ภพรักหิมวันต์
เขียนโดย Brownies_PK
วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.41 น.
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558 20.56 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) โชคชะตา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความระหว่างที่ยักษณกินรีอย่างแก้วกุสุมากำลังบินเพื่อไปยังอสุรานครก่อนรุ่งสาง ก็ได้พบกับลมพายุที่พัดพาร่างของนางไปตกยังหน้าอาศรมของฤาษีผู้ทรงฤทธิ์อย่างฤาษีเมฆสิทธิ์
เมื่อฤาษีเมฆสิทธิ์เข้าฌาณดู จึงรู้ว่านางเป็นธิดาแห่งพญายักษ์ผู้เกรียงไกรและถูกพายุพัดมาที่นี่ และลมที่พัดร่างน้อยมานั้นมิใช่ลมธรรมดา แต่เป็นลมแห่งมหาเทพที่ต้องการพายักษณกินรีตนนี้ไปยังภพใหม่
"ท่าน ท่านตาเป็นใครกัน"
ทันทีที่แก้วกุสุมาฟื้น นางก็เอ่ยถามชายชราผู้ทรงฤทธิ์ด้วยความสงสัย ฤาษีเมฆสิทธิ์ไม่ได้เอ่ยอะไร ก่อนที่จะเป่ามนต์แห่งนิทราให้ร่างน้อยหลับไป ก่อนที่จะพานางไปยังภพใหม่ด้วยความประสงค์ของฤทธีมหาเทวา!!
ภพใหม่ของนางคือโลกมนุษย์ แต่เป็นโลกมนุษย์คนละมิติ!!
.
.
.
.
.
.
กรุงเทพมหานคร
"ทัตเทพ เอื้องดารา...ข้าขอฝากเด็กผู้นี้ให้เจ้าทั้งสองช่วยเลี้ยงดูที นางคือเด็กหญิงผู้เปี่ยมไปด้วยบุญญาวาสนาสูงส่ง แล้วเมื่อวันที่นางอายุครบ19ปี ข้าจะมารับตัวนางไปยังโลกที่นางจากมา..."
ภาพพระฤๅษีแก่หง่อม ที่นุ่งห่มจีวรหนังเสืออย่างที่เห็นกันในละครจักรๆวงศ์ๆในตอนเช้านั้น ยังคงแจ่มชัดอยู่ในมโนสำนึกราวกับเป็นเรื่องจริง หลังจากสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก หม่อมเอื้องดารา วัยยี่สิบห้าปี ก็นอนลืมตาโพร่งอยู่ในความมืด ทำเอาผู้เป็นสามีอย่างทัตเทพ ต้องลุกขึ้นมานั่งข้างด้วยความห่วงใย
"เป็นอะไรหรือเอื้อง น้องนอนไม่หลับรึ??" ทัตเทพถามหลังจากที่เปิดโคมไฟเพื่อช่วยให้บรรยากาศในห้องสว่างขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"เปล่าค่ะ น้องแค่ฝันแปลกๆ แต่มันแปลกจริงๆนะค่ะ บางครั้งน้องก็อดคิดไม่ได้ว่ามันเป็นเรื่องจริง"
"น้องฝันเห็นพระฤๅษีรึเปล่า" หม่อมเจ้าทัตเทพถามหยั่งเชิง
"ท่านพี่รู้ได้ยังไง?!" หม่อมเอื้องดาราอุทานด้วยความตกใจ
"พี่เองก็ฝันเห็นพระฤๅษีเหมือนกัน ท่านมาบอกให้เราช่วยเลี้ยงเด็ก เด็กอะไรนี่แหละ" พอคนเป็นสามีพูดจบ คนเป็นภรรยาถึงกับหน้าถอดสี
"น้องก็ฝันเหมือนกันเปี๊ยบเลยค่ะ น้องใจคอไม่มีเลย" หม่อมเอื้องดาราบอกสามีอย่างเป็นกังวล
"ช่างมันเถอะ บางทีน้องอาจคิดมากก็ได้ มันก็แค่ดวามฝันไม่ใช่ความจริงซะหน่อย" ผู้เป็นสามีหาเรื่องมาปลอบใจ หวังให้ภรรยาคลายทุกข์ ก่อนที่ทั้งสองจะล้มตัวลงนอน เสียงของคนใช้ในบ้านก็เรียกจนทำให้ต้องสะดุ้งตื่นอีกครั้ง
"ท่านค่ะ! ท่านค่ะ! ช่วยเปิดประตูให้พรด้วยค่ะ มีเด็กเข้ามาในบ้านค่ะ!" เสียงของ 'พร' สาวใช้วัยกลางคนรูปร่างท้วมวิ่งกระหืดกระหอบมาเคาะประตูห้องนอนของราชนิกูลทั้งสอง ราวกับมีเรื่องคอขาดบาดตายเกิดขึ้น
"เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมาเรียกกลางดึกล่ะ??" หม่อมเจ้าทัตเทพเปิดประตูถาม ทำให้พรที่กำลังจะเคาะประตูถึงกับหน้าคะมำ
"คะ..คะ..คะ..คือมีเด็กเข้ามาในบ้านค่ะ ตอนนี้พรให้นวลกับป่านจับไว้แล้วค่ะ เด็กอะไรไม่รู้ แรงเยอะราวกับยักษ์แหน่ะค่ะ แถมยังแต่งตัวเหมือนพวกยี่เกหลงโรง พรกลัวจะเป็นพวกสิบแปดมงกุฏ จึงมาตามท่านชายให้ไปดูค่ะ" พรพูดก่อนจะนำผู้เป็นนายเดินไปยังห้องรับแขกทันที
เมื่อได้ยินคำว่า 'เด็ก' หม่อมเอื้องดาราถึงกับนั่งไม่ติด รีบเดินตามผู้เป็นสามีไปทันที
ทางด้านห้องรับแขกต่างพากันวุ่นวายกับ 'เด็ก' ปริศนาที่มีแรงมหาสารราวกับยักษ์ ซึ่งแก้วกุสุมาก็ตกใจและก็กลัวในคราเดียวกัน
"ปล่อยข้าสิ ปล่อยข้า ฮือ..."
เด็กหญิงตัวน้อยร้องบอก ตอนนี้น้ำตาของนางเริ่มไหลแล้ว
"ปล่อยเด็กก่อน"
หม่อมเจ้าทัตเทพบอกกับคนใช้ทั้งสองก่อนจะหันไปมองต้นเหตุที่ตอนนี้กำลังร้องไห้อยู่
"หนูชื่ออะไรล่ะ"
หม่อมเอื้องดาราเอ่ยถาม ซึ่งเธอมองเด็กผู้หญิงตรงหน้าน่าจะอายุประมาณ 7-8 ปี ใบหน้าสวยคม ผิวพรรณขาวนวลผุดผ่อง กลิ่นกายของเด็กผู้นี้หอมราวกับดอกไม้ป่า
"ข้าไม่รู้"
หลังจากที่ฤๅษีเมฆสิทธิ์พานางมาที่นี่แล้ว เหมือนความทรงจำและปีกของนางจะถูกปิดตายเหมือนรอวันที่นางจะอายุครบ 19 ปี ส่วนเขี้ยวและพละกำลังที่เปรียบเสมือนยักษ์นั้นยังคงอยู่ แต่เขี้ยวของนางจะยาวเท่าเดิมก็ต่อเมื่อมีอายุครบสิบเก้าแล้วเท่านั้น
"บ้านหนูอยู่ไหนจ้ะ"
เมื่อคนถูกถามไม่ยอมตอบ คนถามก็ต้องเปลี่ยนคำถามไปเรื่อยๆ
"ข้าไมรู้"
แต่คำตอบที่ได้ก็ยังคงเหมือนเดิม เอื้องดารานึกสงสารระคนเอ็นดูเด็กคนนี้เช่นเดียวกับหม่อมเจ้าทัตเทพที่อยากได้เด็กคนนี้มาเป็นลูก
"ไม่รู้ก็ไม่รู้ ตอนนี้หนูมาอยู่กับพวกเราแล้วนะ หนูชื่อวรินนาราที่แปลว่ามนุษย์ผู้ประเสริฐแล้วกันนะ"
"ข้าชื่อวรินนารา"
แก้วกุสุมาพูดทวนคำนี้ซ้ำไปซ้ำมา เรียกรอยยิ้มจากหม่อมเจ้าทัตเทพและหม่อมเอื้องดาราได้ไม่น้อย
"ตอนนี้หนูเป็นลูกพ่อกับแม่แล้วนะ ขอต้อนรับลูกเข้าสู่บ้านบดินทร์เดชา ตอนนี้หนูคือหนูริน วรินนารา บดิทร์เดชา แล้วนะ"
หม่อมเจ้าทัตเทพพูดก่อนจะอุ้ม 'ลูกสาวคนใหม่' ขึ้นมาหอมแก้มซ้ายขวา ท่ามกลางความสุขของคนในบ้านบดิทร์เดชาที่ได้สมาชิกในบ้านคนใหม่เพิ่มมา จนไม่มีสังเกตุเห็นเงาเลือนลางของพระฤๅษีในจีวรลายเสือ ที่ค่อยๆเลือนพร่า จางหายไป...
"ตาไปก่อนนะเจ้ารินเอ๋ย แล้วตาจะหมั่นมาเยี่ยม"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ