Paul Longhorn พอล ลองฮอร์น
เขียนโดย แพรวพัช
วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.51 น.
แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2557 22.55 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ชีวิตที่เปลี่ยนไป
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ ๑
“คุณหนูพอลทานอาหารเช้าค่ะ ป้าเตรียมไว้ให้แล้ว ลงมานะค่ะคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายรออยู่” ป้าดาลี่ แม่บ้านอายุราวห้าสิบเอ็ดปี ร่างผอมสูง สวมชุดยาวคลุมเข่าสีขาวมีผ้ารัดเอวสีฟ้า ขึ้นมาบอกให้คุณหนูที่เป็นที่รักของทุกคนลงไปทานอาหารเช้าได้แล้ว ไม่อย่างนั้นจะทำให้คนที่นั่งรออยู่หายหิวไปเสียก่อนก็เป็นได้
พอล ลองฮอร์น เด็กชายผิวขาวซีด ร่างสูง ในตาสีเขียวมรกตเปล่งประกาย ผู้ที่มั่นคั่งมาตั้งแต่เกิดเพราะธุรกิจส่งออกมังกรทางบ้านเติบโตไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เขามีทรัพย์สินมากมายอย่างที่ไม่อาจจะนับหมดได้ไหว
เขาลุกขึ้นอย่างงัวเงียไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟันให้เรียบร้อย เพื่อจะลงไปเจอพ่อแม่ที่เขารักสุดหัวใจข้างล่างของบ้านหลังใหญ่ ไม่สิควรเรียกว่าคฤหาสน์หลังใหญ่ต่างหาก
“สวัสดีตอนเช้าฮะพ่อแม่” เขายิ้มให้ผู้เป็นเจ้าของธุรกิจส่งออกมังกรทั้งสองอย่างจริงใจ
“มอนิ่งจ่ะ พอล” คุณนายมาลิลีน กล่าวกับลูกชายพลางจิบน้ำชาน้อยๆ
“พึ่งตื่นหรือไงเจ้าเด็กขี้เซา” ,นายบิล ลองฮอร์น ผู้มีรูปร่างสูงดูน่าเกรงขาม กล่าวอย่างอ่อนโยน ผิดกลับหน้าตาของเขาที่คนภายนอกมองดูอาจจะคิดว่าเป็นลุงแก่อายุสักห้าสิบหกปีที่ลืมทำความสะอาดใบหน้าตัวเอง เพราะเขามีหนวดเคราน้อยๆปกคลุมถึงแม้ว่าจะไม่มากแต่ก็อดคิดไม่ได้นั้นแหละ
“อาหารเช้าวันนี้คืออะไรครับป้าดาลี่” ป้าดาลี่ หัวหน้าแม่บ้านที่มักจะรู้ใจเจ้านายเป็นที่สุด แน่นอนวันนี้ต้องเป็นอาหารที่เจ้านายของหล่อนอยากกินเหมือนเช่นเคย
“แน่นอนค่ะ วันนี้ต้องเป็นรอฟเตอผัดเนยสุกเรืองรอง มันบดราดซอสใบวาซาบิเผา และพุดดิ้หัวกะทิหวานหอมส่งตรงจากทางเหนือ” ป้ายิ้มอย่างพอใจในฝีมือของตนเองมันช่างเป็นเวลาที่มีความสุขเสียจริง เมื่อได้เห็นเจ้านายของเธอทานอาหารที่เธอทำอย่างสุดฝีมือ
“ขอบใจมากคุณดาลี่ ไปพักผ่อนเถอะ” นายลองฮอร์นพูดอย่างเป็นกันเอง
ป้าดาลี่ทำตาละห้อย เพราะหล่อนมักจะชอบยืนมองดูผู้คนที่กำลังทานอาหารที่เธอทำ โดยเฉพาะคนที่กินอย่างสวาปามกับอาหารของเธอ อย่างเช่นลูกชายตัวกลมของเธอ ที่มักจะกินแบบที่เธอต้องการอยู่เสมอ แต่เธอก็ยอมเดินจากไปแต่โดยดี
“เป็นไงลูกชายตัวดี เมื่อคืนนอนหลับกี่โมง วันนี้ถึงได้ตื่นสาย” นางลองฮอร์นพูอย่างเอ็นดูเห็นลูกชายของเธอที่กำลังนั่งตาจะปิดอยู่ฝั่งตรงข้าม
“เปล่านะฮะ เมื่อคืนผมไม่ได้นอนดึก แต่ผมฝันเรื่องเดิมอีกแล้ว” พอลพูดเสียงอู้อี้ ขณะที่กำลังยัดมันบดราดซอสใบวาซาบิเผาเข้าปากเป็นคำที่เจ็ด
นายและนางลองฮอร์นเงียบเสียงไป ทั้งคู่สบตากันอย่ารู้กันเอง โดยที่พอลไม่ได้สังเกตเห็น เพราะเขากำลังสนใจเพียงอาหารที่ตั่งอยู่ตรงหน้า เวลาทานอาหารฝีมือหัวหน้าแม่บ้านแล้วเขามักจะหยุดกินไม่ได้ทุกทีเรื่อยไป
บิลและมาเลียตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อไม่ให้ความฝันของพอลมาเป็นประเด็นแทน
“ว่าแต่แล้วลูกสาวที่น่ารักของเราจะกลับมาเมื่อไหร่นะ มาเลีย” เมื่อนายลองฮอร์นยัดอาหารได้ไม่กี่คำก็นึกขึ้นมาได้ว่าลูกสาวอีกคนของบ้าน ที่เดินทางไปยังเมืองเรคแคพกับทางโรงเรียนเมื่ออาทิตย์ก่อนยังไม่กลับ และดูเหมือนว่าเขาจะทำงานจนลืมไปเสียสนิดว่าลูกสาวของเขาจะกลับมาเมื่อไหร่
“มะรืนค่ะ วันมะรืนแพนดอร่าจะกลับมาถึงที่นี้ตอนสามทุ่มค่ะ” นางลองฮอร์นตอบเสียงหวานใส เมื่อก่อนหวานอย่างไร ตอนนี้ก็เสียงของเธอก็หวานอย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยน
“พ่อจำไม่ได้หรือฮะ ผมจะไปฟ้องพี่แพนดอร่า” พอลพูดทีเล่นทีจริง
“อย่านะ” นายลองฮอร์นทำหน้าแหยเก “อย่าบอกแพนดอร่าเด็ดขาด” แพนดอร่า ลองฮอร์น ลูกสาวคนโตและคนเดียวของเขาหน้าตาเหมือนกับผู้เป็นแม่ไม่มีผิดเพียน ดวงตากลมโต จมูกนิดปากหน่อย แต่ไม่ใช้เพียงหน้าตาเท่านั้นที่เหมือนแม่ นิสัยของเธอก็เหมือน แต่อย่าให้ร้ายขึ้นมาล่ะน่ากลัวอย่าบอกใครเชียว
มาเลียลอบมองดูสองพ่อลูกที่กำลังเถียงกัน ฝ่ายลูกก็แกล้งพ่ออย่างสนุกสนาน ฝ่ายพ่อก็คิดขึ้นมาจริงจังจนหน้าของเขาดูเหมือนว่าจากใบหน้าสีแดงระเรื้อจนกลายเป็นสีขาวซีดอย่าเห็นได้ชัด จนตอนนี้หล่อนต้องแอบหัวเราะอยู่เบาๆเพื่อไม่ให้สองพ่อลูกรู้ตัว
ดูเหมือนว่าการถกเถียงหยอกล้อของสองพ่อลูกคงจะไม่หยุดง่ายๆแน่ “หยุดไม่แล้วสองพ่อลูก เดี๋ยวก็กินไม่หมดหรอก ถ้ากินไม่หมดเดียวแม่จะจัดการกับทั้งสองคน”
นางลองฮอร์นตัดสินใจหยุดการสนทนาของทั้งคู่ พร้อมกับมีการขู่และทำหน้าจริงจังเพื่อให้รู้เอาไว้เลยว่า ถ้าทั้งคู่ไม่หยุด ตายแน่ ทั้งคู่เมื่อได้ยินคำขู่ก็ตกลงกันว่าจะหยุดโดยที่ไม่จำเป็นต้องนัดหมาย ทั้งคู่กินอย่างสงบเสงี่ยมแต่ไม่นานนักก็หมดจาน
“ผมไปก่อนนะ วันนี้มังกรพันธ์ใหม่กำลังจะถูกส่งไปที่เบอร์มิวริส”
“พอลช่วยแม่ดูแลบ้านดีๆหล่ะอย่ามัวแต่เล่นกับเจ้า ดัชฟลาย อยู่นั้นมันชักจะสำคัญมากกว่าพ่อกับแม่แล้วนะเนี้ยรู้มั้ย” บิลพูดกับผู้เป็นภรรยาและลูกชาย
“โธ่พ่อฮะ ก็ดัชฟลายมันมีเพื่อนแค่ผมคนเดียวนะฮะ ถ้าผมไม่เล่นด้วยมันคงเหงาวันนี้เราสัญญากันว่าเราจะทาสีปีกให้มันใหม่ด้วยฮะ” บิลและมาเลียยิ้มอย่างเอ็นดูลูกชาย
บ่ายวันเสาร์ ณ เมือง เพเนโดกัช
“นี่เจ้ามังกรทึ่ม ฉันว่าเราควรออกไปเดินเล่นกันบ้างนะ นายไม่เบื่อหรือไง มัวแต่บินอยู่ในสวนหลังบ้าน เป็นมังกรคุณหนูเร้อะ”
พอลพูดกับดัชฟลาย มังกรอายุ 3 ขวบสีเทามีหางสองแฉกดิ้นไปมา ตัวสูงประมาณประมาณขนาด 2 เมตร
ดัชฟลายทำจมูกฟุดฟิดเหมือนกำลังบอกว่า แกสิเจ้าทึ่ม และหลังจากนั้นก็พยักหน้าตอบรับ ประมาณว่าไปสิฉันก็เบื่อสวนหลังบ้านแล้วเช่นกัน
คู่หูจอมแสบเดินไปตามถนนเมืองเพเนโดกัชอย่างสบายอกสบายใจ พอลจูงดัชฟลายเดินไปเรื่อยๆจนเขามาหยุดอยู่ที่ร้านหนังสือเก่าคร่ำคร่าร้านหนึ่ง ดูภายนอกมันเหมือนร้างไปได้สักยี่สิบปี แต่ไม่รู้มีอะไรดึงดูดให้พอลสนใจนัก
“นี่เจ้าทึ่มฉันจะเข้าไปดูหนังสือข้างใน นายจะไปไหม” พอลถามเพื่อนรัก
ดัชฟลายพยักหน้ารับ
แอ้ดด ประตูเปิดโดยที่เขายังไม่ได้ผลักสักนิด เหมือนมีอะไรบางอย่างเชื้อเชิญเขาอยู่เบื่อหน้า
มังกรน้อยและเด็กหนุ่มมองหน้ากันอย่างแปลกใจ
ในร้านนั้นมีฝุ่นเกาะเต็มไปหมดแทบจะมองไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าอะไรเป็นอะไร พอลมองไปรอบๆด้วยความสงสัย เขาเหมือนตกอยู่ในภวังค์ มือของเขาเอื้อมไปหยิบของสิ่งหนึ่งในชั้นบนสุดของที่วางหนังสือและ..
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ