Love Forever รักนิรันดร์นี้มีเพียงคุณ
เขียนโดย P1004666
วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 12.25 น.
แก้ไขเมื่อ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558 01.06 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทนำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทนำ
นับร้อยพันครั้งที่สายตาคู่หนึ่งได้แต่นั่งมองพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าและลาลับไปในยามเย็นเพียงลำพังมาเป็นเวลานานแสนนานนับตั้งแต่เหตุการณ์ในคราวนั้นได้จบลงพร้อมกับชีวิตและเรื่องราวของเพื่อนพ้องทั้งสองที่บัดนี้ได้กลายเป็นเพียงความทรงจำเก่า ๆ ที่พร้อมจะสูญหายไปเมื่อเข็มนาฬิกาชีวิตของใครคนหนึ่งใกล้จะหยุดเดิน บัดนี้แสงสีแดงจากฟากฟ้าที่ไกลโพ้นเริ่มเลือนรางและค่อย ๆ จางหายไปถูกแทนที่ด้วยความมืดมิดที่เงียบสงบ เฉกเช่นเดียวกับชีวิตของผู้ขึ้นที่ค่อย ๆ ล่วงหล่นหายไปตามกาลเวลา ไม่มีใครมี ชีวิตอยู่ค้ำฟ้าได้ตลอด ทุกสรรพสิ่งบนโลกล้วนมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย วนเวียนว่ายไม่รู้จบสิ้น คงจะมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่ชีวิตต่อจากนี้นิจนิรันดร์จะไม่มีวันดับสูญเยี่ยงมนุษย์พวกนั้นเพราะเขาคือ “ แวมไพร์ ” ราชาแห่งรัตติกาลผู้เป็นอมตะ
“ มันไม่ค่อยจะยุติธรรมเลยนะเจ้าพวกบ้า ที่ปล่อยฉันทิ้งไว้คนเดียวเเบบนี้ ”
เสียงเรียกภายในใจของแวมไพร์หนุ่มร้องตะโกนดังก้อง เมื่อจู่ ๆ ก็รู้สึกเหงาและคิดถึงเพื่อนพ้องขึ้นมา ทั้งที่บริเวณสวนสาธารณะแห่งนี้มีผู้คนเดินผ่านสวนทางกันไปมา
“ เหงาจังโว้ย !! ไม่อยากมีชีวิตอยู่เป็นอมตะบ้าบออะไรนี้อีกแล้ว ”
ความคิดหนึ่งแว่บเข้ามาในหัว พร้อมกับมีดคมกริมที่อยู่ในมือ ปลายอันแหลมคมของมีดสะท้อนวาบเมื่อถูกแสงไฟกระทบ พร้อมกับกรีดเข้าไปที่แขนช้า ๆ อย่างบ้าคลั่ง
ฉึก !
ผิวหนังสีขาวซีดบัดนี้ถูดกรีดเป็นทางทับซ้ำไปมาแม้จะรู้ว่าต่อให้เอามีดแหวกหัวใจที่เต้นตุบตั๊บ ๆ อยู่ออกมาชีวิตนี้ก็ไม่รู้สึกเจ็บปวด ไม่ดับสิ้น แต่กระนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะระบายมันออกมา ในเมื่อชีวิตที่เป็นอมตะนี้อยู่แบบไร้ค่าไร้ความหมาย ไม่มีใครยินดีกับพลังชีวิตอมตะที่เขาได้ ไม่มีใครต้องการเขาแม้กระทั่งแวมไพร์ด้วยกันเอง โดดเดี่ยวตลอดมาทุกอย่างเป็นแบบนี้เสมอ
เนื้อสดที่ถูกกรีดเป็นรอยลึกค่อย ๆ เลิกขึ้นตามรอยเผยให้เห็นเนื้อในเด่นชัดขึ้นแม้ภายนอกจะถูกอาบไปด้วยคราบเลือดสีแดงก็ตาม ทั้งที่ก่อนหน้านั้นแก่งแย่งแข่งขันกันดูดพลังจากมนุษย์กันแทบเป็นแทบตาย จนป่านนี้เขาก็ยังไม่สามารถล่วงรู้คำตอบว่าได้เพราะเหตุใดเพื่อนทั้งสองถึงยอมสละวิญญาณลงได้ ไม่อยากครอบครองแม้กระทั่งความเป็นอมตะ
“ หยุดเดี๋ยวนี้นะ ลุงคิดจะทำบ้าอะไร ”
เสียงใครคนใดคนหนึ่งดังขึ้น ทำให้แวมไพร์หนุ่มที่กำลังบ้าคลั่งหยุดชะงัก แล้วหันไปมองหาเจ้าของเสียงที่ร้องห้ามนั้นด้วยความสนใจ
เด็กชายตัวเล็กที่กำลังเดินเข้ามาใกล้เขาร้องทักขึ้นด้วยความเป็นห่วง สีหน้าฉายชัดถึงความกังวลเมื่อ เห็นคนตรงหน้ากำลังจะทำร้ายตัวเอง
“ นายมีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉันห๊ะไอ้เด็กน้อย ”
แวมไพร์หนุ่มชักสีหน้าโมโหไม่พอใจเมื่อถูกขัดจังหวะ เขากวาดสายตามองเด็กชายตรงด้วยสายตาอาฆาต แต่แล้วอารมณ์ร้ายในตอนนั้นก็ได้หยุดลง
มือเล็กของเด็กชายแปลกหน้าค่อย ๆ สัมผัสมายังผิวกายที่เย็นเฉียบและชุ่มไปด้วยเลือดของแวมไพร์หนุ่ม เด็กน้อยไม่ตอบคำถามอะไร ไม่สนใจว่าเจ้าของมือที่เขาสัมผัสอยู่นั้นพอใจหรือไม่ เด็กน้อยเทน้ำขวดที่เหลืออยู่ราดลงไปบนแผลสด ก่อนจะหันไปหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าผ้าสีหม่นที่วางอยู่ข้างกาย
แวมไพร์หนุ่มนั่งนิ่งปล่อยให้ นิ้วเรียวเล็กค่อย ๆ บรรจงเกลี่ยยาไปตามผิวหนังให้ทั่วจนพึงพอใจ ถึงแม้ว่าจะไม่รู้สึกเจ็บปวดใด ๆ กับบาดแผล แต่ความรู้สึกเย็นวาบที่แฝงไปด้วยความอบอุ่นนี้มันคืออะไรกัน แวมไพร์หนุ่มครุ่นคิดก่อนจะมีคำถามอื่น ๆ มากมากผุดขึ้นมาด้วยความสงสัย
เพราะอะไรกันเด็กน้อยนี่ถึงได้เข้ามาช่วยคนแปลกหน้าอย่างเขาโดยไม่หวาดกลัวที่จะโดนทำร้าย เนื่องจากตอนนี้เขามีสภาพไม่ต่างอะไรจากพวกขี้ยาข้างถนนเลย
“ เสร็จซักที แผลลุงนี่เยอะเป็นบ้าเลย ”
ร่างเล็กถอนหายใจดังอย่างโล่งอกที่ในที่สุดเขาก็ทำแผลให้กับตาลุงคิดสั้นตรงหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าที่ซูบผอมหันมาส่งยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
“ คราวหลังอย่าคิดสั้นแบบนี้อีกนะครับคุณลุง ชีวิตแบบนั่นน่ะกว่าจะได้มันมาไม่ง่ายเลยนะ รู้มั๊ยว่ามีอีกหลายคนบนโลกที่อยากมีชีวิตแบบลุง ”
เด็กชายแปลกหน้าพูดทิ้งท้ายด้วยแววตาที่แสนเศร้า ก่อนจะรีบเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากระเป๋าผ้าอย่างทุลักทุเล พร้อมกับลุกขึ้นวิ่งหนีไปด้วยความรีบร้อน
สายตาคมได้แต่มองร่างเล็กที่ซูบผอมวิ่งหายไปในมุมมืดจนลับตา ความเงียบได้กลับเข้ามาปกคลุมภายในสวนสาธารณะอีกครั้งเมื่อผู้คนเริ่มทยอยกันเดินทางกลับที่พักอาศัยของคน เหลือไว้เพียงร่างของแวมไพร์หนุ่มเท่านั้นที่ยังคงนั่งอยู่ที่ม้านั่งตัวเดิมไม่ลุกหนีไปไหน
ร่างสูงเหลือบมองเศษผ้าสีขาวหม่นที่มัดแน่นตรงแขนของเขาซึ่งบัดนี้มีรอยเลือดซึมออกมาให้เห็นเล็กน้อย แวมไพร์หนุ่มค่อย ๆ พรมจูบที่บางเบาลงบนผ้าพันแผลอย่างนุ่มนวล ก่อนจะแกะมันออกอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจเลยว่าก่อนหน้านั้นคนที่มัดให้ได้ใช้ความพยายามมากเเค่ไหนในการทำ
" เกะกะเป็นบ้าเลย แต่ก็ขอบใจนายนะเจ้าเด็กน้อย "
ลิ้นเรียวลากสัมผัสไปยังรอยแผลสดที่ถูกกรีดพร้อมกับแสยะยิ้มที่มุมปากอย่างพึงใจ เด็กชายไร้เดียงสาผู้น่าสงสารจะรู้บ้างหรือไม่ว่าต่อจากนี้ไปเขาได้ทำให้ชีวิตที่สุดแสนธรรมดาของแวมไพร์ตนหนึ่งมีความหมายมากยิ่งขึ้น
-----------------------------------------------------------------------------
มันคือนิยายรักใส ๆ ไร้ดราม่า ไร้ NC ( มั้ง )
กว่าจะแต่งตอนนี้เสร็จ แก้แล้วแก้อีก ขนาดแก้แล้วยังได้แค่นี้
พึ่งได้เอาลงเว็ปนี้เนื่องจากวันก่อนมีปัญหา
เฮ้อ ! เซ็งค่ะ เซ็งตัวเอง เซ็งทุกอย่าง เซ็ง ๆ
บ่นไปเรื่อย สงสัยใกล้จะเป็นมนุษย์เมน
ขนาดนักอ่านเงาก็ยังไม่มี คงต้องพึ่งไสยศาสตร์แล้วกะละมัง ?
ยังไงก็ฝากอ่าน ฝากเม้น ฝากให้กำลังใจด้วยนะ ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ