The chess war มหาสงครามเกมหมากรุก
เขียนโดย liber
วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.46 น.
แก้ไขเมื่อ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558 15.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) INTRODUCTION – BEGINNING IN RAIN
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ‘เปรี้ยง!’ เสียงฝ่าผ่าดังสนั่น ทำให้ร่างของชายหนุ่มผู้หนึ่งทรุดตัวลงอย่างเหนื่อยอ่อนท่ามกลางสาย
ฝนกระหน่ำ ร่างเล็กของเด็กสาวที่มีผมสีบลอนด์เช่นเดียวกับเขาทรุดตัวลงพยุงร่างสูงทันที
“ท่านพี่ ไหวรึเปล่า อีกนิดเดียวก็จะถึงค่ายทหารของเราแล้ว” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรน ดวงตา
สีแดงส้มดุจเปลวเพลิงดูเหมือนเปลวไฟจากตะเกียงที่ริบหรี่อยู่ท่ามกลางพายุโหมกระหน่ำ ร่างเล็กสวม
ชุดกระโปรงสีขาวสะอาดกับหมวกทรงแคบที่เรียกว่า deep bonnet*สีเดียวกัน แต่น่าแปลกใจที่เธอไม่
เปียกชื้นเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เด็กสาวกลับตัวแห้งราวกับกำลังผิงไฟแม้จะอยู่ท่ามกลางสายฝน
“พี่ยังไหวอยู่ กาเร็ต แต่แผลบนหลังพี่น่ะสิ โอ๊ย! พี่เกรงว่ามันคงจะเปิด”เขากล่าวพลางร้องโอด
โอยเมื่อกาเร็ตปลดเกราะออกจากแผ่นหลังกำยำ ทันทีที่แผ่นหลังถูกเผยในสายตาของเด็กสาว เธอก็รีบเอา
มือปิดปากด้วยอาการตกใจ หยาดน้ำตาร่วงเผาะลงมาจากดวงตากลมใสแจ๋วคู่นั้น
“ท่านพี่ แกลเดียส”เธอครางด้วยน้ำเสียงสั่นครือ”ทำไมท่าน..ทำไมถึงไม่เคยบอกข้าเลยว่า
คีอาร์ดา ทำอะไรกับท่านบ้าง?”เด็กสาวถาม เพราะแผ่นหลังกว้าง..เต็มไปด้วยรอยเฆี่ยนตี โลหิตที่ซึม
ออกมาจากบาดแผล เมื่อสัมผัสกับหยาดฝน มันจึงเจือให้หยาดฝนกลายเป็นสีชาด กาเร็ตส่งเวทรักษาไป
ยังแผ่นหลังของพี่ชายด้วยมือที่สั่นระริก ไอเวทก่อแสงสีขาวเรืองๆ แต่ไม่ทันที่เด็กสาวจะรักษาเสร็จ แกล
เดียสก็คว้าข้อมือของน้องสาวเอาไว้เสียก่อน ดวงตาสีน้ำเงินไพลินที่สบเป็นเชิงว่าไม่ต้องทำให้กระแสเวท
รักษาของกาเร็ตชะงักทันที
“ไม่เป็นไร ข้าไม่ค่อยเจ็บแล้ว เดียวเจ้าจะหมดแรงเสียเปล่า”เขาพูดขึ้นพลางกระชับเกราะเข้าที่
เด็กสาวจึงฉุดพี่ชายให้ลุกขึ้นยืน ทันใดนั้น ลิ่มน้ำแข็งแหลมก็พลันพุ่งเข้าแทงด้านหลังทะลุเสียบหัวใจของ
ชายหนุ่มทันที!
“อ๊อก!/ท่านพี่!”เสียงอุทานของกาเร็ต ดังขึ้นพร้อมกับแกลเดียสที่กระอักเลือดออกมา เธอรีบ
ประคองผู้เป็นพี่ที่ทรุดตัวลงด้วยความเจ็บปวด แต่แกลเดียสรีบสั่งไปว่า
“ไปซ่อนตัวในป่า เร็วเข้า!” คำสั่งทำให้กาเร็ตจำต้องวิ่งไปซ่อนตัวหลังพุ่มไม้ ก่อนที่เจ้าของลิ่มน้ำ
แข็งจะปรากฏตัวได้ทันเวลาแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
“เป็นยังไงล่ะ ได้ลิ้มรสโทษที่ทรยศราชาดำอย่างข้าพอรึยัง จงค่อยๆตายลงอย่างทรมาน ด้วยการ
กลายเป็นน้ำแข็งเช่นเดียวกับเจ้ากบฏแกเลินท์และนังแพศยารูบี้ บิดามารดาของพวกเจ้าเสียเถอะ!”ร่างสูง
ของชายหนุ่มผู้มีผมสีดำสนิทและดวงตาสีเดียวกันปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเสียง เขาโยนกระสอบใบหนึ่งลง
บนพื้น ข้างในเต็มไปด้วยก้อนน้ำแข็งที่แหลกละเอียดจนไม่รู้ว่าเคยเป็นอะไรมาก่อน ใบหน้าของกาเร็ตซีด
เผือดลงราวกับเลือดถูกสูบหายไปจากใบหน้าจนหมดสิ้น เธอพึมพำกับตนเองเบาๆว่า
“เจ้าสารเลวคีอาร์ดา! ข้าไม่มีวันให้อภัยเจ้าเด็ดขาด!”
ดูเหมือนชายผู้นั้นจะอ่านสีหน้าของแกลเดียสได้เช่นเดียวกัน เขาจึงล้อเลียนขึ้นว่า
“อย่างที่เจ้าคิดนั้นแหละ ในกระสอบนี้คือพ่อแม่ผู้น่าสมเพชของเจ้ายังไงล่ะ โอ้ ลูกรักทั้งสอง
เจ้ารีบหนีไปก่อน พ่อกับแม่จะอยู่ต้านพวกฝ่ายดำให้เอง สุดท้ายก็ยอมเสียสละชีวิตเพื่อลูก ช่างเสีย
สละและน่าเวทนาซะเหลือเกิน” ชายผู้นั้นบีบเสียงพลางทำท่าซับน้ำตาเป็นเชิงล้อเลียน ส่งผลให้ชายหนุ่ม
กระชากลิ่มน้ำแข็งออกจากหลังแล้วลุกขึ้นยืน แม้ว่ายังคงมีเลือดไหลนองออกมาจนต้องใช้มือกุมบาดแผลก็
ตาม มือหนาชักดาบออกจากฝัก แล้วชี้มันจ่อใบหน้าของศัตรูในระยะเผาขน
“โว้ว! เจ้าจะฆ่าข้าหรือไง? เอาล่ะ ข้ามีข้อเสนอ เจ้าเก็บดาบลงก่อน แล้วมาคุยกันอย่างอารยะ
ชนกันดีกว่า”เขาเสนอ
“ไม่ต้องมาเล่นลิ้น ไม่เช่นนั้นข้าจะบั่นคอเจ้าซะสิ้นเรื่อง”เขาพูดขึ้นแม้ว่ามือจะเริ่มสั่นระริกจนควบ
คุมไม่ได้ คีอาร์ดาจึงหัวเราะกับสภาพนั้นด้วยความรู้สึกสมเพช
“ในสภาพเช่นนั้น? สติและความเยือกเย็นของเจ้าที่ข้าเคยเห็นมันหายไปไหนเสียเล่า? ข้า
อุตส่าห์จะใจดี ยอมให้พวกเจ้ากลับไปดีๆหากยอมล้มเลิกการกบฏครั้งนี้...แต่ดูท่าทางคนหัวดื้ออย่างเจ้าคง
จะไม่ยอมสินะ”
“แน่นอน”แกลเดียสเค้นน้ำเสียงออกมาอย่างยากลำบาก“ต่อให้เจ้าเผาข้าทั้งเป็น ข้าก็ไม่หวน
กลับไปอยู่ฝ่ายดำกับเจ้าอีกเป็นอันขาด!”
คีอาร์ดาหัวเราะ“ทระนงเสียจริง สมกับที่เป็นบุตรของแกเลินท์ แต่จำไว้นะ แกลเดียส ไวท์คิง บาง
ที...ศักดิ์ศรีมันไม่มีประโยชน์หรอกนะ วันนี้เจ้าโชคดี ที่ข้ายังไม่สามารถจับเจ้าได้ในตอนนี้ แต่..สิ่งที่กำลัง
จะเกิดขึ้นเป็นทางเลือกที่เจ้าเลือกเอง...สงครามยังไงล่ะ!”เขาทิ้งท้ายเอาไว้ แล้วร่างของเขาก็กลายเป็นเงา
และสลายหายไป พร้อมกันนั้น ร่างของชายหนุ่มก็ล้มสลบลงบนพื้นท่ามกลางสายฝนที่เริ่มซา
“ท่านพี่แกลเดียส!”
ในยามปกติ เมื่อสายฝนหยุดลง ย่อมสร้างความดีใจแก่กาเร็ต แต่คราวนี้เด็กสาวกลับนั่งนิ่ง
มองออกไปนอกกระโจมค่ายทหารด้วยดวงตาที่เหม่อลอยและเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา
พี่ชายของเธอกลายเป็นคนที่ไม่มีหัวใจ!
*หมวกทรงแคบที่ฮิตในสมัยวิคตอเรียตอนต้น หมายถึงการแสดงความถ่อมตน เพราะรูปร่างของหมวกจะ
ทำให้มองไม่เห็นหน้าผฟุ้สวมจนกว่าจะมองหน้ากันตรงๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ