[YAOI] Lessons Of Loves รักเร้นลับ ฉบับคุณครู

9.8

เขียนโดย ดลณกร

วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 13.39 น.

  16 Lesson
  28 วิจารณ์
  21.91K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2557 18.42 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) 012th พรหมพัชรvsอิสระ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Lesson 012th พรหมพัชรvsอิสระ

 

กว่าผมจะกลับไปบ้านที่ต่างจังหวัด ก็ช้าไปเกือบ 1 อาทิตย์ เพราะมัวแต่ไปช่วยคุณชายอ้นที่อ้อนเหลือเกินให้อยู่ช่วยทำโน่นนี่นั่นเพื่อเตรียมเรื่องการประเมินโรงเรียนของมัน จนครูที่นั่นคุ้นเคยกับผมแทบทุกคน มันทำให้กลายเป็นว่า ช่วงปิดเทอมของผม ผมก็ยังต้องไปทำงานอยู่ดี ผมมีเวลากลับบ้านจริงๆ นับแล้วประมาณ 13 วันเอง T_T เพราะหลังจากนี้ก็ต้องกลับมาเตรียมการเพื่อเปิดภาคเรียนที่ 2 อีก นี่แหละครับ ชีวิตครูไทย

ทุกครั้งที่ผมกลับบ้านต่างจังหวัด ก็มักจะมีพี่ป้าน้าอาแถวบ้านที่สนิทกับครอบครัว มักจะแซวเรื่องแฟนบ้าง ลูกสะใภ้แม่บ้าง อยากกินขนมขันหมากบ้าง จนบางครั้งผมเองก็อดคิดในใจไม่ได้ว่า “ขนมขันหมากน่ะ ถ้าอยากกินเดี๋ยวพาไปซื้อครับ”

แต่พอคำถามเหล่านี้มันเข้ามาบ่อยๆ มันก็ทำให้ผมคิดเหมือนกันแฮะ แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมจะต้องคิดถึงใคร....เพราะเรื่องฟงเรื่องแฟน ล่าสุดผมเลิกรากันไป 3 ปีกว่าๆ จนคิดว่าตอนนี้อยู่ตัวแล้ว (ไม่ต้องสงสัยครับ แฟนผมทุกคน สุภาพสตรีล้วนครับ)
 

แวบหนึ่งในสมอง ภาพใบหน้าของนิ่มกับไอ้อ้นก็สลับกันลอยมา
 

แต่ความรู้สึกแยๆ ที่รู้ว่าอ้นบอกเลิกก้อย มันก็ทำให้ในหัวผมสลัดหน้าอ้นอกไปอย่างรวดเร็ว ผมไม่ได้ทำตัวพระเอก หรือทำตัวให้ดูดี แต่มันก็ไม่ถูกใช่ไหมครับ ที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะมาถูกทิ้งเพราะคนอย่างผม ผมเลยตัดสินใจปิดมือถือ แล้วบอกกับตัวเองว่า ....มันน่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว

 

--------------------------------

 “แล้วมาอีกทีเมื่อไรลูก แม่ถามผมขณะที่ผมกำลังเก็บเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางกลับบ้านพัก

 “อาจจะเดือนหน้าครับแม่ เพาะช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ งานมันเยอะ 

 “อืม ถ้าจะมาก็โทรบอกแม่นะ เก็บผ้าเสร็จแล้ว เดี๋ยวไปกินข้าวกัน พ่อรออยู่ในครัวแล้ว ผมพยักหน้าตอบแม่แล้วเก็บผ้าต่อจนเสร็จ แล้วเดินต่อไปยังห้องโถงหน้าบ้านเพื่อไปหาน้องสาวของผม

 “ทำอะไรยุ่งเลยนิว” ผมถามเพราะเห็นน้องสาวของผมกำลังเขียนอะไรยุกยิกๆ บนโต๊ะ

“ทำบัญชีน่ะ พี่นัทหิวข้าวหรือยัง เค้ารอจนแสบท้องแล้ว” นิวที่กำลังพูดถึงอยู่เป็นน้องสาวของผมครับ นอกจากเรียนแล้ว นิวยังเป็นแม่ค้าครีมออนไลน์ด้วย เรียกว่าเรื่องเงินๆ ทองๆ นี่ไม่ต้องห่วงเลยครับ นิวเปรี๊ยะทุกกระเบียดนิ้ว

“แล้วเป็นไงบ้าง ช่วงนี้ขายดีไหม”

“โคตรดีอ่ะพี่ ช่วงนี้มีของใหม่มาลงเยอะเลย” นิวบอกผมพร้อมชี้ไปให้ดูสินค้าที่เธอกองพะเนินไว้อีกมุมหนึ่ง

“ดีแล้ว แล้วก็อย่ามัวขายของเพลินจนลืมเรื่องเรียนล่ะ ไปกินข้าวกัน เดี่ยวพี่จะต้องไปขึ้นรถแล้ว” ผมขยี้หัวน้องสาวสุดที่รัก 1 ที แล้วไปกินข้าวกับครอบครัวก่อนจะอกเดินทางกลับในตอนเที่ยงวัน

 

--------------------------------

 

เมื่ออยู่บนรถตู้ ผมเกรงว่าที่บ้านจะติดต่อผมไม่ได้ ผมเลยเปิดมือถือที่ปิดมาเกือบ 2 อาทิตย์ให้มันคืนชีพอีกครั้ง ทันทีที่ผมเปิดมือถือมันก็แหกปากร้องลั่น 

หน้าจอแสดงว่าครูนิ่มโทรมาครับ

“อยู่กับแฟนหรอพี่ นิ่มโทรหาไม่ติดเลยยยยยยยย” นิ่มทักทายพร้อมหัวเราะคิกคัก

“เปล่าครับ แถวบ้านพี่ไม่ค่อยมีสัญญาณน่ะ”

“แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่หรอคะ”

“กำลังเดินทางกลับครับ นิ่มครับ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ พี่อยู่บนรถตู้น่ะ”

“คร๊าบผม  เดินทางปลอดภัยนะพี่”....................ผมวางสายลงด้วยความรู้สึกแปลกๆ หวิวๆ ยังไงบอกไม่ถูก ผิดหวัง? ผิดหวังหรอวะ?.....

 

ทำไมผมต้องรู้สึกผิดหวังวะ? 

 

------------------------------------------------------------------------

 

หลังจากผมลากสังขารลงจากแท็กซี่ จัดแจงธุระต่างๆ ก็เป็นเวลาดึกโข เดินทางนานๆ นี่มันเพลียจริงๆ นะครับ ก่อนนอนผมเดินไปปิดหน้าต่างให้สนิท แต่มือของผมดันเปิดหน้าต่างออกแล้วชะโงกหน้าไปด้านนอก.... เผื่อจะแอบเห็นว่าจะมีใครซักคนขี่จักรยานเมาๆ แล้วยืนรอผมตรงม้านั่ง... แต่ก็พบเพียงไอ้ป้องที่นอนหลับสบายบนม้านั่งนั้น ผมปิดไฟ หย่อนตัวลงบนที่นอน หยิบมือถือขึ้นมาดู ก็พบเพียงสายที่ไม่ได้รับของนิ่ม...

 

มึงหายไปไหนวะอ้น?

 

------------------------------------------------------------------------

 

ผ่านไป 2 วัน ผมก็ยังคงง่วนอยู่กับการเตรียมเอกสาร จัดแจงห้องเรียน จนใกล้วันเปิดเรียน หลายวันมานี่มันก็เริ่มรู้สึกชินกับการไม่ได้คุยหรือติดต่อกับอ้น เพราะถึงเอาเข้าจริงๆ ผมจะคิดถึงมันแค่ไหน แต่ความถูกผิดมันก็สั่งผมว่ามันเป็นไปได้ ในเมือความสัมพันธ์ของผมกับอ้น มันผิดตั้งแต่จั่วหัวกระดาษ และที่สำคัญ มันไม่ใช่ความผิดของก้อยเลย

           อ้นเองมันก็อาจแค่เพียงเผลอกาย

          ผิดกับนิ่มที่ยังคงโทรมาสม่ำเสมอ จนสุดท้ายผมก็ต้องยอมแพ้ความดีของเธอ ละอายใจตัวเองและรับสายของเธอเหมือนเดิม

           และจากการที่ช่วงนี้ผมและครูที่โรงเรียนทำงานด้วยกันทุกวันก่อนเปิดเทอม มันก็ทำให้ผมกับครูอิส ครูเอก ครูเปรี้ยว ครูเค้ก สนิทกันมากขึ้น โดยเฉพาะในวันนี้ วันที่เราช่วยกันล้างโรงเรียน ผมเองต้องช่วยพี่อิสลากสายยางจากหน้าห้องสมุด เดินขึ้นไปบนอาคารด้านหน้า แล้วผู้ชาย 3 คน อย่างผม พี่อิส ครูเอก
ต้องถอดเสื้อ นุ่งขาสั้น (เพราะน้ำสกปรกมันกระเด็น) ช่วยกันขัดด้วยแปรงขัดพื้นอันยาว ส่วนผู้หญิงอย่างเปรี้ยวและเจ้เค้กก็ช่วยถู กว่าจะหมดอาคารเลนเอาเย็นเลยครับ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า

“วันนี้เสร็จแล้ว เราไปฉลองกันนะ เจ้หิวมาก” ครูเค้กพี่สาวใหญ่ในกลุ่ม นั่งหอบบอกอายุ (ฮ่าฮ่าฮ่า) เอ่ยปากชวนขณะที่ผมละจากการขัดพื้นแล้วมาเริ่มลากคัทเตอร์ตัดกระดาษสีเพื่อแปะประตูห้องคอมพิวเตอร์

“เจ้จะกินอะไรอ่ะ หิวขนาดไหน” ครูเปรี้ยวถามเสียงใส ทั้งที่ยังง่วนกับการเก็บชุดรำแยกเป็นเซ็ทๆ  ส่วนผมกับพี่อิส และครูเอกก็ได้แต่ลุ้นวาเจ้จะเลี้ยงอะไร

“หิวจนวัวตาย หิวจนควายล้มเลย เอาเป็นหมูกระทะหน้าปากซอยเหอะ เหนื่อย ขี้เกียจไปไกล”

“โห เจ้ ไม่เอาอ่ะ หนูคันคอ” ครูเปรี้ยวทำเสียงเล็กใส่ลูกคอจินตราตรงคำว่าคอ พร้อมทำปากยู่บ่งบอกว่าไม่อยากกินแบบจริงใจสุดๆ จนครูเอกและพี่อิสที่กำลังแบกลังหนังสืออยู่หน้าอาคารขำดังลั่น

“เจ้เลี้ยง จะไปไหม? ถ้าไม่ ก็แยกย้าย” สิ้นเสียงทุกคนก็สามัคคีตอบโดยพร้อมเพียงกันว่า

“ไป”

 

------------------------------------------------------------------------

 

เรา 5 คน มารถมอเตอร์ไซต์ 3 คัน เจ้เค้กพยักหน้าให้ครูเอกชวนครูเปรี้ยวไปด้วย ส่วนผมมากับพี่อิส และเจ้เค้กฉายเดี่ยวสวยๆ เบาๆ เรา 3 คน เรา 3 คันลัดเลาะมาจนถึงร้านหมูกระทะ หลังจากจอดรถมอเตอร์ไซต์ตรงหน้าร้านแล้ว ครูอิสก็ชวนผมไปเป็นเพื่อนซื้อของแต่งห้องเพิ่มเรา 2 คนเลยแยกย้ายจากกลุ่มเพื่อไปซื้อของแต่งห้องเล็กน้อย (ไหนๆ ก็มาแล้ว) โดยที่เปรี้ยว เจ้เค้กและครูเอกแยกไปรอที่ร้านหมูกระทะก่อน

         "นัทเป็นอะไรหรือเปล่าจ้ะ ดูหน้าตาไม่สบายใจเลย" นี่หน้าตาผมมันแสดงออกขนาดนั้นเลยหรอวะ
         "เปล่านี่ครับ วันนี้เหนื่อยๆ ใช้แรงงานยังกะควายไถนา พี่ไม่เหนื่อยหรอ"
       "ไม่อ่ะจ้ะ พี่ไม่ได้ไถนา ฮ่าฮ่าฮ่า"
ถึงตรงนี้ผมหลุดขำในความบ้องตื้นของตัวเองที่เปรียบการทำงานเป็นไถนา ถ้าพี่อิสตอบว่าเหนื่อย พี่เค้าคงกลัวว่าจะเป็นควาย ฮ่าฮ่าฮ่า
         "เวลานัทหัวเราะแบบนี้ พี่ว่ามันสดใสนะ เรื่องที่ผ่านมา ทิ้งไว้วันนี้ แล้วพรุ่งนี้ยิ้มเยอะๆ ล่ะ พี่จะรอดู" พี่อิสว่าพร้อมยิ้มและยักคิ้วเบาๆ ผมพยักหน้ารับคำ แล้วแยกย้ายกันเดินดูของที่เราต้องการ ผมเดินมาซอกในสุดของร้าน ขณะที่พี่อิสกำลังยืนเลือกกระดาษสีต่างๆ เพื่อไปติดบอร์ดผลงานนักเรียนตรงทางเข้าร้าน แล้วผมก็มาสะดุดอยู่ที่กลุ่ม
DVD สื่อการสอนกองโตที่กำลังเลหลังในราคาโคตรน่าเหมา ผมคุ้ยหาสื่อเรื่องที่ต้องการมาได้หลายแผ่นอยู่ แต่แผ่นที่สุดท้ายที่ผมกำลังจะเอื้อมหยิบในส่วนที่ลึกสุดของกองกลับมีมือยาวๆ ของใครไม่รู้แหวกอากาศเสียดใบหูของผมไปหยิบตัดหน้าผมแบบเฉียดฉิวอย่างไร้มารยาท ผมหันกลับไปมอง พบร่างสูงโปร่งยืนยิ้มสว่างเลิกคิ้วขึ้น ในขณะที่มือข้างหนึ่งโบกแผ่น DVD ไปมา

“มาได้ไงวะ” ผมไม่รู้ว่ามันจะมีคำไหนทักทายได้เหมาะไปกว่านี้อีกแล้ว มึงนี่มันเลี้ยงกุมารชัดๆ ไอ้อ้น!

“มาเลือกของแต่งห้องน่ะพี่” มันเดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น “แล้วพี่กลับจากบ้านมานานหรือยัง”

ก็อาทิตย์กว่าแล้ว” ผมตอบมันขณะที่มันจ้องตาผมด้วยดวงตาคู่เดิม คู่ที่เคยทำให้ผมเกือบตายเพราะความเขินมาแล้ว

“แล้วมาเดินหนุงหนิงๆ อะไรกับผู้ชายหน้าแปลกเนี่ย" มันพูดพร้อมยักคิ้วกวนประสาทให้ผม
           "กวนตีนละมึง นั่นพี่อิส ครูภาษาอังกฤษที่โรงเรียนกู" มันพยักหน้ารับรู้ แต่ก็ยังเบะปากทำหน้ากวนใส่ผม
           "ช่างมันเหอะพี่...แล้วทำไม.....”

"นัทเสร็จยังจ๊ะ เอกโทรมาตามบอกว่าเจ้วีนใหญ่แล้ว ถ้าไม่รีบไปจะเช็คบิลกลับบ้าน” เสียงพี่อิสแหวกอากาศมา ไอ้อ้นที่ยังพูดไม่จบหันไปตามเสียงนั้นทันที

“อ้าว คุยธุระอยู่หรอ” พี่อิสถามงงๆ ขณะที่เห็นหน้าอ้น

“เอ่อ นี่ครูอ้นครับพี่ อ้นนี่พี่อิส ครูที่โรงเรียนพี่” อ้นไหว้พี่อิส พี่อิสรับไหว้พร้อมทำคิ้วหยักสงสัย

“เพื่อนนัทหรอจ้ะ ไม่เห็นเคยเล่าให้พี่ฟังเลย" ประโยคนี้ ถ้าผมฟังไม่ผิด 
         "ครับ แต่ผมก็ไปบ้านพักพี่นัทบ่อย ก็ไม่เคยเจอพี่นะครับ" ไอ้อ้นก็พูดพร้อมมองหน้าพี่อิสตาเขม็ง
            "อ๋อ พี่อยู่เป็นเพื่อนนัทช่วงกลางคืนน่ะครับ เพราะนัทเค้าต้องติวให้พี่เรื่องเอกสารประเมิน ช่วงกลางคืนมันเงียบดี" ผมอ้าปากค้างหันมองหน้าไอ้พี่อิส คล้ายๆ พี่อิสจะหางานให้ผม    

         "ผมว่าเราไปจ่ายเงินดีกว่าครับ อ้นรีบกลับบ้านใช่ไหม แม่โทรตามแล้วนี่" ประโยคปัญญาอ่อนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าผมพูดไปได้ยังไง

         "หรืออ้นจะไปทานหมูกระทะกับพวกพี่ครับ จะได้ไปคุยธุระกับนัทต่อ เผื่อพี่จะได้คุยด้วย” ความไวของพี่อิสไวกว่าแสง ผมทำได้แค่อ้าปากค้างหันมองหน้าไอ้พี่อิส...อีกครั้ง

“ได้ครับ งั้นเดี๋ยวผมคิดเงินก่อนนะ” ส่วนไอ้อ้น ก็คาดว่าไวกว่าเสียงเช่นกัน ตอนนี้ผมหันหน้ามามองไอ้อ้นพร้อมส่ายหน้า และทำปากบอกว่า "ไ    ม่    ต้     อ    ง    ไ     ป"  ซึ่งมันก็ไม่ได้สนใจเลยว่าผมมองมันจนตาแทบจะถลนออกมานอกเบ้า

 

------------------------------------------------------------------------

 

“ขอโทษทีนะครับเจ้ คนเยอะน่ะครับ แล้วพอดีเจอเพื่อนนัทด้วย เค้าทำท่าหิวๆ เลยชวนมากินกับเรา” พี่อิสทำหน้าที่แนะนำเสร็จสรรพพร้อมจัดแจงหาเก้าอี้ให้ผมและอ้นนั่งโดยมีพี่อิส....นั่งกลาง เยี่ยมมากพี่อิส

“หล่อๆ แบบนี้ เจ้ยินดีคร้า ชื่ออะไรคะ” เจ้คีบหมูพลางหัวเราะไอ้อ้นที่นั่งหูแดงด้วยความเขินหรือโมโหพี่อิสผมก็มิอาจคาดเดาได้ ส่วนผมก็ได้แต่หัวเราะในลำคอ หึหึหึ 

           "ชื่ออ้นครับ สอนอยู่ศรัณราษฎร์บำรุง
" อ้นแนะนำตัวพร้อมส่งยิ้มให้เจ้เค้กหวานหยดย้อย

          "กินเลยนะจ้ะ ไม่ต้องเขิน วันนี้เจ้เลี้ยง คนอะไรน่ารักจริงๆ" อ้นยิ้มให้เจ้อีกที แล้วจัดการย้ายเก้าอี้มานั่งข้างผม

        "มึงย้ายมาทำไม ขวาง กูคีบไม่ถนัด" ผมโวยวายใส่มันเพราะตอนนี้เก้าอี้มันแทบจะสิงร่างผมแล้ว 

          "ผมนั่งตรงนั้นแล้วไม่ถนัดเหมือนกันน่ะพี่ นั่งตรงนี้ถนัดกว่า แต่ถ้าพี่ไม่ถนัด เดี๋ยวผมปิ้งให้พี่ละกัน" ผมขยับปากขมุบขมิบด่ามันแล้วกระทืบเท้ามันใต้โต๊ะเตือนสติในความโจ่งแจ้งของมัน แต่ก็ดูจะเปล่าประโยชน์ เพราะมันก็นั่งลอยหน้าวางเนื้อในเตาและปิ้งย่างอย่างเมามัน


          ตลอดการกินหมูกระทะ อ้นก็เอาแต่คีบหมู กุ้ง ใส่จานผม จนผมรู้สึกว่าสายคาคนอื่นๆ ในวงเริ่มมองแปลกๆ โดยเฉพาะพี่อิสที่แทยจะวางตะเกียบแล้วซดเบียร์แทนน้ำ

“พอเลยมึง ชิ้นไหม้ๆ ละเอามาให้กู เดี๋ยวกูก็เป็นมะเร็งตายห่าก่อนแก่หรอก” ผมควรจะพูดอย่างไรล่ะคร๊าบ นอกจากทำเป็นด่ามันแบบนี้

“นัททานผักบ้างดีกว่า ทานแต่เนื้อเดี๋ยวย่อยยากนะจ๊ะ” ไม่พูดเปล่า เพราะตอนนี้ ในจานของผมมีผักกาดขาว เห็ดเข็มทองกองอยู่ด้วยฝีมือพี่อิส

ผมเหลือบตาแอบมองหน้าไอ้อ้นที่ตอนนี้หูของมันเริ่มเป็นสีแดงชัดเจนและเท่าที่ดูตอนนี้ผมว่าหูมันไม่ได้แดงเพราะความเขินแน่ๆ

        
“เปรี้ยว เมื่อเย็นเปรี้ยวบอกจะไปซื้ออะไรเพิ่มบ้างนะ ถ้าไปบอกนะ เดี๋ยวพี่จะไปเป็นเพื่อน” เป็นครูเอกครับ ที่ช่วยชีวิตผมในรอบนี้

“ก็เยอะเลยค่ะพี่ เดี๋ยวไปดูกันที่โรงเรียนเนาะ ตอนนี้หนูขอโม่อาหารก่อน ปิ้งไม่ทันพี่อ้นกับพี่อิสแล้ว” แต่ด้วยความไม่รู้ของเปรี้ยวก็จุดไฟขึ้นอีกครั้ง ผมอยากหนีเข้าไปในเตาจริงๆ

“อ้ะๆ เดี๋ยวพี่ปิ้งให้เปรี้ยวเอง แล้วครูเอกก็คีบปลาหมึกใส่จานให้เปรี้ยว โดยครูเอกอาจจะลืมมองว่าตอนนี้เปรี้ยวก้มใบหน้าที่เคยขาวใส แต่ตอนนี้กลายเป็นสีชมพูอ่อนๆ (ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา นี่มีอะไรที่ผมไม่รู้หรือเปล่าวะครับ ^3^)

“แหมๆๆๆ อิจฉาจริง แล้วคนแก่อย่างเจ้ ใครจะปิ้งให้กินบ้างน้อ” เจ้เค้กส่งเสียงประท้วงในฐานะเจ้ามือ ทำให้เราทุกคนหันมาสามัคคีปิ้งวางๆ ในจานเจ้จนเต็มจาน
 

------------------------------------------------------------------------
 

หลังจากอิ่มท้องเหมือนร่างจะแตก เราต่างยกมือร่ำลา เตรียมแยกย้ายกลับบ้าน และเพื่อไม่ให้เสียเวลาย้อนกันส่งไปมา ผมเลยคิดว่าการที่ซ้อนรถมอเตอร์ไซต์พี่อิสกลับบ้านพักคงเป็นความคิดที่ฉลาดและสุดยอดแล้ว โดยสาบานเลยว่าใรหัวของผมไม่ได้คิดอะไรเล้ยยยย  ผมหยิบสัมภาระของผมกับหมวกกัน็อคของพี่อิส มายืนข้างทาง จนรถพี่อิสขี่มาขนาบข้าง แต่ขณะที่ผมกำลังจะยกขาก้าวขึ้นรถ มือไอ้อ้นก็คว้าเข้าที่แขนผมจนผมเกือบล้ม

“พี่ๆ ครับ พอดีพี่นัทลืมของไว้ที่รถผมตั้งแต่ก่อนปิดเทอม เดี๋ยวผมขอตัวพี่เค้าไปหยิบของก่อนนะครับ แล้วจะพาไปส่งที่บ้านพักเอง” ผมมองหน้ามันงงๆ ว่าผมลืมของอะไรไว้วะ

“ไม่เป็นไรมั้งครับครูอ้น เดี๋ยวผมพานัทซ้อนไปเอาของที่รถครูอ้นก็ได้ นัทจะได้ไม่ต้องเดินให้เหนื่อย ครูอ้นเดินนำไปที่รถเลยครับ” พี่อิฐเสนอข้อเสนอที่โคตรโดนใจผมเพราะผมได้ข่าวว่ารถไอ้อ้นมันจอดไกลมากๆ และความอิ่มระดับ 25+++  นี้ ผมคิดว่า ผมสมควรจะนอนเลื้อยมากกว่าเดิน

“พอดีมีเรื่อง "ส่วนตัว" จะคุยกัน 2 คน น่ะครับ” อ้นพูดด้วยนำเสียงโทนต่ำ เงยหน้าเล็กน้อยยิ้มมุมปาก พร้อมจ้องหน้าพี่อิส

"เอายังงี้ไหม นัทก็ไปเอาของกับอ้น แล้วอ้นก็ไปส่งนัทด้วย เจ้ฝากอ้นด้วยน้าาาา"

         "ได้ครับพี่เค้ก"
ไอ้อ้นยิ้มโชว์ลักยิ้มให้พี่เค้ก พร้อมจับข้อมือผมไว้โดยมีพี่อิสมองอยู่

         "ส่วนอิสถ้าว่างไม่ไปส่งใคร เจ้ก็อยากจะบอกว่าเจ้ยังว่างงงงงง ไปส่งเจ้ได้นะค้าาาาาาาาา”

เจ้เค้กลากเสียงยาวแล้วเดินเข้ามาสงบศึกในขณะที่ผมเองได้แต่ยืนแอบมองและเห็นว่า ใบหน้าไอ้อ้นที่ยิ้มให้เจ้่เค้กเมื่อกี้นี้ กลายเป็นใบหน้างอหงิกอย่างกับตะหลิวผัดข้าวทันที

“งานงอกละไงกู”

 

 

To be continue
 

เป็นอีก 1 ตอนสำคัญที่อิสและอ้นเจอกันแบบประจันหน้า
เพราะตอนที่วางโครงเรื่องตอนนี้ไว้คือตั้งใจให้เป็นอีกตอนที่สำคัญ
และมีผลต่อความรู้สึกของนัทมากๆ เพราะนัทเองก็ดูจะสับสนไม่น้อยว่าอะไร ยังไง

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนนะครับ แถวบ้านผมเองก็หนาวมาก หนาวเฉลี่ยวันละ 1-2 ชม.
ที่เหลือ ร้อนเหมือนจะทำนาเกลือ 55555 ร้อนพินาศ
เอาเป็นว่า จะร้อน จะหนาว ยังไงก็ตาม ก็ขอฝากตัวฝากใจให้ผู้อ่านทุกคนติดตามกันต่อไปนะครับ

ตอนหน้า รับรองอีกแล้ว ว่าแซ่บลื้มมมมมมมม  ^3^

 

ขอบคุณที่อ่านและติดตามครับ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา