ภพรักหิมวันต์

9.1

เขียนโดย Brownies_PK

วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.41 น.

  52 บท
  129 วิจารณ์
  78.37K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558 20.56 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

24) อสุรานคร

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 ทางด้านพิทยาธรหนุ่มกับนารีผลสุพรรณิการ์

 เพทายเฝ้ามองสตรีตรงหน้าด้วยความหลงใหล ถึงแม้เขาจะพานางมาเพื่อปกป้อง แต่ความใกล้ชิดของหนุมสาวย่อมทำให้เขาเกิดความหวั่นไหวกับนารีผลตรงหน้า ร่างเล็กค่อยๆรู้สึกตัว หากแต่ว่าสติของนางจะคงไม่ค่อยจะเข้าที่นัก เนื่องจากผลข้างเคียงของมนต์แห่งนิทรา

"ท่านเป็นใครกัน แล้วข้ามาอยู่นี้ได้อย่างไร"

 หญิงสาวค่อยเอ่ยถามบุรุษตรงหน้า หากแต่เวลานี้ความปราถนาแห่งบุรุษเพศของเขาเริ่มไหลเวียนทั่วร่างกาย แต่พิทยาธรหนุ่มต้องพยายามข่มใจไว้ 

"เจ้ามิต้องรู้อะไรมากหรอก เจ้ารู้แค่ว่าที่แห่งนี้ปลอดภัยสำหรับเจ้าก็พอ"

 เพทายกล่าวกับนารีผลสุพรรณิการ์ ก่อนจะค่อยๆ ร่ายมนต์แห่งนิทราให้นางหลับไปอีกหนหนึ่ง ก่อนที่ตัวเขาเองจะเดินออกไปยังนอกวิมานของเขาเพื่อพบบุคคลผู้หนึ่ง...

 พิทยาธรหนุ่มเดินมายังร่างของชายชราที่ห่มหนังเสือ ซึ่งชายชราผู้นั้นเป็นฤๅษีผู้ทรงฤทธิ์แห่งป่าหิมพานต์ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก 'ฤๅษีเมฆสิทธิ์' นั้นเอง!

"ท่านตามาหาหลานด้วยเหตุอันใดขอรับ"

 เพทายกล่าวถามพระฤๅษีด้วยความเคารพ แต่ทว่าร่างของผู้ทรงศีลหาได้กล่าวอะไรไม่ ก่อนที่ร่างของฤๅษีเมฆสิทธิ์จะค่อยๆเลือนหายไป ท่ามกลางความงุนงงของพิทยาธรหนุ่มเพทาย!!

 หรือการมาของพระฤๅษีเมฆสิทธิ์ครั้งนี้จะเป็นลางบอกเหตุอะไรสักอย่าง!!

 เพทายเดินกลับมายังตำหนักก่อนจะพบร่างบางของสุพรรณิการ์ที่กำลังสิ้นสติด้วยมนต์แห่งเขา ชายหนุ่มค่อยๆนั่งลงข้างหญิงสาว ก่อนจะค่อยๆก้มลงจุมพิตที่แก้มใสของหญิงสาว 

 เพทายยอมจำนนแก่ใจของเขาเองแล้วว่าเขาได้รักนางนารีผลผู้นี้ไปเสียแล้ว แต่เขาก็ต้องทำใจอีก ในเมื่อนางมีชีวิตอยู่ได้เพียง7วันเท่านั้น

"ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าเป็นอันตรายเด็ดขาด ข้าสัญญา!"

 เพทายเอ่ยกับหญิงสาวที่ขณะนี้ยังคงหลับใหลอยู่อย่างเสน่หา...

 จะขอกล่าวถึงอสุรานคร แม้บัดนี้กาลเวลาจะล่วงเลยมาหลายปีแล้ว แต่สุวรรณรัศมียังคงโทมนัสเกี่ยวกับพระราชธิดาแก้วกุสุมา ซึ่งองค์จิตราสูรต่างก็สงสารนางผู้เป็นดั่งดวงใจของพระองค์เป็นที่สุด แต่ดูเหมือนโชคชะตายังคงเข้าข้าง เมื่อสุวรรณรัศมีทรงพระครรภ์อีกครา ซึ่งครานี้เป็นพระโอรส หากแต่พระโอรสผู้นี้มีกำเนิดแตกต่างจากแก้วกุสุมา ซึ่งคราที่สุวรรณรัศมีมีพระประสูติกาลพระราชโอรสองค์น้อย ซึ่งกำเนิดออกมาเป็นเด็กชายวัย10ปี ซึ่งเป็นที่ประหลาดใจของหมอหลวงและนางกำนัลมาก องค์จิตราสูรจึงทรงพระราชทานพระนามพระราชโอรสองค์น้อยว่า 'วิรุฬจักร!!' ซึ่งพระโอรสวิรุฬจักรผู้นี้มีสายเลือดแห่งยักษาเต็มตัว จึงไม่มีสายเลือดกินรีของผู้เป็นมารดาอยู่ในร่างกายอย่างพระภคินีแก้วกุสุมา!!

 จนบัดนี้พระราชโอรส 'วิรุฬจักร' มีพระชันษาย่าง 19 ชันษาแล้ว ซึ่งการให้กำเนิดพระราชโอรสในครานั้น ทำให้โฉมสุรางค์คับแค้นใจเป็นอันมาก เพราะนั้นทำให้สุวรรณรัศมีถูกยกฐานะขึ้นเป็นอัครมเหสีเอกฝ่ายขวา ซึ่งโฉมสุรางค์เป็นได้แค่มเหสีฝ่ายซ้าย!!

 "กรี๊ดดดดดดดด!! ปทุมทอง ข้าจะทำเช่นไรดี นี่ก็เวลาล่วงเลยมาหลายเพลาแล้ว แต่ทำไมข้ายังหาหนทางที่จะกำจัดมันออกไปไม่ได้!!"

 โฉมสุรางค์เอ่ยถามนางกำนัลคนสนิทเพื่อขอความคิดเห็น

"พระทัยเย็นๆ สิเจ้าค่ะ หม่อมแม่อย่าลืมนะเพค่ะ ว่าตอนนี้เราก็ไม่มีพระธิดาแก้วกุสุมาแล้ว"

 คำพูดของปทุมทองดูเหมือนจะช่วยย้ำเตือนสติของหญิงสาวมากขึ้น!!

"จริงของเจ้า ปทุมทอง เจ้านี่ช่วยข้าได้เยอะเลย ฮ่าๆๆๆ"

 โฉมสุรางค์หัวเราะกับนางกำนัลคนสนิท สักวันต้องเป็นวันของนาง!!

 

 


อัพแล้วจร้าาาาาาาาาาาาา

เม้นต์เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์บ้างจิ 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา