Norah's Diary

-

เขียนโดย wacasual

วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 20.24 น.

  2 chapter
  0 วิจารณ์
  4,446 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557 20.44 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) Just Beginning

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ


       ถ้าพูดถึงนามสกุลคาเว็นดิชแล้ว หากคุณอยู่ในประเทศอังกฤษละก็ คุณจะรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของคนตระกูลนี้ได้ อาจเป็นเพราะว่าหนึ่ง ตระกูลเก่าแก่ สืบเชื้อสายเหล่าขุนนาง ดยุคแห่งเดวอนเชอร์ และสอง เจ้าของอสังหาริมทรัพย์เกือบครึ่งของประเทศ หรือธุรกิจที่ครอบครองอีกนับไม่ถ้วน จนชื่อเสียงโด่งดังข้ามทวีป จึงหันมาลงทุนทำธุรกิจในต่างชาติ เปิดสำนักพิมพ์และนิตยสารแฟชั่นในบิ๊กแอปเปิ้ล หรือนิวยอร์ก ซึ่งนิตยสารแฟชั่นนั้นได้เป็นที่รู้จักและเป็นที่น่าจับตามองในสื่อเกือบทุกแขนง ไม่ว่าคาเว็นดิชจะจับธุรกิจอะไร ก็เป็นเงินเป็นทองซะอย่างง่ายดายไปหมด น่าอิจฉาซะไม่มี

นอร่าห์ ทอมป์กินส์ ที่กำลังยืนเคี้ยวหมากฝรั่งอยู่หน้าร้านซับเวย์ ยืนอ่านนิตยสารธุรกิจชื่อดัง ที่มีหน้าปกเป็นนักธุรกิจหนุ่มจากแดนผู้ดี มีกิจการมากหลาย ที่เธอจำไม่ได้ไม่หมดว่ามีอะไรบ้าง เธอคิดอย่างปวดหัว คนอะไรอายุก็ยังน้อยแต่ควบคุมธุรกิจได้เยอะขนาดนี้ แค่เกิดมาบนกองเงินกองทองก็นับว่าบุญเยอะแล้ว นี่อะไร ทำธุรกิจมากมาย เติบโตจนข้ามมาประสบความสำเร็จได้อีกซีกโลก เธอเก็บนิตยสารเล่มนั้นใส่กระเป๋า แล้วเดินกลับไปที่อพาร์ทเมนท์ตัวเอง

เวลาเดือนสุดท้ายของปีนี่อากาศเย็นจนผู้คนต่างหลบกันอยู่ในบ้าน นอร่าห์เดินขึ้นอพาร์ทเมนต์พลางล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหากุญแจห้อง ตอนนี้มือเธอแข็งไปหมด เธอยืนอยู่หน้าห้องแล้วก็ยังหากุญแจไม่เจอ เมื่อเริ่มจะหมดความอดทนจึงเทของในกระเป๋าลงบนพื้น แล้วก้มลงไปควานหากุญแจบนพื้น โอพระเจ้า อากาศช่างทำร้ายร่างกายเธอเหลือเกิน

เธอรีบเก็บของเข้ากระเป๋าและไขกุญแจเข้าไป นอร่าห์ทิ้งของทั้งหมดวิ่งเข้าไปในห้องของตัวเอง จากนั้นก็เหวี่ยงตัวลงเตียงซุกผ้าห่มอุ่นๆทันที

นอนได้สักพัก เธอก็ถอนหายใจออกมา ตอนนี้ชีวิตของเธอดิ่งลงเหว กราฟชีวิตก็ดูเหมือนจะล้มเหลวยังไงก็ไม่รู้ จากตอนแรกนอร่าห์ที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยอยู่ดีๆ กลับต้องโดนเด้งออกจากสถานภาพนั้น โดยข้อหาทุจริตข้อสอบ น่าขำซะไม่มี น้ำหน้าอย่างเธอเนี่ยนะ จะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร สมองเธอมีนะ(โว้ย)  เธออ่านหนังสือ เธอมีความรู้ แล้วเธอจะทำไปทำไม แต่เขามีหลักฐาน ซึ่งแน่นอนมันไม่ใช่ของเธออยู่แล้ว แล้วทำไงต่อล่ะ ก็โวยน่ะสิ แต่หลักฐานมันมัดตัวเธออย่างแน่นหนา (ตรงไหน) เฮอะ ในเมื่อที่นี่มันห่วยแบบนี้ เธอก็ไม่ทน นอร่าห์เฉ่งตัวเองออกจากที่นั่นทันที ความยุติธรรมมันไม่มีในโลกนี้ใช่ไหม

แต่อย่างเดียวที่เธอกลัวคือพี่สาวจอมบงการของเธอเนี่ยแหละ ที่ยังไม่รู้เรื่องนี้ เธอจะทำยังไงดี ถ้าเทมเพสต์รู้ล่ะเธอเละแน่ มีแต่ตายกับตาย แต่นี่มันชีวิตของเธอนะ คิดไปก็ยิ่งปวดหัว นอร่าห์เขวี้ยงหมวกไหมพรมออกจากหัวแล้วมุดลงไปในผ้าห่มอีกรอบ ช่างมันเถอะ คำเดียวที่ก้องอยู่ในสมองเธอ จนเธอดิ่งลงไปในความมืดมิดของห้วงนิทรา

 

“ฮืมม”

เช้าวันต่อมานอร่าห์ต้องลุกออกจากตียงเพราะเสียงฝ่าเท้าที่กระแทกประตูซ้ำๆของใครสักคน ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว

“กลัวฉันตายคาที่เตียงรึไงเทมพ์ รูปร่าง หน้าตา การงานก็ดี ทำไมชอบทำนิสัยแบบนี้นักนะป้า” เธอเปิดประตูออกไปก็เจอพี่สาวร่วมสายเลือดยืนทำหน้าถมึงทึง ริมฝีปากบางที่ทาสีแดงแปร๊ด เรียบตึงกระตุกออกเล็กน้อย

“สารรูปแกนี่ดูไม่ได้เลยนะ มีอะไรที่แกอยากจะเล่าให้ฉันฟังบ้างมั้ย นอร่าห์” เทมเพสต์ เดินออกไปพร้อมนั่งลงบนโต๊ะอาหาร อะไร จะให้เธอเล่าอะไร  หรือว่าเทมเพสต์จะรู้เรื่องนั้นแล้ว

“อะไรของเธอ เล่าอะไร มีอะไรที่ไหน”

“อย่ามาทำไขสือ ฉันรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว”

“หรือว่า..ไอ้เวรเจมี่ ฉันจะฆ่าแก!” เทมเพสต์ยกมุมปากขึ้นแล้วยิ้มเยาะเธออย่างไม่มีปิดบัง

หลักจากนั้นเธอก็นั่งเคลียร์กับเทมเพสต์ยาว ยัยนั่นบ่นเธอซะย่อยยับ อย่างกับเธอไปวางระเบิดในมหาวิทยาลัย แต่เธอสนที่ไหน ดีซะอีกที่ออกมา ตอนแรกนั้นเธอไม่คิดจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยเลยด้วยซ้ำ เธออยากทำงาน หาประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น เก็บเงินเดินทางไปถ่ายภาพตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งแน่นอนนอร่าห์ทำงานและเรียนไปด้วยควบคู่กัน และตอนนี้เธอก็มีกล้อง ซึ่งราคาและอุปกรณ์ยังดูแพงกว่าห้องในอพาร์ทเมนต์โทรมๆแห่งนี้ด้วยซ้ำ เรียนเมื่อไหร่ก็เรียนได้ แต่เทมพเพสต์กลับบังคับให้เธอเรียน จะทำไงได้ นั่นเป็นพี่สาวเธอ แถมยังออกค่าเล่าเรียนให้เธออีกต่างหาก ตอนนี้ยัยนั่นทำได้แค่ผิดหวังในตัวเธอ และอาจจะงอนพาลไม่มาให้เห็นหน้าอีกก็ได้   เอาเถอะ ตอนนี้นอร่าห์คงต้องหางานทำเพิ่มอีกสักอย่างสองอย่าง เงินก้อนสุดท้ายที่เธอได้ขายภาพให้แกลลอรี่แห่งหนึ่งก็หมดไปกับอุปกรณ์กล้องทั้งนั้น ในเมื่อเธอรักในสิ่งที่เธอทำ เธอก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปด้วย  ต่อไปที่นอร่าห์ต้องจัดการ เจมี่ โนวส์ เพื่อนไม่รักดีที่ต้องมีการลงไม้ลงมือกันหน่อยละ

นอร่าห์รีบลุกไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ แล้วคว้ากระเป๋า หมวกไหมพรมและโค้ทตัวหนาออกมาจากนอกห้อง ในเวลาต่อมา เธอก็มายืนอยู่ในย่านอัพเปอร์อีสต์ไซด์ ย่านของเหล่าไฮโซ ผู้ดีมีอันจะรับประทาน อย่าถามว่าเธอไปรู้จักกับเจมี่ โนวส์ ทายาทบริษัทขนส่งขนาดยักษ์ได้ยังไง นั่นก็เพราะว่าพวกเธอเรียนคณะเดียวกัน เรียนเอกเดียวกัน  นั่งติดกันเกือบทุกครั้งที่เจอ  อยู่ด้วยกันจนผ่านฤดูหนาวมาสามครั้งแล้ว คราวนี้เธอจะบ่นเขาหรือเขาจะด่าเธอกลับก็ไม่รู้ ที่เธอออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน

 

ขณะที่เธอเดินข้ามถนนฝ่าลมหนาว เสียงเบรครถทางด้านหลังก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน นอร่าห์หันหลังกลับไปดูอย่างรวดเร็ว  รถมายบัคสีบรอนด์เงินคันหรูจอดนิ่งสนิทห่างจากร่างของหญิงชราที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นไปเพียงนิดเดียว เธอวิ่งแล้วลงไปนั่งข้างหญิงชรา เสียงเปิดประตูรถดังขึ้นก่อนที่เธอจะก้มลงไปตรวจดูอาการ

 ชายสองคนที่อยู่ในชุดสูททั้งคู่ที่รีบเดินลงมาจากรถ  คนแรกใส่สูทและเสื้อเชิ้ตสีดำสนิททั้งตัว ก้มลงตรวจหญิงชรา แล้วหันไปบอกอาการของเธอกับชายที่ใส่โค้ทสีน้ำตาลอ่อนคลุมสูทเทาตัวเนี้ยบ

“ดูเหมือนเธอแค่เป็นลมไปน่ะครับคุณคาเว็นดิช อาการไม่น่าเป็นห่วง แต่ผมว่าควรพาเธอไปที่โรงพยาบาลก่อนครับ เพื่อตรวจอาการให้แน่ใจ”

คำว่าคาเว็นดิช ทำให้นอร่าห์หันกลับไปดูชายในโค้ทสีน้ำตาลอ่อนอีกรอบ เขาเป็นชายร่างสูง ผมสีบรอนด์สว่างที่เสยดูยุ่งๆ ดวงตาสีฟ้าที่เธอมองแล้วชะงักลงไปเล็กน้อยด้วยความรู้สึกที่ดูคุ้นเคย กลับสะดุดตาเป็นพิเศษ ไม่รู้เพราะว่าแววตานิ่ง สุขุม ดูสุภาพ นั้นมีร่องรอยความรู้สึกหลายอย่างที่ดูไม่ออก  ทำให้ติดตามากขนาดนี้  เธอสะดุ้งเมื่อริมฝีปากบางของเขาขยับพูด

“แล้วคุณผู้หญิงคนนั้น เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาเป็นสำเนียงอังกฤษที่บ่งบอกสัญชาติได้ในทันที เขาถามเธอหรือเนี่ย

“ไม่…ไม่เป็นไรค่ะ ฉันแค่จะมาดูอาการเธอเฉยๆ” นอร่าห์ลุกขึ้นจากพื้นแล้วช่วยชายในสูทดำพยุงหญิงชราเข้าไปนั่งในรถ

“เรื่องนี้ทางเราจัดการเอง ผมจะรับผิดชอบเธอเอง คุณสบายใจได้เลย  ผมขอตัวก่อนนะครับ” พูดจบ เขารีบขึ้นรถไปพร้อมกับรถที่สตาร์ทแล้วเคลื่อนออกไปโดยทันที

นอร่าห์มองรถของเขาวิ่งไปจนลับสายตา ความรู้สึกประหลาดที่เกิดเมื่อยามสบตาเขา ทำให้ในอกเธอเกิดอาการเย็นวาบและอึดอัดแปลกๆ เธอสะบัดความรู้สึกทั้งหมดนั้นทิ้งไป แล้ววิ่งข้ามถนนไปอีกฝั่ง เดินอีกไม่กี่บล็อกจากแยกนี้ก็จะถึงบ้านเจมี่อยู่แล้ว รีบไปจัดการเขาซะก่อน

 

เวลานี้เธอยืนกดกริ่งอยู่หน้าเพนท์เฮาส์หรูของบ้านโนวส์ ตึกสูงห้าชั้นสีไข่ไก่ประตูไม้สีดำค่อยๆเปิดออกมาโดยแม่บ้านร่างเจ้าเนื้อที่คุ้นเคยกันดี

“อ้าว หนูนอร่าห์” เธอทำหน้าประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อเห็นนอร่าห์เป็นคนกดกริ่ง

“สวัสดีค่ะ คุณรัซเซล หนูมาหาเจมี่ เขาอยู่มั้ยคะ”

“เห็นเขาบอกว่าจะไปหาหนูนี่จ้ะ เจมี่ไม่ได้ส่งข้อความบอกหนูเหรอ” พูดจบเธอเปิดประตูให้กว้างขึ้น แล้วชวนนอร่าห์เข้าไปในบ้าน

“เข้ามารอในบ้านก่อนมั้ยล่ะจ้ะ ถ้าไม่เจอหนูนอร่าห์ สักพักเขาคงกลับมาเอง”

“ขอบคุณค่ะ” นอร่าห์เดินเข้าไปในเพนท์เฮาส์ แล้วล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู มีมิสคอลที่ไม่ได้รับประมาณเจ็ดสาย ข้อความอีกสามฉบับ ทั้งหมดนั้นมันเป็นของเจมี่ โนวส์  เธอกดที่ชื่อเขาแล้วโทรออก สัญญาณที่ดังไม่ทันสองครั้งดี เขาก็กดรับสายอย่างว่องไว

“นอร่าห์ พี่เธอ พี่เธอเค้นฉันไปหมดแล้ว” เธอยังไม่ทันพูดอะไรเจมี่ก็พ่นคำพูดออกมาไม่ยั้ง

“ฉันโทรหาเธอไม่ติด ฉันเลยโทรหาเทมเพสต์ เขาเลยรู้เรื่องทั้งหมดเลย ฉันขอโทษ” เสียงอ่อยๆที่ดังมาตามสายทำเอานอร่าห์อ่อนใจ

“ฉันรู้แล้ว เทมพ์บ่นฉันไปประมาณสิบรอบเมื่อเช้านี้แล้ว ตอนนี้นายอยู่ไหน ฉันอยู่ที่บ้านนาย ขอบคุณค่ะ รัซเซล” นอร่าห์ขอบคุณเธอเบาๆ ขณะที่รัซเซลนำชาร้อนมาเสิร์ฟให้ เธอยื่นมือไปอังกาน้ำชาพร้อมมองไปที่ถุงมือเก่าๆ ถึงเวลาที่ต้องซื้อถุงมือคู่ใหม่แล้วล่ะมั้ง

“ฉันอยู่หน้าอพาร์ทเมนต์เธอเนี่ย รอฉันอยู่ที่บ้านก่อน ฉันจะรีบกลับไป”

“ไม่ต้องรีบหรอก นายรีบทีไร เกิดเรื่องซวยๆขึ้นทุกที” อย่างเรื่องเมื่อเช้าเป็นต้น

 

ผ่านไปเกือบชั่วโมง เจมี่ก็โผล่มาในสภาพแจ็คเก็ตและผมเปียกซก เธอขอเดาว่าหิมะตกระหว่างทางที่เขากลับมาเล่นงานเขาหนักแน่ๆ

“โธ่เว้ย มาตกอะไรตอนนี้วะ หนาวจะตายอยู่แล้วโว้ย”  เขาสะบัดแจ็คเก็ตออกจากตัว พร้อมรับผ้าขนหนูจากรัซเซล แล้วเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น

“อย่ามองฉันอย่างนั้นนะ นอร์ ฉันไม่คิดว่าพี่เธอจับผิดได้ไวขนาดนี้”

“ร้อนตัวชะมัด คราวหลังขอเลย ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก อย่าได้คิดที่จะโทรไปหาเทมเพสต์เป็นอันเด็ดขาด ถ้าฉันโดน มีแค่นายคนเดียวที่จะได้ฝ่าเท้างามๆของฉันไปประทับหลังแน่ๆ” เจมี่เบ้ปากน้อยๆเมื่อเธอขู่ แน่ล่ะ เขาเคยโดนหมัดนอร่าห์ปะทะกกหูไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อเขาโทรไปหาเทมเพสต์ บอกเรื่องโดดเรียนของเธอ

“พิทรู้เรื่องเธอแล้วนะ”

เธฮเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อเจมี่พูด พิท เจนเนอร์ เพื่อนรุ่นพี่ที่นอร่าห์เคารพยิ่งกว่าใคร เพราะเขาเป็นคนเก็บงานเอกสารต่างๆและเลคเชอร์ไว้ไห้เธอเมื่อเวลาที่เธอไม่ได้ไปเรียน

“นายนี่ปากสว่างชิปเป๋ง”

“อย่าโทษฉันฝ่ายเดียว ตอนนี้เรื่องเธอโคตรจะดังเลยว่ะเพื่อน” เขายิ้มเจื่อนทันทีที่เห็นสีหน้าเธฮ

“โอเคๆ เธอไม่ได้ทำ เรื่องนั้นฉันรู้ พิทก็รู้ แต่เธอไม่คิดจะแก้ข่าวหน่อยเหรอ”

“ไม่ล่ะฉันอยากออกจากที่นั่นเต็มแก่ละ ฉันไม่เดือดร้อนนี่ เรื่องมันไม่จริงสักหน่อย ดีซะอีกที่ฉันจะได้มีเวลาถ่ายรูปเพิ่ม”

นอร่าห์ตอบไปอย่างไม่จีรัง แน่นอน นั่นคือสิ่งที่เธอชอบมากที่สุด ตั้งแต่เกิดเรื่อง มีถ่ายรูปนี่แหละ ที่จะทำให้เธอลืมทุกๆอย่าง

“สบายใจจังนะ เธอคิดว่าถ่ายรูปแล้วขายภาพให้กับแกลลอรี่อย่างนั้นมันดีแล้วเหรอ ถึงจะได้เงินดี แต่สักวันเขารับของคนอื่นเพิ่ม เธอจะทำยังไง”

“ฉันก็ทำต่อไปเรื่อยๆ งานฉันไม่ได้มีแค่ถ่ายรูปนะเจมี่ เรื่องเงินมันเล็กน้อย อะไรที่ฉันทำแล้วมีความสุข ฉันก็จะทำมันต่อไป ใครก็ห้ามฉันไม่ได้หรอก” เขามองเธอแล้วถอนหายใจ เขาไม่สามารถดันให้เธอกลับไปขอร้องคุกเข่าที่มหาวิทยาลัยเพื่อที่จะให้เอกลับไปเรียนต่อไม่ได้หรอก  เธอทิ้งมันไปหมดแล้ว และเธอก็จะเริ่มงานใหม่อย่างเป็นทางการซะที

 “ตามใจเธอ เทมพ์ขอร้องให้ฉันมาพูดกับเธอแล้วนะ ช่วยไม่ได้ที่เธอตัดสินใจแบบนี้เอง รู้มั้ย พิทโมโหแทนเธอชะมัด เขาแทบจะลาออกเป็นเพื่อนเธอด้วยซ้ำ”

“น่ารักซะไม่มี บอกเขาด้วย อย่าทำแบบฉันล่ะ เดี๋ยวมหาวิทยาลัยก็ล้มละลายไม่มีเงินสนับสนุนจากเจนเนอร์หรอก”

นอร่าห์โชคดีไม่น้อยที่มีเพื่อนเข้าใจในสิ่งทีเธอต้องการ และเจมี่กับพิทดูแลเธออย่างดีมาตลอด

แต่เธอมักจะโชคร้ายในหน้าที่การงานอย่างมาก ทำงานแต่ละที่ไม่เคยเกินสามเดือน เธอคิดว่ามันน่าเบื่อกับการทำงานที่เดิมซ้ำๆกันทุกวัน นอร่าห์มักจะหางานใหม่เรื่อยๆ โดยไม่สนว่าเจมี่กับเทมเพสต์จะค่อนคอดอะไร ก็มันเรื่องของเธอ เธอจะทำอะไรก็ได้ใช่มั้ย แน่ล่ะ เธออยู่ภายใต้ความกดดันของเจ้านายได้ไม่นาน ก็ต้องออกมา ความอิสรภาพมันอ้าแขนต้อนรับเธอจะตายไป

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา