Littie Love รักวุ่นวายของยัยตัวเล็ก
เขียนโดย Little_24
วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 20.57 น.
แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557 21.56 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) <3 ตึก ตัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
2
วันเสาร์ 9.00
ครืดๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้ฉันต้องงัวเงียตื่นขึ้นมารับโทรศัพท์
(ตื่นยังย่ะ ยัยฟางข้าว) “ตื่นก็เพราะแกนั้นแหละ”
(วันนี้ฉันจะไปกินไอศกรีมกับไทเกอร์) พอได้ยินอย่างนั้นฉันถึงกับเด้งตัวขึ้นนั่งบนเตียงนุ่มลายคิตตี้ก่อนจะกลอกเสียงไปว่า “เหรอ ก็ดีแล้วนิ” ปากก็บอกว่า ‘ก็ดีแล้ว’ แต่ใจฉันกลับภาวนาเว้าวอนขอให้ทั้งสองคนไม่ได้ไปด้วยกัน
(แกไปด้วยกันดิ ฉันไปกับไทเกอร์สองคนมันอึดอัดวะ) “แล้วฉันจะไปฐานะอะไร” ฉันถามคำถามที่ตัวเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันอยู่ในฐานะอะไรเป็นเพื่อนแฟนของไทเกอร์ งั้นหรอ?
(เป็นเพื่อนฉันไง 10.30 น. เจอกันที่ร้านประจำของเรานะ) ร้านประจำที่ลูกอมพูดถึงเป็นร้านที่ฉันกับลูกอมไปกันเป็นประจำ ที่นั้นมีไอศกรีมหลายรสและอร่อยมาก แล้วอีกอย่างก็คือวิวของร้าน ร้านออกแบบเป็นสีชมพูหวานแววภายในร้านจะตกแต่งในรูปแบบคลาสสิกมีดอกไม้วางไว้อยู่โดยรอบ ทำให้ร้านนี้ค่อนข้างเหมาะกับคู่รัก “แต่...” ฉันกำลังปฏิเสธ
(เจอกันนะ บาย) ลูกอมไม่ปล่อยให้ฉันปฏิเสธก่อนวางสายไปอย่างรวดเร็ว
ฉันลุกขึ้นไปอาบน้ำโดยอาบน้ำนานเป็นพิเศษ ฉันชอบช่วงเวลาในการอาบน้ำมากที่สุดแล้วแหละ มันทำให้ฉันผ่อนคลายและลดความคิดฟุ้งซ่านไปได้บ้าง ฉันเลือกชุดที่ส่วนใหญ่จะเป็นชุดกระโปรง โดยเลือกที่จะใส่ชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนลายดอกซากุระสีชมพูตัดกันอย่างสวยงาม พร้อมกับปล่อยผมสีดำสนิทที่ดัดเป็นลอนของฉันแล้วใช้ผ้าผืนเล็กน่ารักผูกไว้ ฉันใช้เวลาในการแต่งตัวไปถึง 30 นาทีก่อนจะลงมาหาอะไรกินในครัว ฉันอยู่คนเดียวมาตั้งแต่ขึ้น ม.4 พ่อและแม่ของฉันท่านมีอาชีพนำเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่บ้านแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ฉันมีปมด้อยอะไร ฉันออกจะมีความสุขด้วยซ้ำ บ้านของฉันเป็นบ้านหลังเล็กสีขาวมีสวนดอกไม้ต้มไม้เล็กๆพอที่จะให้ร่มเงาและความร่มรื่น ฉันเลือกที่จะกินขนมปังแผ่นกับนมข้นแล้วค่อยเดินออกมารอรถเมล์ที่คนค่อนข้างแออัด
เอี๊ยด
ในที่สุดฉันก็มาถึงร้านไอศกรีมสีหวานแววนี้ ฉันเดินลงจากรถเมล์ก่อนจะเดินตรงไปยังร้านไอศกรีม และลูกอมก็ยืนรอฉันอยู่แล้วเธอใส่ชุดค่อนข้างโฉบเฉี่ยวเป็นกางเกงยีนขาดๆแต่กลับดูมีสไตล์กับเสื้อยืดสีเทาธรรมดาแต่เข้ากับกางเกงยืนได้อย่างลงตัว เธอฉีกยิ้มให้กว้างก่อนค่อยๆ ไล่สายตามองชุดฉันอย่างช้าๆ
“เธอยังคงความน่ารักของเธอไว้ได้ดีจริงๆ เลยนะฟางข้าว” เธอพูดอย่างหมั่นเขี้ยว ฉันถึงกลับต้องมองชุดตัวเองอีกครั้งว่ามันเป็นยังไง
“เธอก็สวยเหมือนกันแหละย่ะ” ฉันยอเธอกลับ และเราก็พูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อย
“หงุดหงิดเว้ย” น้ำเสียงรำคาญ ทำให้เราทั้งสองต้องหันไปมองผู้มาเยือน
“ไทเกอร์เป็นไรอะ” ลูกอมถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเมื่อเห็นไทเกอร์ที่ทำหน้าบูดบึ้งแตกต่างกับชุดที่เป็นเสื้อยืดแขนยาวกับกางเกงยืนตัวเก่าที่ดูสดใส
"ก็คนในรถเมล์นะซิ แออัดเป็นบ้า” “ทนๆหน่อยน้า เดี๋ยวรถนายก็ซ่อมเสร็จ” ฉันแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเองที่เห็นสองคนนี้สนิทกันอย่างรวดเร็วทั้งๆ ที่พึ่งคบกันได้แค่ 2 วัน
“แล้วนี้ใคร ทำไมหน้าคุ้นๆ” เขาว่าพลางจ้องหน้าฉันอย่างครุ่นคิด
“ฉันชื่อฟางข้าว คนที่เคยทับนาย” ฉันแนะนำตัวพร้อมกับบอกถึงวีรกรรมที่ฉันเคยทำกับเขา “อ๋อ ยัยอ้วน”เขาว่าพร้อมกับไล่สายตามองชุดฉันเหมือนกับที่ลูกอมทำก่อนหน้านี้
“ชุดเธอ โคตรปัญญาอ่อนเลยวะ” คำพูดที่อาจจะไม่ได้ตั้งใจ กลับทำให้ฉันรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมา “อย่าว่าเพื่อนฉันซิ มากันครบแล้วไปกินไอศกรีมกันดีกว่า” เมื่อลูกอมสังเกตเห็นฉันที่ชักรู้สึกไม่ดีก็เลยตัดบทแล้วลากเราทั้งคู่เข้ามานั่งในร้านไอศกรีม ก่อนจะเลือกมุมที่สวยที่สุดของร้านคือส่วนริมซ้ายที่ดอกไม้ส่วนใหญ่จะเป็นของเมืองหนาวซึ่งจะสวยเป็นพิเศษ
“รับอะไรดีค่ะ” พนักงานคนหนึ่งเดินเข้ามาถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“ฉันเอาช๊อคกาแลต”ไทเกอร์สั่งโดยไม่เปิดเมนู
“ฉันเอารสสตอเบอรี่คะ” ฉันสั่งเมื่อเห็นเมนูที่อยากกิน
“งั้นฉันเอาช๊อกชิพ” ลูกอมสั่งกับพนักงาน พนักงานรายนั้นโค้งตัวนิดหน่อยก่อนจะเดินไปยังเคาเตอร์
“ว่าแต่ลูกอมไปรู้จักยัยอ้วนนี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เห็นเคยเล่าให้ฉันฟังเลย”
“พูดอย่างกับนายจะสนใจแหละ” ก่อนที่ลูกอมจะพูดเธอหันหน้ามามองฉันก่อนส่งสายตาประมาณว่า’ขอโทษนะ’
“ฉันผิดใช่ไหมเนี่ย ยัยห้าว” ฉันได้แต่นั่งนิ่งเป็นหิน ได้แต่นั่งฟังสองคนนี้คุยกันอย่างกระหนุงกระหนิง
“ใช่ นายผิด :p” ลูกอมพูดพร้อมกับแลบลิ้นใส่ไทเกอร์ด้วยท่าทางน่ารักที่น้อยหนักที่ฉันจะเห็น ไทเกอร์เมื่อเห็นท่างทางน่ารักของลูกอมก็ถึงกับเอื้อมมือมายีผมของลูกอมอย่างเอ็นดู “มาแล้วค่ะ” เสียงพนักงานดังขึ้นมาขัดจังหวะของทั้งคู่ เฮ้อ! ฉันถอนหายใจหนักๆ กับเหตุการณ์เมื่อกี้ฉันต้องมองทั้งที่อยากจะหนีไปให้พ้น ยัยฟางข้าวเอ่ยไม่น่ามาเลย (เขกหัวตัวเองในจินตนาการ 1 ที -.-;;) “เพื่อนเธอเป็นใบ้หรอวะ ลูกอม”
“อะ...เอ่อทำไมเงียบไปล่ะฟางข้าว” ในที่สุดฉันก็ได้เข้าไปแทรกโลกของทั้งคู่ได้
“ฉันมองพวกเธอเพลินนะ น่ารักดีนะ” ฉันกลั้นใจพูด ก่อนจะตักไอติมรสสตอเบอรี่สีสันน่าทานเข้าปาก “ฮ่าๆ ไม่ขนาดนั้นหรอก”
“อิจฉาล่ะซิ” ไทเกอร์พึมพำเสียงเบา แต่หูของฉันกลับได้ยิน ฉันวางช้อนลงทันทีแล้วส่งค้อนไปให้อีตาบ้าไทเกอร์นั้น
“เธอมองไรฉัน”
“เปล่า ^^” ฉันยกยิ้มกวนประสาทใส่เขาก่อนจะก้มหน้าก้มตากินไอศกรีมต่อ
“ยัยอ้วน เธอนี้มันติ๊งต๋องแถมยังบ้า กวนประสาท สติไม่สมประกอบ” ไทเกอร์ด่าฉันเป็นชุด “พอๆ หยุดทั้งคู่เลย ทะเลาะกันแป็นเด็กๆไปได้ กินไอศกรีมกันได้แหละของนายมันละลายหมดแล้วน่ะ”ลูกอมหยุดเราทั้งคู่เอาไว้จนเราทั้งคู่สงบศึกลงแล้วก้มหน้าก้มตากินไอศกรีมกันต่อ
โป๊ก! เสียงกระทบกันระหว่างหัวฉันกับหัวไทเกอร์ “โอ๊ย! มันเจ็บนะเว้ย”
“ขอโทษ” ฉันพูดอย่างรู้สึกผิดถ้าฉันไม่ตะกละยื่นมือไปตักไอศกรีมของลูกอมมาลองชิมหัวฉันกับหัวเขาคงไม่ชนกันหรอก ฉันเอื้อมมือไปจับบริเวณหน้าผากของไทเกอร์ด้วยความเป็นห่วง หัวของเขาโนขึ้นเล็กน้อย
“เป็นไรไหม” แต่แล้วตัวจริงอย่างลูกอมก็โผล่มา เธอปัดมือฉันออกเบาๆก่อนจะชะโงกหน้าดูบริเวณหน้าผากของไทเกอร์จนปลายจมูกของเธอแทบจะชนเข้ากับหน้าผากของเขา
“เจ็บดิ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน จนยัยลูกอมต้องเขยิบเข้าไปใกล้อีก แต่แล้วครั้งนี้ริมฝีปากบางเฉียบของลูกอมก็ชนเข้าอย่างจังที่หน้าผากของไทเกอร์ ฉันถึงกับอึ้งกับภาพตรงหน้า ภาพที่หนึ่งเบิกตากว้างกับริมฝีปากของลูกอมที่กำลังทาบตรงหน้าผากของเขาเธอหลับตาพริมอย่างมีความสุขกับแก้มที่แดงระเรื่อ
ฉันตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ น้ำตาที่กักเก็บมาตั้งแต่ตอนนั้นมันกำลังไหลลงมาอาบข้างแก้มของฉันอย่างช้าๆ
“ฮึก...ฉันไม่น่ามาเลย..ไม่น่าเลยจริงๆ” ฉันพูดกับเงาตัวเองในกระจกบานใหญ่ที่มีผู้หญิงน่าโง่คนนึงกำลังยืนร้องไห้ออกมาทั้งที่รู้ว่ามันก็ไม่ได้ช่วยอะไร น้ำตาของฉันไหลออกมาอย่างไม่มีทีท่าที่จะหยุด ฉันพยายามที่จะไม่นึกถึงภาพพวกนั้นแต่ยิ่งพยายามสักเท่าไหร่มันกลับยิ่งเข้ามาตอกย้ำภายในใจของฉันว่า ฉันไม่มีโอกาสแล้วแหละ
ฉันตัดสินใจเดินออกทางหลังร้าน เพราะตาที่เป็นสีแดงก่ำกับจมูกที่ออกสีชมพูนิดหน่อย มองแวบเดียวก็รู้ว่าฉันร้องไห้ การที่จะให้ฉันไปนั่งคุยกับลูกอมและไทเกอร์ในสภาพนี้มันคงดูแย่เกินไป
ฉันเดินออกมารอรถเมล์สายประจำที่เยืองๆ ออกมาจากร้านไอศกรีมนิดหน่อย แต่เมื่อรถเมล์สายประจำที่ฉันนั่งมาถึงฉันกลับไม่คิดจะก้าวเท้าเดินขึ้นไป หัวใจที่เหมือนกับสลายแล้วสมองที่มันเบาโหว่งทำให้ประสาทสัมผัสของฉันด้านชา รถเมล์ผ่านไป 3-4 คัน แล้วแต่ฉันกลับไม่ขึ้น
ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าเสียงดังมีน้ำหนักสม่ำเสมอบ่งบอกว่าคนๆนั้นเร่งรีบกำลังวิ่งตรงมาทางฉัน
เสียงหายใจหอบถี่ดังใกล้ๆ จนฉันต้องเงยหน้าขึ้นมอง สายตาของเราปะทะกันเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบเมื่อกี้คือ ไทเกอร์ เขากำลังยืนอยู่ข้างๆ ฉัน
“อ้าว ยัยอ้วน เธอมายืนทำอะไรตรงนี้อะ ทำไมหนีไปเข้าห้องน้ำแล้วไม่กลับไปนั่งที่เดิม ฉันต้องเดินหาเธอตั้งนาน”
“ฉันอยากกลับบ้านแล้วน่ะ ก็เลยเดินออกมาโดยไม่ได้บอกก่อน” ฉันโกหกด้วนสีหน้าเรียบเฉย
“แล้วเป็นไร ตาแดงมากขนาดนั้น” เขาเขยิบเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น ก่อนใช้ดวงตาสีฟ้าอ่อนที่น่าหลงใหลจ้องเข้ามาในดวงตาของฉัน
“เปล่า” ฉันว่าพลางก้าวหนีออกมาก่อนหัวใจที่เต้นแรงในอกข้างซ้ายของฉันมันจะควบคุมไม่ได้
“งั้นหรอ ไม่เป็นไรก็ดีแหละ” ปี๊น! เสียงแตรรถเมล์ดังขึ้น ทำให้ฉันรีบก้าวเท้าฉับๆ ขึ้นไปบนรถเมล์
“เธอก็ขึ้นรถเมล์สายนี้หรอ” เขาถามด้วยท่าทางสงสัย
“ใช่” ฉันตอบสั่นๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันอาจจะพยายามคุยกับเขาให้มากกว่านี้ แต่ภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นมันยังคงติดตาฉันอยู่
ฉันนยืนเอนซ้ายเอนขวาด้วยส่วนสูงที่สุดแสนจะน้อยนิดของฉัน ทำให้ฉันเอื้อมมือไม่ถึงราวจับของรถเมล์
“อ้วนแล้วยังเตี้ยอีกนะ เอามือมาซิ” เขายื่นมือมาจับข้อมือฉัน ฉันมองหน้าเขาอย่าง งงๆ
“จับแขนฉันไว้ก็ได้ เห็นเธอยืนเอนไปเอนมาแล้วสงสาร” มือของฉันเกี่ยวกับแขนใหญ่ของเขาเอาไว้ >///< ทำให้อุณหภูมิในร่างกายของฉันสูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ฉันจับแขนที่มั่นคงของเขาเอาไว้เอาไว้อย่างแน่นราวกับกลัวว่าเขาจะหายไป
“จับซะแน่นเชียว กลัวตกแล้วกลิ้งเป็นหมูตอนเหรอ ^^” เขายิ้มหน้าทะเล้นมาให้ฉัน
“จับแน่นๆซิ” เขาว่าพร้อมกับจับมือฉันให้กระชับแน่นกับวงแขนของมากขึ้น “ขอบใจนะ” ฉันว่าอย่างเขินอาย ฉันอยากหยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้จังฉันไม่อยากปล่อยเขาไปเลยจริงๆ
“อืม ยัยเตี้ย”
...ฉันห้ามใจตัวเองไม่ให้รักเขาไม่ได้จริง... ฉันจะต้องสนิมกับเขาให้มากขึ้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ