้ซิ งั้นเดี๋ยวเราจะมารับเหมือนเดิมนะจ๊ะ ที่รัก จุ๊บบ”

“แหวะ ไปไกลๆเลยปายยย”

 

          แอมแกล้งดันหน้าฉันออกห่าง ฉันเลยทำหน้ากวนใส่ แต่ระหว่างที่ฉันกำลังจะไฟว์กับแอมก็มีเสียงระฆังดังซะก่อน นั้นก็คือ ออดสัญญาณเวลาเข้าเรียนนั้นเอง ฉันกับแอมจึงหยุดการเล่นไว้อย่างนั้นแล้วค่อยเก็บของเก็บขยะไปทิ้งแล้วเดินเข้าเรียน

 

กริ๊งงงง สัญญาณออดดังขึ้นเพื่อเตือนให้รู้ว่าหมดคาบเรียนแล้ว

 

“นักเรียนทำความเคารพ”

“ขอบคุณค่ะ/ครับ” หลังจากนั้นทุกคนก็พากันเก็บของเตรียมตัวไปเข้าแถวก่อนกลับบ้าน ฉันพาแอมมาเข้าห้องน้ำก่อนที่จะไปเข้าแถว

“แอม มีคนที่แอบชอบปะ”

“อื้ม.... ก็มีอยู่นะ” ฉันเห็นแอมหน้าแดงนิดหน่อยหลังจากตอบฉันเสร็จ

“แล้วปลายละมีคนที่ชอบปล่าว”

“มีสิ”

“ใครอะ บอกเราหน่อยดิ”

“ม่ายย บอกก แบร่ :P”

“นะๆ บอกเราหน่อยนะ *A* ” ปัดโถ่เอ้ยย อย่ามาทำหน้าแบบนี้ได้ไหม หัวใจฉันมันสั่น 99.99 ริกเตอร์แล้วเนี่ย เธอไม่รู้เลยงั้นเหรอว่าคนที่ฉันชอบอะมาอยู่ตรงหน้าฉันแล้วนี่ไง

 

‘ได้เวลามาเข้าแถวแล้วนะค่ะนักเรียน มารวมตัวกันที่หน้าเสาธงด้วยค่ะ’

 

“นั่นไง อาจารย์เรียกแล้ว ไปเข้าแถวกัน” แอมยื่นมือมาจับมือฉันแล้วมองด้วยสายตาออดอ้อน

“จะไม่บอกเค้าก่อนเหรอ QAQ” มือนุ่มจัง... เฮ้ย! ไม่ใช่ละ

“เอาน่า เดี๋ยวไปเข้าแถวช้าโดนอาจารย์ทำโทษหร่อก”

“ก็ได้”

 

 

          เฮ้อ... ให้ตายซิชอบทำตัวน่ารักแบบนี้แล้วจะไม่ให้ชอบได้ยังไง แล้วยังชอบเล่นถึงเนื้อถึงตัวอีก ก็รู้อยู่นะว่าเราเป็นผู้หญิงเหมือนกันแต่เข้าใจบ้างไหม หัวใจของคนๆนี้มันจะทนความน่ารักนี้ไม่ไหว

 

 

//หน้าบ้านแอม

 

 

“รอนานหรือปล่าวปลาย”

“ไม่นานหร่อก ป่ะ ไปกัน” ฉันยื่นหมวกกันน็อคให้แอมใส่

 

          บ้านของแอมอยู่ห่างจากโรงเรียนไม่ไกลมากแต่ถ้าเดินมาก็เหนื่อยอยู่นะ ส่วนบ้านของฉันอยู่ห่างจากบ้านแอมประมาณ 5 กิโล ฉันเลยจะมารับแอมไปโรงเรียนด้วยกันจนเป็นกิจวัตรประจำวันไปโดยปริยาย

 

 

//ร้าน Make you love

 

 

กริ๊งงๆ

 

“สวัสดีค่ะ ^^”

“สวัสดีค่ะพี่ พอดีหนูทั้ง2คนจะมาสมัครพนักงานพาร์ททามหน่ะค่ะ”

“ได้เลยค่ะน้อง นั่งรอพี่สักครู่นึงนะค่ะ”บริการน่ารักดีแห่ะ เวลาคุยกับลูกค้าก็ยิ้มแย้มดี บรรยากาศในร้านก็ร่มรื่น มีมุมให้สำหรับนั่งจิบกาแฟเล็กๆด้วยล่ะ

“ปลายๆ ดูซิตุ๊กตาตัวนั้นสิน่ารักอะ ><”

“เห็นว่าน่ารักก็อย่าไปขโมยของพี่เค้าเชียวนะ เดี๋ยวก็โดนไล่ออกทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำงานหร่อก”

“จะบ้าเหรอ เราไม่ได้เป็นคนแบบนั้นนะ ก็แค่เห็นว่ามันน่ารักเฉยๆ” แอมตีแขนฉันเบาๆ แล้วทำแก้มบ่องแบบงอนๆ

“อิอิ แหย่เล่นเฉยๆน่า” ฉันกับแอมนั่งรอซักพักก็มีพี่สาวคนนึงเดินมาหา

“สวัสดีค่ะ น้องจะมาสมัครงานใช่รึปล่าวค่ะ”

“ใช่ค่ะ”

“พี่ชื่อ อาย นะจ๊ะ พี่เป็นเจ้าของร้านนี้เอง น้องรบกวนกรอกรายละเอียดลงในสมัครให้พี่หน่อยนะค่ะ” ฉันนั่งกรอกใบสมัครจนเสร็จแล้วยื่นให้พี่อาย

“กรอกครบแล้วนะค่ะ วันพรุ้งนี้น้องก็มาทำงานได้เลยนะ พี่จะให้พวกเรามาเช้าหน่อย พี่จะแนะนำก่อนจะเปิดร้านซักนิดนึง”

“ได้ค่ะ พี่อาย ขอบคุณมากค่ะ พวกหนูขอตัวกลับก่อนนะค่ะ สวัสดีค่ะ”

“จ้า สวัสดีจ๊ะ” ฉันไหว้พี่อายก่อนจะออกมาจากร้าน

“ปลาย เราไปค้างบ้านปลายได้ไหม?”

“นั่นแน่ รู้นะว่าจะมาขอช่วยให้ทำงานให้หน่ะ”

“แฮ่ๆ นะๆๆ เราไม่อยากทำคนเดียว อีกอย่างนึงสองหัวดีกว่าหัวเดียวนะ *0* ” นั้นไง หาข้ออ้างมาลอกกันอีกแล้ว แต่ก็จริง เพราะว่าเวลาฉันทำงาน ข้อไหนที่ฉันคิดไม่ออก ตอบไม่ได้ แอมมักจะตอบได้เสมอ เหมือนเราเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของกันและกันอย่างนั้นละ

‘แต่ถ้าเกิดว่า ในใจของอายมีเราเข้าไปเติมเต็มข้างในก็น่าจะดีเหมือนกันนะ’

“ได้จ้าาา ไม่เคยขัดได้อยู่แล้วนี่”

“ใครว่าล่ะ ทีตอนอยู่โรงเรียนยังไม่บอกเลยว่าปลายแอบชอบใคร”

“จ้า ยอมแล้วๆ ปะกลับบ้านกัน”

“ชอบเปลี่ยนเรื่องอยู่เรื่อยเลยเชียว” เกือบเผาตัวเองซะแล้วไหมละเนี่ย ดันไปพูดให้เค้านึกถึงตอนนั้นซะได้ต้องรอบคอบซักหน่อยแล้วซิเรา

 

            ฉันพาแอมกลับไปเก็บเสื้อผ้าเอามาค้างคืนที่บ้านของฉัน1คืน ซึ่งพ่อกับแม่ของแอมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเราไปมาหาสู่กันบ่อยๆจนพ่อกับแม่ไว้วางใจฝากแอมไว้กับฉันได้

 

 

//บ้านปลาย

 

 

“สวัสดีค่ะแม่”

“สวัสดีจ๊ะลูก หนูแอมจะมาเล่นกับปลายเหรอจ๊ะ”

“แอมจะมาค้างที่บ้านเราหน่ะแม่”

“ได้เลยจ้า แม่ยินดีต้อนรับเราเสมอเลยนะแอม”

“ค่ะแม่ ^^” แอมยิ้มหวานให้แม่ก่อนขอตัวเอาของไปเก็บบนห้อง

“ปลาย มาช่วยแม่ทำกับข้าวหน่อยลูก”

“ได้ค่าาาา”

 

            ครอบครัวของฉันเป็นครอบครัวเล็กๆ มีกับแค่พ่อกับแม่แล้วก็ฉันที่เป็นลูกคนเดียวในบ้าน พอฉันรู้จักกันกับแอม และไปเล่นกับแอมบ่อยๆ แอมจึงเป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่น้องในเวลาเดียวกัน ทำให้ฉันไม่เหงาในช่วงวันหยุด

 

“แล้ว ทีนี้เมื่อไหร่แม่จะได้ข่าวดีซักทีน๊า”

“ข่าวดีอะไรอะแม่?” ฉันทำหน้างงแล้วหันไปมองผู้เป็นแม่ที่ทำหน้ากรุ่มกริ่ม อยู่ข้างๆ แล้วแม่ก็ขยับมากระซิบข้างหูฉัน

“เมื่อไหร่แม่จะได้ลูกสะใภ้ซักทีละ” ฉันยืนนิ่งไปซักพักนึงเพราะอึ้ง ‘แม่รู้ได้ไง???’

“ล... ลูกสะใภ้อะไรละแม่ ไม่มี๊!!”

“อย่าทำเก๊กไปหน่อยเลยน่า แม่รู้นะว่าลูกชอบหนูแอม” ฉันหันไปกระซิบแม่ทันที

“แม่รู้ได้ยังไง? ตอนไหน? ทำไมหนูไม่รู้เรื่องเลย?”

“เอาเป็นว่าแม่รู้ละกัน”

“แล้ว…. แม่ไม่รังเกียจหรือว่าอะไรปลายหร่อกใช่ไหม...?”

“จะรังเกียจทำไหมละลูก เรื่องหัวใจแม่บังคับลูกไม่ได้หร่อก ถ้าลูกเลือกแล้วแม่ก็คงทำได้แค่มองว่าคนๆนั้นสามารถทำให้ลูกแม่มีความสุขได้หรือปล่าว ถ้าแม่จะกักกันคนที่ลูกชอบ ก็คงกักกันเพราะคนๆนั้นทำให้ลูกเสียใจนั้นแหละจ๊ะ”

“เย้! หนูรักแม่ที่สุดอะ”

 

          ฉันโชคดีจังที่ได้เกิดมาในครอบครัวนี้ ครอบครัวที่ให้ความอบอุ่นกับฉัน คอยให้คำปรึกษา คอยปกป้อง และให้ความรักกับฉันแบบเต็มล้นใจ เพราะโดยส่วนใหญ่ที่ฉันเห็นจากครอบครัวอื่น จะกักกันความรักแบบนี้ อาจจะเป็นเรื่องแปลก และน่ารังเกียจในสังคมที่ไม่ค่อยจะยอมรับในเรื่องแบบนี้เท่าไหร่นัก แม้แต่ ชายรักชาย ยังมีคนออกมาคัดค้านหรือพยายามแยกคู่รักเพศเดียวกันออกจากกันโดยให้เหตุผลว่า อาจจะเป็นการทำให้ชื่อเสียงของบ้านดูไม่ดี ทั้งๆที่พวกเขานั้นไม่ได้ไปฆ่า ข่มขืน หรือขโมยของใครแต่อย่างใด ฉันเลยไม่เข้าใจ ความรักเป็นเรื่องหัวใจของคนสองคน ทำไมต้องมากีดกันด้วยนะ ฉันไม่เข้าใจเลย...

 

“กำลังทำกับข้าวอะไรอยู่เหรอค่ะ เดี๋ยวแอมช่วยนะ”

“ได้เลยจ้าหนูแอม แม่อยากให้ยัยปลายเป็นเหมือนหนูแอมจังเลย ทั้งน่ารักทั้งเก่ง”

“แม่อะ ชมแต่แอม ปลายก็ทำกับข้าวเก่งเหมือนกันนะ”

“อิอิ น่ารักจังเลยนะค่ะแม่ลูกคู่นี้นี่”

“น่ารักแล้วทำไมไม่รักเลยล่ะหนูแอม” แม่!! แม่พูดอะไรออกไป!! หนูเขิน >////<

“ก็รักอยู่นี่ละค่ะ ปลายเพื่อนรัก แล้วก็คุณแม่ที่น่ารักของปลายด้วยย” เพื่อน งั้นเหรอ....ใช่ซินะ เพราะเราเป็นเพื่อนกันนี่เนอะ ถึงไม่สามารถข้ามไปมากกว่านั้นได้

 

            หลังจากที่ทำกับข้าวเสร็จได้ไม่นานพ่อก็กลับมาจากการทำงานพอดีเลยได้กินข้าวพร้อมกัน วินาทีนั้นฉันนึกถึงวันที่ฉันกับแอมได้นั่งกินข้าวทั้งครอบครัวแบบนี้อีก แต่ไม่ใช่ในฐานะเพื่อนที่มานอนค้างที่บ้านเพื่อน แต่เป็นในฐานะครอบครัวเดียวกัน

 

            พอฉันกินข้าวเสร็จก็ช่วยแม่ล้างจานก่อนที่จะขึ้นไปสอนการบ้านแอมบนห้อง เพราะวันพรุ้งนี้เป็นวันเสาร์แอมถึงมาค้างที่บ้านได้ แอมยังให้เหตุผลเพิ่มเติมอีกว่า “ถ้าเกิดว่าทำการบ้านเสร็จแล้ว เวลาทำงานจะได้ไม่กังวลไง” แต่อีกนัยนึงก็คงหาเพื่อนทำการบ้านด้วยนั้นแหละนะ ฉันไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าแอมก็มีใจให้ฉัน ที่แอมชอบมาอยู่ใกล้ๆหรือชอบเดินจับมือก็คงเป็นเพราะเป็นเพื่อนสนิดกันแล้วเราก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน เลยไม่ได้คิดอะไรแต่สำหรับฉัน มันมากกว่าคำว่าเพื่อนไปตั้งแต่ที่แอมบอกว่าอยากจะอยู่ด้วยกันกับฉันตลอดไป

 

            มันอาจจะเป็นเรื่องราวในวัยเด็กที่พูดโดยที่ไม่รู้อะไรแต่ฉันดันไปคิดว่าเขาคงอยากจะให้ฉันเป็นแฟนด้วยเป็นแน่เลยไม่ได้พูดอะไรออกไปมากจนกระทั่งฉันโตขึ้นฉันเลยคิดได้ว่าคำว่า “เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” นั้นมันเป็นคำพูดของเด็กๆที่ใช้กับเพื่อนสนิดเท่านั้น อาจจะเป็นเพราะอยากอยู่ด้วยกันอยากเล่นด้วยกันเฉยๆก็ได้ ฉันเลยเลิกคิดเข้าข้างตัวเอง แล้วก็ปล่อยให้เป็นไปตามปรกติก็พอ ฉันไม่อยากเสียคนที่ฉันรักไปเพียงเพราะฉันทำลายความเป็นเพื่อนด้วยคำว่า รักเพื่อน

 

“ไม่ไหวแล้ว หัวสมองชาไปหมดแล้ววว เล่นเกมกันเถอะนะปลาย”

“ไม่ได้ ไหนบอกว่าอยากทำงานให้เสร็จก่อนไปทำงานไง นี้ได้ยังไม่ถึงครึ่งเองนะ”

“แต่ว่ามันยากอะ ไว้ทำหลังเลิกงานได้ไหมอะ -3- ”

“เดี๋ยวแอมก็หาเรื่องเบี่ยงแบนไม่ทำการบ้านอีกนั่นแหละ”

“ชิ...รู้ทันซะได้”

“ถ้ารู้แล้วก็มานั่งทำเดี๋ยวนี้เลย”

“ค่า” แอมลุกมานั่งข้างๆฉันจากที่ตอนแรกแอมนั่งฝั่งตรงข้ามฉันทำให้ฉันรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก

 

            หลังจากที่แอมลุกมานั่งข้างๆ แอมก็พยายามออดอ้อนให้ทำให้แต่ฉันไม่ยอม เพราะถ้าแอมเอาแต่ลอกอย่างเดียวเวลาสอบเดี๋ยวจะพาลทำไม่ได้เอา ฉันเลยได้สอนแอมก่อนที่จะทำต่อ

 

“ปลายจ๋า เราไม่ไหวแล้วอะ เราอยากนอนแล้วพรุ้งนี้ก็ต้องตื่นไปร้านพี่อายตอนเช้านะ” แอมเอาหัวมาซบไหล่ฉันแล้วเป่าลมใส่หูฉันเบาๆ

“อ๊ะ... นี่!” ฉันทุบไหล่แอมเบาๆ

“เล่นอะไรไม่รู้เรื่องเลยรู้ก็รู้อยู่ว่าฉันมีจุดอ่อนอยู่ตรงหูก็ยังจะแกล้งกันอีกนะ”

“ก็มันไม่มีอะไรทำนี่นา”

“งั้นก็ทำงานไปซิ เราไม่ใช่ของเล่นนะ -///*///- ”

“ใครใช้ให้การบ้านมันทำยากละ ขี้เกียจทำจะตายอยู่แล้ว เค้ารอลอกได้ไหม *3* ”

“เฮ้อ... ก็ได้ๆ แต่นั่งนิ่งๆนะ เราใกล้ทำเสร็จแล้ว”

“รับทราบแล้วค่ะท่าน!” แอมทำท่าตะเบะเหมือนทะหาร ช่างน่ารักน่าเอ็นดูซะจริงๆ ฉันส่ายหัวเล็กน้อยแล้วค่อยทำการบ้านให้เสร็จ

 

            หลังจากที่ฉันทำการบ้านเสร็จแล้ว ฉันก็ช่วยอธิบายข้อที่มันยากๆแต่ควรจำเพราะอาจจะมีออกในข้อสอบ ฉันเลยถือโอกาสเปิดติวเล็กๆให้กับแอม พอติวเสร็จฉันกับแอมก็พากันสลับกันไปอาบน้ำ และเตรียมเข้านอน

 

            แอมติดนิสัยที่ไม่ค่อยจะดีอย่างนึงคือจะชอบใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นมากๆเวลานอน ทำให้ฉันเผลอคิดไปไกลหลายครั้ง ทั้งๆที่เห็นอยู่เป็นประจำตอนที่แอมมาค้างที่บ้าน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะไม่คิดลึก เป็นใครก็ต้องมีหวั่นไหวมั่งละนะ คนที่เราแอบชอบมาทำตัวยั่วยวนแบบนี้ถ้าใจไม่แข็งจริงอาจจะกระโดดใส่เหมือนเสือหิวกระต่ายน้อยเลยละมั้งนะ

 

            แต่วันนี้แอมใส่ชุดนอนลายแพนด้า ฉันเลยตกใจนิดหน่อยเพราะว่าโดยปรกติแล้วแอมไม่ค่อยจะชอบชุดนอนเท่าไหร่ ถึงมันจะน่ารักแต่แอมให้เหตุผลว่า “ก็มันไม่สบายเวลานอนนี่นา ชอบแบบใส่ชุดบางๆนอนดีกว่า สบายตัวสุดๆเลย” แต่คำว่าสบายตัวของแอมคือคำว่าหัวใจจะวายของฉันไง จะว่าไปชุดมันไม่บางเกินไปเหรอเนี่ย -////-

 

“ปลายชุดนอนชุดนี้น่ารักไหม ?”

“น่ารักสิ”

‘คนใส่ก็น่ารักนะ’ ฉันคิดในใจ

“แต่มันจะไม่บางไปหน่อยเหรอ”

“ก็เพราะมันบางนั้นแหละ เราถึงใส่ได้”

“ก็.... มันเกือบจะเห็นชั้นในอยู่แล้วนะ -////-”

“ก็ไม่ต้องมองสิ ลามก” แอมเอามือมาปิดหน้าอกแล้วแก้มแดงนิดๆ ‘ปัดโธ่เอ้ย!! จะทนไหวไหมเนี่ยคืนนี้’

“จ้าๆ นอนกันเถอะ พรุ้งนี้ไปทำงานสายเดี๋ยวโดนว่าพอดี” ฉันเดินไปนอนบนเตียงแล้วตบข้างๆตัวให้แอมมานอนด้วย

 

            เตียงฉันเป็นเตียงเดี่ยวขนาดกลางๆ เพราะถ้าเล็กไปฉันก็ไม่ชอบ ใช้เตียงคู่มันก็ใหญ่เกินตัวไป กว่าจะหาเตียงที่ฉันชอบได้ก็วุ่นพอดู

 

“แล้วหมอนข้างหายไปไหนอะ”

“เอาไปซักอยู่อะ โทษทีนะกอดตุ๊กตาตัวนี้ไปก่อนได้ไหม” ฉันยืนตุ๊กตาหมีน้อยไปให้แอม

“ไม่เอาอะ คืนนี้นอนกอดปลายดีกว่า”

“ห๊ะ!?” ฉันไม่ทันได้ตั้งตัวแอมก็เข้ามาในผ้าห่มแล้วมานอนกอดฉัน

“ฝันดีค่ะปลาย”

 

            อาจจะเป็นเพราะแอมเตี้ยกว่าฉันไม่กี่เซ็นละมั้ง ทำให้แอมหายใจรดต้นคอฉันอยู่อย่างนั้น คืนนี้จะหลับไหมเนี่ย จะทำยังไงดีถ้าฉันไม่ให้แอมกอดแอมก็จะไม่หลับ เพราะแอมเป็นคนติดหมอนข้างมากถ้าไม่ได้นอนกอดหมอนข้างจะนอนไม่หลับ ‘ขอร้องหล่ะหัวใจดวงน้อยๆของฉัน อย่าเผลออดความรู้สึกไม่ไหวจนต้องบอกออกไปเลย ฉันยังไม่อยากเสียคนๆนี้ไปฉันอยากอยู่กับเขาไปนานๆ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ในฐานะ เพื่อน ก็ตาม’

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา