Love Hunter สยบร้าย ขยายรัก
เขียนโดย KeawSwaggie
วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.14 น.
แก้ไขเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ. 2558 21.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) บทที่ 5.2 Storm in the sky (Storm Speacial)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 5.2
Storm in the sky
[STROM Special Chapters]
“มีธุระอะไรกับพี่หรือเปล่าฮันนี่..”
ผมถามสาวน้อยร่างบางขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปที่ริชท์เน่ด้วยความเป็นห่วงเพราะวันนี้เธอดูอารมณ์ขึ้นๆลงๆยังไงก็ไม่รู้ บางทีมันก็ทำให้ผมอดที่จะเป็นห่วงเธอไม่ได้ ตอนนี้ครอบครัวของเธอเข้าขั้นตกต่ำจริงๆ
“เดี๊ยวนี้ฮันนี่ต้องมีธุระก่อนเหรอคะถึงจะพบกับพี่ได้”
“ฮันนี่ พี่ว่าพี่เคยบอกไว้ชัดเจนแล้วนะ ว่าพี่เห็นฮันนี่เป็นแค่น้องสาว”
“น้องสาวที่พี่มีอะไรด้วยเมื่อไหร่ก็ได้น่ะเหรอคะ แบบนี้พี่เรียกฮันนี่ว่าน้องสาวได้ยังไงกันคะ! ทั้งๆที่ฮันนี่ทุ่มเททุกอย่างให้พี่สทอร์มไปหมดแล้วนะ!!”
“ฮันนี่! อย่าขึ้นเสียงกับพี่!!”
เสียงตวาดของผมทำให้ฮันนี่สาวน้อยร่างบางตรงหน้าผมถึงกับสะดุ้ง ใช่! ผมไม่ชอบให้ใครมาขึ้นเสียงใส่ผม โดยเฉพาะในที่สาธารณะ แบบนี้มันเท่ากับฉีกหน้าผมชัดๆถ้าหากมีคนมาเห็น ผมมองดวงตากลมโตของฮันนี่ที่เบิกตากว้างขึ้นเมื่อเห็นผมอารมณ์เสียสุดๆเท่าที่เธอจะเคยเห็นมา
“..ฮันนี่…ขอโทษค่ะ”
“พี่จะพูดเคลียร์ให้ตรงนี้เลยนะว่าเรื่องของเราเป็นไปไม่ได้ และเรื่องในอดีตพี่หวังว่ามันคงจะเป็นแค่อดีต พอแค่นี้เถอะฮันนี่..”
ผมอ่อนเสียงลงเมื่อเห็นน้ำตาของเด็กตัวเล็กๆที่เริ่มเอ่อขึ้นมา ผมยอมรับว่าเมื่อก่อนผมเป็นคนรักสนุกและฮันนี่ก็เป็นคนที่เข้ามาในชีวิตผมในช่วงระยะเวลาหนึ่งแต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นผมก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่ฮันนี่คนเดียว ผมยังมีผู้หญิงอีกมากมายที่ผมยุ่งเกี่ยวด้วยแต่ฮันนี่กลับเป็นเด็กสาวที่ผมแคร์มากอยู่พที่สุดในช่วงนั้น ผมเสียใจเหมือนกันที่ผมคงต้องจบเรื่องระหว่างผมกับเธอ..ด้วยเหตุและผลของผม
“ทำไมล่ะคะ ฮันนี่ทำอะไรผิด ฮ..ฮันนี่ทำอะไรผิด..ฮ..ฮึก..”
“ผิดที่พี่เองล่ะฮันนี่ พี่ขอโทษด้วยจริงๆที่ให้ความหวัง..”
ผมเอื้อมมือขึ้นไปปาดน้ำตาของฮันนี่ที่พรั่งพรูลงมามากกว่าเก่า ผมไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตรักสนุกของผมเมื่อก่อนจะทำร้ายเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆได้ขนาดนี้
หมับ!
อ้อมแขนเล็กๆโอบกอดผมแน่นเหมือนไม่อยากให้ผมหายไปไหน ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงกอดตอบเธอไปแล้วแต่นั่นมันเป็นเรื่องเมื่อก่อน
“พี่ต้องไปแล้ว..”
ผมแกะมือที่สั่นสะท้านของฮันนี่ออก ไม่สิ ทั้งตัวของเธอกำลังสั่นสะท้านต่างหาก พอผมแกะมือของเธอออกผมก็ตัดสินใจหันหลังแล้วเดินไปที่โซนของตระกูลผมทันที ผมรู้ว่าฮันนี่ยังคงมีคนคอยดูแลเธออยู่ เพราะฉนั้นเธอไม่เป็นอะไรง่ายๆด้วยเรื่องแค่นี้หรอก
แกร๊ก..
“พี่ไวน์ขอโทษริชท์เรื่องนี้ไปก็เท่านั้นล่ะค่ะ เรื่องที่พี่ไวน์ย้ายออกริชท์ไม่สนหรอกว่าทำไมแต่ริชท์ไม่เข้าใจว่าจะปิดบังเรื่องหุ้นของตระกูลอิทรอสที่ซื้อคืนไม่ทันทำไม ทำไมถึงไม่มีใครบอกริชท์ซักคน!!!”
ก่อนที่ผมจะได้เปิดประตูเข้าไปเสียงเล็กๆที่ทรงพลังก็ดังขึ้นจากห้องด้านในอีกห้องหนึ่งของ V-VIP ROOM
ผมตัดสินใจเดินเข้าไปแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาที่ห้องรวมก่อนจะหลับตาแล้วแอบฟังแบบเนียนๆ
“ริชท์อายุ 19 แล้วนะคะ!”
(……)
“แล้วริชท์จะไปอยู่ที่ไหนคะ!!!!! พี่ไวน์จะมารับริชท์กลับบ้านเหรอ!!!”
(………..)
“..ค่ะ..”
สิ้นสุดประโยคนั้นสิ่งที่ผมได้ยินเพียงเสียงสะอื้นเบาๆลอดออกมาจากห้องนอน
เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงผมตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปเพราะเห็นว่าเสียงทุกอย่างเงียบลงจนผิดปกติ สิ่งแรกที่ผมเห็นก็คือร่างของหญิงสาวในชุดเกาะอกสีชมพูพาสเทลที่กำลังหลับอยู่ในห้วงนิทราของเธอ ด้านข้างมีขวดไวน์เปล่า อะไรเนี่ย! เธอคนเดียวดื่มไวน์แรงแบบนี้หมดขวดได้ยังไง ขนาดผมยังไม่กล้าเลย!
ฝุบ..
ผมค่อยๆทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงช้าๆก่อนจะมองสำรวจรอบตัวริชท์ด้วยความเป็นห่วง มือเรียวยาวของผมเอื้อมไปเหน็บผมของริชท์ที่ร่วงลงมาเกลี่ยอยู่ที่ใบหน้าผ่องใสของเธอโดยไม่รู้ตัว ยัยตัวแสบริชท์เน่ที่แสบสรรค์สุดๆและเพี้ยนสุดๆยามที่เธอลืมตา ใครจะเชื่อว่าสาวสวยและดูทรงพลังอย่างเธอจะต้องเจอเรื่องที่ดูจนตรอกขนาดนี้ ผมรู้ว่าในวันพรุ่งนี้เธอจะไม่มีแม้ที่จะให้ซุกหัวนอน ดังนั้นผมจึงเป็นห่วงเธอมากขนาดนี้ เพราะผมรู้สึกว่า ผมคงตกหลุมหลงเสน่ห์ของเธอเข้าให้อย่างจังแล้ว..ล่ะมั้งนะ..
ผมช้อนตัวอุ้มริชท์เน่ขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนของผมแล้วเดินออกไปจากห้องเพื่อเตรียมขึ้นลิฟท์ การ์ดของผมสองสามคนพยายามช่วยผมอุ้มแต่ผมก็ปฏิเสธไป ร่างกายของริชท์ห้ามผู้ชายคนไหนแตะต้องนอกจากผมเท่านั้น!
“คุณพ่อ…”
เสียงใสๆที่ดูสั่นเครือเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากสีส้มอมชมพูของริชท์ ผมมองใบหน้าของเธออีกครั้ง มองใบหน้าของเด็กผู้หญิงอายุ 19 ปี ผมสีน้ำตาลบลอน ดวงตาคมกริบและสีผิวที่ขาวจัด ใบหน้าที่ดูลงตัวดูทรงพลังและมีเสน่ห์น่าค้นหามากๆ
ติ๊ง..
เสียงลิฟท์ที่เปิดขึ้นเมื่อถึงชั้นสูงสุดของคอนโดฯ การ์ดของผมเดินไปเปิดประตูให้แบบรู้หน้าที่ ผมวางร่างบางของริชท์เน่ลงบนเตียงของผมก่อนจะหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวให้เธอแล้วเดินออกมาหาผ้าเช็ดตัวให้เธอ..
เอ้อ! จริงสิ พรุ่งนี้ห้องอินทรอสจะถูกริบคืนแล้ว ผมรู้ว่ามันคงเป็นเรื่องไม่ยากเกินกำลังที่ผมจะกู้หุ้นคืนให้ตระกูลอินทรอส แต่ผมก็มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นผู้บริหารเกาะแซนเดอร์และระบบการเงินของเกาะนี้ผมจึงมีสิทธ์ไม่มากเท่าไหร่นักสำหรับตระกูลผม แต่จะว่าไป ผมลองโทรไปปรึกษาพ่อของผมดีมั๊ยนะ..
ติ๊ด!
...ผมโทรศัพท์หาเบอร์ของพ่อก่อนจะโทรออก...
(“ว่าไงไอ้เสือ..โทรมาหาซะดึกดื่นเชียวนะ”)
“พ่อ ผมมีเรื่องอยากให้พ่อช่วยหน่อยครับ”
(“อืม ว่ามาสิ”)
“พ่อพอจะทราบแล้วใช่มั๊ยครับเกี่ยวกับตระกูลอินทรอส ผมอยากให้พ่อช่วยตระกูลนี้ซักหน่อย”
(“ให้ช่วยอะไรล่ะ แกนี่ขยันสร้างปัญหาให้พ่อจริงๆนะ”)
“ผมรู้ว่าไม่เกินกำลังพ่อหรอกครับ ผมอยากให้พ่อคืนหุ้นให้อินทรอส 50% อย่างน้อยผมก็อยากให้บ้านของตระกูลอินทรอสยังคงอยู่”
(“ลูกสาวของควีนเซนท์นี่ดูท่าทางคงถูกใจแกมากสินะ รู้มั๊ยว่า 50% นั่นก็คือ 50 ล้านบาทเชียวนะไอ้ลูกชาย”)
“ครับพ่อ ช่วยหน่อยนะฮะ คิดซะว่าสินสอดทองหมั้นให้ทางนั้นก็ได้”
(“เออๆๆ เดี๊ยวพ่อจะไปพูดกับควีนเซท์ให้ก็ได้”)
“ขอบคุณครับ แค่นี้นะพ่อ”
(“ เออ ”)
ผมกดตัดสายก่อนจะยัดโทรศัพท์ลงกางเกงแล้วเดินกลับไปดูริชท์เน่ที่กำลังนอนหลับอีกครั้ง ผมรู้ว่าเธอไม่ได้เต็มใจแต่งงานกับผม และดูเหมือนว่าเธอคงจะโทษตระกูลเธออยู่พอสมควรที่ยัดเยียดเธอให้กับผม
ผมปล่อยให้เธอนอนต่อไป ส่วนผมก็จัดการเข้าห้องน้ำล้างเนื้อล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็ค่อยๆทิ้งตัวเองลงนอนบนเตียงอย่างเบาที่สุด แล้วหันหน้าเขาหาริชท์ที่กำลังนอนด้วยสีหน้าไม่สบายใจ ผมดึงริชท์เข้ามากอดไว้อย่างเบามือก่อนจะหลับตาลง…
**เช้าวันต่อมา**
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!”
“เฮ่ยยยยยยยยยยยยย!!!! โอ๊ยยยๆๆๆๆ เจ็บๆ ริชท์!! ปล่อยก่อน!!!!!!”
ผมตื่นขึ้นมาโดยไม่เต็มใจนักจากแรงทึ้งหัวผม อะไรกันแต่เช้าเนี่ย!! โอ๊ยยย!!!
“ไอบ้า! ไอลามก!! ไอ้คนฉวยโอกาส!!! ตายซ๊า!!!!!!!!!!!!!”
“ฉันไปฉันโอกาสเธอตอนไหนเนี่ย!!! โอ๊ยๆๆ ปล่อยผมฉันซักที ป่านนี้ผมร่วงหมดหัวแล้วมั้งเนี่ย!!!!!={}=***”
“ดี! ให้หัวล้านไปเลย! จะได้ไม่มีใครเอานายทำพันธ์ยังไงล่ะ ย๊ากกกกกก!!!!”
“เฮ้!! บอกให้หยุดไง!!”
ผมรวบมือของริชท์ทั้งสองข้างก่อนที่เธอจะออกแรงทึ้งหัวผมมากไปกว่านี้ ยัยแสบนี่จะบ้าพลังไปไหนกันเนี่ย!! =[]=!!
“เมื่อคืน! นายป่ามป๊ามฉันไปแล้วใช่มั๊ย!! ใช่ม๊ายยยยย!!!”
เอ่อ..ป่ามป๊าม.. =____=?
“ป่ามป๊ามภาษาอะไรของเธอเนี่ย! =0=*”
“ก็…เรื่องนั้นน่ะ! น..นายกระจุ๊กกระดิ๊กปั๊บๆฉันแล้วใช่มั๊ย!!!”
“อะไรของเธอ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นล่ะ!”
“ฉันไม่เชื่อ!! คนอย่างนายน่ะนะจะไม่อ่ะฮึ๊บอ่ะฮิ๊กฉันน่ะ!! =0=!!!”
พระเจ้า.. ผมต้องทำยังไงบอกผมทีเถอะ -____-**
“งั้นทำตอนนี้เลยดีมั๊ย ฉันว่าจะไม่ทำแล้วนะ ^___^**”
ผมแสยะยิ้มมุมปาก แล้วดันตัวของริชท์เน่ให้ลงไปนอนที่เตียงก่อนจะขยับตัวขึ้นไปคล่อมเธอไว้แล้วก้มหน้าลงไปหวังจะทำให้เธออกสั่นขวันแขวนเล่นๆ
“กรี๊ดดดดดดดดดดปล่อยฉันนะ!! เชื่อๆๆๆๆๆๆ เชื่อแล้วๆๆๆ เชื่อแล้วก็ได้ ปล่อย! สทอร์ม!!!”
“เรียกพี่สิแล้วฉันจะปล่อย ฉันอายุห่างจากเธอตั้งห้าปีเชียวนะ ^0^”
“อ..เอ่อ”
“จะไม่เรียกเหรอ งั้นฉันก็จะป่ามป๊ามกระจุ๊กกระดิ๊กปั๊บๆอ่ะฮึ๊บอ่ะฮิ๊กเธอแล้วนะ”
ผมพูดแล้วก้มหน้าลงไปจูบจมูกโด่งๆของริชท์ เล่นทำเอาเธอสะดุ้งโหยงเลยทีเดียว เธอยังกลัวอะไรกับเรื่องแบบนี้อยู่อีกเหรอเนี่ย ทีเมื่อคืนนะบอกขออีก นะๆ อะไรนั่น คงเมาเข้าจริงๆสินะ เฮ้อออ =__=:;
“พ..พี่!!”
“พี่อะไรนะ..พี่อะไรน๊า ขอเพราะๆหน่อยสิเด็กน้อยย”
“ฉันไม่ใช่เด็กน้อยนะ!!!”
“งั้นฉันก็คงทำเรื่องแบบนั้นได้สินะ”
ทีนี้ผมพูดแล้วก้มลงไปจุ๊ฟที่ปากของเธอด้วยความรวดเร็ว หึๆๆ ผมล่ะอยากจะขำจริงๆ แกล้งยัยซ่านี่ให้หงอยนี่ก็สนุกดีเหมือนกันแฮะ >_<
“พ..พี่สทอร์ม!!!”
“สทอร์มมมมมม…” ผมลากเสียงยาวแล้วส่งสายตายียวนกวนประสาทให้เธอ
“พี่สทอร์มคะ!!!”
“อื้มมมมม โอเค แบบนี้สิค่อยน่ารักหน่อย”
ผมพูดแล้วหยิกแก้มนุ่มๆของเธอก่อนจะเบี่ยงตัวหลบให้ ริชท์ผลักอกผมแรงๆทีหนึ่งก่อนจะวิ่งเปิดประตูออกไปข้างนอก ให้ตายสิ ผมยอมแพ้เลยจริงๆ ริชท์เป็นผู้หญิงที่น่ารักที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลย <3
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ