In the Mist. สายใยรักในม่านหมอก Yaoi , BL

6.7

เขียนโดย โรเครเซีย

วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 09.05 น.

  24 chapter
  1 วิจารณ์
  25.13K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558 10.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

24) สมุดบันทึก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          สำหรับคิริเคียวคุ เขามีความสามารถทางบู๊และบุ๋น จริงอยู่ที่เวลาส่วนใหญ่มักหมดไปกับการบู๊เพราะเป็นถึงเจ้าชายแห่งแคว้นสงครามก็ตามที

 

          คนที่สอนเขาเย็บปักถักร้อยคือท่านหญิงแม่นมชิสึยุ เธอเป็นหญิงสาวอายุประมาณยี่สิบปีเศษ ถูกส่งตัวเข้าวังมาตั้งแต่ยังเล็ก แม้จะมีฐานันดรศักดิ์มิยิ่งหย่อนไปกว่าใคร ชะตากรรมของเธอก็อาภัพเพราะต้องสูญเสียครอบครัวไปตั้งแต่เยาว์วัย เมื่อได้เข้าพิธีวิวาห์ในอีกหลายปีต่อมา นางก็รับอาสาเป็นแม่นมให้แก่เพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งก็คือมารดาของเขานั่นเอง

 

          โชคดีที่คำสาปทำให้ข้าวของต่างๆ ไม่เสื่อมลงตามกาลเวลา ผ้าเนื้อดีที่เก็บไว้จึงยังเหมือนใหม่อยู่เสมอ คิริเคียวคุยอมรับว่าตัวเองต้องทบทวนความจำขนาดใหญ่ แต่มิสึโตะคงยังไม่อยากพบคนนอกตอนนี้ แล้วเขาเองก็ไม่นิยมการปรากฏตัวให้ผู้ใหญ่ในยุคนี้เห็นเสียด้วย

 

          มิสึโตะนั่งดูเขาจัดการกับผ้าตั้งแต่เช้าจรดค่ำ โดยรับหน้าที่ทำอาหารแทนในสองมื้อหลัง เขาไม่ถนัดงานฝีมือมาตั้งแต่ไหนแต่ไร คนที่มีฝีมืออย่างที่เรียกได้ว่าน่าทึ่งคือมิสึเมะ...

 

          เขาพยายามซ่อนสีหน้าที่เปลี่ยนไปแวบหนึ่งไม่ให้คนที่กำลังสาละวนอยู่กับกรรไกรและเข็มกับด้ายสังเกตเห็น หลายวันที่ผ่านมา เขาถูกช่วยเหลือไว้มาก ทั้งด้านจิตใจและร่างกาย เขาไม่อยากให้คิริเคียวคุต้องมาเป็นห่วงกับเรื่องเหล่านี้อีกแล้ว

 

          “ไซยูก็อยู่ที่นี่สินะ...”

 

          ฝ่ายนั้นพลาดงานหมั้นที่เขาไม่อยากนึกถึงไปหนหนึ่งแล้ว ถึงจะเป็นงานวิวาห์แบบไม่เป็นทางการ เขาก็อยากเชิญมาร่วมเป็นสักขีพยาน ติดอยู่ประการเดียว นั่นคือยูงาริอาจจะล้างสมองไซยูไปแล้วก็ได้ เหมือนที่ทำกับคนในครอบครัวคนอื่นๆ

 

          แม้จะปิดบังอย่างไร การถอนหายใจโดยไม่รู้ตัวนั่นก็มิอาจลอดประสาทหูของคิริเคียวคุไปได้

 

 

          คฤหาสน์โทคิคาว่า

 

          ไซยูกำลังไม่สบอารมณ์อย่างรุนแรง หลังจากการสืบสวนดูจะคืบหน้าน้อยกว่าที่ตั้งใจ ส่วนหนึ่งคงเพราะพื้นที่สืบข้อมูลที่คิดจะขึ้นไปค้นหาความจริงถูกขัดขวาง ทั้งจากคนที่ไม่ยอมจัดกระเป๋าให้ (ถ้าจะไปต้องไปด้วยกัน ซึ่งเส้นทางอันตรายอย่างนั้น เขาจะปล่อยให้มาจิไปได้อย่างไร!) และจากมิสึเมะ น้องสาวที่เขาลงความเห็นว่าไร้ซึ่งความกังวลในคดีพี่ชายหายตัวไปโดยสิ้นเชิง

 

          เขาไม่เข้าใจคฤหาสน์หลังนี้เลยจริงๆ หรือที่นี่จะมีความลับอะไรซ่อนอยู่ ด้วยอำนาจของตระกูล การกำจัดเด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งสามารถทำได้ง่ายดายมาก หากต้องการจะปกป้องมิสึโตะจริงๆ ทำไมถึงเลือกจะดูแลเธออย่างดี แล้วส่งเขาไปอยู่ในที่ไกลแสนไกลกัน

 

          หลังมื้อค่ำ ไซยูตัดสินใจแอบเข้าไปในห้องของคนที่หายตัวไป โดยมีความช่วยเหลือจากมาจิ เนื่องจากวิถีชีวิตก่อนได้รับอุปการะเป็นไปอย่างยากลำบาก เทคนิคการงัดแงะลูกบิดประตูจึงพอจะมีติดตัวอยู่ ซึ่งเรื่องนี้แม้ไซยูจะเพียรพร่ำร่ำบ่นว่าอยากเรียนเพียงไร เขาก็ไม่มีวันถ่ายทอดให้เป็นอันขาด มันเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาจะทำเพื่อมวลมนุษยชาติได้ ใครต่อใครจะได้ไม่เดือดร้อนไปกับนิสัยเอาแต่ใจตนเองของเจ้านายเผด็จการของเขา

 

          “ตำรายอดนักสืบบอกว่าไดอารี่นี่แหละดีที่สุด” ไซยูผิวปากสบายอารมณ์ระหว่างลงมือค้นโต๊ะเขียนหนังสืออย่างไร้ซึ่งความบรรจง ก่อนจะถูกเจ้าของห้องที่ไม่รู้จะกลับมาในวันใดวันหนึ่งเอ็ดเอา เขาเสนอตัวเป็นคนลงมือ โดยให้สายตาของเจ้านายทำหน้าที่คัดกรองเพียงอย่างเดียว แล้วอีกเหตุผลหนึ่งคือเขาขี้เกียจตามเก็บอย่างที่ทำมาตลอดหกปี

 

          โชคดีของคนทั้งคู่ที่มิสึโตะวางไดอารี่ไว้ในลิ้นชักที่หาได้ง่าย และที่สำคัญ มันยังเป็นสมุดบันทึกธรรมดาที่ไม่มีแม่กุญแจล็อกไว้ แม้จะชอบค้นข้าวของคนอื่น ไดอารี่ของไซยูกลับถูกล็อกไว้อย่างแน่นหนา เป็นความลับในความรู้สึกที่ไม่ว่าใครก็ไม่เคยได้รับอนุญาตให้เปิดอ่านเลยสักครั้ง แม้แต่ตัวมาจิเองก็ตาม

 

          “...อืม สมเป็นท่นพี่มิสึโตะเลยแฮะ จดละเอียดจัง หวา! ฉันก็อยากกินเกาลัดเหมือนกันนะ อ๊ะ! วันนี้มีของหวานจากต่างประเทศส่งมาด้วย เขียนว่าไม่ชอบอีกต่างหาก อ๊าก! ฉันก็อยากกินเหมือนกันนะ ท่านมิสึโตะคนบ้า ไหนๆ โอ้โห! แล้วยังวันนี้ที่ไปดูคอนเสิร์ตวง oxx อีก ฉันมีซีดีเก็บไว้ด้วยนะ ไม่ชวนกันเลย...”

 

          ขณะที่กำลังฟังเจ้านายที่คล้ายจะลืมจุดประสงค์ของการแอบอ่านบันทึกประจำวันของคนอื่น มาจิกำลังสวดวิงวอนขอการอภัยจากพระผู้เป็นเจ้าในสิ่งที่กระทำลงไป แต่ขืนเขาไปเตือนอะไรตอนนี้คงมิวายถูกโกรธขึ้นมาอีกแน่ เพราะเรื่องชาวบ้านคืองานของเจ้านายเขานี่นะ

 

          “อ๊ะ! ดูจะเข้าเรื่องแล้วล่ะ เริ่มเขียนถึงงานหมั้นกับคุณว่าที่แล้ว เอ...ฉันคิดว่าท่านพี่มิสึโตะจะบริพาธความโมโหใส่สมุดเสียอีก เท่าที่อ่านดูก็น่าจะไปกันได้ดีนี่นา..." ไซยูลูบคางทำหน้าคิด “ไม่มีใครโกหกไดอารี่หรอก รู้สึกยังไงก็ใส่ลงไปอย่างนั้นทั้งนั้นแหละ”

 

          แม้จะมีนิสัยรักความสงบและให้เคารพต่อเรื่องส่วนบุคคล เขายอมรับว่าชั่วขณะหนึ่งที่ตัวเองอยากจะลองเปิดบันทึกแห่งความลับที่ซุกซ่อนอยู่ในโต๊ะเขียนหนังสือบนคอนโดชั้นที่ 19 นั่นดูสักครั้ง...

 

          “เริ่มจะได้เงื่อนงำแล้วล่ะ” ไซยูหันด้านในของไดอารี่ให้ผู้ติดตามอ่านเนื้อความ “มีหนังสือเล่มหนึ่งที่ท่านพี่มิสึโตะกำลังตามหาอยู่ เกี่ยวข้องกับเจ้าชายแห่งสายหมอกด้วยล่ะ นายคิดว่าไง”

 

          มาจิทำท่านึก “เจ้าชายแห่งสายหมอก Prince…Mist?”

 

          “เจ้าชายแห่งสายหมอกก็คือเจ้าชายแห่งสายหมอกนั่นแหละ จะแปลให้ยุ่งยากทำไมกัน” ไซยูทำหน้าไม่ใส่ใจพลางโบกมือไปมา

 

          “มันน่าจะเป็นรหัสอะไรสักอย่างนะครับ เพราะ...” มาจิทำหน้าจริงจัง “ผมพอจะทราบว่าที่หมู่บ้านนี้มีตำนานลึกลับเกี่ยวกับหมอกที่ปกคลุมอยู่ตลอดปี แต่นั่นน่าจะเป็นนิทานปรัมปราของชาวบ้านมากกว่านะครับ”

 

          ไซยูสั่นศีรษะ “ไม่หรอก มีตัวตนจริงนั่นแหละ” เขาเว้นวรรคเล็กน้อย คล้ายจะหวนนึกถึงภาพทรงจำวัยเยาว์ “ถึงจะรางๆ แต่ฉันมั่นใจว่าเคยไปเล่นกับผู้ชายในชุดโบราณในหมอกหนานั่นจริงๆ นะ... เจ้าบ้า! ถ้ายังไม่หยุดทำหน้าเหมือนเห็นเด็กน้อยเชื่อเรื่องยูเอฟโอล่ะก็ ฉันจะสั่งงดข้าวนายสามวันเสียเลย!”

 

          ผู้ติดตามรีบคืนสู่สีหน้าไร้อารมณ์ทันใด

 

          “แถมยังมีเรื่องที่ถูกแทงอีก ท่านพี่มิสึโตะจะโกหกไดอารี่ของตัวเองทำไมกัน! เอาล่ะ ฉันคิดว่าถ้าเราไปหาความจริงจากปากคุณว่าที่ได้ อะไรๆ คงกระจ่างขึ้นเยอะเลย”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา