ราคีพ่ายเสน่หา

8.7

เขียนโดย romanticsine

วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 11.02 น.

  21 ตอน
  2 วิจารณ์
  23.59K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน พ.ศ. 2558 15.29 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) เริ่มต้น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“ฉันมาเอาคำตอบ” น้ำเสียงนิ่งสงบเอ่ยขึ้น ฉันนั่งตัวแข็งทื่อ ใจเต้นเร้าๆแทบจะทะลุออกจากอก

“คือว่า…” ฉันไม่ได้เล่นตัวอะไรเลยนะแต่คือ เรื่องแบบนี้มันคือทั้งชีวิตเลยนะ

“มีอะไรที่เธอกังวลอยู่รึไง”สายตาคู่นั้นทำเอาฉันใจระทวย ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าแววตาคู่นั้นมันลึกซึ้งขนาดนี้นะ

“คือ ฉันขอถามอะไรคุณหน่อยได้รึเปล่า”

“อืม” เค้าพยักหน้าเบาๆและจ้องหน้าฉันนิ่ง

“ถ้าในอนาคต คุณเจอคนที่คุณรัก แล้ววันนั้น ฉันจะเป็นยังไง” “และถ้าในวันนั้น ฉันรักคุณขึ้นมาจริงๆ และถ้าฉันคิดว่าคุณคือสิ่งเดียวที่ฉันเหลือ ฉันต้องทำยังไงกับเหตุการณ์นี้” ฉันสบตาแววตาที่นิ่งสนิทคู่นั้น ฉันรู้ การแต่งงานครั้งนี้มีเหตุผล เค้าแค่เอาฉันออกจากจากนรกขุมนั้นก็ถือว่าเป็นพระคุณอย่างมากแล้ว ฉันไม่อยากคาดหวังอะไรมากกว่านี้ ครั้งหนึ่ง คนๆหนึ่งได้เข้ามาจาฉันรักหมดใจ และเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันไปอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุด และครั้งนี้ มีคนๆหนึ่งที่เข้ามาฉุดฉันขึ้นไปไม่มีใครอยากพบกับเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดแบบนั้นอีก และฉันกลัว… กลัวที่จะสูญเสียเค้าไป

“ฉันจะไม่ปล่อยเธอไป… จนกว่าเธอจะเจอคนที่เธอคิดว่าเธอรักเค้า.. ฉันจะปล่อยเธอไป ฉันสัญญา” คำพูดและมั่นคงกับแววตาที่นิ่งสงบนั้น ทำเอาใจฉันหล่นวูบ ใครจะคิด ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างฉัน มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นใช่มั้ย ถ้าเป็นความฝัน ก็โปรดอย่าทำให้ฉันตื่นเลย

“แต่ก่อนที่เราจะแต่งงานกัน… ฉันอยากให้เรารู้จักกันมากกว่านี้ได้ไหมค่ะ”

“ต้องทำยังไงหล่ะ?”

                “นี่อะเหรอที่มันจะทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น” ภาคินทร์บ่นอุบขณะที่เดินจับมือกับฉันในห้างดังแห่งหนึ่ง

“คนเราก่อนแต่งงานกันก็ต้องผ่านจุดๆนี้ทั้งนั้นแหละ คนไม่เป็นแฟนกันจะแต่งงานกันได้ยังไง” ฉันพูดหน้าระรื่น มือเค้าใหญ่ชะมัด แถมยังอุ่นด้วย การที่ได้ออกมาเที่ยวกับเค้านี่ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดไม่เบาเลยนะ เพราะสาวๆที่เดินอยู่ต่างให้ความสนใจเค้าไปทั่ว

“ยัยบ๊อง” พูดจบก็ปล่อยมือออก ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นโอบไหล่ฉันแทน

“การที่เดินจับมือกับคนที่เตี้ยกว่าฉันหลายเท่าตัวมันทำให้ฉันเมื่อยมากรู้ไว้สะด้วย” ฉันยิ้มกว้างก่อนจะเอามืออีกข้างโอบเอวเค้าไว้และเดินไปพร้อมๆกัน

                ฉันมายืนอยู่หน้าจอโปรแกรมฉายหนัง

“คุณว่าเรื่องนี้จะสนุกมั้ยค่ะ” ฉันชี้ ภาคินทร์มองก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ

“งั้นเรื่องนี้หล่ะ”

“ฉันไม่ได้ดูหนังมาเป็นสิบๆปีแล้ว” ภาคินทร์เอ่ย

“ฉันว่าคุณขาดทักษะด้านอิมเมจินแล้วแหละ” ฉันบ่นพึมพำ ก่อนจะมองโปรแกรมฉายหนังไปเรื่อยๆ

“ว่าไง” ฉันหันไปเมื่อภาคินรท์เอ่ยรับโทรศัพท์

“ตอนนี้เลยหรอ…” ภาคินทร์พึมพำอย่างครุ่นคิด พร้อมทั้งมองหน้าฉัน

“ฉันไม่ว่างนะ ออกเดทกับแฟนอยู่ แค่นี้นะ” พูดจบก็วางโทรศัพท์ลงพร้อมปิดเครื่อง แต่คำพูดเมื่อกี้ทำฉันช้อคจนยืนนิ่งไปเลย

                และฉันก็ได้ดูหนังแบบที่เคยฝันไว้… แต่

“โคนันหรอ? คุณชอบโคนันเหรอ” ฉันเอ่ยถามเสียงกระซิบ เพราะหนังเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในสมองฉันเลย ฉันให้ตัวเลือกไปตั้งเยอะ ทำไมหมอนี่ถึงเอาแต่ใจแบบนี้นะ คนอะไร ดูการ์ตูน เปิดดูที่บ้านก็ได้มั้ง

“อือ… ฝึกสมองดี.. ฉันดูครั้งสุดท้ายตอนป.1ได้มั้ง สงสัยจังว่าทำไมมันไม่โตขึ้นสักที” ฉันแอบขำกับคำพูดของเค้า

                ครึ่งชั่วโมงผ่านไป

“เห้อ… ฉันควรจะทำยังไงกับเธอดีนะ” พูดจบผมก็เอาหัวของเธอที่หลับคอผับ มาอิงหนุนที่ไหล่ของผม ไม่ต่างอัไรจากผมดูหนังคนเดียวเลยสินะ

                “ขอโทษนะ ฉันไม่รู้จริงๆว่าหลับไปตอนไหนนะ” เธอทำหน้าสำนึกผิด ผมเพียงพยักหน้า

“ไว้คราวหลังฉันจะมาเลี้ยงหนังคืนนะ”

“ไม่ต้องหล่ะ”

“คุณโกรธฉันหรอ ฉันขอโทษนะคุณคินทร์ นะๆๆๆ” เธอพูดไปพลางเขย่าแขนผมไปพลางจนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาอมยิ้มกันเป็นแถว ผมรู้สึกอายแต่ก็ทำฟอร์มเมินไม่สนใจเธอ

“เธอหิวรึยังหล่ะ”

“หืมมม หิวสิค่ะ หิวมากเลย งั้นวันนี้ฉันจะโชว์ฝีมือการทำอาหารเป็นการไถ่โทษนะ” สายตากลมโตมองผมเป็นประกาย และเป็นอีกครั้งที่ผมต้องใจอ่อน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา