YOU CAN TRUST ME ไว้ใจฉันได้

-

เขียนโดย MO_MAY

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เวลา 13.47 น.

  2 ตอน
  4 วิจารณ์
  4,941 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 14.16 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) บังเอิญหรือตั้งใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

          เสียงกระดิ่งหน้าร้าน บ่งบอกว่ามีผู้มาเยือนร้านเค้กของฉันแล้วค่ะ อุ่ย…ลืมแนะนำตัว ดิฉัน คริสตัล อายุ23ปี เป็นเจ้าของร้านเค้กนี้เองค่ะ หลังจากเรียนจบฉันก็รู้สึกว่าอยากจะเปิดร้านเค้กเล็กๆ เพราะฉันเป็นคนที่ชอบทานเค้กมาก แล้วก็อยากจะเห็นรอยยิ้มของคนที่ชอบทานเค้กเหมือนกับฉันแต่ร้านของฉันเพิ่งจะเปิดใหม่ไม่นานเลยยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่ ฉันเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่ของฉันไม่ค่อยจะอยู่เมืองไทยหรอกค่ะ เพราะทางบ้านฉันทำธุรกิจอยู่ที่เมืองนอก งงล่ะสิว่าทำไมฉันถึงไม่ไปอยู่กับพ่อแม่ที่เมืองนอก ส่วนตัวฉันคิดว่า อยู่ที่ไหนก็คงเป็นความรู้สึกเดียวกัน คือ “อยู่คนเดียว” แต่ฉันสบายใจที่จะอยู่ที่ประเทศไทยมากกว่า ตอนนี้ฉันก็อาศัยอยู่ที่คอนโดใจกลางเมืองนี่แหละค่ะ ส่วนร้านเค้กนี้ ฉันได้มาเปิดแถวๆมหาวิทยาลัยที่ฉันได้เคยเรียนจบออกมา พอมาเห็นบรรยากาศเดิมๆ มันก็รู้สึกดีนะคะ  แต่ก็เจ็บปวดไปพร้อมๆกัน และไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ถึงจะหายได้สักที……

     “สวัสดีครับ…ผมมาสมัครงานพาร์ทไทม์ครับ” เอ๊ะ เสียงผู้ชาย เมื่อได้ยินแบบนั้นฉันเลยหันหลังกลับไปมองตรงหน้าเคาน์เตอร์ วินาทีนั้น ฉันก็เห็นผู้ชายร่างสูงโปร่งผมสีเทาอ่อน ผิวขาวมาก เหมือนไม่เคยโดนแดดมาก่อน คิ้วสวยได้รูป ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน จมูกโด่งรับกับใบหน้า ปากสวยได้รูปน่าสัมผัส โอ้โห  นี่มันเทพบุตรจากสวรรคชั้นไหนเนี่ย ฉันก็ยังคงมองหน้าเขาค้างแบบนั้น จนเจ้าของใบหน้ากะแอ่มกะไอ แถมยังยิ้มยียวนใส่ฉันอีก ดูสิคะ

     “อ๋อ…มาสมัครงานพาร์ทไทม์ใช่มั้ยคะ” ฉันก็เกิดอาการมึนเล็กน้อย

     “ครับป้า…ตกลงผมจะสมัครได้ไหมครับ?” แล้วก็ทำหน้ากวนสุดๆส่งมาให้ฉัน

     “นี่ เรียกฉันว่าป้าเลยหรอยะ  ฉันอายุมากว่านายไม่กี่ปีเองนะ” ไอเด็กบ้านี่ เดี๋ยวตบปากฉีกเลย

     “ผม…ออร์กัส อายุ20ปีครับ ป้าล่ะชื่อไรครับ”

     “นี่…ยังไม่เลิกเรียกป้าใช่ไหม ออกไปจากร้านฉันเลยไป” ฉันกรีดร้องเสียงหลงเลยค่ะ

     “โอ๋ๆๆๆ…พี่สาวชื่ออะไรครับ?” แล้วก็ยิ้มแบบเสแสร้งสุดๆมาให้ฉัน

     “คริสตัล…”

     “ตกลงรับผมเข้าทำงานแล้วนะครับ…ขอบคุณครับป้าคริส ฮ่าๆๆๆ”แล้วนายนั่นก็เดินเข้ามาด้านหลังเคาน์เตอร์ตรงที่ฉันยืนอยู่  แล้วพอฉันอ้าปากจะพูดทันใดนั้น  ฉันก็ตกใจสุดขีด  ไอเด็กออร์กัสมันก้มลงมาจุ๊บแก้มฉันน่ะสิ อ๊ายยยยยยยยยยย ไอเด็กบ้า เกิดมาไม่เคยเจอเด็กบ้าเท่านี้มาก่อนเลย แก้มฉ๊านนนนนนนนน ฉันกำลังจะยกมือทุบค่ะ  แต่นายนั่นก็เอามือมารับแล้วพลิกมือฉันให้คว่ำลงแล้วก้มลงจูบมือฉัน ไม่นะ น้ำลายติดมือฉัน  อี๋ๆๆๆๆ เอ๊ะ แล้วทำไมฉันต้องใจเต้นด้วยเนี่ยยยยยย

     “ถือเป็นคำขอบคุณที่รับผมเข้าทำงานนะป้าคนสวย” พูดทิ้งท้ายไว้แล้วเดินเข้าไปหลังร้าน ฉันได้แต่ยืนอึ้งบวกกับความอายแล้วเดินไปที่ตู้อบขนมเค้กด้านในร้าน ไม่นานนักนายออร์กัสจอมป่วนก็เดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมกับผ้ากันเปื้อนสีชมพู น่ารักแอ๊บแบ๊วมากค่ะ

     “ป้า…ผ้าสีอื่นไม่มีแล้วหรอ สีอะไรก็ไม่รู้หวานไปป่ะ” พูดพร้อมกับทำหน้าแบบ ไม่อยากใส่สีชมพู ด้วยความอยากเอาคืน  ฉันจึงแกล้งบอกว่า

     “ไม่มี…ใส่ๆไปเถอะ  มาทำงานได้ละ” แล้วหันหลังกลับมาขำ แต่รู้ตัวอีกทีก็มีคนมายืนอยู่ข้างหลังของฉันซะแล้ว

     “ไหน…ทำยังไงบ้าง สอนหน่อยครับป้า” ออร์กัสพูดอยู่ข้างหลังฉัน แต่ลมหายใจของเขาลดอยู่ตรงหัวฉัน หืมมมม นี่ฉันยืนตัวแข็งเลยค่ะ  ทำอะไรไม่ถูก

     “นี่…เขยิบไปหน่อยไม่ได้หรอ ฉันจะสอนถนัดได้ยังไง” ฉันพูดไปแบบนั้นแต่ไม่กล้าหันไปมอง

     “อ่ะๆๆๆ…เขยิบก็ได้  ฮ่าๆๆ  กลัวผมขนาดนั้นเลยหรอ ตัวสั่นเชียว” แล้วหมอนั่นก็ยิ้มยียวนมาให้ฉัน ฉันจึงตะโกนกลับไป

     “นี่…ใครกลัวนาย จะบ้าหรอ”

     “ไม่กลัวจริงนะ…?” แล้วนายออร์กัสก็ก้าวสามขุมมาหาฉัน พร้อมกับดึงแขนฉันเข้าหาตัวอย่างแรง อั่กกก!!! ทำให้ฉันเสียหลัก เซถลาเข้าไปชนกับร่างของเขาเต็มๆ แล้วนายออร์กัสก็โอบเอวฉันไว้ แล้วโน้มหน้าลงมาใกล้ฉันมากขึ้น ฉันก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก แล้วหน้าของออร์กัสก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ฉันเลยหลับตาปี๋ด้วยความกลัว แต่เมื่อผ่านไปหลายวิ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันจึงลืมตาขึ้นมา เห็นหน้าออร์กัสแบบชัดเจน นายนั่นยิ้มขำฉันแบบกวนอารมณ์สุดๆ ด้วยความหมั่นไส้ เลยกระทืบเท้านายนั่นอย่างแรง

     “โอ้ยยยยยย…ป้า  ทำร้ายผมทำไม” ออร์กัสก็กระโดด หย่องๆ ฉันจึงหลุดขำ

     “ส้มน้ำหน้า…อยากแกล้งฉันดีนัก ฮ่าๆๆๆๆ” แล้วฉันก็เดินไปที่เตาอบขนมเค้กต่อ ออร์กัสก็เดินตามฉันมา ฉันจึงสอนเขาตั้งแต่ขั้นแรก  แต่ยังไม่ถึงไหน

     “ป้า…ผมไม่ถนัดเรื่องนี้เลยอะ  ขอไปเฝ้าหน้าร้านเป็นเด็กเสิร์ฟดีกว่านะครับ ^^” แล้วก็ยิ้มแบบออดอ้อนสุดๆ

     “ก็ดีนะ…นายก็ไปเฝ้าหน้าร้านละกัน เดี๋ยวฉันจะทำเค้กเอง ละก็พวกเครื่องดื่มมีสูตรอยู่ที่โต๊ะตรงเคาน์เตอร์อยู่แล้ว  คงทำได้นะ”

     “ครับ…ป้าคริส”เรียกแบบเน้นเสียงสุดๆ  ยังไม่เลิกกวนสินะ เด็กบ้า  แล้วนายออร์กัสก็เดินออกไปหน้าร้านทันที ผ่านไปสองชั่วโมง พอฉันเอาเค้กเข้าเตาอบเสร็จ ก็เดินออกมาหน้าร้าน แล้วก็ต้องแปลกใจ ทำไมวันนี้ลูกค้าเยอะเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่เป็นสาวๆทั้งนั้น เต็มเกือบทุกโต๊ะเลยแฮะ ฉันก็เลยมองหน้านายออร์กัส นายนั่นก็ยิ้มมาให้ฉันแล้วส่งสายตามาประมาณว่า  เป็นไงฝีมือผม ฉันจึงสังเกตลูกค้าสาวแต่ละโต๊ะ มองนายออร์กัสไม่วางตาเลยแฮะ  ฉันเลยรีบเดินไปที่เคาน์เตอร์ เพื่อไปช่วยชงเครื่องดื่ม แล้วให้ออร์กัส ไปเสิร์ฟให้สาวๆตามโต๊ะ

     “เป็นไงป้า…ลูกค้าเยอะดีไหม”

     “ก็ดี…ไปทำยังไงคนถึงได้เข้าร้านเยอะแบบนี้ล่ะ” ฉันถามไปนิ่งๆ แล้วมือก็ทำเครื่องดื่ม  หยิบเค้กใส่จานไปเรื่อยๆ

     “ป้า…หึงผมหรอทำหน้าเหมือนไม่พอใจที่สาวๆพวกนั้นมองผม” แล้วหมอนั่นก็ขำ ฉันเลยเอามือไปหยิกแขนหมอนั่น

     “ตลกละ…ฉันไม่ได้หึง  เอาเค้กกับโกโก้ไปเสิร์ฟโต๊ะสองเลยไป”แล้วฉันก็หันกลับไปทำเครื่องดื่มต่อ คิดในใจ ผู้ชายเจ้าชู้ เพลย์บอยอย่างนาย ฉันเข็ดแล้ว บอกตรงๆ ให้ตายฉันก็ไม่มีวันชอบผู้ชายแบบนาย “ไม่ มี วัน”

วันนี้ลูกค้าเต็มร้านทั้งวันเลย  รู้สึกเมื่อยกว่าทุกๆวัน  แต่ก็มีความสุขเพราะเป็นงานที่ฉันรัก ผ่านไปอีกวันแล้วกับการทำร้านเค้ก นี่ก็ หกโมงเย็นแล้ว ฉันกับออร์กัสเราก็ช่วยกันทำความสะอาดร้าน แล้วก็เตรียมตัวจะปิดร้าน เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกันมาก

     “ป้า…ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เดี๋ยวผมขอตัวกลับก่อนนะ” ออร์กัสพูดกับฉันพร้อมกับสีหน้าแบบนิ่งๆไม่เหมือนตอนเจอกันแรกๆ

     “อ๋อ…โอเค เจอกันวันพรุ่งนี้  อย่ามาทำงานสายล่ะ”  ฉันบอกไปแบบไม่คิดอะไร

     “ครับ…เลิกเรียนแล้วจะรีบมา” แล้วหมอนั่นก็โบกมือลาฉันพร้อมกับเดินจากไปเมื่อเห็นภาพนั้นทำให้ฉันนึกถึงเรื่องในวันนั้น  ฉันจึงรีบละสายตา แล้วเดินไปที่รถของตัวเองเพื่อขับรถกลับคอนโด

ณ คอนโด ย่านใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง

          เมื่อมาถึงคอนโด  ก็เป็นเวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษๆ ฉันก็ได้ขึ้นลิฟท์ ไปยังห้องของตัวเอง แล้วฉันก็เห็นผู้ชายร่างสูงคนนึงยืนอยู่หน้าห้องตรงข้ามกับห้องของฉัน  เป็นผู้ชายที่ฉันรู้สึกคุ้นเคยเขาเป็นผู้ชายที่สูงโปร่ง ผิวคล้ำเล็กน้อยแบบนักกีฬา ผมสีดำสนิท ดวงตาดุดันมีเสน่ห์ จมูกโด่ง ริมฝีปากหนาเล็กน้อย รับกับใบหน้าอย่างลงตัว  แล้วก็ต้องตกใจมากเมื่อผู้ชายคนนั้นหันมาทางฉัน เขา เขา  เขา คือคนที่ฉันอยากจะลืมมากที่สุด

     “ไทเป” เสียงของฉันขาดหาย ฉันยืนนิ่งอยู่แบบนั้น ไทเป เดินเข้ามาหาฉัน

     “คริส…ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ สบายดีไหม” ไทเปถามฉันแล้วมองฉันด้วยสายตาที่อธิบายได้ยาก

     “ฉะ..ฉัน สบายดี นายกลับมาไทยแล้วหรอ”

     “ใช่…ฉันเพิ่งกลับมาได้สามเดือน ฉันรู้สึกคิดถึงเมืองไทย  คิดถึงคนที่นี่” ไทเปพูดมาเหมือนจะสื่อความหมายอะไรสักอย่าง แต่ฉันก็ตัดบท

     “อ๋อ…งั้นฉันขอตัวก่อนนะ” ไม่รอให้ไทเปพูดอะไร ฉันก็เดินเข้าห้องตัวเองมา แล้วเมื่อปิดประตูลง  เข่าฉันก็อ่อนลงทันที ฉันยืนแทบไม่ไหว การที่ได้มาเจอเขาในวันนี้ มันทำให้ฉันกลับไปเจ็บปวดเหมือนเมื่อหลายปีก่อน เหตุการณ์วันนั้นที่เขาทิ้งฉันไป  แล้วก็หายไปจากชีวิตฉันอย่างไม่มีวันหวนกลับมา ใช่แล้วค่ะ  ไทเป  คือแฟนเก่าของฉัน เป็นแฟนคนแรกที่ฉันคบแล้วฉันก็รักเขามาก เราคบกันตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยปีแรก ไทเปตามจีบฉัน ในตอนนั้น เขาเป็นหนุ่มฮอตของมหาวิทยาลัย ดีกรีเป็นถึงเดือนมหาวิทยาลัย ซึ่งฉันเองก็มีดีกรีเป็นถึงดาวมหาวิทยาลัย และเพราะสิ่งนี้ที่ทำให้เขาเข้ามาจีบฉัน และมีบทบาทในชีวิตของฉันมากขึ้น จริงๆแล้วฉันก็รู้ว่า เขาเป็นผู้ชายที่เป็นที่หมายตาของสาวๆเยอะมาก เพียงแค่เขาปรายตามองก็สามารถทำให้สาวๆที่ได้สบตาเดินตามเขามาได้เป็นว่าเล่น แต่ฉันเองก็เชื่อว่า ฉันจะสามารถเปลี่ยนเขาได้  เปลี่ยนจากผู้ชายเพลย์บอย เป็นผู้ชายที่รักฉันคนเดียวได้  แต่เปล่าเลย ฉันคิดผิด  ฉันคิดไปเองทุกอย่าง เขาแค่คบกับฉันเพื่อยกระดับตัวเองให้ดูน่าสนใจที่มีฉันซึ่งเป็นดาวมหาลัยเป็นแฟน  เขาได้พนันกับเพื่อนเขาในกลุ่มว่า ถ้าจีบฉันเป็นแฟนได้ เพื่อนทุกคนในกลุ่มจะต้องยอมรับเขาให้เป็นหัวหน้ากลุ่มที่มี ชื่อว่า เจ้าชายเพลย์บอย ฉันรู้ได้ยังไงหรอคะ  ย้อนกลับไปวันนั้น

ณ ตึกเรียนเก่าของมหาวิทยาลัยย่านใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง

          ฉันได้เดินตามหาเขาทั่วมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่เจอ เลยไปถามเพื่อนของไทเป ชื่อว่า จีที เป็นเพื่อนคนสนิทของไทเป

     “จีที…เห็นไทเปไหม?”  ฉันถามออกไป

     “อยู่ตึกเก่ารึป่าว ฉันเห็นมันชอบไปนั่งดูดาว ฮ่าๆๆ” นายจีทีตอบมาอย่างกวนๆ

     “อือช่ายยยย…ฉันยังไม่ได้ไปดูที่ตึกเก่าอีกที่ นี่นา โอเค ขอบคุณนะจีที” แล้วฉันก็โบกมือลา เดินไปยังตึกเก่า ขณะที่เดินไป  ฉันก็รู้สึกสังหรณ์ใจอะไรแปลกๆ  แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เมื่อมาถึงตึกเก่า ฉันก็ได้ยินเสียงคุยกันของคนสองคน ทำให้ฉันยืนเงียบๆอยู่ตรงข้างๆตึก

     “เมื่อไหร่เธอจะเลิกกับยัยนั่นล่ะ” เสียงแหลมๆของผู้หญิง

     “ฉันบอกแล้วไงว่าถึงเวลาแล้วฉันจะเลิกเอง” เสียงผู้ชาย  ทำไมคุ้นๆจังนะ

     “ถึงเวลา  ถึงเวลา อะไรก็ถึงเวลา นี่ฉันรอมาจะเป็นปีแล้วนะ เธอคิดจะได้ฉันเล่นๆใช้ไหม”

     “ไม่ใช่อย่างนั้น…ฉันรักเธอคนเดียวนะริซ่า ที่คบกับยัยนั่นก็แค่เล่นๆไปอย่างนั้น เคยบอกแล้วไม่ใช่หรอ” เอ๊ะ ยัยนั่น ยัยไหน เริ่มสงสัย

     “เธอเคยมีอะไรกับยัยนั่นรึป่าวไท…ฉันไม่ยอมนะ ถ้าเป็นแบบนั้นฉันจะไปบอกให้ยัยนั่นเลิกกับเธอเอง” ไทเหรอ ไทไหนเนี่ย ใช่ไทเปรึเปล่า ขออย่าให้เป็นแบบนั้นเลย ฉันกลัวจริงๆ

     “แม้แต่จูบคริสยังไม่เคยให้ฉันเลย…อย่าว่าแต่เรื่องแบบนั้น ไม่เอาริซ่าอย่าคิดมากนะครับ” เอ๊ะ คริสหรอ  ใช่ฉันรึป่าว  เริ่มอยากเห็นหน้าแล้ว

     “ก็ดีค่ะ…อย่าทำให้ริซ่าไม่พอใจแล้วกัน ไม่งั้นริซ่าจะฟ้องพ่อ ไม่ให้พ่อส่งไทเปไปเรียนที่นอกต่อกับริซ่าจริงๆด้วย” เอ๊ะไทเป ริซ่า  เรียนต่อนอก อะไรกันเนี่ย ฉันงงไปหมดแล้วนะ ฉันจึงเดินออกมาจากข้างตึกแล้วภาพที่เห็นคือ  ริซ่ากับไทเปยืนจูบกันอย่างดูดดื่ม

     “ไทเป….” เสียงเรียกของฉันแผ่วเบา แต่ก็ทำให้คนทั้งสองได้ยินเพราะที่นี่เงียบมาก

     “คริส….”ไทเปมองหน้าฉันแบบอึ้งๆ

     “นี่มันอะไรกัน…ไทเป เธอหลอกฉันหรอ” ฉันถามออกไปแบบนั้น ยัยริซ่ายิ้มให้ฉันแบบสมเพชฉันสุดๆ

     “อ้าวววว…รู้ตัวก็ดีแล้ว ไทเปเค้าแค่เล่นๆกับเธอ  เพราะพนันกับเพื่อนไว้ก็เท่านั้นแหละ” ยัยนั่นพูด

     “ไม่จริงใช่ไหมไทเป…” แล้วฉันก็วิ่งเข้าไปจับมือเขา

     “ฉันขอโทษ…คริสตัล  เรา  เราเลิกกันเถอะ” ไทเปพูดพร้อมกับในหน้าที่รู้สึกผิด ฉันเข้าไปกอดเขาแล้วร้องไห้  เขาก็ยืนนิ่งอยู่แบบนั้น ไม่พูดอะไร

               พลั่กกกกกกก!!! ยัยริซ่า  เดินเข้ามาผลักฉันออกจากไทเป ตัวฉันล้มลงไปกับพื้นอย่างจัง  เจ็บก็เจ็บ แต่ก็พยายามอ้อนวอนไทเปฉันรักเขา  ฉันไม่อยากให้เขาทิ้งฉันไปเพราะผู้หญิงแบบนั้น

     “ไทเป…ฉันรักนาย อย่าทิ้งฉันไปเลยนะ อย่าไป  อย่าไปนะไทเป” แล้วสองคนนั้นก็หันหลังเดินจากไป แบบไม่หันกลับมาอีก  แล้วเพียงไม่นาน ทั้งคู่ก็ย้ายไปเรียนต่อที่เมืองนอก ทิ้งให้ฉันอยู่กับความเจ็บปวดเพียงคนเดียว ถึงตอนนี้ ฉันไม่มีใคร ไม่ใช่เพราะว่าฉันยังลืมเขาไม่ได้ แต่ฉันเข็ดที่จะรักใครมากกว่า……

          กลับมาในปัจจุบัน ตอนนี้ฉันได้คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยหลังจากที่ฉันได้อาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน ก็มีเสียง (อยู่ด้วยกันก็รัก…พอจากเธอก็ลืมมมมมมม>>) เอ๊ะใครโทรมานะ ฉันจึงรีบไปหยิบโทรศัพท์มาดู  แต่ก็เห็นเป็นเบอร์แปลก ฉันจึงกด รับ ติ๊ด

     “ฮาโหล…”

     “สวัสดีป้า…นอนยัง” ไอเด็กบ้านี่

     “ยัง…มีอะไรแล้วเอาเบอร์ฉันมาได้ไง” ฉันกรอกเสียงไปแบบ นิ่งๆ

     “ความลับ ฮ่าๆๆ…พรุ่งนี้ผมไม่มีเรียน”นายนั่นพูดแล้วหัวเราะ ท่าทางจะโรคจิตแฮะ 

     “แล้วมาบอกฉันทำไมไม่ทราบ…ใครถามนายยะ” ฉันโวยวายกลับไป

     “อ้าววววว…จะชวนไปเที่ยว  ไปเที่ยวกันป้า พรุ่งนี้กว่าป้าจะเปิดร้านก็ตั้ง บ่ายสาม เดี๋ยวไปเที่ยวเสร็จค่อยกลับมาเปิด โอเคนะ เจอกัน เก้าโมงหน้าคอนโดป้านะ ฝันดีครับเบบี๋ จุ๊บ ติ๊ดดด” 

     “เฮ้ยยย…ยังไม่ได้ตอบเลย ใครโอเคด้วยยะ” วางไปได้ไงเนี่ย ฉันยังพูดไม่จบเลย พอโทรกลับก็ไม่รับ  ไอเด็กบ้า แล้วรู้จักคอนโดฉันหรอ ติ๊งต๊องจริงๆ ไม่นานฉันก็เดินไปที่เตียงแล้วก็ล้มตัวลงนอนZzzzz

          แสงแดดสาดส่องมาที่ตาของฉัน  ทำให้ฉันตื่นนอน หลังจากตื่นนอนฉันก็เก็บที่นอน เดินตรงดิ่งไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็เดินมาที่หน้ากระจก  แต่งตัว เอ๊ะ แล้วฉันจะแต่งตัวไปทำไมเนี่ย จะไปไหน ไม่ไปๆ  คิดได้แบบนั้นฉันก็เดินไปนั่งที่โซฟา  เปิดทีวีดูแล้วก็ปลอกแอปเปิ้ลมากินอย่างสบายใจ  ในใจก็นึกขำ ฮ่าๆๆ ไอเด็กแสบ รอไปเถอะ ฉันไม่ไปหรอก ถึงนายจะมาคอนโดฉันถูก  แต่ฉันไม่ลงไปนายก็ทำไรไม่ได้ หุหุ

-----ก๊อกๆๆ-----

          เอ๊ะ…ใครมาเคาะประตู ฉันจึงเดินไปเปิด แล้วก็ต้องตกใจเมื่อคนที่มาเคาะประตู คือ……

 

----------------------------------------------------------------------------------

จบตอนแรกไปก่อนนะคะ   ช่วยคอมเม้นท์ติชมเป็นกำลังใจให้กันได้ค่ะ ถ้ามีผู้อยากติดตามเนื้อเรื่องต่อ จะมาอัพให้อ่านกันต่อนะ ขอบคุณทุกกำลังใจ และทุกคอมเม้นท์มาล่วงหน้าค่ะ 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา